บ่วงแค้นแสนรัก 302 ผู้ใหญ่รังแกเด็ก

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 302 ผู้ใหญ่รังแกเด็ก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"โอ้" ลู่จิ้นยวนถึงกับต้องทำตาเหล่ เมื่อถูกเด็กวัยห้าขวบพูดอย่างงี้ เขาทนไม่ได้จริงๆ "นี่ลูกกำลังหมายความว่า ลูกอกหักงั้นเหรอ"

ลู่จิ้นยวนสังเกตเห็นข้อความบนโทรศัพท์มือถือของเขา ก็หยิบมาดูอย่างไม่มีความเกรงใจใดๆ เป็นข้อความวีแชทของผู้หญิงคนเมื่อวานนี้

เมื่อดูประวัติการแชทล่าสุดของทั้งสองคน ดวงตาของชายหนุ่มคนค่อยๆหรี่ตาลง

นี่ผู้หญิงคนนั้น กำลังคบกับผู้ชายคนอื่นจริงๆหรือ

จู่ๆ ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกอึดอัดไม่พอใจขึ้นมา แต่เขาก็รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง …

ก็แค่ผู้หญิงที่เพิ่งจะรู้จักกันเท่านั้นเอง ก็แค่เคยช่วยลู่อันหรานไว้แค่นั้น เป็นไปได้ไงที่เขาจะมีความคิดและความรู้สึกดีๆมากกว่าอย่างอื่น

สีหน้าของลู่จิ้นยวนอย่างกับกำลังครุ่นคิด จากนั้นเขาก็ใช้ความคิดที่ว่าไม่อยากให้ลูกชายของตัวเองไม่มีความสุข เพื่อปกปิดความผิดปกติของเขา

ลู่อันหรานทำได้แค่จ้องมองโทรศัพท์ที่ถูกฉกไปอย่างหน้าตาเชย "เว้ย พ่อ นี่คุณพ่อกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของผมอยู่นะครับ รีบคืนโทรศัพท์ของผมกลับมาเดียวนี้เลยนะ"

ทันทีที่เสียงพูดจบ ลู่จิ้นยวนถึงตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของเขาดูแปลกมากแค่ไหน ถึงแม้เขาจะยังไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้ลู่อันหรานทันที

เมื่อเห็นใบหน้าของลู่อันหรานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แก้มที่ดูนูนขึ้นมาเหมือนซาลาเปาเล็ก ๆเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก ลู่จิ้นยวนก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบง่ายว่า " ไปทานอาหารเช้าก่อน ดื่มนมให้หมดด้วย แล้วพ่อจะคืนโทรศัพท์ให้ลูกเอง"

ปกติลู่อันหรานทานข้าวจะเป็นคนจู้จี้จุกจิกตลอดโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ชอบดื่มนม ตอนนี้ลู่จิ้นยวนได้ถือไพ่เหนือกว่าเขา น้ำเสียงของลู่จิ้นยวนเต็มไปด้วยคำขู่อย่างเห็นได้ชัด

"คุณพ่อ … นี่เป็นการรังแกกันชัดๆ " ลู่อันหรานเรียกว่าทำอะไรไม่ถูก ตั้งแต่เล็กจนโตสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือเรื่องดื่มนม ทุกครั้งเขาพยายามหาทางหลีกเลี่ยงมัน แต่ครั้งนี้เขาเหมือนโดนถูกตัดสินโทษยังไงไม่รู้ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

"หือ ลูกไม่อยากได้โทรศัพท์มือถือคืนเหรอ" ลู่จิ้นยวนเพิกเฉยไม่สนใจต่อคำประท้วงเล็ก ๆ ของเขา " ถ้าไม่ทานอาหารเช้าให้หมด ก็อย่ามารบกวนพ่อนะ"

ขณะที่พูด เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่ลู่อันหรานรักและห่วงมาก จากไปอย่างง่ายดายโดยทิ้งให้เขาอยู่ตรงโต๊ะอาหารเช้าคนเดียว เขาได้แต่ทำหน้าบึ้งและค่อยๆจัดการทานผักและนมที่เขาไม่ชอบเข้าไป

หลังจากที่เดินมาถึงที่ห้องหนังสือ ลู่จิ้นยวนได้โทรไปหาผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลโดยตรง หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าคนที่มาเยี่ยมนั้นเป็นผู้หญิง สีหน้าเศร้าหมองของเขาก็ผ่อนคลายลงบ้าง

นิ้วมือก็สัมผัสไปบนหน้าจอ "เป็นผู้หญิง"

โม่โยวที่อยู่ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ได้เห็นข้อความที่ดูแปลก ๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบตามความเป็นจริงว่า " เดาถูกแล้วค่ะ เป็นเพื่อนผู้หญิงของฉันคนหนึ่ง "

เมื่อเห็นข้อความดังกล่าว มุมริมฝีปากของลู่จิ้นยวนที่โค้งแน่นได้ผ่อนคลายเล็กน้อย “ คุณอยู่ที่นั้นคนเดียว ไม่น่าเบื่อเหรอ คนในครอบครัวของคุณล่ะอยู่ที่ไหน ”

โม่โยวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เรื่องขอเธอค่อนข้างวุ่นวายสบสนเป็นพิเศษ เธอไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้กับเด็กอายุห้าขวบ " อืม … คนในครอบครัวฉันอยู่ในต่างจังหวัดกันหมด ไม่สะดวกกลับมา มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็เลยไม่อยากให้พวกเขาต้องกังวล "

ลู่จิ้นยวนสามารถสัมผัสถึงความเหงาเดียวดายของเธอ จากข้อความสั้นๆในสองสามบรรทัดนี้

ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังต้องทนกลั้นเอาไว้ไม่ยอมบอกให้คนในครอบครัวรับรู้ สามารถบอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างที่จะเข้มแข็งมาก หรือไม่กล้าที่จะพึ่งพาคนอื่น

"ถ้ามีเวลาว่างล่ะก็ เดียวผมไปเยึ่ยมคุณนะครับ " ลู่จิ้นยวนได้ตอบกลับข้อความหนึ่งว่า " ถ้าตอนนี้มีอะไรขาดเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่นั่นได้โดยตรง หากมีกันล่าช้าอะไรต่อคุณแล้วล่ะก็ สามารถบอกฉันได้เลยนะครับ"

โม่โยวได้แต่จ้องมองข้อความบนวีแชทอันยาวเหยียดนี้ด้วยความงุนงง เธอไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า เธอรู้สึกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือประโยคข้อความนี้เธอดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็กห้าขวบพูด ถึงแม้ว่าปกติแล้วลู่อันหรานจะชอบแสร้งทำเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ได้องอาจและเอาแต่ใจมากขนาดนี้

หรือว่าจะเป็นลู่จิ้นยวนหรือเปล่า

ความคิดนี้ได้ลอยเข้าไปมาในหัวสมองของเธอแค่ชั่ววินาที แล้วโม่โยวก็ส่ายหัวขึ้นมาทันที เมื่อวานนี้เธอถึงกับตั้งใจไปสืบข้อมูลของลู่จิ้นยวนมาอย่างพิเศษ คนเขาเป็นถึงประธานผู้บริหารใหญ่ที่วันๆนั้นยุ่งมาก จะเอาเวลาที่ไหนมาส่งข้อความให้กับคนอย่างเธอ

หลังจากที่คิดฟุ้งซ่านอยู่พักหนึ่ง โม่โยวก็นึกถึงปัญหาต่างๆที่จะตามมา " หนูอย่ามาเลยดีกว่า ถ้าหากหนูได้รับอุบัติเหตุอันตรายอะไรขึ้นมาจะทำยังไงดี คนในครอบครัวของหนูคงจะทนทุกข์ทรมานไม่ได้"

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ในเวลาเดียวกัน ตรงประตูของห้องหนังสือก็ถูกผลักออกด้วยมือเล็ก ๆ คู่หนึ่ง ขณะที่เดินเข้ามาเพื่อที่จะมาเอาโทรศัพท์คืน ในมือของลู่อันหรานได้หยิบกระดาษทิชชู่กำลังเช็คคราบนมที่ริมฝีปากของเขา " ผมทานหมดแล้วครับ ถ้าไม่เชื่อคุณพ่อก็ไปตรวจเช็คดูได้เลยครับ รีบคืนโทรศัพท์ให้ผมเร็ว ๆ เลยนะ "

ลู่จิ้นยวนไม่ได้กลั่นแกล้งเขาอีกต่อไป แล้วทำการคืนโทรศัพท์มือถือให้เขา ลู่อันหรานรีบกดดูข้อความในนั้นทันที "คุณพ่อ ทำไมคุณพ่อถึงทำแบบนี้ ถึงได้ใช้วีแชทของผมไปแชทคุยกับผู้หญิงคนอื่นเขา คุณพ่อไม่อายเหรอ"

"ฝ่ายนู้นยังรอการตอบกลับของลูกอยู่น่ะ " ลู่จิ้นยวนไม่สนใจกับคำถามของเขา

"อู้ … ทำไมเธอถึงไม่ให้ฉันไปด้วยตัวเอง งั้นผมก็ให้ใครคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนกับผมก็จบเรื่อง " ลู่อันหรานเอียงศีรษะเล็กน้อย ไม่ได้คิดว่านี่จะเป็นปัญหาอะไรสำหรับเขา ที่บ้านมีบอดี้การ์ดมากมาย แค่เลือกเอาสองสามคนไปก็จบ

"ไม่ได้ พ่อไม่ไว้ใจ " ลู่จิ้นยวนปฏิเสธอย่างไม่เกรงใจ

"งั้น … " ลู่อันหรานพูดอะไรไม่ออก นี่ยังมีอะไรที่ไม่ไว้ใจอีก บอดี้การ์ดของตระกูลลู่ทุกคนนั้นได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ต่อให้เป็นหนึ่งต่อสิบมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยนะ

"พ่อจะไปกับลูกเอง " ลู่จิ้นยวนหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาดูอย่างสบายใจ

"… " จู่ๆลู่อันหรานก็สำลักน้ำลายจนพูดอะไรไม่ออก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ที่คุณพ่อพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องไม่มีเจนตนาดีอะไร" พ่อไป ผมจะต้องอัดอึดมากแค่ไหน … "

ความประทับใจที่ลู่อันหรานมีต่อพ่อคนนี้นั้น คือยอดเยี่ยม องอาจมาก แต่กับน่าเบื่อ และเข้มงวดมากอีกด้วย

ถ้าเขาไปด้วย เธอจะต้องถูกบ่นจนไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่ ถึงเวลานั้นถูกสั่งนั้นถูกสั่งนี้ต่อหน้าสาวๆ มันจะน่าอายขนาดไหนกัน

"ลูกลองคิดดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถ้าให้เกิดขึ้นอีกครั้ง พ่อจะทำยังไงกับลูก"

ลู่จิ้นยวนสีหน้าไม่ไยดี ถ้าเขากล้าทำอะไรแบบนั้นอีก นายท่านจะต้องฆ่าบีบคอเขาเป็นแน่

“ นั่น มันเป็นอุบัติเหตุนี่ครับ ” ลู่อันหรานรู้ว่าเขาผิด “ ผมขอบอกโยวโยวก่อน”

ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เฝ้ามองปฏิกิริยาเจ้าตัวเล็กที่ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง

"ไม่ต้องห่วง พ่อจะส่งผมไป ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา"

โม่โยวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ลู่จิ้นยวนนั้นยุ่งมากไม่ใช่เหรอ

“ มันจะทำให้เขาเสียเวลามากไปหรือเปล่า”

"ไม่หรอกครับ งั้นตกลงตามนี้นะครับ " ลู่อันหรานรีบทำการสรุปทันที เมื่อเห็นว่าธุระพูดจบแล้ว จึงได้เขย่าโทรศัพท์ในมือของเขาอย่างมีชัยไปที่ลู่จิ้นยวน " ในเมื่อทุกอย่างจบและลงตัวแล้ว งั่นผมขอตัวก่อนนะครับ"

“ เดี๋ยวก่อน” ลู่จิ้นยวนได้เรียกเขาไว้

“ ยัง … ยังมีอะไรเหรอครับ ” ลู่อันหรานรู้สึกได้ว่าถ้าพ่อเขาอ้าปากพูดเมื่อไร จะต้องไม่มีอะไรดีเป็นแน่ รีบทำการซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง

"เอาวิธีการติดต่อของเธอให้พ่อ " ลู่จิ้นยวนพูดอย่างน้ำเสียงปกติ

ลู่อันหรานเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ จากนั้นราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ จู่ๆเขาก็ยิ้มแล้วโน้มตัวเข้าไปข้างหน้า “ นี่พ่อ พูดตามตรง ที่พ่อแย้งโทรศัพท์ของผมไปในวันนี้ เป็นเพราะเมื่อวานนี้คุณพ่อทิ้งเบอร์โทรไว้ คนเขาไม่ได้สนใจใช่หรือเปล่า ”

ลู่อันหรานยิ่งคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกตลก เมื่อวานพ่อเขานั้นหล่อมากและยังแสร้งทำเป็นยื่นนามบัตรแล้วก็เดินจากไปเลย ผลก็คือ คนเขาไม่สนใจเขา …

นี่แหละนะ ที่คนเขาว่ากันว่าอย่าเอาเล่นตัว ประเดี๋ยวจะโดนฟ้าผ่าเอา

ลู่จิ้นยวนกำมือที่ถือหนังสือไว้แน่น จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วทำการกดเลขแล้วโทรออกไป " เฮ้ ที่ฉันตรงนี้มีคนที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง … "

"อย่าอย่าอย่า " ลู่อันหรานรีบแย้งคว้าโทรศัพท์มือถือมา "ไม่มีอะไร เขาแค่ล้อเล่นน่ะ ฮ่า ๆ "

หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเอาไอดีวีแชทของโม่โยวแนะนำให้กับลู่จิ้นยวนไปอย่างรวดเร็ว และในขณะที่กำลังกดส่งออกไปเขาก็อดที่จะบ่นไม่ได้ " นี่มันไม่ใช่ ที่เขาเรียกการว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก … "

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บ่วงแค้นแสนรัก 302 ผู้ใหญ่รังแกเด็ก

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 302 ผู้ใหญ่รังแกเด็ก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"โอ้" ลู่จิ้นยวนถึงกับต้องทำตาเหล่ เมื่อถูกเด็กวัยห้าขวบพูดอย่างงี้ เขาทนไม่ได้จริงๆ "นี่ลูกกำลังหมายความว่า ลูกอกหักงั้นเหรอ"

ลู่จิ้นยวนสังเกตเห็นข้อความบนโทรศัพท์มือถือของเขา ก็หยิบมาดูอย่างไม่มีความเกรงใจใดๆ เป็นข้อความวีแชทของผู้หญิงคนเมื่อวานนี้

เมื่อดูประวัติการแชทล่าสุดของทั้งสองคน ดวงตาของชายหนุ่มคนค่อยๆหรี่ตาลง

นี่ผู้หญิงคนนั้น กำลังคบกับผู้ชายคนอื่นจริงๆหรือ

จู่ๆ ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกอึดอัดไม่พอใจขึ้นมา แต่เขาก็รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง …

ก็แค่ผู้หญิงที่เพิ่งจะรู้จักกันเท่านั้นเอง ก็แค่เคยช่วยลู่อันหรานไว้แค่นั้น เป็นไปได้ไงที่เขาจะมีความคิดและความรู้สึกดีๆมากกว่าอย่างอื่น

สีหน้าของลู่จิ้นยวนอย่างกับกำลังครุ่นคิด จากนั้นเขาก็ใช้ความคิดที่ว่าไม่อยากให้ลูกชายของตัวเองไม่มีความสุข เพื่อปกปิดความผิดปกติของเขา

ลู่อันหรานทำได้แค่จ้องมองโทรศัพท์ที่ถูกฉกไปอย่างหน้าตาเชย "เว้ย พ่อ นี่คุณพ่อกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของผมอยู่นะครับ รีบคืนโทรศัพท์ของผมกลับมาเดียวนี้เลยนะ"

ทันทีที่เสียงพูดจบ ลู่จิ้นยวนถึงตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของเขาดูแปลกมากแค่ไหน ถึงแม้เขาจะยังไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้ลู่อันหรานทันที

เมื่อเห็นใบหน้าของลู่อันหรานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แก้มที่ดูนูนขึ้นมาเหมือนซาลาเปาเล็ก ๆเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก ลู่จิ้นยวนก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบง่ายว่า " ไปทานอาหารเช้าก่อน ดื่มนมให้หมดด้วย แล้วพ่อจะคืนโทรศัพท์ให้ลูกเอง"

ปกติลู่อันหรานทานข้าวจะเป็นคนจู้จี้จุกจิกตลอดโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ชอบดื่มนม ตอนนี้ลู่จิ้นยวนได้ถือไพ่เหนือกว่าเขา น้ำเสียงของลู่จิ้นยวนเต็มไปด้วยคำขู่อย่างเห็นได้ชัด

"คุณพ่อ … นี่เป็นการรังแกกันชัดๆ " ลู่อันหรานเรียกว่าทำอะไรไม่ถูก ตั้งแต่เล็กจนโตสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือเรื่องดื่มนม ทุกครั้งเขาพยายามหาทางหลีกเลี่ยงมัน แต่ครั้งนี้เขาเหมือนโดนถูกตัดสินโทษยังไงไม่รู้ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

"หือ ลูกไม่อยากได้โทรศัพท์มือถือคืนเหรอ" ลู่จิ้นยวนเพิกเฉยไม่สนใจต่อคำประท้วงเล็ก ๆ ของเขา " ถ้าไม่ทานอาหารเช้าให้หมด ก็อย่ามารบกวนพ่อนะ"

ขณะที่พูด เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่ลู่อันหรานรักและห่วงมาก จากไปอย่างง่ายดายโดยทิ้งให้เขาอยู่ตรงโต๊ะอาหารเช้าคนเดียว เขาได้แต่ทำหน้าบึ้งและค่อยๆจัดการทานผักและนมที่เขาไม่ชอบเข้าไป

หลังจากที่เดินมาถึงที่ห้องหนังสือ ลู่จิ้นยวนได้โทรไปหาผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลโดยตรง หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าคนที่มาเยี่ยมนั้นเป็นผู้หญิง สีหน้าเศร้าหมองของเขาก็ผ่อนคลายลงบ้าง

นิ้วมือก็สัมผัสไปบนหน้าจอ "เป็นผู้หญิง"

โม่โยวที่อยู่ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ได้เห็นข้อความที่ดูแปลก ๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบตามความเป็นจริงว่า " เดาถูกแล้วค่ะ เป็นเพื่อนผู้หญิงของฉันคนหนึ่ง "

เมื่อเห็นข้อความดังกล่าว มุมริมฝีปากของลู่จิ้นยวนที่โค้งแน่นได้ผ่อนคลายเล็กน้อย “ คุณอยู่ที่นั้นคนเดียว ไม่น่าเบื่อเหรอ คนในครอบครัวของคุณล่ะอยู่ที่ไหน ”

โม่โยวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เรื่องขอเธอค่อนข้างวุ่นวายสบสนเป็นพิเศษ เธอไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้กับเด็กอายุห้าขวบ " อืม … คนในครอบครัวฉันอยู่ในต่างจังหวัดกันหมด ไม่สะดวกกลับมา มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็เลยไม่อยากให้พวกเขาต้องกังวล "

ลู่จิ้นยวนสามารถสัมผัสถึงความเหงาเดียวดายของเธอ จากข้อความสั้นๆในสองสามบรรทัดนี้

ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังต้องทนกลั้นเอาไว้ไม่ยอมบอกให้คนในครอบครัวรับรู้ สามารถบอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างที่จะเข้มแข็งมาก หรือไม่กล้าที่จะพึ่งพาคนอื่น

"ถ้ามีเวลาว่างล่ะก็ เดียวผมไปเยึ่ยมคุณนะครับ " ลู่จิ้นยวนได้ตอบกลับข้อความหนึ่งว่า " ถ้าตอนนี้มีอะไรขาดเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่นั่นได้โดยตรง หากมีกันล่าช้าอะไรต่อคุณแล้วล่ะก็ สามารถบอกฉันได้เลยนะครับ"

โม่โยวได้แต่จ้องมองข้อความบนวีแชทอันยาวเหยียดนี้ด้วยความงุนงง เธอไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า เธอรู้สึกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือประโยคข้อความนี้เธอดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็กห้าขวบพูด ถึงแม้ว่าปกติแล้วลู่อันหรานจะชอบแสร้งทำเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ได้องอาจและเอาแต่ใจมากขนาดนี้

หรือว่าจะเป็นลู่จิ้นยวนหรือเปล่า

ความคิดนี้ได้ลอยเข้าไปมาในหัวสมองของเธอแค่ชั่ววินาที แล้วโม่โยวก็ส่ายหัวขึ้นมาทันที เมื่อวานนี้เธอถึงกับตั้งใจไปสืบข้อมูลของลู่จิ้นยวนมาอย่างพิเศษ คนเขาเป็นถึงประธานผู้บริหารใหญ่ที่วันๆนั้นยุ่งมาก จะเอาเวลาที่ไหนมาส่งข้อความให้กับคนอย่างเธอ

หลังจากที่คิดฟุ้งซ่านอยู่พักหนึ่ง โม่โยวก็นึกถึงปัญหาต่างๆที่จะตามมา " หนูอย่ามาเลยดีกว่า ถ้าหากหนูได้รับอุบัติเหตุอันตรายอะไรขึ้นมาจะทำยังไงดี คนในครอบครัวของหนูคงจะทนทุกข์ทรมานไม่ได้"

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ในเวลาเดียวกัน ตรงประตูของห้องหนังสือก็ถูกผลักออกด้วยมือเล็ก ๆ คู่หนึ่ง ขณะที่เดินเข้ามาเพื่อที่จะมาเอาโทรศัพท์คืน ในมือของลู่อันหรานได้หยิบกระดาษทิชชู่กำลังเช็คคราบนมที่ริมฝีปากของเขา " ผมทานหมดแล้วครับ ถ้าไม่เชื่อคุณพ่อก็ไปตรวจเช็คดูได้เลยครับ รีบคืนโทรศัพท์ให้ผมเร็ว ๆ เลยนะ "

ลู่จิ้นยวนไม่ได้กลั่นแกล้งเขาอีกต่อไป แล้วทำการคืนโทรศัพท์มือถือให้เขา ลู่อันหรานรีบกดดูข้อความในนั้นทันที "คุณพ่อ ทำไมคุณพ่อถึงทำแบบนี้ ถึงได้ใช้วีแชทของผมไปแชทคุยกับผู้หญิงคนอื่นเขา คุณพ่อไม่อายเหรอ"

"ฝ่ายนู้นยังรอการตอบกลับของลูกอยู่น่ะ " ลู่จิ้นยวนไม่สนใจกับคำถามของเขา

"อู้ … ทำไมเธอถึงไม่ให้ฉันไปด้วยตัวเอง งั้นผมก็ให้ใครคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนกับผมก็จบเรื่อง " ลู่อันหรานเอียงศีรษะเล็กน้อย ไม่ได้คิดว่านี่จะเป็นปัญหาอะไรสำหรับเขา ที่บ้านมีบอดี้การ์ดมากมาย แค่เลือกเอาสองสามคนไปก็จบ

"ไม่ได้ พ่อไม่ไว้ใจ " ลู่จิ้นยวนปฏิเสธอย่างไม่เกรงใจ

"งั้น … " ลู่อันหรานพูดอะไรไม่ออก นี่ยังมีอะไรที่ไม่ไว้ใจอีก บอดี้การ์ดของตระกูลลู่ทุกคนนั้นได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ต่อให้เป็นหนึ่งต่อสิบมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยนะ

"พ่อจะไปกับลูกเอง " ลู่จิ้นยวนหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาดูอย่างสบายใจ

"… " จู่ๆลู่อันหรานก็สำลักน้ำลายจนพูดอะไรไม่ออก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ที่คุณพ่อพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องไม่มีเจนตนาดีอะไร" พ่อไป ผมจะต้องอัดอึดมากแค่ไหน … "

ความประทับใจที่ลู่อันหรานมีต่อพ่อคนนี้นั้น คือยอดเยี่ยม องอาจมาก แต่กับน่าเบื่อ และเข้มงวดมากอีกด้วย

ถ้าเขาไปด้วย เธอจะต้องถูกบ่นจนไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่ ถึงเวลานั้นถูกสั่งนั้นถูกสั่งนี้ต่อหน้าสาวๆ มันจะน่าอายขนาดไหนกัน

"ลูกลองคิดดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถ้าให้เกิดขึ้นอีกครั้ง พ่อจะทำยังไงกับลูก"

ลู่จิ้นยวนสีหน้าไม่ไยดี ถ้าเขากล้าทำอะไรแบบนั้นอีก นายท่านจะต้องฆ่าบีบคอเขาเป็นแน่

“ นั่น มันเป็นอุบัติเหตุนี่ครับ ” ลู่อันหรานรู้ว่าเขาผิด “ ผมขอบอกโยวโยวก่อน”

ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เฝ้ามองปฏิกิริยาเจ้าตัวเล็กที่ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง

"ไม่ต้องห่วง พ่อจะส่งผมไป ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา"

โม่โยวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ลู่จิ้นยวนนั้นยุ่งมากไม่ใช่เหรอ

“ มันจะทำให้เขาเสียเวลามากไปหรือเปล่า”

"ไม่หรอกครับ งั้นตกลงตามนี้นะครับ " ลู่อันหรานรีบทำการสรุปทันที เมื่อเห็นว่าธุระพูดจบแล้ว จึงได้เขย่าโทรศัพท์ในมือของเขาอย่างมีชัยไปที่ลู่จิ้นยวน " ในเมื่อทุกอย่างจบและลงตัวแล้ว งั่นผมขอตัวก่อนนะครับ"

“ เดี๋ยวก่อน” ลู่จิ้นยวนได้เรียกเขาไว้

“ ยัง … ยังมีอะไรเหรอครับ ” ลู่อันหรานรู้สึกได้ว่าถ้าพ่อเขาอ้าปากพูดเมื่อไร จะต้องไม่มีอะไรดีเป็นแน่ รีบทำการซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง

"เอาวิธีการติดต่อของเธอให้พ่อ " ลู่จิ้นยวนพูดอย่างน้ำเสียงปกติ

ลู่อันหรานเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ จากนั้นราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ จู่ๆเขาก็ยิ้มแล้วโน้มตัวเข้าไปข้างหน้า “ นี่พ่อ พูดตามตรง ที่พ่อแย้งโทรศัพท์ของผมไปในวันนี้ เป็นเพราะเมื่อวานนี้คุณพ่อทิ้งเบอร์โทรไว้ คนเขาไม่ได้สนใจใช่หรือเปล่า ”

ลู่อันหรานยิ่งคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกตลก เมื่อวานพ่อเขานั้นหล่อมากและยังแสร้งทำเป็นยื่นนามบัตรแล้วก็เดินจากไปเลย ผลก็คือ คนเขาไม่สนใจเขา …

นี่แหละนะ ที่คนเขาว่ากันว่าอย่าเอาเล่นตัว ประเดี๋ยวจะโดนฟ้าผ่าเอา

ลู่จิ้นยวนกำมือที่ถือหนังสือไว้แน่น จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วทำการกดเลขแล้วโทรออกไป " เฮ้ ที่ฉันตรงนี้มีคนที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง … "

"อย่าอย่าอย่า " ลู่อันหรานรีบแย้งคว้าโทรศัพท์มือถือมา "ไม่มีอะไร เขาแค่ล้อเล่นน่ะ ฮ่า ๆ "

หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเอาไอดีวีแชทของโม่โยวแนะนำให้กับลู่จิ้นยวนไปอย่างรวดเร็ว และในขณะที่กำลังกดส่งออกไปเขาก็อดที่จะบ่นไม่ได้ " นี่มันไม่ใช่ ที่เขาเรียกการว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก … "

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+