I Was Kidnapped By The Strongest Guild 19 โซเฟีย

Now you are reading I Was Kidnapped By The Strongest Guild Chapter 19 โซเฟีย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เฮ้อ”

 

โซเฟียถอนหายใจเฮือกใหญ่และยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้

 

ถึงแม้ว่าโซเฟียจะเคยได้ยินมาว่ากษัตริย์ในอนาคตมีทั้งความป่าเถื่อนและความเมตตา แต่สำหรับโซเฟียแล้ว เด็กผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่เด็กที่น่าสงสารและกำลังหวาดกลัวอยู่ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

 

ก่อนที่เด็กคนที่จะได้รับพร เธอก็ยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย

 

เมื่อเห็นเด็กไร้บ้านเร่ร่อน เอนเซียกับอาร์โก้จะต้องเข้าใจผิดไปเองแน่ ๆ

 

เป็นความผิดพลาดที่มีเพียงแค่มนุษย์สัตว์ที่ตัดสินทุกอย่างจากความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำได้

 

‘ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี…’

 

เด็กขี้อายไม่เหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์ของเหล่ามนุษย์สัตว์

 

อย่างน้อย ก็ไม่ใช่ตามมาตรฐานของ ‘มนุษย์สัตว์ทั่วไป’

 

อย่างไรก็ตาม โซเฟียก็เป็นที่รู้จักในฐานะคนแปลกของเผ่าพันธุ์อยู่แล้ว โซเฟียไม่ใช่ว่าไม่ชอบเด็กที่อยู่ตรงหน้าของเธอ

 

เธอให้คุณค่ากับกษัตริย์ที่ใช้สติปัญญามากกว่ากษัตริย์ที่ใช้แต่กำลัง

 

ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนของเด็ก บวกกับคำแนะนำที่เหมาะสม เด็กคนนี้จะต้องกลายเป็นกษัตริย์ที่มีความเมตตาได้แน่

 

และด้วยร่างกายกับจิตใจที่อ่อนตัวลงจากพร เด็กจะต้องซึมซับทุกอย่างที่ได้รับการสั่งสอนได้แน่

 

โซเฟียตัดสินใจสร้างสถานการณ์ที่ดีที่สุดและเลี้ยงดูเด็กกลายเป็นกษัตริย์ที่ดี

 

‘ค่อยยังชั่วที่เธอได้รับการคุ้มครองจากกิลด์รุ่งอรุณ…’

 

แม้จะรู้สึกขอบคุณกิลด์รุ่งอรุณที่คุ้มครองกษัตริย์ในอนาคต แต่ทำไมกิลด์รุ่งอรุณถึงให้เด็กอาศัยอยู่นอกตึกล่ะ?

 

ทำไปเพื่อปลูกฝังการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติของมนุษย์สัตว์งั้นเหรอ?

 

เมื่อไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้ โซเฟียก็เริ่มไม่พอใจ

 

กิลด์ปล่อยปละละเลยอย่างรุนแรงกับผู้ที่ครอบครองพรอันทรงคุณค่า

 

“กิลด์รุ่งอรุณไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลยหรือไง?”

 

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ…?”

 

“การปฏิบัติต่อกษัตริย์ในอนาคตที่ได้รับพร…!”

 

ก่อนที่โซเฟียจะได้พูดจบประโยค โซเฟียก็ถูกปิดปากเอาไว้โดยยอรึมที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้

 

มือเล็ก ๆ ของโซเฟียโบกขึ้นลงไปมา เนื่องจากเธอโดนจับค่อนข้างแน่น

 

“คุณวาฬ ช่วยมาคุยกับฉันหน่อยได้ไหม?”

 

“อืมส์ อืมส์!”

 

โซเฟียรู้สึกงุนงงกับสถานการณ์ที่ถูกล่วงล้ำอย่างกระทันหัน โซเฟียจึงยกไม้เท้าขึ้นมาฟาดใส่ยอรึม แต่ยอรึมก็ไม่โดนไม้เท้าฟาดใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ยอรึมหลบการโจมตีได้อย่างกับใช้เวทมนตร์

 

เมื่อดูสิ่งนี้แล้ว คยออุลก็คิดกับตัวเองว่าเธอไม่ใช่วาฬแต่เป็นฉลามต่างหาก

 

“คยออุล พอพี่คุยกับวาฬเสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่จะกลับมาหานะ โอเคไหม?”

 

“โอเค…”

 

ยอรึมอุ้มโซเฟียออกไปไกลมาก

 

ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากเต็นท์ของคยออุลแล้ว แต่ยอรึมก็ตะโกนออกมาเบา ๆ เผื่อว่าคยออุลจะได้ยิน

 

“คยออุลได้ยินเสียงของพี่ไหม?”

 

เมื่อได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของยอรึม คยออุลก็พยักหน้าตอบจากระยะไกล

 

ประสาทการได้ยินของคยออุลดีขึ้นมากแค่ไหนกัน?

 

เนื่องจากคยออุลไม่ควรรู้เรื่องพร ยอรึมจึงวิ่งไปให้ไกลขึ้นยิ่งกว่าเดิม

 

เพื่อไปยังสถานที่ที่คยออุลจะไม่ได้ยินเสียงที่พูดออกมาอย่างแน่นอน

 

—————————————————————————

 

‘วางหม้อไว้ตรงนี้ละกัน…’

 

เมื่อถูกทิ้งให้อยู่ในเต็นท์เพียงลำพัง จู่ ๆ คยออุลก็นึกถึงปลาซิวที่เอามาจากภูเขาได้

 

คยออุลนำมันมาอยู่หลายตัวเพื่อเอามาชุบเลี้ยงในบ่อน้ำ คยออุลเกิดความสงสัยว่าพวกมันจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

 

ในขณะที่คยออุลกำลังเดินเข้าไปใกล้ถังที่เก็บปลาซิวเอาไว้ สองสาวก็เดินมาทางที่คยออุลอยู่จากที่ห่างไกล

 

“กิลด์รุ่งอรุณไม่คิดที่จะเคารพผู้สูงอายุเลยหรือไง…?”

 

เด็กสาวหางฉลามบ่นพึมพำ พร้อมกับเผยฟันอันแหลมคมของเธอออกมา

 

ส่วนยอรึมที่อยู่ข้าง ๆ โซเฟียก็เดินอย่างโซซัดโซเซ

 

“ขอโทษค่ะ…ฉันไม่รู้ว่าคุณจะแก่ขนาดนี้…”

 

“ให้ตายสิ กระดูกของฉันช่างน่าสงสาร”

 

กร๊อบ กร๊อบ

 

ฉลามสาวแตะเอวของตัวเองและเดินมาหาฉัน

 

หากดูจากการกระทำและคำพูดคำจาของเธอแล้ว เธอคงจะอายุเยอะยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้

 

เธออายุเท่าไหร่กันถึงได้ทำตัวเหมือนผู้สูงอายุเช่นนี้?

 

ด้วยความสงสัย ฉันก็เลยถามออกไปตรง ๆ

 

“คุณยาย คุณอายุเท่าไหร่เหรอ?”

 

“…อย่ามาเรียกฉันว่าคุณยาย”

 

“เอ๋?”

 

เธอเรียกตัวเองว่าผู้อาวุโสไม่ใช่เหรอ?

 

ด้วยความสับสน ฉันจึงเอียงหัวของฉันในขณะฉลามสาวกำลังพิงไม้เท้าและนั่งลงบนเก้าอี้

 

“แม้จะดูไม่เหมือน แต่ฉันก็ไม่ได้อายุขนาดนั้น”

 

“แต่คุณใช้ไม้เท้า”

 

“ต้นกำเนิดของฉันมาจากน้ำ ฉะนั้นเมื่อฉันขึ้นบนบกมาฉันเลยอ่อนแอลง”

 

อ่า งี้นี่เอง

 

ก็เหมือนกับมนุษย์ที่จะอ่อนแอลงเมื่ออยู่ในน้ำ

 

ด้วยความกังวลกับสภาพของเธอ ฉันจึงชี้ไปที่บ่อน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ

 

“คุณอยากพักในบ่อน้ำที่อยู่ตรงนั้นไหม?”

 

“ไม่ละ ฉันไม่ชอบน้ำ”

 

ฉลามทึ่เกลียดน้ำ ช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลก

 

ถึงจะสงสัย แต่ฉันก็ตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอ

 

สิ่งที่สำคัญที้สุดในตอนนี้ก็คือ ทำไมมนุษย์สัตว์ถึงมาหาฉัน

 

“คุณมาที่นี่ทำไมเหรอ?”

 

“…ฉันมาเพื่อสอนเรื่องพื้นฐานให้คุณ เนื่องจากตอนนี้คุณกลายเป็นมนุษย์สัตว์แล้ว”

 

โซเฟียพูดในขณะที่แอบเหลือบมองยอรึมไปด้วย

 

หลังจากแลกเปลี่นสัญญาณกันแบบลับ ๆ ยอรึมก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ

 

“มีอะไรเป็นพิเศษที่ฉันต้องเรียนรู้ไหม?”

 

“มีเยอะเลยละ เนื่องจากการใช้มานาของมนุษย์สัตว์แตกต่างไปจากการใช้มานาของมนุษย์”

 

“อ่า มานา…”

 

ถ้าเป็นอะไรแปลก ๆ ฉันก็ว่าจะปฏิเสธ

 

แต่ว่าถ้าได้เรียนรู้เรื่องมานา ฉันก็คงปฏิเสธยากแล้ว

 

การใช้มานาเป็นหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันได้

 

ฉันยอมรับการสั่งสอนของเธอด้วยความไม่เต็มใจ

 

แต่ก่อนอื่นเลย มีสิ่งหนึ่งที่ฉันสงสัยมาก ๆ อยู่

 

“คือว่า จริง ๆ แล้วมนุษย์สัตว์คืออะไรเหรอ?”

 

“…คุณไม่รู้ว่ามนุษย์สัตว์คืออะไรงั้นเหรอ?”

 

“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นมนุษย์สัตว์”

 

คำตอบของฉันแปลกหรือเปล่า?

 

หญิงสาวทั้งสองกระพริบตาพร้อมกัน

 

“คุณใช้ชีวิตมายังไงถึงได้ไม่รู้ว่ามนุษย์สัตว์คืออะไร?”

 

“ขอโทษ ส่วนใหญ่ฉันใช้ชีวิตอยู่บนภูเขา…”

 

ฉันไม่เคยเห็นมนุษย์สัตว์เลยในการใช้ชีวิตแปดปีในโลกนี้ของฉัน

 

บางทีมนุษย์สัตว์อาจพบได้ทั่วไปในโลกนี้มากกว่าที่ฉันคิด

 

“ไม่ต้องขอโทษหรอก แค่คุณรู้ตอนนี้ก็พอแล้ว”

 

อะแฮ่ม

 

ฉลามสาวกระแอมและใช้ปลายไม้เท้าวาดเป็นวงกลม

 

จากนั้นเธอก็พูดอะไรบางอย่างที่น่าตกใจออกมา

 

“มนุษย์สัตว์อย่างพวกเราผ่านเกตเข้ามา พวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่น”

 

“เกต? ประตูมิติที่พวกมอนสเตอร์ออกมาน่ะเหรอ?”

 

เหตุผลที่ว่าทำไมมอนสเตอร์ในพื้นที่ล่าของพวกนักผจญภัยมือใหม่ไม่ลดลงเลย

 

ก็เป็นเพราะพวกมันออกมาจากเกตอยู่เรื่อย ๆ เนี่ยแหละ

 

ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจจากความจริงที่ว่ามนุษย์สัตว์คือพวกที่ออกมาจากเกต

 

มันเพิ่มความเป็นไปได้ที่ฉันจะได้กลับโลกเดิมของฉันโดยใช้สิ่งที่เรียกว่าเกต

 

“แสดงว่าฉันก็เข้าไปในเกตได้ใช่ไหม?”

 

“เป็นไปได้ แต่คุณต้องเพิ่มความสามารถของตัวเองก่อน”

 

“จริงด้วย…! ยังไงในดันเจี้ยนก็เป็นถิ่นของพวกมอนสเตอร์…!”

 

“ใช่ ระวังตัวไว้ให้ดี ถ้าหากคุณไม่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ คุณก็จะติดอยู่ในโลกนั้นตลอดไป”

 

ติดอยู่ตลอดไป

 

ประโยคนั้นทำให้ฉันได้ตระหนักในอะไรบางอย่าง

 

มนุษย์สัตว์ติดอยู่ในดันเจี้ยนที่มีชื่อว่าโลก

 

และบางที ฉันเองก็คงติดอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

 

—————————————————————————

 

ฉันสามารถกลับบ้านได้

 

แม้จะเป็นแค่ความหวังเล็ก ๆ แต่มันก็ทำให้หางของฉันส่ายไปมาได้

 

มันช่วยทำให้งานที่น่าเบื่ออย่างทำความสะอาดบ้านเสร็จสิ้นไปได้อย่างรวดเร็ว

 

‘แค่เคลียร์ดันเจี้ยนให้ได้ ฉันก็จะได้กลับโลกเดิมแล้วใช่ไหม?’

 

ฉันมีความหวังอันริบหรี่ที่จะได้กลับบ้านแล้ว

 

ในช่วงเวลาควาทสุขที่ไม่ได้มาบ่อย ๆ ฉันนั่งอยู่ด้านนอกเต็นท์พร้อมกับเทปกาวและสายสร้อยคอโลหะ โดยฉันตั้งใจที่จะทำสร้อยคอจากหินมานาของก็อบลินที่ฉันได้รับมาจากพื้นที่ล่าของพวกมือใหม่

 

แกรก—

 

ฉันฉีกเทปเป็นแผ่นยาว ๆ และเอามันมาประติดหินมานาเข้ากับสายสร้อยคออย่างลวก ๆ

 

แม้มันจะดูไม่ดี แต่ฉันก็พึงพอใจกับมัน

 

“ทำอะไรอยู่เหรอ คยออุล?”

 

“ฉันทำสร้อยคออยู่ เพราะมันเป็นหินมานาก้อนแรกที่ฉันได้มา ฉันก็เลยอยากเก็บมันไว้เป็นของที่ระลึก”

 

“เอ่อ…พี่ขอดูมันหน่อยได้ไหม?”

 

หญิงสาวยื่นมือมาทางฉัน

 

ฉันยื่นมันให้เธอโดยปราศจากความสงสัย เพราะฉันคิดว่าเธอคงไม่ขโมยของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหินมานาของก็อบลินหรอก

 

“คุณจะทำอะไร?”

 

“พี่จะทำให้มันสวยขึ้น”

 

แตะ แตะ—

 

ในขณะที่หญิงสาวสัมผัสมานา ก็มีความร้อนอันแรงกล้าพวยพุ่งออกมาจากปลายหินมานา

 

ส่วนหนึ่งของหินมานาหลอมละลายจากความร้อน

 

‘ว้าว’

 

ส่วนที่โดนหลอมละลายของหินมานาติดเข้ากับสร้อยคอโลหะราวกับเป็นชิ้นเดียวกัน

 

“คุณทำแบบนั้นได้ยังไง?”

 

“พี่ใช้พลังงานภายในหินมานาน่ะ คยออุลเองก็ทำได้นะ”

 

พอพูดเสร็จ หญิงสาวก็เป่าหินมานาที่ยังร้อนอยู่อย่างช้า ๆ

 

ทันใดนั้น ฉลามสาวก็โผล่ออกมาจากเต็นท์โดยถือถังที่มีปลาซิวอยู่

 

“สิ่งมีชีวิตเหล่านี้คืออะไร? พวกเขากำลังร้องขอความช่วยเหลือ”

 

“อ๊ะ! ปลาซิวของฉัน!”

 

ฉันยุ่งมากจนลืมพวกมันไปเลย

 

ฉันรีบวิ่งไปหาหญิงสาวด้วยความตื่นตระหนก

 

“คุณเอาพวกมันมาเลี้ยงเหรอ?”

 

“ใช่ ฉันตั้งใจจะเลี้ยงพวกมันไว้ในบ่อน้ำและหลังจากนั้นค่อยจับมันมากิน”

 

“อ่า…คุณป่าเถื่อนมาก”

 

เธอพูดว่า ‘ป่าเถื่อน’

 

สำหรับมนุษย์สัตว์แล้ว นั่นคือคำชมใช่ไหม?

 

แม้ว่าจะมีคำถามมากมาย ฉันก็ตัดสินใจที่จะปล่อยปลาซิวลงบ่อน้ำก่อน

 

“ฉันขอเอาปลาซิวไปปล่อยได้ไหม?”

 

“ได้สิ ไอเทมเตรียมพร้อมแล้ว เหลือก็แค่ปล่อยปลาลงบ่อน้ำ”

 

“โอเค…!”

 

บ่อน้ำที่มีปลาหลากหลายชนิดให้ตก

 

แค่จินตนาการถึงมันก็ทำให้หางของฉันส่ายไปมาอย่างควบคุมไม่ได้

 

ฉันยกถังไปที่บ่อน้ำด้วยความรู้สึกเริงร่า

 

“ให้ตายสิ เด็กคนนั้นเป็นมนุษย์สัตว์แบบไหนกัน?”

 

“ใครจะรู้…?”

 

ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของผู้คนที่เดินเล่นอยู่ใกล้ ๆ กับบ่อน้ำ

 

มันรู้สึกหน้ากลัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ที่นี่คือสวนหน้าบ้านของฉันแล้ว

 

ในฐานะคนที่จ่ายค่าเช่าแล้ว ฉันจึงตัดสินใจทำมันอย่างมั่นใจ

 

‘ยังไงซะ ฉันก็คือผู้ดูแลบ่อน้ำอันนี้’

 

จ๋อม จ๋อม จ๋อม—

 

ในขณะที่ฉันปล่อยปลาซิวลงบ่อน้ำ พวกมันหลายสิบตัวก็กระจัดกระจายกันออกไปจนทั่ว

 

ในเวลาไม่นาน พวกมันก็ทวีคูณเพิ่มขึ้น จากหนึ่งร้อยเป็นหนึ่งพัน

 

เมื่อหลงอยู่ในความรื่นรมย์นี้ ฉันก็หันหน้ามองไปรอบ ๆ และสายตาของฉันก็ไปหยุดอยู่ที่ผู้หญิงที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้

 

เธอตัวแข็งทื่อพร้อมกับกัดฟันแน่น ส่วนฉันเองก็ตัวแข็งเป็นหินเช่นเดียวกันเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ

 

เธอคือผู้หญิงที่หัวเราะเยาะเย้ยใส่ฉันในตอนที่ฉันถูกกระต่ายมรเขาวิ่งไล่

 

“อ๊ะ”

 

ฉันก้าวเท้าถอยหลังโดยสัญชาตญาณเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น

 

จนลืมไปซะสนิทเลยว่ามีบ่อน้ำอยู่ข้างหลังฉัน

 

—————————————————————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด