เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้าบทที่ 1908 เก้าประเทศที่มหาอำนาจ

Now you are reading เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า Chapter บทที่ 1908 เก้าประเทศที่มหาอำนาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1908
การหยิบสิ่งของผ่านมิติ วิธีแบบนี้หากเป็นนักบู๊แดนปราณนอกต่างใช้เป็นกันหมด

แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คนที่กล้าใช้การหยิบสิ่งของผ่านมิติแย่งชิงจุดลำแสง คงมีแค่ลู่ฝานคนเดียว

คนอื่นๆ ไม่มีใครที่ไม่พุ่งเข้าไป หรือแม้กระทั่งมีคนจำนวนมากศัสตราวุธอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวจะสู้อย่างดุเดือดกับคนที่แย่งจุดลำแสงของตัวเอง

จุดลำแสงที่ลู่ฝานพึงพอใจลอยมาครึ่งทาง จู่ๆ ถูกนักบู๊ชุดม่วงขวางไว้

ใบหน้าแสยะยิ้ม นักบู๊ชุดม่วงมองลู่ฝานอย่างเฉยเมย

ความเยาะหยันในสายตา ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ

ลู่ฝานก็เหลือบมองเขาอย่างเฉยเมย เพียงแต่ในดวงตามีแสงสว่างเล็กน้อย

ทันใดนั้น นักบู๊ชุดม่วงเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ร่างกายเซไปเซมาและกระอักเลือดไปที่ด้านข้าง

“อ่อนเกินไป!”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ วิญญาณโจมตี ยังเฉียบคมดังเดิม

ถึงแม้ไม่ได้ใช้วิญญาณกะพริบ แต่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถต้านทานได้

อย่างน้อยนักบู๊ชุดม่วงคนนี้ ความสามารถยังด้อยอยู่มาก

เมื่อเห็นว่าลู่ฝานโจมตีคนหนึ่งจนถอยไปได้อย่างง่ายดาย คนอื่นๆ ก็พากันหลบออกอย่างฉลาด

ก็แค่เลือกคู่ต่อสู้เท่านั้น ทำไมจะต้องทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักจนต่อสู้ไม่ได้ นั่นจะได้ไม่คุ้มเสีย

จุดลำแสงลอยเข้าสู่ในมือของลู่ฝาน

ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นในมือของตัวเองปรากฏคำว่า “ก่วนเทา” สองคำ!

จากนั้น ชื่อกลายเป็นลำแสงพุ่งสู่ท้องฟ้า

ชั่วพริบตา ในกองจุดลำแสง คำว่าเงามืดก็ลอยขึ้นท้องฟ้า

ทุกคนมองเห็นชื่อของเงามืดกับชื่อของก่วนเทาถูลำแสงโอบล้อม

ลำแสงกลายเป็นเปลวไฟในทันที ใต้ชื่อของทั้งสองคนไฟลุกโชน

เป็นการแสดงว่าสองคนนี้ก็คือคู่ต่อสู้ในยกต่อไป!

ภาพแบบนี้ทุกคนที่อยู่โดยรอบมองดูจนตกตะลึงเล็กน้อย และจากนั้นเร่งฝีมือฝีเท้าแย่งจุดลำแสง

พวกเขาไม่อยากให้ตัวเองเลือกคนที่เหมาะสมยังไม่ได้แล้วถูกคนอื่นเลือกไปก่อน

เวลาต่อมา ลำแสงแต่ละเส้นพุ่งขึ้นท้องฟ้า

คนที่เลือกคู่ต่อสู้เสร็จใบหน้ายิ้มแย้ม คนที่ถูกคนอื่นเลือกกลับมีสีหน้าเคร่งขรึม มีหลายคนที่ยังด่าอย่างสาดเสียเทเสียออกมา

พวกเขาคงลืมไปแล้วว่าภาพในตอนนี้ ทั้งประเทศฉิงเทียน แม้กระทั่งคนทั้งโลกกำลังชมผ่านม่านแสงและท้องฟ้าอยู่

การกระทำทุกอย่าง อยู่ในสายตาของคนทั้งโลก ท่าทางน่ารังเกียจ พูดคำหยาบที่พวกเขาแสดงออกมา ถูกคนจำนวนนับไม่ถ้วนบันทึกเอาไว้

ดังนั้นคนทั้งประเทศฉิงเทียน กำลังจับผิดบุคลิกและวิพากษ์วิจารณ์คนเหล่านี้

คนไหนดี คนไหนไม่ดี อยู่ที่ปากของทุกคน

ลู่ฝานมองดูชื่อของก่วนเทาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ชื่อนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

เขาก็แค่เลือกตามใจชอบ พูดตามตรง ถึงระดับที่บรรลุวิทยายุทธแบบเขาแล้ว คู่ต่อสู้เป็นใครไม่สำคัญแล้ว

แท้จริงแล้วลึกๆ ในใจของลู่ฝานหวังว่าจะได้เลือกคู่ต่อสู้ที่ฝีมือแกร่งหน่อย

เขารู้สึกว่าฝีมือของตัวเองเข้าสู่ช่วงที่ยากลำบากแล้ว วิธีที่อยากจะทะลุระดับ มีแค่สองวิธีเท่านั้น

หนึ่งคือฝึกวิชาช้าๆ ใช้การสั่งสม เข้าใจซึ้งถึงท้องฟ้าและพื้นดิน เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดการพัฒนาไปถึงสุดขั้วและเปลี่ยนไปในทิศทางตรงข้าม สุดท้ายก็ฝ่าฟันพันธนาการ

ยังมีอีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ตอนที่ป่วยรอมร่อ ในช่วงสุดท้ายของการต่อสู้ของมนุษย์ ใช้การบีบคั้นศักยภาพของตัวเองเพื่อให้ทะลุระดับ

ถ้าหากใช้วิธีพูดที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น นั่นก็คือหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งขวางทางของการฝึกวิทยายุทธ ไม่ก็ผลักมันออกช้าๆ!

ไม่ก็ใช้พลังฮึกเหิมสูงสุดทำลายมัน!

เมื่อเปรียบเทียบกัน ลู่ฝานชอบวิธีหลังมากกว่า

พูดจากก้นบึ้งหัวใจ เขาเป็นคนที่ชอบเสี่ยงอันตราย

“บ้าจริง ฉันถูกตงหยางเฟิงของประเทศชางหมินเลือกแล้ว คราวนี้ยุ่งยากใหญ่แล้ว!”

มีเสียงถอนหายใจดังขึ้นที่ข้างหู ลู่ฝานหันหน้ามองไป เห็นชายป่าเถื่อนคนหนึ่ง กำลังมองท้องฟ้าแล้วพูดไปด่าไป เหมือนกับกำลังมองชื่อที่อยู่ในมือของตัวเอง

“ประเทศชางหมินอีกแล้ว!”

นี่เป็นครั้งที่สองของวันนี้ที่ลู่ฝานได้ยินชื่อประเทศนี้

หนึ่งเดียวที่เขารู้นั่นก็คือเป็นประเทศใหญ่ของเขตตะวันตก

เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนอธิบายให้เขาฟัง

ทันใดนั้นเจดีย์เสวียนเก้ามังกรปรากฏออกมาจากในร่างกายของลู่ฝานแล้วพูดขึ้น “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ประเทศชางหมินคือหนึ่งในสามประเทศมหาอำนาจของเขตตะวันตก คนของที่นั่น ร่างกายแข็งเหมือนหินโดยกำเนิด ยากที่จะถูกฆ่าตาย มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก ถ้าหากพบเจอจะต้องระวังตัว”

ลู่ฝานยิ้มพูด “แกรู้เยอะดีนี่ งั้นแกบอกกับฉันอีกหน่อย ยังมีคนของประเทศไหนอีกที่ควรระวัง!”

ฝ่ามือของลู่ฝานเปล่งแสงออกมาเล็กน้อย จากนั้นมองไปโดยรอบแล้วพูดขึ้น “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ จากฝีมือของท่านในตอนนี้ เพียงแค่ระวังผู้แข็งแกร่งของเก้าประเทศมหาอำนาจก็พอแล้ว”

ลู่ฝานพูดอย่างตกตะลึง “เก้าประเทศมหาอำนาจยังมีคำเรียกแบบนี้ด้วยเหรอ?”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูด “แน่นอน เก้าประเทศมหาอำนาจนี้ถึงกับได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในจำนวนนั้นเขตเหนือมีสามประเทศ เขตตะวันตกสามประเทศ เขตใต้สองประเทศและแดนตะวันออกหนึ่งประเทศ!”

เว้นระยะช่วงหนึ่ง เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็พูดขึ้นอีก “สามประเทศของเขตเหนือแบ่งออกเป็น ประเทศว่านจุน ประเทศหลงอู่ ประเทศฉิงเทียน สามประเทศของเขตตะวันตกแบ่งออกเป็น ประเทศชางหมิน ประเทศเสวียน ประเทศติงอวี้สองประเทศของเขตใต้คือ ประเทศเฟิงหยู่ ประเทศหวนหยู่ แดนตะวันออกไม่ต้องพูดแล้ว นั่นก็คือประเทศตันเซิ่ง!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดไปด้วยพร้อมกับปล่อยลำแสงเส้นบางๆ ชี้ไปทางคนจำนวนหนึ่ง

ไม่พูดไม่ได้ว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรชี้ได้แม่นมาก คนเหล่านี้ดูท่าทางเก่งกาจอย่างมาก

คนเหล่านี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจน เทียบกับประเทศอื่นกลับมีบางส่วนที่ต่างกัน มีท่าทางหยิ่งยโสที่ซ่อนอยู่บนตัว

จากการชี้บอกของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร จู่ๆ ลู่ฝานพบว่า คนของเก้าประเทศมหาอำนาจนี้ ครองจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้แข็งแกร่งหนึ่งร้อยอันดับแรก นั่นก็หมายความว่า เก้าประเทศมหาอำนาจ แต่ละประเทศมีผู้แข็งแกร่งอย่างน้อยสี่คนเข้าสู่ผู้แข็งแกร่งหนึ่งร้อยอันดับแรก

ฝีมือระดับนี้ ไม่ใช่ว่าประเทศอื่นจะเทียบได้จริงๆ

คิดได้ถึงตรงนี้ ลู่ฝานหวั่นไหวเล็กน้อย

ไม่ถูก ยังมีอีกประเทศหนึ่งที่ด้านนี้สามารถเทียบได้

นั่นก็คือประเทศอู่อาน

คำนวณดีๆ หลิงเหยา หานหยวนหนิง ศิษย์พี่หานเฟิงก็สามคนแล้ว

ถ้าหากนับเขาด้วย นั่นไม่เป็นสี่คนพอดีเหรอ

ลู่ฝานหัวเราะเสียงเบา “ประเทศมหาอำนาจที่สิบ? หึหึ”

ด้านข้าง นักบู๊สองคนส่งสายตาแปลกประหลาดมาทางเขา

รายชื่อประลองทั้งหมดปรากฏออกมา เปลวไฟห้าสิบดวงหมุนวนกลางอากาศ

ประมุขประเทศฉิงเทียนปรบมืออย่างพอใจแล้วพูดขึ้น “ดูท่ารายชื่อการประลองยกต่อไปได้ออกมาแล้ว เช่นนั้นฉันขอประกาศ ผู้แข็งแกร่งหนึ่งร้อยท่าน จะได้รับรางวัลจากประเทศฉิงเทียนกับสำนักเงินปาฟาง ขอเชิญเทพเงินแปดทิศ!”

พูดจบ กลุ่มคนฮึกเหิม

จากนั้น เทพเงินแปดทิศค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังตำหนัก

เขายังคงสวมเสื้อผ้าสกปรกมอมแมมและเปลือยเท้า

มองดูทุกคน เทพเงินแปดทิศหัวเราะเสียงดัง “ผู้แข็งแกร่งหนุ่มสาวทุกท่าน ยินดีกับพวกคุณที่กลายเป็นแขกมังกรดำที่มีเกียรติของสำนักเงินปาฟาง นี่คือบัตรผลึกหินของพวกคุณ”

ขณะพูด เทพเงินแปดทิศโบกมือ จากนั้นบัตรผลึกหินหนึ่งร้อยใบปรากฏขึ้นในมือของเขา

ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกได้ว่าลมหายใจของผู้คนรอบด้านหนักแน่นขึ้น

ลู่ฝานถามเจดีย์เสวียนเก้ามังกรอย่างไม่เข้าใจ “บัตรผลึกหินมังกรดำ มีประโยชน์อะไรไหม?”

ทันใดนั้นไอ้เก้าร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมา “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ บัตรผลึกหินนี้ก็คือเงินไงล่ะ เป็นสัญลักษณ์ว่าคุณสามารถเบิกเงินที่สำนักเงินปาฟางได้ตามใจชอบ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เพียงแค่นายต้องการเงินก็สามารถไปรับที่สำนักเงินปาฟางได้เลย ถึงแม้จะมีวงเงินจำกัด แต่มันก็สูงมากจนน่ากลัว อีกอย่างเพียงแค่เป็นธุรกิจของสำนักเงินปาฟางก็เข้าพักฟรี วัตถุดิบยาฟรี ทุกอย่างฟรี นี่ยังไม่พอเหรอ?”

ลู่ฝานสูดหายใจเข้าลึกๆ “ดูท่า ความคิดที่จะกินอาหารโดยไม่ต้องใช้เงินของฉันจะเป็นจริงแล้ว!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *