เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 443 การปกป้องอันบริสุทธิ์

Now you are reading เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ Chapter บทที่ 443 การปกป้องอันบริสุทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 443 การปกป้องอันบริสุทธิ์

เดิมทีฉินเยว่คิดจะทำเซอร์ไพรส์เฉินชาง! เธอเตรียมตัวนานมาก สวมเสื้อผ้าสวยๆ ออกไปปรากฏตัวที่งานสัมมนาประจำปีในฐานะพิธีกร คิดไว้เสียดิบดีว่าหากเฉินชางเห็นเธอจะต้องประหลาดใจแน่ๆ!

คิดแล้วก็มีความสุขจริงๆ

ขณะนั้นจางโหย่วฝูเข้ามาในงานแล้ว เขาเดินวนรอบงานแต่ยังไม่เห็นเฉินชางจึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินออกมาที่บริเวณลงชื่อเข้างาน พลิกกระดาษดูรอบหนึ่งแต่กลับหาชื่อเฉินชางไม่เจอ!

ไอ้หนูนั่น…นอนเพลินหรือไง

คิดแล้วก็รีบต่อสายโทรหาเฉินชางทันที! ทว่าไม่มีคนรับสาย ตอนนี้จางโหย่วฝูเริ่มแปลกใจแล้ว

ไอ้เด็กบ้านั่น คงไม่ได้นอนเพลินจริงๆ หรอกนะ

จางโหย่วฝูเดินไปหาจางจื้อซินและเฉินปิ่งเซิงเพื่อให้พวกเขาโทรหาเฉินชางแต่ก็ไม่มีคนรับสายเช่นเดิม

ตอนนี้จางโหย่วฝูเริ่มโมโหแล้ว

อีกไม่นานงานจะเริ่มแล้ว ไอ้หนูนั่นทำอะไรอยู่

ฉินเยว่เห็นดังนั้นจึงถามขึ้นว่า “หัวหน้าจาง มีอะไรหรือคะ”

จางโหย่วฝูพูดด้วยความเดือดดาล “ไอ้หนูเฉินชางน่ะสิ ไม่รู้ว่านอนอยู่หรือยังไง โทรไปหลายสายแล้วก็ไม่มีคนรับ!”

ฉินเยว่ชะงักไป รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันลองโทรดูหน่อยแล้วกันค่ะ”

พูดจบก็โทรไปทันทีแต่ก็ไม่มีใครรับสาย ตอนนี้พวกเขาเริ่มตกใจกันแล้ว

ฉินเยว่พูดขึ้นว่า “ไม่ถูกสิคะ ตอนเช้าเขายังติดต่อฉันอยู่เลย คงอยู่ระหว่างทางมั้งคะเลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์”

จางโหย่วฝูร้อนใจจนเหงื่อผุดเต็มหน้า

งานสัมมนาประจำปีในวันนี้มีโจวหงกวงผู้เป็นหัวหน้าแผนกของโรงพยาบาล 301 ควบตำแหน่งรองประธานสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีนมาร่วมงานนี้เพราะเฉินชางด้วย ถ้าเฉินชางไม่มาจะไม่เป็นการหักหน้าเขาหรือ!

ตอนนี้เฉียนเลี่ยงเดินเข้ามาแล้ว “เป็นอะไรกันครับหัวหน้าจาง ร้อนใจเรื่องอะไรครับ”

จางโหย่วฝูพูดว่า “เสี่ยวเฉินยังไม่มาเลย”

เฉียนเลี่ยงชะงักไป เขามองไปที่นาฬิกา “ยังไม่ถึงเวลาเลยครับ รออีกเดี๋ยวค่อยว่ากันเถอะ”

……

……

เมื่อเฉินชางเห็นแจ้งเตือนภารกิจของระบบก็ต้องชะงักไปทันที! เขากดรับภารกิจโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องตำแหน่งคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี…ก็ช่างมันเถอะ!

เฉินชางมองผู้บาดเจ็บหญิงแล้วถอนใจออกมา ค่อยว่ากันเถอะ ช่วยคนสำคัญกว่า!

ตอนนี้มีคนประมาณสี่ห้าคนเข็นเตียงลงมาจากรถฉุกเฉิน 120 แล้ว มีบางคนถือกล่องอุปกรณ์แพทย์ฉุกเฉินวิ่งเข้ามาด้วย แต่รถตำรวจยังมาไม่ถึง!

เสี่ยวหลินถือกล่องอุปกรณ์ ส่วนเล่อเล่อดูแลเตียง เมื่อพวกเธอเดินเข้ามา เฉินชางก็บอกกับหญิงผู้บาดเจ็บ ประคองเธอขึ้นเปลแล้วหามอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้บริเวณลำคอได้รับการกระทบกระเทือน

เฉินชางพูดขึ้นว่า “หามขึ้นรถไปก่อนครับ!”

พูดจบก็ยกเปลขึ้นไปบนรถพร้อมเล่อเล่อ

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งก็มีหมอที่ติดตามมากับรถฉุกเฉินอยู่อีกสองสามคน หนึ่งในนั้นก็คือจางเสวี่ยเลี่ยงศัลยแพทย์กระดูก พวกเขาหามผู้บาดเจ็บชายขึ้นรถฉุกเฉินอีกคันหนึ่งไปแล้ว

เมื่อเทียบกันแล้ว ผู้บาดเจ็บชายมีอาการกระดูกแตก แต่ผู้บาดเจ็บหญิง…อาจมีอันตรายถึงชีวิต!

สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

เฉินชางหันไปมองเสี่ยวหลิน “เสี่ยวหลิน ดูแลเด็กคนนี้ทีนะครับ เขาเป็นญาติผู้ป่วย พาตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยเลย”

พูดจบก็พาผู้บาดเจ็บขึ้นไปบนรถฉุกเฉินด้วยความช่วยเหลือจากเล่อเล่อและเหล่าหยางคนขับรถ จากนั้นจึงรีบติดตั้งเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตัวผู้บาดเจ็บ เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เฉินชางก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที!

เพราะตอนนี้ค่าความดันโลหิตไม่ถึงเจ็ดสิบแล้ว! อีกทั้งการหายใจก็กระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วย นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย

หรือจะมีเลือดคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอด

นี่เป็นปัญหาที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะอุบัติเหตุรถชนที่รุนแรงเช่นนี้ จะทำให้เกิดแผลประเภทแผลถูกบด (crushed wounds) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเสียหายรุนแรง และเมื่อกล้ามเนื้อเสียหายจนมีเลือดออกในช่องท้องเป็นจำนวนมาก เลือดเหล่านั้นจะไหลเข้าไปในส่วนช่องอกจนเกิดอาการที่เรียกว่าเลือดคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอด เลือดจะไปบีบอัดปอดและทำให้มีอันตรายถึงชีวิต

ตอนนี้เฉินชางเป็นห่วงสภาพของผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!

ขณะนี้เด็กชายตัวสั่นระริก ไม่ทราบว่าเพราะหวาดกลัว หรือเพราะอะไร… สองมือของเขากุมมือขวาของผู้เป็นมารดาเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง ไม่กล้าออกแรงมาก กลัวอีกฝ่ายบาดเจ็บ

ตอนนี้ผู้เป็นแม่กำลังหลับตา นี่ทำให้เขาหวาดกลัวเข้าแล้วจริงๆ!

อยากร้องแต่ก็ไม่กล้าร้อง!

ผู้เป็นพ่อเคยพูดว่าในตอนที่พ่อไม่อยู่ข้างกาย เขาที่เป็นผู้ชายจะต้องคอยปกป้องคนเป็นแม่ เด็กอายุเจ็ดขวบเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้โลกกว้าง แต่ก็นับว่ามีสติสัมปชัญญะอยู่พอสมควรแล้ว

เขารู้ว่าตนจะต้องใช้ร่างกายเล็กๆ นี้ปกป้องผู้เป็นแม่เหมือนกับในการ์ตูน! แต่…ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ความสับสนอัดแน่นอยู่ในร่างกายเล็กๆ ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี

เขาเคยดูละคร รู้ว่า…อุบัติเหตรถยนต์ทำให้คนตายได้เลย

ดวงตาของเขาจ้องมองเส้นชีพจรอันซับซ้อนที่ปรากฏบนเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ มองดูตัวเลขที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปไม่หยุดหย่อน คอยฟังคุณอาตรงหน้าพูดสิ่งซับซ้อน คอยมองคุณน้าที่กำลังฉีดยาบางอย่างเข้าไปในร่างกายของแม่…

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำความเข้าใจคุณอาคุณน้าผู้สวมใส่เสื้อสีขาวเหล่านี้…

สัญญาณชีพของผู้ป่วยยังไม่เสถียร มีเลือดออกมากเกินไป หากให้เลือดไม่ทันอาจเป็นปัญหาได้ นอกจากนี้ก็ต้องเจาะเอาเลือดที่อยู่ในช่องอกจำนวนมากนั้นออกไปด้วย มิฉะนั้นระบบหายใจจะเสียหายจนไม่อาจฟื้นคืน

คนทั้งสี่ที่อยู่บนรถต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตน!

เฉินชางกัดฟัน ตัดสินใจเจาะก่อนค่อยว่ากัน! มิฉะนั้นจะต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่

เขาหันไปพูดกับเสี่ยวหลินว่า “ขออุปกรณ์เจาะให้ผมด้วยครับ!”

เสี่ยวหลินรีบพยักหน้าทันที

เข็มเจาะติดอยู่กับถุงระบาย เหล่าหยางคนขับรถขับได้นิ่งมาก แต่มือของเฉินชางนิ่งกว่าจึงใช้เวลาไม่นานก็เจาะสำเร็จ! เลือดไหลผ่านสายเข้าสู่ถุงระบายไปอย่างราบรื่น

ในที่สุดอัตราการหายใจของผู้ป่วยก็เริ่มสงบลง แต่…นี่ไม่ได้หมายความว่าร่างกายของผู้ป่วยจะหายเป็นปกติแล้ว ยังมีสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่านี้อีกมากมายที่กำลังรอพวกเฉินชางอยู่

เด็กชายเห็นเลือดไหลเข้าสู่ถุงระบายเช่นนั้นก็ตกใจจนทรุดนั่ง จากนั้นก็รีบคลานขึ้นมา ทั้งหวาดกลัวและเป็นห่วง ได้แต่เงยหน้าขึ้นมองไปยังตัวเลขและเส้นอันซับซ้อนบนหน้าจอที่กำลังเปลี่ยนแปลงไม่หยุด

ไม่นานรถก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว!

เฉินชางและเล่อเล่อรีบพาตัวผู้ป่วยไปตรวจช่องท้อง เมื่อตรวจเรียบร้อยแล้วก็ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน

เลือดถูกระบายออกไปแล้ว ห้องปฏิบัติการทางคลินิกรีบตรวจสอบทันที

เลือดสำรองถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้เลือดได้ทุกเมื่อ

เสี่ยวหลินพาเด็กชายไปข้างๆ กล่าวปลอบใจว่า “ไม่ต้องกลัวนะคะ!”

เด็กชายพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

เสี่ยวหลินย้อนคิดไปถึงเมื่อครู่นี้ ระหว่างทางเด็กชายเอาแต่มองหน้าจอเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจไม่มองอย่างอื่นเลย ด้วยเหตุนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า “เมื่อกี้เห็นหนูดูหน้าจอบนรถ หนูเข้าใจเหรอคะ”

เด็กชายกล่าวเสียงสะอื้น “ไม่เข้าใจครับ…แต่ผมเคยเห็นในทีวีบอกว่าถ้าเส้นแนวขวางกลายเป็นเส้นตรงและตัวเลขพวกนั้นกลายเป็นศูนย์ แม่จะไม่อยู่แล้ว…ผมต้องคอยดูมันไว้…ไม่ให้มันหายไป…”

กล่าวจบก็ร้องไห้ออกมา!

เสี่ยวหลินใจอ่อนยวบ

นี่คือการปกป้องผู้เป็นแม่ของเด็กชายที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เป็นการปกป้องที่บริสุทธิ์ที่สุด!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด