Black Tech Internet Cafe System 420

Now you are reading Black Tech Internet Cafe System Chapter 420 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มันเป็นใคร!?” ผู้ฝึกฝนในชุดขาวมองยืนประสานมืออยู่บนอากาศ เสื้อผ้าของเขาพลิ้วไหวไปตามลมพร้อมสายตาที่ดูเย็นชา

 

ด้วยการแสดงออกที่ดูมืดมน หนานกงจิวเหวิ่นค่อยๆ หันหน้าไปทางฟางฉี

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นฟางฉี แต่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้สัญจนไปมาที่นี่ ในสายตาของเขาผู้สัญจนคนนี้น่าจะตายไปแล้วหลังจากถูกพลังจากแสงแฟลช

 

ขณะเดียวกันผู้ฝึกฝนของตระกูลหลี่เองก็หันไปมองที่ฟางฉี

 

พวกเขาเห็นชายหนุ่มคนหนุ่มสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินขาวพร้อมลอยสลักแปลกๆ ที่ปรากฏขึ้นบนเสื้อเขาเอามือสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อทั้งสองข้าง ปรายตามองชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่บนดาบรูปทรงประหลาดพร้อมอักษรแปลกๆ ที่ปรากฎอยู่บนดาบดูเหมือนตัวเขาจะไร้น้ำหนัก

 

คนนี้ดูแปลกๆ

 

แม้ว่าจะมีความแปลกประหลาดแต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าชายหนุ่มคนนี้สามารถขัดหวางลูกบอลกักเก็บพลังงานดาบของหนานกงจิวเหวิ่นได้

 

“ใครช่วยพวกเรา!?” ผู้อาวุโสชุดขาวที่สูญเสียแขนไปข้างหนึ่งเอ่ยถามเสียงต่ำ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด

 

หนานกงจิวเหวิ่นตะโกนขึ้นไปบนฟ้าด้วยเสียงสั่นว่า “ผู้ที่แอบแฝงอยู่ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาจากที่ใด แต่เจ้ากล้าปรากฏตัวมั้ย?”

 

ข้อความเห็นปรากฏขึ้นหน้าจออีกครั้ง

 

บเขาตาบอดหรอ? เขามองไม่เห็นคนตรงหน้าหรือไง?]

 

[ฟางฉีถูกเพิกเฉย – -]

 

 

ใบหน้าของหนานกงจิวเหวิ่นหดลงเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าไม่มีบุคคลใดอื่นตอบกลับ

 

เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มที่แต่งตัวประหลาดแล้ว พบว่ามีดาบบินอยู่ใต้เท้าของเขา หนานกงจิวเหวิ่นก็ถามว่า “เจ้าเป็นอะไร? เจ้ามาจากกองกำลังใด? เจ้ารู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่กล้ายุ่งกับธุรกงการของข้า”

 

“อะไรหรือ?” ฟางฉีทำหน้าครุ่นคิด “ข้าเป็นหัวหน้าสมาคมเกมแห่งสวรรค์”

 

ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดในเมืองครึ่งพูดไม่ออก

 

ซงฉิงเฟิง [เจ้าของเจ้าเป็นหัวหน้าสมาคมในเกม คนในโลกแห่งความจริงจะไปรู้จักได้ยัง!?]

 

[พวกเขาไม่ได้เล่นเกมเซียนกระบี่พิชิตมาร พวกเขาจะรู้จักสามาคมของเจ้าของได้อย่างไร ..]

 

[บอกพวกเขาสิว่าเจ้าเป็นเจ้าของร้านต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ] หลิวหนิงหยุนเอ่ยเตือน

 

ในไม่ช้าความเห็นมากมายก็ตอบกลับว่า [ข้าว่าการใช้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าสมาคมฟังดูมีพลังมากกว่า ..]

 

ความคิดเห็นเริ่มถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่าฟางฉีควรใช้ชื่อไหนดี

 

ขณะเดียวกันผู้ฝึกฝนของตระกูลหลี่ได้แปรเปลี่ยนความยุ่งเหยิง “สมาคมอะไร?”

 

อีกด้านหนึ่งหนานกงจิวเหว่นหัวเราะเมื่อได้ยินชื่อ “มันคืออะไร ฮะๆ”

 

“ข้าหนานกงจิวเหวิ่นอยู่ในโลกแห่งการฝึกฝนมานาน มีแต่ผู้ฝึกฝนระดับน้อย ไม่มีใครใช้ชื่อแบบนี้ นี่เจ้ากล้าขว้างทางข้า?” เขาหันข้อมือพลางหัวเราะ “แล้วนี่คืออะไร? รับดาบอีกสิบครั้ง ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป หลังจากนี้เจ้าจะมีชีวิตยังไงกัน?”

 

เขาดูเหมือนแมวที่เพิ่งจับหนูได้และต้องการเล่นกับมันอย่างทารุณ

 

ฟางฉีมองซ้ายขวา .. ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดทำหน้าตกตะลึงเล็กน้อย

 

“ข้าขอโทษทีที่ให้เจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อสู้ครั้งนี้” หญิงสาวของตระกูลหลี่กล่าวพร้อมถอนหายใจเบาๆ “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ แต่ชายคนนี้มีพลังมาก สิ่งที่ทำได้คือเจ้าต้องวิ่ง!”

 

“วิ่ง?” เขาทวนถามระหว่างหันไปมองที่หนานกงจิวเหวิ่น ฟางฉีโบกมือและตอบว่า “หรือว่าเจ้าจะเป็นคนวิ่งแทน?”

 

“เจ้าจะฆ่าข้า?” เขามองด้วยสายตาดูแคลนและคิดว่ามันตลก “เจ้ารู้มั้ยว่าเจ้ากำลังนำความตายมาสู่ทุกคน คำพูดของเจ้านั้นมันเย่อหยิ่ง”

 

“อะไร? เขาพูดอะไรกัน!?” ความเห็นระเบิดหน้าจออีกครั้ง

 

“ทำไมผู้ฝึกฝนพลังที่นั้นถึงได้หยิ่งผยองขนาดนี้? แม้แต่นักบวชทั้งสามยังไม่กล้า!” ผู้ฝึกฝนในจิวหัวรู้สึกงุนงงและสงสัย

 

ที่ร้านครึ่งเมือง

 

ปีศาจดำฟาดมือลงกับโต๊ะพลางมองที่หน้า “เจ้าของฆ่าเขาซะ!”

 

ตังหยวน [ถ้าเจ้ากล้ามาเหยียบที่เมืองครึ่งเมื่อไรละก็ .. หึหึ ข้าจะตัดนิ้วและทรมานจนกว่าพวกมันจะตาย!]

 

พวกเขาดูเหมือนจะอดทนไม่ไหวแทนฟางฉี ถ้าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาป่านนี้พวกเขาคงยกพวกตีไปแล้ว

 

“อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเพียงเพราะขัดขวางการโจมตีของข้าได้” หนานกงจิวเหวิ่นกล่าว “มันเป็นเพียงการโจมตีแบบเบาๆ โดยทีข้าเองยังไม่ได้ใช้เทคนิคใดเลย”

 

เขาหัวเราะเยาะ ลูกบอลกักเก็บพลังงานของเขาถูกยืดออกกลายเป็นดาบสีดำอันบางเฉียบ .. มันเรียวยาวคล้ายกับมังกรดำ หายแว้บไปกับตา!

 

เห็นได้ชัดว่าเทคนิคของลูกบอลกักเก็บพลังดูแปลกและหลากหลายกว่าเมื่อเทียบกับเทคนิคดาบของฟางฉี ลูกบอลสามารถแปรเปลี่ยนพลังงานราวกับเส้นไหมที่นุ่มนวลพร้อมด้วยการเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วจนไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยตาเปล่า

 

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสของพลังงดาบของข้า!”

 

ขณะที่เขากล่าวแสงสีดำทีไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยตาเปล่าได้ มันพุ่งเข้าหาฟางฉีด้วยความเร็วแสงง

 

“วิ่ง!” หญิงสาวในชุดผ้าไหมสีขาวตะโกนด้วยความตกใจ

 

“วิ่ง!? พวกท่านต้องการให้ข้าถ่ายทอดสดระหว่างหลหนีหรือไม่?” เขาพูดพลางเหยียบบนด้วบบ

 

ขณะที่พลังงานดาบสวว่างขึ้นร่างกายของเขาดูเหมือนจะสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นและเสียงดาบยังคงดังกล้องอยู่ในหู ลูกบอลกักเก็บกำลังทำท่าทางเหมือนว่ามันกำลังจะกินพลังงานดาบ ขณะเดียวกันออร่าของฟางฉีก็เปลี่ยนไปในทันตา

 

ด้วยเสียงหวีดหวิวของดาบที่ดังขึ้นคล้ายกับของมีคมฟาดฟันกัน ดาบพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงมาราวกับสายฟ้าจากสวรรค์!

 

แกร๊ก!

 

ราวกับเสียงฟ้าร้องมันดึงกึกก้องเป็นวงกว้าง

 

“เจ้ากำลังมองหาความตาย!” แววตาอันโหดร้ายของหนานกงจิวเหวิ่นปรากฎขึ้น เขาประหลาดใจที่ดาบบินนี้สามารถขวางลูกบอลพลังงานได้ “เจ้าต้องการแข่งขันกับลูกบอลของข้าเรื่องความเร็วงั้นเรอะ?”

 

พลังงานดาบสีดำสนิทอันพร่ามัวได้หลบดาบบินของฟางฉีและยังคงพุ่งเข้าหาฟางฉีด้วยความเงียบ

 

ฟางฉียังคงนิ่งสงบสยบทุกสิ่งราวกับว่าเขาไม่เห็นว่ามันกำลังพุ่งมา ในทางกลับกันดาบบินได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วจนน่ากลัว มันพุ่งเข้าหาหนานกงจิวเหวิ่น

 

“เจ้าบ้าไปแล้ว!?”

 

ฟางฉียังคงนิ่งไร้สีหน้าท่าทาง

 

การโจมตีของหนานกงจิวเหวินนั้นทะลุหน้าออกของฟางฉี แต่ดาบของฟางฉีนั้นสามารถตัดหนานกงจิวเหวิ่นสามารถตัดเขาออกเป็นสองซีก แต่ .. แล้ว

 

เสียงตะโกนอันน่ากลัวของหนานกงจิวเหวิ่นดังขึ้น ร่างเขาเอียงโดยไม่รู้ตัว

 

จากนั้นเลือดพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมแขนที่ลอยเลือดกระเซ็น

 

“นี่คือ ..”

 

ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดตะลึงพูดไม่ออก

 

ฟางฉีถอนหายใจเบาๆ “น่าเสียดายที่ข้าไม่มีดาบมังกร แต่เทคนิคดาบนี้ใช้ได้ผลดีทีเดียว เคล็ดลับของเทคนิคดาบนี้อยู่ที่ว่าแม้เจ้าจะกล้าหาญเพียงใเ แต่หากบังคับตัวเองให้ใช้มันโดยที่นิ่งสงบและบ้าบิ่นมากเท่าไรเทคนิคก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น”

 

ฟางฉีใช้เทคนิคดาบที่วันเจียนยี่สอนให้กับหลินจิงหยูในกระบี่เทพสังหาร

 

ในร้านทั้งสองเงียบกริบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด