ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล 121 ผู้จับกุม

Now you are reading ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล Chapter 121 ผู้จับกุม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 121 ผู้จับกุม

บรรยากาศภายในห้องนอนเย็นเยียบลงทันที ไอเย็นอันน่าสะพรึงเริ่มเติมเต็มที่นี่อย่างช้าๆ

ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่สบายปลิดชีวิตเธอ!

อีกทั้งระหว่างตัวเองกับสาวน้อยโลลิตั้งแต่เริ่มก็อยู่ในโหมดสู้กันเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว และทุกสิ่งก็เกิดขึ้นมาจากตัวของสาวน้อยโลลิเอง

ทำลายเธอ เค้นสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าของเธอออกมา โจวเจ๋อไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด

สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อ จากนั้นจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “เจ้าอยากเป็นผู้จับกุมไหม”

ก่อนที่คนจะตาย มักจะจับฟางเส้นสุดท้ายที่อยู่ข้างกายเอาไว้ตามสัญชาตญาณเพื่อให้ตัวเองมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อ สาวน้อยโลลิที่อยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน

เธอรู้ว่าโจวเจ๋ออยากฆ่าเธอ และรู้ว่าโจวเจ๋ออยากได้ผลประโยชน์และสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าจากเธอ เธอจึงมอบให้เอง

และความโอหังของเธอก่อนหน้านั้น ความกล้าหาญของเธอก่อนหน้านั้น ก็ถูกโจมตีจนย่อยยับหมดสิ้นไปตั้งแต่คืนนั้นตอนที่อยู่ในร้านขายของจิปาถะสำหรับคนตายที่เมืองหรงเฉิง แผลตามตัวของเธอยังไม่ฟื้นฟูกลับมาก็จริง แต่บาดแผลทางจิตใจกลับไม่มีเลย

คืนนั้นเธอคุกเข่าอยู่ตรงมุมหนึ่ง เบิกตาโพลงมองเพื่อนร่วมงานถูกฆ่าตายทีละคน เหมือนกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดในงานมหกรรมทีละอัน ฉากนี้ทำให้การมองโลกของเธอเปลี่ยนไป

ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘ผู้จับกุม’ โจวเจ๋อไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ความหมายนอกเหนือจากนี้เหมือนพูดกับสาวน้อยโลลิว่า ‘เชิญเริ่มการแสดงของคุณได้เลย’

ไม่ว่าอย่างไรฟังหรือไม่ฟัง ก็ไม่เสียหาย

“เจ้ารู้ไหมว่าเงื่อนไขขั้นพื้นฐานสองข้อที่จะได้เป็นผู้จับกุมคืออะไร”

โจวเจ๋อไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเล็กน้อย วางบนจมูกของตัวเองแล้วดมกลิ่น

สาวน้อยโลลิสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธออยากจะสับโจวเจ๋อเป็นชิ้นๆ ให้ได้เสียตอนนี้ แต่ทิศทางของสายลมและสายน้ำกำลังหมุนเปลี่ยน เธอบาดเจ็บสาหัสกลับมาจากเมืองหรงเฉิง รอดตายมาได้นับว่าโชคดีแล้ว เธอในตอนนี้แม้แต่ผีสักตัวก็รับมือไม่ได้

คนถือมีดฉันเป็นเนื้อปลา หลักการง่ายๆ แค่นี้

“การที่จะกลายเป็นผู้จับกุมมีเงื่อนไขสองข้อ ข้อหนึ่งต้องทำผลงานบรรลุเป้า ข้อสองคือมียมทูตอีกสามคนยินดีเป็นลูกน้องของเจ้า ฟังคำสั่งของเจ้า ช่วยให้เจ้าเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อยังไม่พูด

“คนที่จะเป็นลูกน้องของเจ้า ต้องมอบวิญญาณของตัวเองเข้ากับบัตรประจำตัวของเจ้า ปล่อยให้เจ้าควบคุมความเป็นความตาย ไม่มีทางทรยศ เมื่อครบเงื่อนไขทั้งสองข้อแล้วก็จะเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม จากนั้นก็ก้าวต่อไปก็เป็นตำแหน่งผู้ตรวจสอบ”

“คนที่ยอมเป็นลูกน้อง” โจวเจ๋อหัวเราะ “ถ้าหากง่ายขนาดนั้น ยมทูตอย่างพวกคุณไม่สู้กันเองก่อนเหรอ”

ก็เหมือนกับคาถา ‘ทางเดินสู่นรก ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง’ ที่สาวน้อยโลลิร่ายเป็นประจำ ถ้าหากยมทูตอยากเป็นผู้จับกุมจำเป็นต้องผ่านรูปแบบเช่นนี้ หากเอาความเป็นความตายเข้าแลกก็สามารถบังคับให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกน้องของตัวเองได้แล้ว อย่างนั้นในแวดวงของยมทูตไม่กลายเป็นสนามรบของแมลงพิษที่เลี้ยงไว้เหรอ

แต่ในสายตาของโจวเจ๋อ แวดวงของยมทูตจริงๆ แล้วสงบมาก ไม่อย่างนั้นสาวน้อยโลลิคงไม่สามารถเรียกยมทูตมากมายไปเมืองหรงเฉิงด้วยกันได้

“ข้อแรก ระหว่างผู้จับกุมกับยมทูต แตกต่างกันแค่ฐานะ แต่ด้านกำลังไม่ต่างกันเท่าไร มีเพียงเป็นผู้ตรวจสอบแล้วถึงจะได้ครอบครองหนังสือรับรองการแต่งตั้งจากยมโลก ถึงตอนนั้นจึงจะนับว่ามีตำแหน่งเหนือกว่ายมทูตและผู้จับกุมจริงๆ

ข้อสอง ขอเพียงผู้จับกุมที่ตัวเองนับถือได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจสอบ สัญญาก่อนหน้าเป็นอันโมฆะโดยอัตโนมัติและกลับสู่อิสระดังเดิม

ข้อสาม ตอนนี้เจ้าบังคับข้า ถึงแม้เจ้าจะเป็นยมทูต แต่การที่เจ้าบังคับขู่เข็ญเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน ต้องตกอยู่ในสายตาของยมโลกแน่นอน ยมทูตอีกคนที่เจ้าฆ่ามีปัญหา เท่ากับช่วยแก้ปัญหาให้ยมโลก จึงไม่เป็นไร

แต่เจ้าฆ่าข้า ทางนรกจะต้องบันทึกไว้แน่นอน ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากวันที่เจ้าได้เลื่อนขั้นจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ กระทั่งถ้าหากเจ้ายังใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ยมโลกก็จะออกหมายจับ เหมือนกับคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิงครั้งนั้น

และด้วยเหตุนี้ ในความสัมพันธ์ของการนับถือบูชายมทูตด้วยกันเอง จึงมีการบังคับและการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันจริง แต่การบังคับด้วยการฆ่ากันเองจนจนมุม ไม่คุ้มค่าเลยหากจะทำแบบนั้น

อยากเป็นผู้จับกุม ก็เพื่อที่จะได้เลื่อนขั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้ตรวจสอบ อยากจะหลุดพ้นจากตำแหน่งที่ทำงานใช้แรงงาน และยังสามารถมีป้ายชื่อเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นป้ายที่อยู่ระดับล่างสุดก็ตาม ดังนั้นจึงมีคนบ้าไม่มากนัก ที่ยอมใช้วิธีรุนแรงบังคับยมทูตคนอื่นเพื่อจะกลายเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อเหยียดนิ้วก้อยของตัวเองออกมา แล้วแคะหูของตัวเองพลางเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมฆ่าคุณ ต่อไปก็จะเกิดเรื่องยุ่งยาก”

“แน่นอน”

“ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ผมเป็นผู้จับกุมแล้ว แต่เพราะเรื่องในวันนี้ จึงยากที่จะเป็นผู้ตรวจสอบ”

“ใช่แล้ว”

“แล้วทำไมผมไม่ฆ่าคุณโดยตรงเสียเลยล่ะ”

“เจ้าสามารถใช้ผลงานของเจ้า ใช้การกระทำของเจ้า ลบล้างผลกระทบด้านลบที่เจ้าบังคับข้าในวันนี้ และใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้า ข้าสามารถ…ช่วยเจ้าได้ เพราะวันใดที่เจ้ายังไม่ได้เลื่อนขั้น วันนั้นข้าก็ต้องเป็นลูกน้องของเจ้าเหมือนเดิม ชีวิตตกอยู่ในกำมือของเจ้า”

โจวเจ๋อลุกขึ้นช้าๆ เปิดผ้าม่าน เปิดหน้าต่างที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เดินไปที่ระเบียงแล้วพูดว่า

“ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ตอนที่เดินออกมา คุณยืนมองผมจากตรงนี้ ใช่ไหม”

สาวน้อยโลลิไม่รู้ว่าโจวเจ๋อหมายความว่าอะไร

ปลายนิ้วของโจวเจ๋อเคาะที่รั้วกั้นเบาๆ เขากำลังลังเลและกำลังพิจารณา

อันที่จริงโจวเจ๋อเป็นคนที่มีความคิดสับสนคนหนึ่ง เขาเป็นคนตัวเล็กๆ และไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองเป็นคนตัวเล็ก ชาติที่แล้วก็เป็น ชาตินี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ความขัดแย้งของคนตัวเล็กตัวน้อยมักอยู่ที่ เขาใฝ่ฝันถึงอิสระภาพ ในขณะที่ปรารถนาอยากจะให้ความทะเยอทะยานของเขาเป็นจริง อยากจะยืนอยู่บนทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่อีกใจหนึ่งก็อยากคุกเข่าขอความก้าวหน้า

ถ้าหากเป็นคนที่ทะเยอทะยาน เขาจะยอมรับข้อเสนอของสาวน้อยโลลิโดยไม่ลังเล โดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านั้นคุณอยากจะฆ่าฉันไหม ฉันสนใจแค่ผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า ฉันต้องการแค่ความก้าวหน้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

ถ้าหากเป็นนักเสรีนิยม อย่างเช่นคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิง เขาจะไม่สนใจ เขาสนใจแค่ความอิสระของตัวเอง ถึงแม้จะต้องถูกสั่งฆ่าก็ไม่ยี่หระ ถ้าไม่ใช่พวกคุณที่มาฆ่าฉัน ก็คือฉันที่จะฆ่าพวกคุณ

ซึ่งโจวเจ๋อก็อยู่ระหว่างสองอย่างนี้พอดี

“เอาแบบนี้ดีไหม พวกเรามาโยนเหรียญกัน”

โจวเจ๋อนึกได้หนึ่งวิธี หยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋า

“ดอกไม้ คือผมจะฆ่าคุณ ตัวหนังสือ ผมจะรับคุณไว้”

สาวน้อยโลลิเบิกตาโต เธอรู้สึกว่าโจวเจ๋อกำลังเล่นตลก กำลังดูถูกตัวเธอ กล้าเอาชีวิตของเธอฝากไว้กับการโยนเหรียญ!

‘แม่งสมองใช้การไม่ได้แล้ว!’

สาวน้อยโลลิแอบตวาดอยู่ในใจ!

สิบนิ้วของเธอจับผ้าปูเตียงแน่น เธอเกลียดที่ตัวเองบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นจะจับวิญญาณของคนที่อยู่ตรงหน้าออกมาแล้วใช้ไฟนรกเผาสักร้อยรอบ!

“โยนแล้วนะ!” โจวเจ๋อโยนเหรียญออกไป เหรียญหมุนกลางอากาศไม่หยุด ดวงตาของสาวน้อยโลลิจ้องเหรียญตาไม่กะพริบ จนกระทั่งเหรียญตกลงมา

โจวเจ๋อโน้มตัวมองเหรียญที่อยู่ใต้เท้า

เป็นด้านของ ‘ตัวหนังสือ’

สาวน้อยโลลิถอนหายใจโล่งอก ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะไม่มีหลักการ แต่สุดท้ายตัวเองก็สามารถมีชีวิตต่อได้ ถึงแม้จะถูกคนควบคุม แต่อย่างน้อยตัวเองก็มีชีวิตต่อไป

และสาวน้อยโลลิก็เคยเห็นบัตรผีของโจวเจ๋อแล้ว เธอรู้ว่าเงาที่อยู่ข้างหลังบัตรผีนั้นยืนอยู่ฝั่งไหน ต่อให้เงานั้นจะหายไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่ภูเขาไท่ซานนั้น เคยปราบผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรกมาแล้ว!

เธออยากลองเดิมพันสักครั้ง เบื้องหน้าก็ไม่ได้มืดมนเสียทีเดียว เพราะโจวเจ๋อก็ไม่เหมือนคนที่ไม่มีโชค เดิมทีเขาถูกกำหนดให้ทำงานและสืบทอดตำแหน่งแทนอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ตัวเธอกลับมาจากเมืองหรงเฉิง ก็พบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เขามีฐานะและควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างเอาไว้ได้แล้ว

แม้แต่ผีซากศพที่ปรากฏตัวในวันนี้ ยังกลายเป็นโอกาสให้เขาบีบบังคับเธอให้โผล่ออกมา เพื่อให้เธอไม่สามารถซ่อนตัวต่อไปได้อีก

โจวเจ๋อหยิบเหรียญขึ้นมา เดาะปากเหมือนไม่ค่อยพอใจ

“อย่างนั้น พวกเรามาโยนใหม่อีกครั้งดีไหม”

สาวน้อยโลลิตาแดงทันที แลบลิ้นออกมาวนอยู่รอบตัวเธอ เธออยากจะเป็นบ้า เธอขอสู้ขาดใจ!

“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน ไม่โยนแล้วๆ”

โจวเจ๋อเดินมาอยู่ตรงหน้าสาวน้อยโลลิ เขาหันหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบหนังสือรับรองของตัวเองออกมา

สาวน้อยโลลิเก็บลิ้นของตัวเองกลับไป แล้วใช้มือข้างหนึ่งแตะหน้าผากของตัวเอง จากนั้นลูกปัดสีดำก็ลอยออกมา แล้วหลอมรวมเข้ากับหนังสือรับรองของโจวเจ๋อ

โจวเจ๋อแลบลิ้นเลียปาก ท่ามกลางความมืดมิด ดูเหมือนจะมีเส้นใยหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวใจของเขา และเส้นใยนี้ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของสาวน้อยโลลิ

ความเป็นความตายของเธอขึ้นอยู่กับความคิดของเขาเท่านั้น

สาวน้อยโลลิลงมาจากเตียง คุกเข่าลงตรงหน้าโจวเจ๋อช้าๆ โดยคุกเข่าข้างหนึ่ง และมือข้างหนึ่งยันอยู่ที่หัวเข่าของตัวเอง แล้วเงยหน้า เพื่อเป็นการแสดงความเคารพของลูกน้องที่มีต่อหัวหน้า

“หลินเข่อ คารวะหัวหน้า!”

หลินเข่อ น่าจะเป็นชื่อของยมทูต แต่ชื่อของร่างนี้ที่สาวน้อยโลลิใช้ เหมือนจะชื่อว่าหวังหรุ่ย

สาวน้อยโลลิในตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจและโกรธ คุกเข่าลงตัวสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมรับโชคชะตา!

โจวเจ๋อมองสาวน้อยโลลิที่อยู่เบื้องล่าง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นช้าๆ สาวน้อยโลลิที่ชอบใช้ความรุนแรงและเย็นชาหยิ่งยโสอย่างยิ่งต่อหน้าตัวเองในอดีต ตอนนี้กลับยอมจำนนอยู่ใต้เท้าของตัวเอง ความกลับตาลปัตรของน้ำแข็งกับไฟที่รุนแรงแบบนี้ ทำให้คนมีความสุขจริงๆ

ในตอนนี้เอง นักพรตเฒ่าเดินขึ้นบันไดมา หวังเคอตื่นแล้ว เขาจึงมาบอกเถ้าแก่

เขาเพิ่งจะเดินขึ้นบันได และผลักประตูห้องนอนเบาๆ จากนั้นเขาก็ตกตะลึงทันที!

เขาเห็นสาวน้อยโลลิคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ

…………………………………………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล 121 ผู้จับกุม

Now you are reading ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล Chapter 121 ผู้จับกุม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 121 ผู้จับกุม

บรรยากาศภายในห้องนอนเย็นเยียบลงทันที ไอเย็นอันน่าสะพรึงเริ่มเติมเต็มที่นี่อย่างช้าๆ

ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่สบายปลิดชีวิตเธอ!

อีกทั้งระหว่างตัวเองกับสาวน้อยโลลิตั้งแต่เริ่มก็อยู่ในโหมดสู้กันเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว และทุกสิ่งก็เกิดขึ้นมาจากตัวของสาวน้อยโลลิเอง

ทำลายเธอ เค้นสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าของเธอออกมา โจวเจ๋อไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด

สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อ จากนั้นจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “เจ้าอยากเป็นผู้จับกุมไหม”

ก่อนที่คนจะตาย มักจะจับฟางเส้นสุดท้ายที่อยู่ข้างกายเอาไว้ตามสัญชาตญาณเพื่อให้ตัวเองมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อ สาวน้อยโลลิที่อยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน

เธอรู้ว่าโจวเจ๋ออยากฆ่าเธอ และรู้ว่าโจวเจ๋ออยากได้ผลประโยชน์และสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าจากเธอ เธอจึงมอบให้เอง

และความโอหังของเธอก่อนหน้านั้น ความกล้าหาญของเธอก่อนหน้านั้น ก็ถูกโจมตีจนย่อยยับหมดสิ้นไปตั้งแต่คืนนั้นตอนที่อยู่ในร้านขายของจิปาถะสำหรับคนตายที่เมืองหรงเฉิง แผลตามตัวของเธอยังไม่ฟื้นฟูกลับมาก็จริง แต่บาดแผลทางจิตใจกลับไม่มีเลย

คืนนั้นเธอคุกเข่าอยู่ตรงมุมหนึ่ง เบิกตาโพลงมองเพื่อนร่วมงานถูกฆ่าตายทีละคน เหมือนกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดในงานมหกรรมทีละอัน ฉากนี้ทำให้การมองโลกของเธอเปลี่ยนไป

ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘ผู้จับกุม’ โจวเจ๋อไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ความหมายนอกเหนือจากนี้เหมือนพูดกับสาวน้อยโลลิว่า ‘เชิญเริ่มการแสดงของคุณได้เลย’

ไม่ว่าอย่างไรฟังหรือไม่ฟัง ก็ไม่เสียหาย

“เจ้ารู้ไหมว่าเงื่อนไขขั้นพื้นฐานสองข้อที่จะได้เป็นผู้จับกุมคืออะไร”

โจวเจ๋อไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเล็กน้อย วางบนจมูกของตัวเองแล้วดมกลิ่น

สาวน้อยโลลิสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธออยากจะสับโจวเจ๋อเป็นชิ้นๆ ให้ได้เสียตอนนี้ แต่ทิศทางของสายลมและสายน้ำกำลังหมุนเปลี่ยน เธอบาดเจ็บสาหัสกลับมาจากเมืองหรงเฉิง รอดตายมาได้นับว่าโชคดีแล้ว เธอในตอนนี้แม้แต่ผีสักตัวก็รับมือไม่ได้

คนถือมีดฉันเป็นเนื้อปลา หลักการง่ายๆ แค่นี้

“การที่จะกลายเป็นผู้จับกุมมีเงื่อนไขสองข้อ ข้อหนึ่งต้องทำผลงานบรรลุเป้า ข้อสองคือมียมทูตอีกสามคนยินดีเป็นลูกน้องของเจ้า ฟังคำสั่งของเจ้า ช่วยให้เจ้าเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อยังไม่พูด

“คนที่จะเป็นลูกน้องของเจ้า ต้องมอบวิญญาณของตัวเองเข้ากับบัตรประจำตัวของเจ้า ปล่อยให้เจ้าควบคุมความเป็นความตาย ไม่มีทางทรยศ เมื่อครบเงื่อนไขทั้งสองข้อแล้วก็จะเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม จากนั้นก็ก้าวต่อไปก็เป็นตำแหน่งผู้ตรวจสอบ”

“คนที่ยอมเป็นลูกน้อง” โจวเจ๋อหัวเราะ “ถ้าหากง่ายขนาดนั้น ยมทูตอย่างพวกคุณไม่สู้กันเองก่อนเหรอ”

ก็เหมือนกับคาถา ‘ทางเดินสู่นรก ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง’ ที่สาวน้อยโลลิร่ายเป็นประจำ ถ้าหากยมทูตอยากเป็นผู้จับกุมจำเป็นต้องผ่านรูปแบบเช่นนี้ หากเอาความเป็นความตายเข้าแลกก็สามารถบังคับให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกน้องของตัวเองได้แล้ว อย่างนั้นในแวดวงของยมทูตไม่กลายเป็นสนามรบของแมลงพิษที่เลี้ยงไว้เหรอ

แต่ในสายตาของโจวเจ๋อ แวดวงของยมทูตจริงๆ แล้วสงบมาก ไม่อย่างนั้นสาวน้อยโลลิคงไม่สามารถเรียกยมทูตมากมายไปเมืองหรงเฉิงด้วยกันได้

“ข้อแรก ระหว่างผู้จับกุมกับยมทูต แตกต่างกันแค่ฐานะ แต่ด้านกำลังไม่ต่างกันเท่าไร มีเพียงเป็นผู้ตรวจสอบแล้วถึงจะได้ครอบครองหนังสือรับรองการแต่งตั้งจากยมโลก ถึงตอนนั้นจึงจะนับว่ามีตำแหน่งเหนือกว่ายมทูตและผู้จับกุมจริงๆ

ข้อสอง ขอเพียงผู้จับกุมที่ตัวเองนับถือได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจสอบ สัญญาก่อนหน้าเป็นอันโมฆะโดยอัตโนมัติและกลับสู่อิสระดังเดิม

ข้อสาม ตอนนี้เจ้าบังคับข้า ถึงแม้เจ้าจะเป็นยมทูต แต่การที่เจ้าบังคับขู่เข็ญเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน ต้องตกอยู่ในสายตาของยมโลกแน่นอน ยมทูตอีกคนที่เจ้าฆ่ามีปัญหา เท่ากับช่วยแก้ปัญหาให้ยมโลก จึงไม่เป็นไร

แต่เจ้าฆ่าข้า ทางนรกจะต้องบันทึกไว้แน่นอน ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากวันที่เจ้าได้เลื่อนขั้นจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ กระทั่งถ้าหากเจ้ายังใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ยมโลกก็จะออกหมายจับ เหมือนกับคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิงครั้งนั้น

และด้วยเหตุนี้ ในความสัมพันธ์ของการนับถือบูชายมทูตด้วยกันเอง จึงมีการบังคับและการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันจริง แต่การบังคับด้วยการฆ่ากันเองจนจนมุม ไม่คุ้มค่าเลยหากจะทำแบบนั้น

อยากเป็นผู้จับกุม ก็เพื่อที่จะได้เลื่อนขั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้ตรวจสอบ อยากจะหลุดพ้นจากตำแหน่งที่ทำงานใช้แรงงาน และยังสามารถมีป้ายชื่อเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นป้ายที่อยู่ระดับล่างสุดก็ตาม ดังนั้นจึงมีคนบ้าไม่มากนัก ที่ยอมใช้วิธีรุนแรงบังคับยมทูตคนอื่นเพื่อจะกลายเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อเหยียดนิ้วก้อยของตัวเองออกมา แล้วแคะหูของตัวเองพลางเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมฆ่าคุณ ต่อไปก็จะเกิดเรื่องยุ่งยาก”

“แน่นอน”

“ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ผมเป็นผู้จับกุมแล้ว แต่เพราะเรื่องในวันนี้ จึงยากที่จะเป็นผู้ตรวจสอบ”

“ใช่แล้ว”

“แล้วทำไมผมไม่ฆ่าคุณโดยตรงเสียเลยล่ะ”

“เจ้าสามารถใช้ผลงานของเจ้า ใช้การกระทำของเจ้า ลบล้างผลกระทบด้านลบที่เจ้าบังคับข้าในวันนี้ และใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้า ข้าสามารถ…ช่วยเจ้าได้ เพราะวันใดที่เจ้ายังไม่ได้เลื่อนขั้น วันนั้นข้าก็ต้องเป็นลูกน้องของเจ้าเหมือนเดิม ชีวิตตกอยู่ในกำมือของเจ้า”

โจวเจ๋อลุกขึ้นช้าๆ เปิดผ้าม่าน เปิดหน้าต่างที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เดินไปที่ระเบียงแล้วพูดว่า

“ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ตอนที่เดินออกมา คุณยืนมองผมจากตรงนี้ ใช่ไหม”

สาวน้อยโลลิไม่รู้ว่าโจวเจ๋อหมายความว่าอะไร

ปลายนิ้วของโจวเจ๋อเคาะที่รั้วกั้นเบาๆ เขากำลังลังเลและกำลังพิจารณา

อันที่จริงโจวเจ๋อเป็นคนที่มีความคิดสับสนคนหนึ่ง เขาเป็นคนตัวเล็กๆ และไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองเป็นคนตัวเล็ก ชาติที่แล้วก็เป็น ชาตินี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ความขัดแย้งของคนตัวเล็กตัวน้อยมักอยู่ที่ เขาใฝ่ฝันถึงอิสระภาพ ในขณะที่ปรารถนาอยากจะให้ความทะเยอทะยานของเขาเป็นจริง อยากจะยืนอยู่บนทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่อีกใจหนึ่งก็อยากคุกเข่าขอความก้าวหน้า

ถ้าหากเป็นคนที่ทะเยอทะยาน เขาจะยอมรับข้อเสนอของสาวน้อยโลลิโดยไม่ลังเล โดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านั้นคุณอยากจะฆ่าฉันไหม ฉันสนใจแค่ผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า ฉันต้องการแค่ความก้าวหน้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

ถ้าหากเป็นนักเสรีนิยม อย่างเช่นคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิง เขาจะไม่สนใจ เขาสนใจแค่ความอิสระของตัวเอง ถึงแม้จะต้องถูกสั่งฆ่าก็ไม่ยี่หระ ถ้าไม่ใช่พวกคุณที่มาฆ่าฉัน ก็คือฉันที่จะฆ่าพวกคุณ

ซึ่งโจวเจ๋อก็อยู่ระหว่างสองอย่างนี้พอดี

“เอาแบบนี้ดีไหม พวกเรามาโยนเหรียญกัน”

โจวเจ๋อนึกได้หนึ่งวิธี หยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋า

“ดอกไม้ คือผมจะฆ่าคุณ ตัวหนังสือ ผมจะรับคุณไว้”

สาวน้อยโลลิเบิกตาโต เธอรู้สึกว่าโจวเจ๋อกำลังเล่นตลก กำลังดูถูกตัวเธอ กล้าเอาชีวิตของเธอฝากไว้กับการโยนเหรียญ!

‘แม่งสมองใช้การไม่ได้แล้ว!’

สาวน้อยโลลิแอบตวาดอยู่ในใจ!

สิบนิ้วของเธอจับผ้าปูเตียงแน่น เธอเกลียดที่ตัวเองบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นจะจับวิญญาณของคนที่อยู่ตรงหน้าออกมาแล้วใช้ไฟนรกเผาสักร้อยรอบ!

“โยนแล้วนะ!” โจวเจ๋อโยนเหรียญออกไป เหรียญหมุนกลางอากาศไม่หยุด ดวงตาของสาวน้อยโลลิจ้องเหรียญตาไม่กะพริบ จนกระทั่งเหรียญตกลงมา

โจวเจ๋อโน้มตัวมองเหรียญที่อยู่ใต้เท้า

เป็นด้านของ ‘ตัวหนังสือ’

สาวน้อยโลลิถอนหายใจโล่งอก ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะไม่มีหลักการ แต่สุดท้ายตัวเองก็สามารถมีชีวิตต่อได้ ถึงแม้จะถูกคนควบคุม แต่อย่างน้อยตัวเองก็มีชีวิตต่อไป

และสาวน้อยโลลิก็เคยเห็นบัตรผีของโจวเจ๋อแล้ว เธอรู้ว่าเงาที่อยู่ข้างหลังบัตรผีนั้นยืนอยู่ฝั่งไหน ต่อให้เงานั้นจะหายไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่ภูเขาไท่ซานนั้น เคยปราบผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรกมาแล้ว!

เธออยากลองเดิมพันสักครั้ง เบื้องหน้าก็ไม่ได้มืดมนเสียทีเดียว เพราะโจวเจ๋อก็ไม่เหมือนคนที่ไม่มีโชค เดิมทีเขาถูกกำหนดให้ทำงานและสืบทอดตำแหน่งแทนอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ตัวเธอกลับมาจากเมืองหรงเฉิง ก็พบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เขามีฐานะและควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างเอาไว้ได้แล้ว

แม้แต่ผีซากศพที่ปรากฏตัวในวันนี้ ยังกลายเป็นโอกาสให้เขาบีบบังคับเธอให้โผล่ออกมา เพื่อให้เธอไม่สามารถซ่อนตัวต่อไปได้อีก

โจวเจ๋อหยิบเหรียญขึ้นมา เดาะปากเหมือนไม่ค่อยพอใจ

“อย่างนั้น พวกเรามาโยนใหม่อีกครั้งดีไหม”

สาวน้อยโลลิตาแดงทันที แลบลิ้นออกมาวนอยู่รอบตัวเธอ เธออยากจะเป็นบ้า เธอขอสู้ขาดใจ!

“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน ไม่โยนแล้วๆ”

โจวเจ๋อเดินมาอยู่ตรงหน้าสาวน้อยโลลิ เขาหันหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบหนังสือรับรองของตัวเองออกมา

สาวน้อยโลลิเก็บลิ้นของตัวเองกลับไป แล้วใช้มือข้างหนึ่งแตะหน้าผากของตัวเอง จากนั้นลูกปัดสีดำก็ลอยออกมา แล้วหลอมรวมเข้ากับหนังสือรับรองของโจวเจ๋อ

โจวเจ๋อแลบลิ้นเลียปาก ท่ามกลางความมืดมิด ดูเหมือนจะมีเส้นใยหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวใจของเขา และเส้นใยนี้ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของสาวน้อยโลลิ

ความเป็นความตายของเธอขึ้นอยู่กับความคิดของเขาเท่านั้น

สาวน้อยโลลิลงมาจากเตียง คุกเข่าลงตรงหน้าโจวเจ๋อช้าๆ โดยคุกเข่าข้างหนึ่ง และมือข้างหนึ่งยันอยู่ที่หัวเข่าของตัวเอง แล้วเงยหน้า เพื่อเป็นการแสดงความเคารพของลูกน้องที่มีต่อหัวหน้า

“หลินเข่อ คารวะหัวหน้า!”

หลินเข่อ น่าจะเป็นชื่อของยมทูต แต่ชื่อของร่างนี้ที่สาวน้อยโลลิใช้ เหมือนจะชื่อว่าหวังหรุ่ย

สาวน้อยโลลิในตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจและโกรธ คุกเข่าลงตัวสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมรับโชคชะตา!

โจวเจ๋อมองสาวน้อยโลลิที่อยู่เบื้องล่าง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นช้าๆ สาวน้อยโลลิที่ชอบใช้ความรุนแรงและเย็นชาหยิ่งยโสอย่างยิ่งต่อหน้าตัวเองในอดีต ตอนนี้กลับยอมจำนนอยู่ใต้เท้าของตัวเอง ความกลับตาลปัตรของน้ำแข็งกับไฟที่รุนแรงแบบนี้ ทำให้คนมีความสุขจริงๆ

ในตอนนี้เอง นักพรตเฒ่าเดินขึ้นบันไดมา หวังเคอตื่นแล้ว เขาจึงมาบอกเถ้าแก่

เขาเพิ่งจะเดินขึ้นบันได และผลักประตูห้องนอนเบาๆ จากนั้นเขาก็ตกตะลึงทันที!

เขาเห็นสาวน้อยโลลิคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล 121 ผู้จับกุม

Now you are reading ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล Chapter 121 ผู้จับกุม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 121 ผู้จับกุม

บรรยากาศภายในห้องนอนเย็นเยียบลงทันที ไอเย็นอันน่าสะพรึงเริ่มเติมเต็มที่นี่อย่างช้าๆ

ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่สบายปลิดชีวิตเธอ!

อีกทั้งระหว่างตัวเองกับสาวน้อยโลลิตั้งแต่เริ่มก็อยู่ในโหมดสู้กันเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว และทุกสิ่งก็เกิดขึ้นมาจากตัวของสาวน้อยโลลิเอง

ทำลายเธอ เค้นสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าของเธอออกมา โจวเจ๋อไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด

สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อ จากนั้นจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “เจ้าอยากเป็นผู้จับกุมไหม”

ก่อนที่คนจะตาย มักจะจับฟางเส้นสุดท้ายที่อยู่ข้างกายเอาไว้ตามสัญชาตญาณเพื่อให้ตัวเองมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อ สาวน้อยโลลิที่อยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน

เธอรู้ว่าโจวเจ๋ออยากฆ่าเธอ และรู้ว่าโจวเจ๋ออยากได้ผลประโยชน์และสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าจากเธอ เธอจึงมอบให้เอง

และความโอหังของเธอก่อนหน้านั้น ความกล้าหาญของเธอก่อนหน้านั้น ก็ถูกโจมตีจนย่อยยับหมดสิ้นไปตั้งแต่คืนนั้นตอนที่อยู่ในร้านขายของจิปาถะสำหรับคนตายที่เมืองหรงเฉิง แผลตามตัวของเธอยังไม่ฟื้นฟูกลับมาก็จริง แต่บาดแผลทางจิตใจกลับไม่มีเลย

คืนนั้นเธอคุกเข่าอยู่ตรงมุมหนึ่ง เบิกตาโพลงมองเพื่อนร่วมงานถูกฆ่าตายทีละคน เหมือนกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดในงานมหกรรมทีละอัน ฉากนี้ทำให้การมองโลกของเธอเปลี่ยนไป

ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘ผู้จับกุม’ โจวเจ๋อไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ความหมายนอกเหนือจากนี้เหมือนพูดกับสาวน้อยโลลิว่า ‘เชิญเริ่มการแสดงของคุณได้เลย’

ไม่ว่าอย่างไรฟังหรือไม่ฟัง ก็ไม่เสียหาย

“เจ้ารู้ไหมว่าเงื่อนไขขั้นพื้นฐานสองข้อที่จะได้เป็นผู้จับกุมคืออะไร”

โจวเจ๋อไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเล็กน้อย วางบนจมูกของตัวเองแล้วดมกลิ่น

สาวน้อยโลลิสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธออยากจะสับโจวเจ๋อเป็นชิ้นๆ ให้ได้เสียตอนนี้ แต่ทิศทางของสายลมและสายน้ำกำลังหมุนเปลี่ยน เธอบาดเจ็บสาหัสกลับมาจากเมืองหรงเฉิง รอดตายมาได้นับว่าโชคดีแล้ว เธอในตอนนี้แม้แต่ผีสักตัวก็รับมือไม่ได้

คนถือมีดฉันเป็นเนื้อปลา หลักการง่ายๆ แค่นี้

“การที่จะกลายเป็นผู้จับกุมมีเงื่อนไขสองข้อ ข้อหนึ่งต้องทำผลงานบรรลุเป้า ข้อสองคือมียมทูตอีกสามคนยินดีเป็นลูกน้องของเจ้า ฟังคำสั่งของเจ้า ช่วยให้เจ้าเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อยังไม่พูด

“คนที่จะเป็นลูกน้องของเจ้า ต้องมอบวิญญาณของตัวเองเข้ากับบัตรประจำตัวของเจ้า ปล่อยให้เจ้าควบคุมความเป็นความตาย ไม่มีทางทรยศ เมื่อครบเงื่อนไขทั้งสองข้อแล้วก็จะเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม จากนั้นก็ก้าวต่อไปก็เป็นตำแหน่งผู้ตรวจสอบ”

“คนที่ยอมเป็นลูกน้อง” โจวเจ๋อหัวเราะ “ถ้าหากง่ายขนาดนั้น ยมทูตอย่างพวกคุณไม่สู้กันเองก่อนเหรอ”

ก็เหมือนกับคาถา ‘ทางเดินสู่นรก ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง’ ที่สาวน้อยโลลิร่ายเป็นประจำ ถ้าหากยมทูตอยากเป็นผู้จับกุมจำเป็นต้องผ่านรูปแบบเช่นนี้ หากเอาความเป็นความตายเข้าแลกก็สามารถบังคับให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกน้องของตัวเองได้แล้ว อย่างนั้นในแวดวงของยมทูตไม่กลายเป็นสนามรบของแมลงพิษที่เลี้ยงไว้เหรอ

แต่ในสายตาของโจวเจ๋อ แวดวงของยมทูตจริงๆ แล้วสงบมาก ไม่อย่างนั้นสาวน้อยโลลิคงไม่สามารถเรียกยมทูตมากมายไปเมืองหรงเฉิงด้วยกันได้

“ข้อแรก ระหว่างผู้จับกุมกับยมทูต แตกต่างกันแค่ฐานะ แต่ด้านกำลังไม่ต่างกันเท่าไร มีเพียงเป็นผู้ตรวจสอบแล้วถึงจะได้ครอบครองหนังสือรับรองการแต่งตั้งจากยมโลก ถึงตอนนั้นจึงจะนับว่ามีตำแหน่งเหนือกว่ายมทูตและผู้จับกุมจริงๆ

ข้อสอง ขอเพียงผู้จับกุมที่ตัวเองนับถือได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจสอบ สัญญาก่อนหน้าเป็นอันโมฆะโดยอัตโนมัติและกลับสู่อิสระดังเดิม

ข้อสาม ตอนนี้เจ้าบังคับข้า ถึงแม้เจ้าจะเป็นยมทูต แต่การที่เจ้าบังคับขู่เข็ญเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน ต้องตกอยู่ในสายตาของยมโลกแน่นอน ยมทูตอีกคนที่เจ้าฆ่ามีปัญหา เท่ากับช่วยแก้ปัญหาให้ยมโลก จึงไม่เป็นไร

แต่เจ้าฆ่าข้า ทางนรกจะต้องบันทึกไว้แน่นอน ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากวันที่เจ้าได้เลื่อนขั้นจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ กระทั่งถ้าหากเจ้ายังใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ยมโลกก็จะออกหมายจับ เหมือนกับคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิงครั้งนั้น

และด้วยเหตุนี้ ในความสัมพันธ์ของการนับถือบูชายมทูตด้วยกันเอง จึงมีการบังคับและการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันจริง แต่การบังคับด้วยการฆ่ากันเองจนจนมุม ไม่คุ้มค่าเลยหากจะทำแบบนั้น

อยากเป็นผู้จับกุม ก็เพื่อที่จะได้เลื่อนขั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้ตรวจสอบ อยากจะหลุดพ้นจากตำแหน่งที่ทำงานใช้แรงงาน และยังสามารถมีป้ายชื่อเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นป้ายที่อยู่ระดับล่างสุดก็ตาม ดังนั้นจึงมีคนบ้าไม่มากนัก ที่ยอมใช้วิธีรุนแรงบังคับยมทูตคนอื่นเพื่อจะกลายเป็นผู้จับกุม”

โจวเจ๋อเหยียดนิ้วก้อยของตัวเองออกมา แล้วแคะหูของตัวเองพลางเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมฆ่าคุณ ต่อไปก็จะเกิดเรื่องยุ่งยาก”

“แน่นอน”

“ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ผมเป็นผู้จับกุมแล้ว แต่เพราะเรื่องในวันนี้ จึงยากที่จะเป็นผู้ตรวจสอบ”

“ใช่แล้ว”

“แล้วทำไมผมไม่ฆ่าคุณโดยตรงเสียเลยล่ะ”

“เจ้าสามารถใช้ผลงานของเจ้า ใช้การกระทำของเจ้า ลบล้างผลกระทบด้านลบที่เจ้าบังคับข้าในวันนี้ และใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้า ข้าสามารถ…ช่วยเจ้าได้ เพราะวันใดที่เจ้ายังไม่ได้เลื่อนขั้น วันนั้นข้าก็ต้องเป็นลูกน้องของเจ้าเหมือนเดิม ชีวิตตกอยู่ในกำมือของเจ้า”

โจวเจ๋อลุกขึ้นช้าๆ เปิดผ้าม่าน เปิดหน้าต่างที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เดินไปที่ระเบียงแล้วพูดว่า

“ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ตอนที่เดินออกมา คุณยืนมองผมจากตรงนี้ ใช่ไหม”

สาวน้อยโลลิไม่รู้ว่าโจวเจ๋อหมายความว่าอะไร

ปลายนิ้วของโจวเจ๋อเคาะที่รั้วกั้นเบาๆ เขากำลังลังเลและกำลังพิจารณา

อันที่จริงโจวเจ๋อเป็นคนที่มีความคิดสับสนคนหนึ่ง เขาเป็นคนตัวเล็กๆ และไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองเป็นคนตัวเล็ก ชาติที่แล้วก็เป็น ชาตินี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ความขัดแย้งของคนตัวเล็กตัวน้อยมักอยู่ที่ เขาใฝ่ฝันถึงอิสระภาพ ในขณะที่ปรารถนาอยากจะให้ความทะเยอทะยานของเขาเป็นจริง อยากจะยืนอยู่บนทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่อีกใจหนึ่งก็อยากคุกเข่าขอความก้าวหน้า

ถ้าหากเป็นคนที่ทะเยอทะยาน เขาจะยอมรับข้อเสนอของสาวน้อยโลลิโดยไม่ลังเล โดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านั้นคุณอยากจะฆ่าฉันไหม ฉันสนใจแค่ผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า ฉันต้องการแค่ความก้าวหน้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

ถ้าหากเป็นนักเสรีนิยม อย่างเช่นคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิง เขาจะไม่สนใจ เขาสนใจแค่ความอิสระของตัวเอง ถึงแม้จะต้องถูกสั่งฆ่าก็ไม่ยี่หระ ถ้าไม่ใช่พวกคุณที่มาฆ่าฉัน ก็คือฉันที่จะฆ่าพวกคุณ

ซึ่งโจวเจ๋อก็อยู่ระหว่างสองอย่างนี้พอดี

“เอาแบบนี้ดีไหม พวกเรามาโยนเหรียญกัน”

โจวเจ๋อนึกได้หนึ่งวิธี หยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋า

“ดอกไม้ คือผมจะฆ่าคุณ ตัวหนังสือ ผมจะรับคุณไว้”

สาวน้อยโลลิเบิกตาโต เธอรู้สึกว่าโจวเจ๋อกำลังเล่นตลก กำลังดูถูกตัวเธอ กล้าเอาชีวิตของเธอฝากไว้กับการโยนเหรียญ!

‘แม่งสมองใช้การไม่ได้แล้ว!’

สาวน้อยโลลิแอบตวาดอยู่ในใจ!

สิบนิ้วของเธอจับผ้าปูเตียงแน่น เธอเกลียดที่ตัวเองบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นจะจับวิญญาณของคนที่อยู่ตรงหน้าออกมาแล้วใช้ไฟนรกเผาสักร้อยรอบ!

“โยนแล้วนะ!” โจวเจ๋อโยนเหรียญออกไป เหรียญหมุนกลางอากาศไม่หยุด ดวงตาของสาวน้อยโลลิจ้องเหรียญตาไม่กะพริบ จนกระทั่งเหรียญตกลงมา

โจวเจ๋อโน้มตัวมองเหรียญที่อยู่ใต้เท้า

เป็นด้านของ ‘ตัวหนังสือ’

สาวน้อยโลลิถอนหายใจโล่งอก ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะไม่มีหลักการ แต่สุดท้ายตัวเองก็สามารถมีชีวิตต่อได้ ถึงแม้จะถูกคนควบคุม แต่อย่างน้อยตัวเองก็มีชีวิตต่อไป

และสาวน้อยโลลิก็เคยเห็นบัตรผีของโจวเจ๋อแล้ว เธอรู้ว่าเงาที่อยู่ข้างหลังบัตรผีนั้นยืนอยู่ฝั่งไหน ต่อให้เงานั้นจะหายไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่ภูเขาไท่ซานนั้น เคยปราบผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรกมาแล้ว!

เธออยากลองเดิมพันสักครั้ง เบื้องหน้าก็ไม่ได้มืดมนเสียทีเดียว เพราะโจวเจ๋อก็ไม่เหมือนคนที่ไม่มีโชค เดิมทีเขาถูกกำหนดให้ทำงานและสืบทอดตำแหน่งแทนอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ตัวเธอกลับมาจากเมืองหรงเฉิง ก็พบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เขามีฐานะและควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างเอาไว้ได้แล้ว

แม้แต่ผีซากศพที่ปรากฏตัวในวันนี้ ยังกลายเป็นโอกาสให้เขาบีบบังคับเธอให้โผล่ออกมา เพื่อให้เธอไม่สามารถซ่อนตัวต่อไปได้อีก

โจวเจ๋อหยิบเหรียญขึ้นมา เดาะปากเหมือนไม่ค่อยพอใจ

“อย่างนั้น พวกเรามาโยนใหม่อีกครั้งดีไหม”

สาวน้อยโลลิตาแดงทันที แลบลิ้นออกมาวนอยู่รอบตัวเธอ เธออยากจะเป็นบ้า เธอขอสู้ขาดใจ!

“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน ไม่โยนแล้วๆ”

โจวเจ๋อเดินมาอยู่ตรงหน้าสาวน้อยโลลิ เขาหันหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบหนังสือรับรองของตัวเองออกมา

สาวน้อยโลลิเก็บลิ้นของตัวเองกลับไป แล้วใช้มือข้างหนึ่งแตะหน้าผากของตัวเอง จากนั้นลูกปัดสีดำก็ลอยออกมา แล้วหลอมรวมเข้ากับหนังสือรับรองของโจวเจ๋อ

โจวเจ๋อแลบลิ้นเลียปาก ท่ามกลางความมืดมิด ดูเหมือนจะมีเส้นใยหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวใจของเขา และเส้นใยนี้ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของสาวน้อยโลลิ

ความเป็นความตายของเธอขึ้นอยู่กับความคิดของเขาเท่านั้น

สาวน้อยโลลิลงมาจากเตียง คุกเข่าลงตรงหน้าโจวเจ๋อช้าๆ โดยคุกเข่าข้างหนึ่ง และมือข้างหนึ่งยันอยู่ที่หัวเข่าของตัวเอง แล้วเงยหน้า เพื่อเป็นการแสดงความเคารพของลูกน้องที่มีต่อหัวหน้า

“หลินเข่อ คารวะหัวหน้า!”

หลินเข่อ น่าจะเป็นชื่อของยมทูต แต่ชื่อของร่างนี้ที่สาวน้อยโลลิใช้ เหมือนจะชื่อว่าหวังหรุ่ย

สาวน้อยโลลิในตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจและโกรธ คุกเข่าลงตัวสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมรับโชคชะตา!

โจวเจ๋อมองสาวน้อยโลลิที่อยู่เบื้องล่าง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นช้าๆ สาวน้อยโลลิที่ชอบใช้ความรุนแรงและเย็นชาหยิ่งยโสอย่างยิ่งต่อหน้าตัวเองในอดีต ตอนนี้กลับยอมจำนนอยู่ใต้เท้าของตัวเอง ความกลับตาลปัตรของน้ำแข็งกับไฟที่รุนแรงแบบนี้ ทำให้คนมีความสุขจริงๆ

ในตอนนี้เอง นักพรตเฒ่าเดินขึ้นบันไดมา หวังเคอตื่นแล้ว เขาจึงมาบอกเถ้าแก่

เขาเพิ่งจะเดินขึ้นบันได และผลักประตูห้องนอนเบาๆ จากนั้นเขาก็ตกตะลึงทันที!

เขาเห็นสาวน้อยโลลิคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด