เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้าบทที่ 1905 หนึ่งเดือนผ่านไป

Now you are reading เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า Chapter บทที่ 1905 หนึ่งเดือนผ่านไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1905 หนึ่งเดือนผ่านไป

หนึ่งเดือนผ่านไป

การประลองยังดำเนินต่อไป การต่อสู้มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เสียงตะโกนฆ่าดังขึ้นในเมืองฉิงเทียนไม่หยุด ตอนนี้ค่ายกลต่างๆ ที่กระจายอยู่ในเมืองน้อยลงแล้ว

จุดที่ผู้คนรวมตัวกันชัดเจนขึ้น ท้องฟ้าและพื้นดินเริ่มมีม่านแสงเป็นระเบียบ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนของประเทศฉิงเทียน แค่เป็นสถานที่ที่มีค่ายกลเคลื่อนฟ้าเชื่อมต่อ สามารถชมการต่อสู้ได้ทั้งหมด

“รับหมัดฉันไปซะ!”

แสงสีขาวสะดุดตา รวมตัวเป็นมังกรและเสือ พุ่งออกไปฆ่า

พลังพลุ่งพล่านเหมือนคลื่นที่โหมซัดอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นหมัดของนักบู๊ชุดเทา กระแทกลงบนผ้าคลุมด้านหลังลู่ฝาน

ลู่ฝานยืนนิ่ง มองแสงกะพริบบนผ้าคลุมอย่างเฉยเมย พลังของนักบู๊ชุดเทาโดนดูดไปจนหมด

ลู่ฝานสะบัดมือ ปล่อยแสงสีขาวออกมาจากมือ

แสงกลายเป็นรูปทรงกลมขนาดใหญ่ สะดุดตาเหมือนพระจันทร์พระอาทิตย์ ใหญ่กว่าลู่ฝานเป็นร้อยเท่า

กระแทกลงบนตัวนักบู๊ชุดเทาอย่างแรง ต่อมานักบู๊ชุดเทากระอักเลือดออกมาไม่หยุด เสื้อผ้าบนตัวขาดรุ่งริ่ง ลูกตาถลนออกมา กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง

เสียงดังสนั่น ยอดเขาราบเป็นหน้ากลอง

แรงสั่นสะเทือนที่เหลือ กวาดป่าไม้รอบยอดเขาจนเกลี้ยง

ลู่ฝานยิ้มบางๆ ค่อยๆ เก็บผ้าคลุมด้านหลัง มันจมลงไปในเกราะเกล็ดมังกรที่กล้ามเนื้อหลังของเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกลายเป็นลายเมฆหมอกปกคลุมบนผิวหนังเขา

“ง่ายมาก!”

ลู่ฝานหัวเราะร่า เอาสองมือไพล่หลัง

ด้านนอกม่านแสง หนานกงสิง อู่คงหลิง รวมถึงพวกหลิงเหยาที่มาดู พากันปรบมือตะโกนเชียร์

ศิษย์พี่หานเฟิงคว้าตัวผู้ชายข้างๆ แล้วฉีกยิ้มพูดว่า “เอาเงินมา เอาเงินมา เร็วๆ เลย 1:3 ไม่ต้องพูดไร้สาระ วันนี้อากาศดีจริงๆ โว้ย!”

ผู้ชายใบหน้ากลัดกลุ้ม แต่ก็ควักเงินออกมาให้หานเฟิงแล้วพูดว่า “ซวยจริงๆ อย่าบอกนะว่าเงามืดเป็นแชมป์ได้ แม้แต่นักกระบี่ชุดเทายังสู้เขาไม่ได้ อาศัยผ้าคลุมแค่ผืนเดียว ใกล้จะไม่มีใครสู้เขาได้แล้ว!”

หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “เขาเอามาจากถังฮุยแห่งสำนักเงินปาฟาง พูดได้เพียงว่าไอ้นักกระบี่ชุดเทาอ่อนแอเกินไป”

ผู้ชายถึงกับเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก ช่วยไม่ได้ หานเฟิงพูดความจริงนิ

พวกองครักษ์เปิดค่ายกลอีกครั้ง ลู่ฝานเหาะออกมาจากค่ายกลช้าๆ

เมื่อปรากฏตัวออกมา คนมากมายด้านนอกม่านแสง พากันปรบมือส่งเสียงเชียร์

พวกคนรูปร่างสูงใหญ่ของประเทศฉิงเทียน พากันยกป้ายขึ้นมา

ด้านบนมีตัวอักษรสีทองขนาดใหญ่ “กระบี่หนักสะเทือนใต้หล้า!”

“เงามืด นายเก่งเกินไปแล้ว! ฉันเป็นศิษย์นายได้ไหม”

“เงามืด! นายคือเทพเจ้าของฉัน ฉันยอมมอบทุกอย่างให้นาย!”

“กรี๊ด! เงามืดหล่อมาก!”

……

เสียงตะโกนแทบขาดใจต่างๆ นานาดังเข้าหูไม่หยุด ข้างๆ หนานกงสิงกับอู่คงหลิงมีคนมายัดนามบัตรให้พวกเขาไม่หยุด

“ฉันคือองค์ชายของประเทศหยวนตง อยากชวนคุณชายเงามืดไปพูดคุยกันมาก ฝากบอกด้วยนะ!”

“ฉันคือสาวใช้ขององค์หญิงประเทศหยู่หลิง ฝากบอกคุณชายเงามืดด้วยว่าองค์หญิงของเราอยากชวนเขาไปดื่มเหล้า อ้อ นี่คือหน้าตาองค์หญิงของเรา ฝากให้เขาด้วยนะ!”

หนานกงสิงหงุดหงิดสุดๆ สะบัดมือบอกให้องครักษ์ข้างๆ กันพวกเขาออกไป

องค์หญิง องค์ชายเจ๋งมากหรือไง ราชวงศ์จากประเทศเล็กๆ ที่ไหนไม่รู้ คิดจะเชิญหัวหน้าสำนักงั้นเหรอ คิดว่าลู่ฝานมีเวลามากหรือไง

ส่วนอู่คงหลิงที่อยู่ข้างๆ กลับต้อนรับทุกคน หัวเราะคิกคักแล้วรับนามบัตรมา เธอเอาแต่พูดไม่หยุด

“ฉันจะบอกให้ เอามาให้ฉันสิ ฉันจะบอกให้ทีเดียวเลย!”

ลู่ฝานลอยลงมาบนพื้น หันมายิ้มบางๆ ให้หลิงเหยาที่อยู่ข้างๆ

ลู่ฝานเดินมาข้างหลิงเหยา ยื่นมือมารับยาที่สิบสามยื่นให้แล้วเอาเข้าปาก

ยานี้ไม่ได้ฟื้นฟูพลังของเขา แล้วก็ไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บ ประโยชน์เพียงอย่างเดียวคืออร่อย กินแล้วเหมือนลูกอม แต่มีรสชาติมากกว่าลูกอม เป็นสูตรยาที่ลู่ฝานปรุงขึ้นเอง ถ้าอาจารย์หวูเฉินรู้ว่าเขากลั่นยาไร้ประโยชน์แบบนี้ ต้องหมิ่นเขาอย่างหนักแน่ๆ

ยานี้ยังมีประโยชน์อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือเอาไว้หลอกคนอื่นโดยเฉพาะ

ไม่งั้นเมื่อประลองเสร็จ ถ้าลู่ฝานดูเหมือนไม่สูญเสียพลังไปเลยแม้แต่น้อย ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะไม่มองเขาเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหรอ

ตอนนี้ลู่ฝานยังไม่อยากเปิดเผยพลังของตัวเองมากเกินไป ยังไม่ถึงเวลาให้เขาใช้แรง

“เป็นไง สู้ได้ไม่เลวใช่ไหมล่ะ”

ลู่ฝานพูดแล้วยิ้มกว้าง

หลิงเหยาจัดเสื้อผ้าให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายได้ลงมือหรือเปล่าเนี่ย ฉันเห็นนายโยนพลังของเขากลับไปก็ชนะเลย นี่ถือว่าไม่เลวเหรอ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ง่ายๆ สบายๆ ใช่ไหมศิษย์พี่ใหญ่ ผลการประลองของพวกพี่เป็นยังไงบ้าง”

ลู่ฝานเงยหน้ามองพวกศิษย์พี่ใหญ่

ศิษย์พี่ใหญ่สีหน้ากระอักกระอ่วน “ไม่ค่อยดี ศิษย์น้องฉู่เทียนกับฉันโดนคัดออกแล้ว หลินหย่าก็แพ้แล้ว ตอนนี้ประเทศอู่อานของเราเหลือแค่ศิษย์น้องหานเฟิง ศิษย์น้องหลิงเหยา แล้วก็หานหยวนหนิง”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “แพ้ได้ยังไง ศิษย์พี่ใหญ่ก็แพ้งั้นเหรอ”

ศิษย์พี่ฉู่เทียนยักไหล่แล้วพูดว่า “โชคไม่ดี ฉันเจอองค์ชายใหญ่ประเทศชางหมิน เขามีอาวุธวิเศษทั้งตัว สู้กับฉันหนึ่งชั่วโมง ผลปรากฏว่าฉันแพ้!”

หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “หลังจากนั้นองค์ชายคนนั้นก็ไม่สามารถร่วมการประลองรอบต่อไปได้อีก โดนคัดออกไปแล้ว”

ศิษย์พี่ฉู่เทียนพูดว่า “ใช่ ถือว่าเขาซวยที่โดนดาบของฉัน”

ศิษย์พี่ใหญ่ลูบพุงตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันแพ้ให้คนชื่อหวงฝู่อู่ วิชาของไอ้หมอนี่ประหลาดมาก ดูเปราะบางมากแท้ๆ แต่กลับไม่สนใจร่างกายกับพลังปราณของฉันเลย เมื่อไขมันบนตัวฉันอยู่ต่อหน้าเขาเหมือนไม่มี ฉันรู้สึกว่าพละกำลังของไอ้หมอนี่ใกล้ถึงระดับอริยปราชญ์แล้ว ถ้าต่อไปศิษย์น้องเจอเขา ต้องระวังให้มาก”

ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ จำชื่อหวงฝู่อู่เอาไว้

ขณะกำลังพูด องครักษ์เกราะทองสองคนเดินอย่างนอบน้อมออกมาจากกลุ่มคน พวกเขามองลู่ฝานด้วยความเลื่อมใส

“คุณชายเงามืด ยินดีด้วยที่ได้รับชัยชนะอีกแล้ว นี่คือบัตรเชิญร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ โปรดรับไว้ด้วย”

บัตรเชิญที่มีแสงเก้าสีสะดุดตาร่วงลงมาในมือลู่ฝาน

กลุ่มคนรอบๆ ตะโกนขึ้นอีกครั้ง

“บัตรเชิญ! นี่มันงานเลี้ยงที่ต้องเป็นผู้แข็งแกร่ง100 อันดับแรกในใต้หล้า ถึงเข้าร่วมได้ไม่ใช่เหรอ!”

“เงามืดเป็นผู้แข็งแกร่ง100 อันดับแรกในใต้หล้าอย่างเป็นทางการแล้ว พระเจ้า ฉันต้องบันทึกภาพตอนนี้ไว้!”

กลุ่มคนรีบเอากระจกจำภาพออกมา บันทึกภาพที่ลู่ฝานถือบัตรเชิญอยู่ในมือ

ลู่ฝานมองบัตรเชิญในมือ หันมาตอบองครักษ์ว่า “ฉันไปแน่นอน!”

พวกองครักษ์คำนับอีกครั้ง จากนั้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ลู่ฝานเปิดบัตรเชิญดูแวบหนึ่ง “เหมือนพาคนไปด้วยได้”

หลิงเหยาหัวเราะอย่างเข้าใจ “จริงเหรอ ดูเหมือนเราจะได้กินของอร่อยอีกแล้ว”

ศิษย์พี่หานเฟิงพุ่งเข้ามาพูดเสียงดังทันที “ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน นายมีบัตรเชิญด้วยเหรอ”

ศิษย์พี่หานเฟิงพูดพลางเอาบัตรเชิญที่หน้าตาเหมือนกันออกมาแกว่งไปมา

ลู่ฝานอึ้งเล็กน้อย จากนั้นเขาเห็นหลิงเหยาเอาบัตรเชิญออกมาเหมือนกัน เธอยิ้มอย่างภูมิใจ

ลู่ฝานหัวเราะร่า “ดูเหมือนคืนนี้เราพาคนไปด้วยได้หลายคนเลย!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *