เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้าบทที่ 1886 คิดบัญชี

Now you are reading เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า Chapter บทที่ 1886 คิดบัญชี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1886 คิดบัญชี

ข้างในม่านแสง การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป

ข้างนอกม่านแสง แน่นขนัดไปด้วยผู้คน

“หืม”

อยู่ดีๆ ตัวก็สั่นอย่างแรง ลู่ฝานขมวดคิ้วแล้วหันมองรอบๆ

หลิงเหยาถามอย่างงุนงง “มีอะไรเหรอ”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นทั้งตัว เหมือนฉันโดนใครบางคนจับตามองอยู่”

หลิงเหยารีบหันมองรอบๆ แล้วพูดว่า “เรื่องใหญ่ไหม”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่รู้ แต่ยืนยันได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”

หลิงเหยาพูดว่า “งั้นนายรีบกลับก่อนไหม ตัวตนของนายไม่ธรรมดา อยู่ที่นี่ต่อต้องอันตรายแน่ๆ”

ลู่ฝานเห็นความกังวลบนใบหน้าหลิงเหยา เขายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก ผ่านอุปสรรคมาตั้งเท่าไรแล้ว ไม่เห็นต้องกลัวเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เลย อย่าลืมสิ ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้าสำนัก คนทั่วไปทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

หลิงเหยายิ้มบางๆ ใช้กำปั้นทุบลงบนอกลู่ฝานเบาๆ

ลู่ฝานเงยหน้ามองการต่อสู้ในม่านแสงต่อ

ตอนนี้ฉู่สิงกับธิดาเทพสู้กันถึงขั้นดุเดือดแล้ว

ทั้งสองสู้กันไปมาเป็นสิบกระบวนท่าแล้ว

คนวิทยายุทธระดับนี้ ถ้าไม่จัดการคู่ต่อสู้ด้วย 2-3 กระบวนท่า ก็สู้ยาวนานถึง 3 วัน 3 คืน ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก

แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนไม่มีความคิดยื้อต่อนาน

ฉู่สิงยกกระบี่ยาวในมือ ตัวอักษรพุ่งขึ้นมาบนตัวเป็นพรวน

ลู่ฝานเคยเห็นศิษย์พี่ฉู่สิงใช้กระบวนท่านี้

นี่คือวิชากระบี่มังกรดำ เคล็ดวิชาบู๊ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขานี่นา กระบี่สังหาร 16 อักษร!

แต่ตอนนี้ เมื่อศิษย์พี่ฉู่สิงใช้กระบวนท่านี้อีกครั้ง มันมากกว่า 160 ตัวอักษรแล้ว

ตัวอักษรมากมายเคลื่อนไหวตามวิชากายของศิษย์พี่ฉู่สิง

เมื่อโจมตีออกมาเต็มไปด้วยแสงปากว้า

ไท่อี่เสวียนสังหาร!

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

เกิดระเบิดติดต่อกันในม่านแสง จนทำให้ม่านแสงสั่นสะเทือน รู้เลยว่าอานุภาพของกระบวนท่านี้น่ากลัวขนาดไหน

ผู้ชมทุกคนเบิกตาโต พากันจ้องม่านแสงเขม็ง

ต้องยอมรับเลยว่าผู้ชมที่มาดูการประลองครั้งนี้ ส่วนใหญ่มาดูธิดาเทพประเทศเป่ยเสิน

ดูเจ้าพ่อทรงอิทธิพลพวกนี้สิ แต่ละคนน้ำลายย้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม

ดูการต่อสู้ไปพลาง ตะโกนไปพลาง

“คนสวยขนาดนี้ยังทำลง นี่มันคนป่าเถื่อนจากประเทศไหนกัน!”

“ให้สาวงามชนะไปเลย เด็กที่ถือกระบี่ยอมแพ้ไปเถอะ!”

“ฉันจะดูคนสวยซัดคนอื่น ไม่ใช่คนสวยโดนซัด!”

เสียงตะโกนดังขึ้นลงเหมือนระลอกคลื่น

ศิษย์พี่ฉู่เทียนเบิกตามองหานเฟิง “ด่าพวกเขาสิ บอกให้พวกเขาหุบปาก”

หานเฟิงพูดเสียงเบาว่า “เหนื่อยแล้ว ขอพักแป๊บ อีกทั้งพวกเขายังพูดมีเหตุผลมากด้วย”

ศิษย์พี่ใหญ่ตบหัวหานเฟิง

“มีเหตุผลบ้าอะไรกัน เดี๋ยวฉู่สิงกลับมา เขากระทืบนายแน่!”

ขณะกำลังพูด เงาคนสองคนค่อยๆ ปรากฏในม่านแสง

ทุกคนเพ่งมอง เห็นกระบี่ของฉู่สิงขวางอยู่ตรงลำคอของธิดาเทพประเทศเป่ยเสิน

“นังปีศาจ เธอแพ้แล้ว!”

ศิษย์พี่ฉู่สิงแววตาลุกโชน เขาพูดเสียงกังวาน

ตอนนี้แขนขวาของธิดาเทพประเทศเป่ยเสินมีเลือดไหลออกมา ลมหายใจไม่สม่ำเสมอ ดวงตาใสเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

ฉู่สิงขยับกระบี่เข้าไปใกล้คอของธิดาเทพอีก ปราณกระบี่แหลมคมทำให้คอของธิดาเทพเป็นแผล

“เธอยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ”

จู่ๆ ธิดาเทพหัวเราะ รอยยิ้มเธอเหมือนน้ำแข็งละลาย เหมือนต้นปรงออกดอก

ทำให้ผู้ชมด้านนอกม่านแสงอุทานออกมา “สวยมาก!”

ธิดาเทพค่อยๆ พูดว่า “ฉันไม่มีทางยอมแพ้ นายฆ่าฉันสิ! ลงมือเลย ฟันหัวฉันเลย ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ไปเลย”

ฉู่สิงแววตาวูบไหว

ศิษย์พี่ฉู่เทียน ศิษย์พี่หานเฟิงที่อยู่ด้านนอกลุกขึ้นทันที พวกเขาพูดพร้อมกันว่า “แย่แล้ว!”

หลิงเหยารีบถามว่า “ทำไมเหรอ”

ศิษย์พี่ใหญ่ขมวดคิ้วตอบว่า “ฉู่สิงทำร้ายผู้หญิงไม่ลง เขาไม่มีทางฆ่าธิดาเทพ เขาจะซวยแล้ว!”

หานเฟิงตะโกนว่า “รีบลงมือฆ่าเธอซะ ศิษย์พี่ฉู่สิง นี่ไม่ใช่เวลามาใจอ่อนนะ!”

แต่น่าเสียดาย ไม่ว่าหานเฟิงจะตะโกนยังไง ฉู่สิงก็ไม่ได้ยิน

กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มกระตุก มือที่กำกระบี่เริ่มสั่น

ธิดาเทพพูดว่า “ทำไม ทำไม่ลงเหรอ”

จู่ๆ ธิดาเทพขยับคอเข้ามาใกล้กระบี่

ฉู่สิงตกใจจนชักกระบี่กลับ ขณะนั้นธิดาเทพเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว สะบัดกระบี่แทงเข้ามาในตัวฉู่สิง

เพียงพริบตาเดียว ฉู่สิงกลายเป็นน้ำแข็งทั้งตัว

ธิดาเทพแสยะยิ้ม “คนกระจอก ขี้ขลาด!”

ชักกระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีกลับมา ธิดาเทพชูแขนตัวเองขึ้นมา

คนด้านนอกปรบมือตะโกนเชียร์ นี่คือตอนจบที่พวกเขาต้องการเห็น

พวกองครักษ์รีบเปิดค่ายกล ลู่ฝานพุ่งเข้าไปเป็นคนแรกอย่างไม่ลังเล ดึงฉู่สิงที่โดนผนึกน้ำแข็งออกมาจากค่ายกล

ธิดาเทพค่อยๆ เหาะกลับมา มองพวกหลิงเหยาด้วยสายตาเย็นชา “ประเทศอู่อาน เหอะๆ ก็แค่งั้นๆ!”

พูดจบ ธิดาเทพเอาขวดยาออกมากรอกใส่ปาก แล้วเดินออกไป

พวกนักบู๊ชุดขาวแสนเย่อหยิ่งเดินตามออกไป ก่อนไปยังมองหานเฟิงอย่างดูหมิ่นแล้วพูดว่า “ท่าดีทีเหลว!”

การเยาะเย้ยแบบนี้ หานเฟิงดูทนไม่ค่อยไหวแล้ว

ศิษย์พี่ใหญ่รั้งเขาไว้ ไม่ให้เขาบุ่มบ่าม

“อย่ารั้งฉัน ฉันจะฟันมันให้ตาย!”

หานเฟิงตะโกนเสียงดัง

ลู่ฝานสะบัดเปลวไฟละลายน้ำแข็งนอกตัวฉู่สิง ในเวลาเดียวกันก็ใส่ปราณชีวิตเข้าไปด้วย

ศิษย์พี่ฉู่สิงรอดมาอย่างหวุดหวิด

มันอันตรายจริงๆ!!

ลู่ฝานถอนหายใจอย่างโล่งอก อีกนิดเดียวศิษย์พี่ฉู่สิงก็จะโดนแช่แข็งจนกลายเป็นผุยผงแล้ว

พูดตามตรงว่ายอดพลังน้ำแข็งของธิดาเทพแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว

“ขอโทษนะศิษย์น้อง ฉันทำให้ขายหน้าแล้ว!”

เสียงศิษย์พี่ฉู่สิงแหบพร่า สั่นไปทั้งตัว

ลู่ฝานเอาขวดยาออกมาให้ศิษย์พี่ฉู่สิงกิน

จากนั้นหันไปพูดกับพวกหลิงเหยาว่า “รีบพาเขากลับไปพักผ่อนเถอะ”

หลิงเหยาพยักหน้า หานเฟิงกับฉู่เทียนประคองฉู่สิงขึ้นมา แล้วเดินออกไปข้างนอก

ลู่ฝานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ศิษย์พี่ใหญ่มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายไม่กลับกับเราเหรอ”

ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ ศิษย์พี่ใหญ่พยักหน้าเข้าใจ “จำไว้ว่าอย่าทำอะไรโง่ๆ เธอไม่คู่ควร!”

ลู่ฝานพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ เธอเกือบฆ่าศิษย์พี่สามของฉัน ไม่มีใครห้าม ฉันจะห้ามเธอเอง อีกทั้งระหว่างฉันกับเธอยังมีเรื่องที่ยังไม่คิดบัญชีกันด้วย”

พูดจบ ลู่ฝานพยักหน้าให้หลิงเหยา จากนั้นหันหลังเดินไปทางที่ธิดาเทพเดินออกไป

ศิษย์พี่หานเฟิงพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น ศิษย์น้องไปแก้แค้นเหรอ งั้นศิษย์พี่ใหญ่ประคองหน่อย ฉันจะไปด้วย!”

ศิษย์พี่ใหญ่รั้งหานเฟิงไว้ แล้วพูดว่า “ให้เขาไปเองเถอะ เขาไปเองสะดวกหน่อย คนวิทยายุทธน้อยนิดอย่างนายอย่าไปเพิ่มความวุ่นวายเลย”

ศิษย์พี่รองฉู่เทียนกัดฟันพูดว่า “เชื่อว่าศิษย์น้องจะแก้แค้นให้ฉู่สิงได้”

หลิงเหยาแววตาเย็นยะเยือก เธอพูดเสียงเบาว่า “ธิดาเทพตายแน่!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *