Black Tech Internet Cafe System 141

Now you are reading Black Tech Internet Cafe System Chapter 141 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันนี้ยูเหลียงกลับบ้านช้าเพราะดื่มมากไปหน่อย ระหว่างทางกลับบ้านพักในสำนักเขาเห็นร่างดำๆ สองสามคนกำลังยืนกระซิบกระซาบกัน

 

“ตาแก่ฉินบิงหายไปแล้ว” ร่างดำร่างหนึ่งกระซิบ “ฉันรอไม่ไหวแล้ว อาจารย์หลายคนก็หายไป ฉันว่าการดูแลสำนักในตอนนี้น่าจะเข้มงอดน้อยกว่าเมื่อก่อน!”

 

“ไปอินเตอร์เน็ตคาเฟ่กันเถอะ”

 

“เฮ้! นาย..”

 

“อินเตอร์เน็ตคาเฟ่!? นั่นเป็นอีกชื่อหนึ่งของร้านเล็กๆ นั่นหรอ?” ยูเหลียงแอบฟังและพบว่าสาวกเหล่านี้กำลังจะแอบไปคาเฟ่อินเตอร์เน็ตในเวลากลางคืนเช่นนี้

 

พวกเขากำลังแหกกฏ!

 

การเคลื่อนไหวของเหล่าสาวกรวดเร็วและเรียบง่ายราวกับพวกเขาเคยทำเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง การฝึกฝนของพวกเขาแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของทักษะที่ดี

 

พวกเขาวิ่งและกระโดดข้ามกำแพงที่สูงชั้นของสำนัก!

 

ความแข็รงแกร่งของยูเหลียงไม่ได้น้อยหน้า เขาเองก็กระโดดตามไปเช่นกัน

 

“มีคนตามมา!?”

 

“อาจารย์หรือเปล่า!?”

 

“ชิบละ วิ่ง!”

 

“ยังวิ่งต่ออีกเรอะ?” ใบหน้าของยูเหลียงเย็นชาในขณะที่เขายังวิ่งตามต่อไป แต่ระหว่างทางเขาได้ยินเสียงสวดมนต์

 

จากนั้นวิสัยทัศน์เบื้องหน้าของเขามืดลงและจู่ๆ ก็มองไม่เห็นอะไรเลย

 

“วิ่ง! ฉันใช้สกิล Cloak of Shadows เขาจะมองไม่เห็นเราสักแปป”

(ผู้แปล : Cloak of Shadows เป็นชื่อสกิลในเกม Diablo ลักษณะสกิลคือทำให้ท้องฟ้ามืดมนเพื่อบดบัง)

 

“เจ้านี่เจ๋งมาก! เจ้านำสิ่งที่เรียนรู้ในเกมมาใช้ให้เป็นประโยชน์”

 

“ลองดูสิ!”

 

ยูเหลียงที่วิ่งตามพวกเขาในตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดใจเมื่อมองไปข้างหน้าก็ไม่พบใครแล้ว ฉันควรทำอย่างไร? ควรตรวจสอบหอพักเลนจะดีมั้ย?

 

ไม่ .. ยูเหลียงกำลังคิดว่าหากใช้ความจำที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อนจับตัวสาวกได้ เขาอาจได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้

 

ถึงแม้สาวกจะลับสายตาไปแล้ว แต่ฉันมั่นใจว่าพวกเขาต้องอยู่ในร้านนั่นอย่างแน่นอน

 

 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ฉันได้เป็นตัวละครหลักของนวนิยาย” ตงชิงลี่ยังไม่หายตื่นเต้นเท่าไรหลังจากที่เล่นไปถึงหกชั่วโมง

 

เธอรักการอ่านนิยายมาก แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันทำเช่นนี้ได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันจะสามารถเข้าสู่โลกที่ได้รู้จักจากนวนิยายในฐานะตัวละครหลัก!

 

เธอรู้สึกเบิกบานใจ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วได้อยู่ในโลกนิยายที่เธอชื่นชอบในฐานะตัวเอก เมื่อก่อนเธอรู้สึกเบื่อทุกครั้งที่ได้ยินผู้คนพูดถึงเรื่องเกมหรือเอ่ยถึงร้านต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ต เธอมองว่ามันเกินจริงและไร้สาระ แต่ตอนนี้เธอเริ่มชอบที่นี่เข้าให้แล้ว

 

ในความจริงเป็นอาจจะมากกว่าชอบ

 

ฉันกำลังหลงไหลร้านนี้!

 

ตอนนี้เธอรู้สึกว่าไม่สามารถระงับความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นได้เลย เธอวิ่งไปถามที่เคาน์เตอร์ “นี่ท่าน ท่านผ่าน Andariel ไปแล้วใช่มั้ย?”

 

“แล้ว Act II ล่ะยากมั้ย?”

 

“เอ้ออ ขนมที่มีชื่อว่าฮาเก้นดาสนั้นมันอร่อยมาก!” ตงชิงลี่พูดพลางเลียริมฝีปากราวกับว่าเธอกำลังลิ้มรสมันอยู่ ในตอนนี้เธอไม่เพียงเป็นแค่หนอนหนังสือธรรมดา แต่เธอยังเป็นนักชิมอีกด้ว! ไม่เช่นนั้นร้านศาลาลมพระจันทร์คงไม่ถือกำเนิดขึ้น

 

“มันอร่อยกว่าของว่างในร้านศาลาลมและพระจันทร์อีก เทคนิคการทำเจ้านี่มันซับซ้อนจริงๆ หรอ?”

 

ร้านไหนที่เธอเป็นเจ้าของกันแน่ จางวันยูทำหน้ามุ่ยและรู้สึกอยากร้องไห้เมื่อมองดูท่าทางของตงชิงลี่

 

ใครจะไปคิดว่าเจ้าของร้านศาลาลมและพระจันทร์จะมาเหยียบที่คาเฟ่แห่งนี้ แถมยังเอ่ยชื่นชมขนมอย่างไม่ขาดอีกด้วย โชคดีที่พวกเขาสวมผ้าและคลุมหน้าจึงทำให้ไม่มีใครจำได้ มิเช่นนั้นจางวันยูคงจะอกแตกตายด้วยความอับอาย

 

ลืมซะเถอะ! มันไม่ได้สำคัญอะไรเพราะยังไงพวกเขาก็ไม่รู้จักเราอยู่ดี

 

“ที่นี่แหละ!” ยูเหลียงพูดขณะผลักประตูเข้ามา เขามองเหฦ็นหญิงสองคนพร้อมผ้าคลุมหน้ากำลังพูดคุยกับชายหนุ่มที่ดูธรรมดาและโลลิตัวน้อยหลังเคาน์เตอร์

 

“พวกเขาอยู่ที่ไหน!?” ยูเหลีงเหลือบมองรอบๆ ร้านแต่ก็ไม่พบสาวกพวกนั้น

 

แม้ร้านของเขาจะมีสองฝั่งและสองชั้น หากเปรียบเทียบกับร้านค้าใหญ่ๆ ในเมืองแล้ว ร้านของเขาก็ยังจัดว่าเล็กอยู่ดี แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดีที่ยูเหลียงจะค้นหาเป้าหมายในเวลาอันสั้น

 

เซียวหยูเหลือบมองไปเหลือบมองที่เขาและหันกลับมาอย่างรวดเร็วโดยคิดว่าเขาเป็นผู้ชายเลยขอเมินดีกว่า

 

ยูเหลียงรู้สึกสับสน เขาเคยคิดว่าที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่เมื่อได้มาถึงที่นี่แล้วมันก็ไม่ได้ดูเล็กอย่างที่คิดไว้เลย

 

ฉันควรขอให้เจ้าของร้านร่วมมือกับฉันดีมั้ย เขาส่ายหัวสลัดความคิด ถ้าเจ้าของร้านรู้ว่าเขามาตามจับสาวกเขาต้องถูกเตะออกไปแน่นอน

 

เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาไม่มีข้อมูลหรือรู้จักอะไรเกี่ยวกับร้านนี้สักนิด เขารู้สึกเหมือนกำลังหลงทางเมื่อได้เข้ามาที่นี่ ใช่เขาไม่รู้อะไรแม้แต่นิดเดียว

 

เขาพยายามที่จะนึกถึงเทคนิคที่สาวกคนหนึ่งใช้กับเขา ทันใดนั้นเขาก็จำได้ขึ้นมาว่าเหล่าสาวกพูดว่านั่นคือทักษะที่จำมาจากเกม!

 

จากนั้นคำพูดของมูฮงจูก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเขา

 

สาวกจากบ้านโลกไม่ใช่สาวกที่มีทักษะสูงเท่าบ้านสวรรค์ แต่มันน่าแปลกใจมากที่พวกเขาสามารถหนีเขาได้อย่างง่ายดาย

 

เนื่องจากสาวกเหล่านั้นใช้เทคนนิคที่เป็นเอกลักษณ์กับเขา พวกเขาฉลาดมาก!

 

“ท่าน!” การแสดงออกของเขาตะกุกตะกัก “Cloak of Shadow คืออะไรหรอ?”

 

“มันเป็นสกิลหนึ่งของแอสซาซินในเกม Diablo” ฟางฉีชี้นิ้วไปที่กระดานดำ “ท่านต้องการเล่นหรือไม่?”

 

“ฉันต้องการลอง ..”

 

มันเป็นทักษะจากร้านนี้หรอ!? มันเป็นเทคนิคการต่อสู้ใหม่หรือ? ยูเหลียงจ่ายคริสตัลโดยไม่ลังเลย

 

 

ณ ร้านศาลาลมและพระจันทร์

 

“มันดึกมากแล้ว .. ทำไมพวกเขายังไม่กลับมาอีก!?” เจียงชิงเฮอรู้สึกกังวล

 

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหรือเปล่า” นี่มันนานมากกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ซื้อหนังสือเล่มเดียวมันนานขนาดนี้เลยหรอ ที่สำคัญพวกเขาไม่ตอบข้อความในหยกสื่อสารสักข้อความเลย

 

“บ้าเอ้ย! หรือว่าจะมีคนค้นพบแล้วว่าพวกเขาเป็นใคร”

 

ขณะเดียวกัน ด้านนอกคาเฟ่ระหว่างเดินทางกลับ

 

วันนี้ตงชิงลี่รู้สึกสนุกมาก!

 

เธอยังคงนึกถึงรสชาตความสนุกจากเกมที่เธอได้เล่น “โลกใน Diablo นี่สุดยอดเลย มีการทำสงครามแถมยังได้ผจญภัย”

 

แม้ว่าเธอจะไม่สามารถซื้อ Diablo ภาคที่สองได้ แต่เธอก็รู้สึกดีมากไม่แพ้กันที่ได้รับข้อมูลมากมายเมื่อได้พูดคุยกับฟางฉี

 

“ฮาเก้นดาส อร่อยสุดๆ แถมเกมยังตื่นเต้นอีก” ฟังจากน้ำเลียงของตงชิงลี่แล้วพรุ่งนี้เธอต้องกลับมาอย่างแน่นอน

 

“ถ้าอย่างนั้น เราจะยังคงเข้าร่วมการคว่ำบาตรร้านนี้ต่อมั้ย?” จางวันยูถาม

 

“แน่นอน เราต้องพยายามให้มากกว่าเดิม หากเราหยุดการคว่ำบาตร ลูกค้าจะมาที่นี่มาเกินไป” ตงชิงลี่ยิ้มมีเล่ห์นัย

 

“ในไม่อีกกี่วันข้างหน้าเราต้องติดต่อเฮาชงพันธุ์มิตรทางภาคใต้ของเรา เราต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำลายร้านนี้ เราต้องสร้างแรงกกดตันต่อวังหลิวหยุนและกลุ่มโอเชียนและขอให้พวกเขาอย่านำคนมา”

 

“แต่ .. พวกเขาเป็นกลุ่มใหญ่ ฉันเกรงว่าเราจะกดดันพวกเขาไม่ได้”

 

“ทั้งสองกลุ่มต้องซื้อของจำนวนมากจากพันธมิตรทางใต้ของเราใช่มั้ย?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด