Black Tech Internet Cafe System 208

Now you are reading Black Tech Internet Cafe System Chapter 208 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตงชิงลี่แฟนคลับตัวยงของ Diablo แม้เธอจะมีระดับเพียงแค่ 20 ก็ตาม เธอใช้เวลาเล่นเกมเพื่อสร้างความบรรเทิงให้ตัวเอง นอกจากเล่น Diablo แล้วเธอยังเล่นเซียนกระบี่เทพพิชิตมารและดูละครอีีกด้วย

 

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรงสำหรับการแข่งขัน แต่มันไม่ได้เสียหายอะไรที่จะลองดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมเพื่อความสนุก

 

อาจารย์จากสำนักหลิงหยวนและผู้ฝึกฝนพร้อมนักรบคนอื่นๆ ที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมได้แบ่งปันความคิดจากเธอ

 

ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อรับรางวัลอย่างเดียว แต่พวกเขาอยากลองสนามลองต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นหลังจากได้ปะทะกับสัตว์ประหลาดมากมาย!

 

PVP และ PVE เป็นแนวคิดที่แตกต่างกัน โดยปกติ Diablo ในคาเฟ่จะเล่นแบบ PVE แต่การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเปิดตัวของ PVP ซึ่งนี่จึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้ มีการผสมผสานทักษะใหม่ล่าสุดและการหลอมรวมของไอเทมที่ใช้สำหรับการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น

 

สำหรับการแข่งขันแบบทีมใน CS สาวกของหลิงหยวนกลุ่มแรกที่ลงทะเบียน กัปตันทีมนี้คือนาหลันหมงิสือ สมาชิกได้แก่ซูฉีซิน, เฉินชิงชิง, หลินเซียวและซูเหลียว

 

ในฐานะรักฆ่าระดับสูงสุดและมีไอเทมทีี่ดีที่สุดในชั้นเรียนของ Diablo อย่างซงฉิงเฟิง เขาวางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันใน Diablo ชื่อเขาจึงไม่ปรากฏขึ้นในทีม

 

ผู้เล่นใหม่อย่างจีวูเลือกไม่แข่งขันใน Diablo เนื่องจากเขาไม่ต้องการพลาดโอกาสทองที่จะดึงองค์หญิงและองค์ชายเข้ารว่มทีม

 

เนื่องจากพวกเขามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับปืนน้อยนิด พวกเขาจึงเพิ่มทักษะโดยการรับชมหนังเรื่อง Resident Evil อย่างกระตือรือร้น

 

ดังนั้นทีมราชวงศ์จึงถูกจัดขึ้น .. ฟางฉีรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นรายชื่อสมาชิกในทีม

 

เวลาเดียวกันกลุ่มอื่นๆ ก็กำลังรวบร่วมทีมใช้เวลายาวไปจนกว่าจะถึงเวลาปิดร้าน

 

 

ในขณะเดียวกันกลุ่มไทฉีอีกด้านของทวีป

 

ชายชรามองดูข้อความที่ส่งถึงเขาในหยกสื่อสารด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 

“พวกเขากำลังจัดการแข่งขันในเวลาเดียวกับการปรชมุอาณาจักร .. ร้านค้านี้พยายามดึงพันธมิตรวู่เว้ยของเราออกจากการเข้าร่วมการประชุม!?”

 

“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร!?” ชายชราพึมพำกับตัวเอง “มันดึงดูดกำลังของเราไปมากมาย เรื่องเริ่มใหญ่เกินจะรับมือ”

 

“ช่างยากจริงๆ พลกำลังกลุ่มเล็กๆ ที่เราไม่ได้สนใจในตอนนี้กลับมีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ในเวลานี้!”

 

เฟงฉียังคงไม่กล้ารายงานว่าเขาได้รับบาดเจ็บและสมบัติอันมีค่าได้ถูกยึดเอาไว้ .. เขาวางแผนที่จะจัดการกับร้านนี้พร้อมเอาสมบัติล้ำค่าของเขาคืน!

 

ตอนนี้เขากำลังวางแผนว่าจะขอความช่วยเหลือจากกองกำลังหลักรอบๆ ตาจิ ..​กองกำลังเหล่านี้พยายามที่จะได้รับความช่วยเหลือจากนักบวชอย่างเรา เฟงฉีคิดในใจดูเหมือนว่าข้าเองก็ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเช่นกัน

 

ในไม่ช้าเฟงฉีก็ส่งแผนการเพื่อขอการอนุมัติ

 

[ในสถานะการณ์เช่นนี้ ข้าอนุมัติคำขอ พวกเรากลุ่มไทฉีจะแสดงความกตัญญูต่อผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้] ชายชราฝ่ายไทฉีตอบกลับคำขอ

 

หลังจากได้รับการอนุมัติแล้วเฟงฉีรู้สึกยินดีแลละโล่งใจ

 

ถ้าฝ่ายไทฉีรู้เรื่องข่าวว่าเขาล้มเหลวในภารกิจแถมยังสูญเสียส้มบัติอันล้ำค่าไปอีก หากข่าวกระจ่ายไปทั่วเขาต้องโดนดีแน่

 

ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่ต้องปิดปากเงียบเพื่อแลกกับเกียรติยศของเขา ดังนั้นเขาต้องไม่รู้สึกถึงความละอายใจเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข .. แม้จะอยากอายแค่ไหนก็เถอะ

 

หยุนเตียนเป็นดินแดนแห่งจิตวิญญาณที่ห่างไปไม่ไกลในทางตะวันตกเฉียงใต้ของตาจิน

 

แน่นอนมันไม่เพียงใหญ่ หากเทียบกับตาจินแต่มันเป็นดินแดนแห่งการเพาะปลูกขนาดใหญ่ ที่นี่มีดินแดนการปกครองและสร้างกฏหมายอย่างมั่นคง

 

พวกเขาเป็นหนึ่งกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการประชุมอาณาจักรที่จัดขึ้นทุกๆ สามสิบปีี

 

เฟงฉีจับตามองพวกเขา

 

สำหรับผู้ปลูกฝังในตาจินไม่ร่ำรวบเท่ากับคนในดินแดนหยุนเตียน ที่นั้นมีพื้นที่และทรัพยากรการเพาะปลูกมากมาย ผิดกับตาจินที่มีข้อจำกัด มันเหมาะจะเป็นเมืองของนักรบมากกว่า

 

ในความเป็นจริงกองกำลังหลักเช่นกลุ่มบลูเฟรมและวังหลิวหยุน พวกเขาล้วนต้องการความช่วยเหลือจากผองเพื่อนในดินแดนแห่งนี้ในการพึ่งพาทรัพยากรและเทคนิค

 

สิ่งสำคัญของประเทศหยุนเตียนคือที่นี่มีแรร์หายาก มันมีชื่อว่าหยกหยุนเตียนซึ่งเป็นวัสดุทีี่ดีที่สุดในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณอันดับสูง

 

เฟงฉีคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องสร้างสงคราม เขาจะสร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มพันธมิตรวู่เว้ย ตัดช่องทางทรัพยากรของพวกเขาออก เชื่อได้เลยว่าพวกเขาจะต้องยอมแน่

 

“ข้าจะบังคับให้เจ้าเด็กนั้นคืนหม้อน้อยและขอโทษฉันให้ได้!”

 

 

ขณะที่เฟงฉีรีบเดินทางไปยังดินแดนหยุนเตียน ร้านคาของฟางฉีก็ได้ทำการเพิ่มตอนละครเรื่องกระบี่เทพสังหารและขี่พายุทะลุฟ้า

 

ในตอนก่อนหน้านี้ของกระบี่เทพสังหารพวกเขาได้ทำการแข่งขันในละครถึงจุดสุดยอด สำหรับขี่พายุทะลุฟ้าเองได้ดำเนินไปถึงส่วนที่หนี่เฟงได้เอาชนะเมืองวงและซงปาเองก็กำลังจะจัดการต่อสู้ขึ้นในเจ็ดวัน ซึ่งนั้นอาจหมายความว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสองสามตอนสุดท้ายจะต้องต่อสู้กัน!

 

ละครทั้งสองเรื่องใกล้เข้าสู่จุดสุดยอดมากขึ้นทุกที แฟนๆ ของทั้งสองเรื่องต่างตื่นเต้นไปตามๆ กัน

 

“อ่า .. ข้ามีความสุขมาก!” ตงชิงลีเอ่ยเมื่อนึกถึงเนื้อหาตอนใหม่ “ท่านวันนีี้มีกระบี่เทพสังหารตอนใหม่ใช่มั้ย?”

 

หลายคนกังวลเกี่ยวกับการแข่งขัน แต่เธอไม่ได้สนใจเท่าไรเพราะเธอคิดว่าแข่งเพื่อความสนุก

 

“ท่าน! รีบเปิดใช้งานเร็ว!” หลันโมและจุนหยางชีที่เพิ่งเดินเข้ามา “ท่านข้าขอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมไส้กรอกสองถ้วย!”

 

ผู้คนจากกลุ่มบลูเฟรมเองได้จับตามองเรื่องคาถาจิตวิญญาณและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในละครกระบี่เทพสังหารอย่างตั้งใจและเนื่องจากพวกเขาเป็นมือสมัครเล่นสำหลับเกม Diablo และ CS ดังนั้นจึงเลือกหันเหความสนใจไปที่ละครมากกว่า

 

แม้แต่ผู้เล่นที่เตรียมตัวที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเองก็เลือกที่จะไม่พลาดละครตอนใหม่!

 

การแข่งขันของเจ็ดภูเข้าในกระบี่เทพสังหารมีความหมายมาก มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งโดยรวมของทุกฝ่าย ผู้ฝึกฝนของกลุ่มบลูเฟรมและวังหลิวหยุนจะใช้โอกาสนี้เพื่อซึมซับ

 

ซูเทียนจิเองแม้จะกำลังยุ่งกับการฝึกอบรมทีมของเธอยังต้องหันมาหยุดพักและสั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักชามก่อนจะพักยกดูละครพร้อมกับสองสาวก

 

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับบะหมี่นั้นซูเทียนจิสังเกตุเห็นดาบสีสันสดใสมากมายจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นภายใต้ท้องฟ้าสีคราม รอบๆ ภูเขาที่แสงให้เห็นวิวอันงดงามมองโดยรวมมันสวยมาก!

 

เมื่อเธอเห็นสิ่งนี้เธอคิดในใจและหวังว่าสักวันเธอจะสามารถก้าวขึ้นไปบนดาบและโบยบินแบบนั้นได้บ้าง

 

ข้าสงสัยว่าสาวกในละครสามารถบินบนดาบได้ถึงพันกิโลเมตรในครั้งเดียว .. ผู้ฝึกฝนหลายคนรวมถึงซูเทียนจิดูละครด้วยความอิจฉา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด