เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 403 นี่คุณมา…จ้องจับผิดจริงๆ หรือP

Now you are reading เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ Chapter บทที่ 403 นี่คุณมา...จ้องจับผิดจริงๆ หรือP at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 403 นี่คุณมา…จ้องจับผิดจริงๆ หรือ

ภายในห้องผ่าตัด เฉินชางต้องออกแบบให้ลูกค้าอีกครั้งหนึ่งก่อนผ่าตัด แม้ก่อนหน้านี้จะออกแบบไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก่อนผ่าตัดยังต้องเตรียมพร้อมให้ดี

เบื้องหลังเฉินชางมีคนใหญ่คนโตยืนอยู่สี่คน ไม่ใช่สิ ควรบอกว่ามีคนใหญ่คนโตสามคนและจางจื้อซินอีกคนหนึ่ง

จางจื้อซินยืนมองด้วยอารมณ์หวาดระแวงระคนเคร่งเครียด

แต่เมื่อมองเฉินชางแล้วพบว่าเขามีใบหน้าสงบนิ่ง ท่าทางเคร่งขรึม ดูไม่เครียดเลยแม้แต่น้อย นี่ทำให้จางจื้อซินอดตำหนิตนเองไม่ได้

ช่างไม่มีมาดเลยจริงๆ!

สู้เฉินชางไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

แววตาของเฉินชางเต็มไปด้วยความครุ่นคิดว่าจะเติมซิลิโคนอย่างไร หลังเติมแล้วจะอยู่ในตําแหน่งใด โครงสร้างโดยรวมจะเป็นแบบไหน จะใช้วิธีการอะไร….เป็นต้น และต้องคิดด้วยว่าร่างกายผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน

ที่เฉินชางต้องพิจารณาเช่นนี้ เพราะผู้ป่วยเป็นนักเต้น พวกเธอเต้นเป็นอาชีพ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจปัญหาหลายด้าน

กงไต้เจินอ่านข้อมูลคนไข้จบก็อดพึมพำออกมาไม่ได้ ผ่าตัดเสริมหน้าอกให้นักเต้นเช่นนี้เธอก็เคยทำ เพียงแต่…ภายหลังผู้ป่วยมักมาเอาออก

แต่นักเต้นอายุน้อยที่อยู่ในวัยยอดเยี่ยมที่สุดของอาชีพเช่นนี้ เธอเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก

ทำแล้วจะดีหรือ

กงไต้เจินถามตัวเอง

ถ้าเป็นตนจะทำได้หรือไม่

เรื่องนี้เธอก็ไม่กล้ารับประกัน

ทางด้านฉินเสียงและหยางเทาก็มีสีหน้ามึนงง เสริมหน้าอกให้นักเต้นเช่นนี้…จะไร้สาระเกินไปหรือเปล่า เฉินชางคนนี้ก็กล้าหาญดีจริงๆ!

พวกเขาไม่รู้เลยว่าผู้เข้ารับการผ่าตัดทุกเคสในวันนี้เป็นนักเต้นทั้งหมด

หลังจากใช้เวลาออกแบบและวางแผนไปราวสามสิบกว่านาที ไม่นานการผ่าตัดก็เริ่มต้น

วิสัญญีแพทย์รมยาเริ่มต้นการผ่าตัด

เฉินชางยังคงใช้การกรีดเปิดบริเวณใต้รักแร้เช่นเดิม โดยเริ่มลากเส้นบนผิวบริเวณใต้รักแร้อย่างคล่องแคล่วและเชี่ยวชาญ จากนั้นจึงเริ่มกรีดมีดไปตามรอย เขาผ่าเปิดแผลประมาณสองถึงสามเซนติเมตรเท่านั้น มีเลือดออกน้อยมาก

กงไต้เจินคิดว่านี่เป็นการผ่าเปิดที่ยอดเยี่ยมทีเดียว

ขณะนั้นเฉินชางก็เริ่มแยกผิวหนังและเส้นเอ็นออกจากกันแล้ว

เฉินชางหยิบแหนบคีบเนื้อเยื่อขึ้นมาสอดไปในแผลทีละน้อยจนลึก ทันใดนั้นกงไต้เจินและฉินเสียงก็ต้องสบตากัน!

ทั้งสองตะลึงพรึงเพริด!

ไม่ใช้การส่องกล้องหรือ

ปัจจุบัน การผ่าตัดเสริมหน้าอกส่วนใหญ่จะใช้การส่องกล้อง เนื่องจากสะดวกกับการเติมซิลิโคนเข้าไปมากกว่า และทำให้ซิลิโคนที่ฉีดเข้าไปอยู่ตัวและแม่นยำมากกว่าการใช้ตามอง!

แต่เฉินชางกลับไม่ได้ใช้การส่องกล้อง!

จางจื้อซินเคยชินไปนานแล้ว เขาช่วยเฉินชางลอกชั้นเนื้อใต้ผิวหนังเข้าไปด้านในจนไปถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนนอก

นี่เป็นงานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน!

ส่วนที่ยากที่สุดในการผ่าตัดเสริมหน้าอกก็คือการฉีดซิลิโคนและทำให้มันอยู่ตัว และทำให้เป็นรูปเป็นร่างตามที่ต้องการ เนื่องจากตอนผ่าตัด ผู้ป่วยอยู่ในสภาพนอนหงาย!

หากคุณต้องการผลลัพธ์ดีๆ เช่นนั้นจะต้องทำงานโดยวางแผนล่วงหน้า สำหรับคนธรรมดาอาจคิดว่าทำออกมาสูง หรือต่ำไปเล็กน้อยคงไม่เป็นไร ขอเพียงขนาดเหมาะสมก็พอแล้ว

แต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ

แน่นอนว่าไม่ใช่

เฉินชางหยิบจับอุปกรณ์ขึ้นมาลอกกล้ามเนื้อและเส้นประสาทออกจากกันอย่างเชี่ยวชาญ หาช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าอก จากนั้นจึงแยกออกจากกันอย่างหมดจด! เขาทำราวกับนี่เป็นงานง่ายๆ สบายๆ โดยไม่ต้องพึ่งกล้อง และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อตนเองแม้แต่น้อย

เห็นเช่นนี้ กงไต้เจินก็รู้สึกนับถือ ต้องผ่าตัดมามากเท่าไหร่กันนะถึงจะฝึกฝีมือถึงขั้นนี้ได้

เฉินชางคิดกับตัวเองว่า ดูเหมือนเขาจะเข้าใจโครงสร้างหน้าอกมากกว่าส่วนอื่นอีกนะเนี่ย

มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทราบว่าเขาผ่าตัดมามากแค่ไหน

ยามเห็นเส้นใยกล้ามเนื้อทุกเส้น เฉินชางก็รู้สึกราวกับเห็นญาติมิตรของตน กระทั่งอยากส่งเสียงทักทายเลยทีเดียว

จางจื้อซินส่งซิลิโคนไปให้ เฉินชางรับมา ใช้สองนิ้วคีบให้มั่น จากนั้นจึงใส่เข้าไปตามแผลกรีด ยัดไปตามช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าอกที่ลอกเอาไว้ดีแล้ว จากนั้นจึงปล่อยมือ!

ชั่วขณะนั้นเองจู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าเขาเชี่ยวชาญกว่าตอนแรกเสียอีก!

บางทีอาจเกี่ยวข้องกับค่าความคล่องแคล่วสินะ

ช่วงแรกๆ ที่เขาผ่าตัดเสริมหน้าอก ยังไม่มีถุงมือจากระบบและไม่ได้ใช้ไอเทมเสริมความแข็งแกร่งให้นิ้วมือจึงเงอะงะไปบ้าง ดังนั้นตอนยัดซิลิโคนเข้าไปจะต้องคอยใช้นิ้วปรับขนาดและรูปร่างของซิลิโคนอยู่ตลอดเวลา เป็นงานที่ต้องใช้ประสบการณ์และเทคนิคมากเลยทีเดียว!

เฉินชางใช้สัญชาตญาณในการทำงานทั้งหมด ดวงตาจับจ้องอยู่ภายนอก ปรับรูปร่างไปตามสัญชาตญาณ ทำตามความรู้สึก

เวลาผ่านไปทุกวินาที

ดวงตาสามคู่จับจ้องการผ่าตัดของเฉินชาง แต่ว่า…พวกเขามองไม่เห็นภายในแม้แต่น้อยเพราะไม่ได้ใช้การส่องกล้อง แต่ยังรับรู้ได้ว่าเฉินชางกำลังใช้นิ้วมือปรับเปลี่ยนรูปร่างซิลิโคน จากนั้นก็ปรับพังผืดและกล้ามเนื้อในตอนที่ยังไม่ได้ดึงแหนบคีบเนื้อเยื่อออกมา

ฉินเสียงรู้สึกอับอายเล็กน้อย

นี่เป็นการทำงานแบบตาบอดหรือ

ภาพที่เห็นต่อไป ทำให้พวกเขาถึงกับตาค้าง

เฉินชางปรับแต่งหน้าอกไม่หยุด ทุกครั้งทุกขั้นตอนที่ผ่านไปทีละขั้น รวมแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง

การปรับแต่งทุกครั้ง ทำให้พวกเขาเห็นถึงความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความโดดเด่นไม่เหมือนใคร

สัดสวนได้รูป!

ความสูงเหมาะสม!

ขนาดเหมาะสม!

……

ทุกรายละเอียด เฉินชางจะใช้สัญชาตญาณปรับแต่งตัวอย่างช่ำชอง

ชั่วขณะนี้ กงไต้เจินผู้เป็นคนใหญ่คนโตในสมาคมศัลยแพทย์ความงามพลันเข้าใจทันทีว่าเหตุใดจึงรู้สึกเหมือนเห็นผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่ง!

เป็นเพราะท่วงท่า!

เป็นเพราะรายละเอียด!

การผ่าตัดเสริมหน้าอกของเฉินชางราวกับการบรรเลงเครื่องดนตรีอย่างประณีต ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อน ประหนึ่งเป็นงานศิลปะที่ได้รับการแกะสลักต่อเนื่อง

นี่ไม่ใช่การผ่าตัดเสริมหน้าอกธรรมดา!

สิ่งที่เฉินชางทำไม่ใช่การผ่าตัดเท่านั้น!

แต่มันคืองานศิลปะ!

นอกจากนี้ กงไต้เจินพบว่าเฉินชางมีพรสวรรค์อันโดดเด่นในด้านการร่างเค้าโครง ไม่ว่าจะเป็นช่องว่าง ระยะห่าง ตำแหน่ง หรือส่วนอื่นๆ ทุกครั้งที่เขาปรับแต่งจะทำให้รูปร่างหน้าอกดูเหมาะสมสวยงามมากยิ่งขึ้น

ไม่แปลกใจเลยที่มีมูลค่าถึงหนึ่งล้านหยวน!

คนธรรมดาทำเช่นนี้ไม่ได้แน่นอน

สิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ย่อมมีค่ามหาศาล

กงไต้เจินเห็นดังนั้นพลันรู้สึกว่าผลงานศัลยกรรมความงามของเฉินชางเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทิศทางและยุคสมัยใหม่

นี่เป็นแนวคิดเรื่องความเหมาะสมของสัดส่วน! เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากศัลยกรรมเกาหลีโดยสิ้นเชิง

บางทีน่ะนะ…

หลังผ่าตัดเสร็จ ตอนที่ผู้ป่วยลุกขึ้นนั่ง ทุกคนในห้องก็ต้องตกตะลึง!

สวยมาก!

สวยมากจริงๆ!

หรือควรบอกว่าน่าทึ่งมากกว่า

เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับตอนก่อนผ่าตัดจะพบความแตกต่างชัดเจน แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

กงไต้เจินเห็นผลงานแล้วก็ต้องทอดถอนใจออกมาพลางส่ายหน้า

นี่เป็นพรสวรรค์จริงๆ!

เป็นอะไรที่เรียนรู้กันไม่ได้

ศัลยกรรมความงามไม่เหมือนกับศัลยกรรมสาขาอื่น ศัลยแพทย์ความงามจะต้องมีเซ้นส์ด้านความงาม มีเซ้นส์ด้านสัดส่วน รายละเอียด หรือระยะที่เหมาะสมต่างๆ อย่างสูง

แต่ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ ดูเหมือนว่า…เฉินชางจะมีมันทั้งหมด!

คิดถึงตรงนี้ กงไต้เจินก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เมื่อมองเฉินชางอีกครั้ง ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง

นี่คงเป็นพรสวรรค์สินะ

นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นมาตั้งแต่เกิด หรืออยู่ดีๆ ก็เป็นละมั้ง?

คิดถึงตรงนี้กงไต้เจินก็ต้องสูดหายใจลึก การมาเยือนเที่ยวนี้ไม่เสียเปล่าจริงๆ ได้เห็นอะไรมากมายเลยทีเดียว! ทั้งยังได้เพิ่มพูนความรู้ตัวเองด้วย

การผ่าตัดเสริมหน้าอกของเฉินชางเปิดหูเปิดตากงไต้เจินมากจริงๆ ทำให้เธอได้แรงบันดาลใจมากมาย!

เพียงพริบตาเดียว ในสมองของกงไต้เจินก็คิดอะไรได้หลายสิ่งหลายอย่าง เช่นว่าจะปรับปรุงวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างไร จะผลักดันศัลยกรรมความงามในประเทศให้ก้าวหน้าอย่างไร!

ต้องทราบว่าในวงการศัลยกรรมความงามของประเทศจีนยังมีเส้นสนกลในอ่อนแอ หากคิดจะพัฒนาก็ต้องสร้างคนรุ่นใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่า ซึ่งการผ่าตัดของเฉินชางทำให้กงไต้เจินมองเห็นเส้นทางใหม่ๆ แล้ว หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการเปิดประตูสู่โลกใบใหม่แก่เธอ

บางที หลังจากกลับไปแล้ว เธออาจคิดปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเป่ยหลี่โดยการออกแบบเครื่องมือพิเศษรุ่นใหม่เพื่อนำมาใช้ควบคุมรายละเอียดการผ่าตัดให้ดียิ่งขึ้น…

เป็นเส้นทางที่เป็นไปได้!

หากคิดจะทำวิจัยเรื่องนี้ เฉินชางย่อมเป็นที่ปรึกษาที่เหมาะสมที่สุด กงไต้เจินตัดสินใจแล้วว่าหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นจะคุยกับเฉินชางเรื่องนี้

ไม่เสียแรงที่เดินทางมาจริงๆ!

……

……

จางจื้อซินชินกับการผ่าตัดของเฉินชางแล้ว เมื่อเห็นคนทั้งสามนิ่งตะลึงเช่นนั้นก็อดถอนใจไม่ได้

ตะลึงก็ดีแล้ว ตะลึงก็ดีแล้ว!

เคสที่หนึ่ง…

เคสที่สอง…

เคสที่สาม…

จากนั้นก็กินข้าวด้วยความตื่นเต้น

แล้วผ่าตัดต่อไปราวกับพวกเขาสี่ห้าคนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย!

การผ่าตัดห้าเคสทั้งหมดเสร็จสิ้น!

ยิ่งเป็นเคสหลังๆ ทุกคนก็ยิ่งตะลึงพรึงเพริด เฉินชางเป็นเครื่องจักรมนุษย์หรืออย่างไร

ผ่าตัดห้าเคส ทำได้ดีทุกเคส!

ผ่าตัดห้าเคส เก็บรายละเอียดได้หมดจดทุกเคส!

คุณเป็นเครื่องจักรมนุษย์หรือไง

ดวงตาของฉินเสียงราวกับมีไฟแผดเผา เขามองเฉินชาง จากนั้นก็มองกงไต้เจิน “ท่านรองกง ให้เสี่ยวเฉินเข้าร่วมสมาคมศัลยกรรมความงามแห่งประเทศจีนได้ไหมครับ”

กงไต้เจินดวงตาเปล่งประกาย ใช่แล้ว!

“ได้แน่นอนค่ะ!”

กงไต้เจินถึงกับปรบมือต้อนรับเฉินชางเลยทีเดียว

สมาคมศัลยแพทย์ความงามต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถอย่างเฉินชางนี่แหละ

พูดจบ กงไต้เจินก็มองเฉินชางด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “เสี่ยวเฉิน คุณยื่นใบสมัครมาเลยค่ะ รีบเข้าร่วมสมาคมของพวกเราเถอะ! พวกเราขาดคนมีพรสวรรค์อย่างคุณ”

เฉินชางมองทุกคน จากนั้นก็มองใบหน้ากระตือรือร้นของท่านรองกงอย่างมึนงง!

เขาเงยหน้าขึ้นหันมองจางจื้อซินด้วยความสงสัย

คุณบอกว่าท่านรองกงคนนี้มาจ้องจับผิดไม่ใช่หรือไง

เห็นได้ชัดว่า…มาอวยผม!

จางจื้อซินก็มีสีหน้าสับสน

ผมจะไปรู้ได้ไงล่ะ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด