บ่วงแค้นแสนรัก 329 เกมผีบ้าผีบอ

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 329 เกมผีบ้าผีบอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พี่สาวคนสวย นี่คือพ่อแล้วก็แม่ของผมเอง”

เจ้าตัวเล็กที่ยังเยาว์วัยอยู่ แต่พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องพอตัว

โม่โยวตัวแข็งทื่อ เคราะห์ซวยอีกครั้ง เพราะคำว่าพ่อกับแม่สองคำนี้ในภาษาฝรั่งเศส เธอก็รู้เช่นกัน แต่ลู่อันหรานนั้นไม่เหมือนกับลู่จิ้นยวน

สำหรับลูกชายตนเองแล้ว เธอก็ไม่อาจที่จะโต้เถียงออกไปได้ จึงทำได้เพียงยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน

ลู่จิ้นยวนยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ จ้องมองไปที่ลูกชายเจ้าตัวยุ่งของตัวแล้วก็พลันรู้สึกว่าดูรื่นหูรื่นตาอยู่เหมือนกัน

เด็กสาวที่ขายดอกไม้แม้จะรู้สึกได้ว่าลูกชายบ้านนี้จะประหลาดอยู่มากก็ตาม แต่ก็ยังยิ้มและเอ่ยออกมาอีกครั้งว่า “คุณผู้ชายคะ ซื้อดอกไม้สักช่อให้คุณผู้หญิงสิคะ และขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ”

ลู่จิ้นยวนอารมณ์ดี โบกธนบัตรใบใหญ่ แล้วหยิบเอาตะกร้าดอกกุหลายมา โดยซื้อทั้งหมดรวมไปถึงตะกร้ามาด้วยเลย

“โม่โยว สุขสันต์วันแห่งความรักนะ” เขาส่งดอกไม้ไปให้เธอ ประโยคที่พูดออกไปนั้นพูดด้วยภาษาฝรั่งเศส

ลู่จิ้นยวนกดน้ำเสียงให้ทุ้มต่ำลง มองมาด้วยสายตาที่ลุ่มลึก ทำให้ใจของโม่โยวกระตุกวูบ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นจนเริ่มที่จะควบคุมไม่อยู่ เธอกระแอมไอเบาๆ หนึ่งที ไม่ได้รับดอกไม้ดอกเดียวที่เขายื่นมาให้ แต่หยิบทั้งตะกร้านั้นมาแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า

“เด็กผู้หญิงคนนั้นขายดอกไม้อย่างยากลำบาก ซื้อมาก็ดีแล้ว”

เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้จุดประสงค์ของเขากลายมาเป็นเรื่องเจตนาดีแทน ลู่จิ้นยวนหัวเราะออกมาเบาๆ และไม่ได้สนใจอะไรนัก

ไม่ผิด วันนี้คือวันแห่งความรัก

เทศกาลแบบนี้ ลู่จิ้นยวนมักไม่สนใจอะไรนัก แต่เพราะได้รับข้อความเตือนมาจากอันเฉินเมื่อเช้านี้ถึงได้พึ่งรู้เรื่อง เขาพึงพอใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ช่างสมกับที่เป็นผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติจริงๆ ตอนที่เจ้านายตนเองกำลังตามตื้อคนอยู่ ก็ส่งข้อความมาช่วยเหลือในทันที

“แม่ครับ ตรงนั้นคนเยอะมากเลย” เสียงของลู่อันหรานดึงความสนใจของทั้งสองคนกลับมา

ด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง บนสนามหญ้าอันกว้างใหญ่มีเวทีตั้งอยู่ ที่มุมสุดของทั้งสองด้านมีป้ายห้อยเอาไว้ และมีคนมุงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

มีชายหนุ่มรูปงามชาวประเทศF กำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่บนเวที ดูแล้วคึกคักเป็นอย่างมาก

“นี่กำลังจัดงานอะไรกันอยู่นะ” โม่โยวเอ่ยถาม

ลู่จิ้นยวนดึงลู่อันหรานขึ้นมาอุ้มด้วยมือเดียว “ไปกันเถอะ เข้าไปดูก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร”

มาเที่ยวเล่นที่ต่างประเทศ แล้วบังเอิญได้เจอเข้ากับกิจกรรมท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โม่โยวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งสามคนเดินเข้าไป ด้วยลักษณะนิสัยใจกล้าบ้าบิ่นของเจ้าตัวเล็กจึงทำให้รู้สึกไม่อยากที่จะยืนอยู่บริเวณด้านหลัง จึงไม่ลังเลที่จะทำให้ดวงตากลมโตดูน่ารักน่าชังเป็นที่สุด แล้วปากก็พูดจาเจื้อยแจ้วหวานหยาดเยิ้ม

เมื่อเจอผู้ชายก็เรียกพี่ชายสุดหล่อ เมื่อเห็นผู้หญิงก็เรียกพี่สาวสุดสวย ใช้ประโยชน์จากใบหน้ายิ้มแย้มอันน่ารัก กุมหัวใจของชายหญิงทั้งกลุ่มที่อยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างล้วนแต่หลีกทางให้เจ้าตัวน้อย เพื่อให้เขาไปดูอยู่ที่ด้านหน้าทันที

โม่โยวหัวเราะออกมาเบาๆ อดไม่ได้ที่จะยีหัวของลูกชาย

ความหน้าตาดีของพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ดึงดูดคนจำนวนไม่น้อยให้มามุงล้อมรอบดู และสิ่งที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปก็คือคนครอบครัวนี้ล้วนแล้วแต่มีผมสีดำ ซ้ำแล้วนัยน์ตาก็สีดำอีกด้วย เป็นชาวเอเชียอย่างชัดเจน จึงยิ่งเรียกความสนใจให้คนมาดู

ในขณะเดียวกัน คนที่สังเกตเห็นพวกเขาก็รวมไปจนถึงพิธีกรที่อยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน

ดวงตาของพิธีกรหนุ่มสุดหล่อก็เป็นประกาย รีบกระโดดลงมาทันที “ทั้งสองท่านมาลองร่วมกิจกรรมของเราดีกว่าครับ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีรางวัลปลอบใจให้ คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้ของรางวัลชิ้นใหญ่จากเราไปด้วยนะครับ”

นี่เป็นการเชื้อเชิญที่พิธีกรถึงกับลงมาเสนอเองกับตัวเลย บรรดาผู้คนที่ล้อมรอบก็ส่งเสียงเชียร์ทั้งสองคนขึ้นมาทันที ให้ทั้งสองคนนั้นขึ้นบนเวทีไป

โม่โยวฟังไม่เข้าใจ จึงทำได้เพียงมองไปที่ลู่จิ้นยวน

ลู่จิ้นยวนนัยน์ตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วจึงยิ้มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เสี่ยวอันหรานที่อยู่ในอ้อมแขนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา “แม่ เขาให้แม่กับพ่อขึ้นไปเล่นเกม”

ห๊ะ?

โม่โยวตัวนิ่งค้างไป เธอเล่นเกมเป็นเสียที่ไหนกันล่ะ

แต่ลู่อันหรานเจ้าเพื่อนตัวน้อยอยากจะเห็นพวกพวกเธอเล่นเกมเอามากๆ ดิ้นจนหลุดออกมาจากอ้อมแขน แล้วจูงมือของทั้งสองคนให้ขึ้นไปบนเวที

ลู่จิ้นยวนมุมปากยกขึ้นยิ้ม เดินขึ้นเวทีตามน้ำไป โม่โยวขัดขืนเล็กน้อย ยากราวกับต้อนเป็ดให้ขึ้นเวที แถมยังเป็นการถูกเจ้าลูกชายของตัวเองต้อนเอาเสียด้วย

“แม่ สู้ๆ นะครับ” เจ้าตัวน้อยเกาะอยู่ที่ขอบเวที เอามือกำเป็นหมัดน้อยๆ แล้วตะโกนออกมาเสียงดัง

โม่โยวยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรดี

ทันใดนั้นเอง ที่บริเวณรอบเอวก็ถูกรัดแน่นขึ้น ลู่จิ้นยวนเอาแขนโอบเธอไว้ “วางใจได้ ไม่ใช่ว่ามีผมอยู่ทั้งคนด้วยเหรอ”

เธอเม้มริมฝีปาก ขยับตัวเล็กน้อยอย่างทนไม่ไหว คิดที่จะให้มือของเขาคลายออก

ฝ่ามือของลู่จิ้นยวนกลับคว้ารัดเอาไว้แน่นขึ้น “อย่าขยับสิ พวกเราเป็นพ่อกับแม่ของอันหรานนะ เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าอยากจะปฏิเสธต่อต้านฉันแบบนี้ต่อหน้าลูก”

โม่โยวตัวนิ่งไป ขมวดคิ้วออกมาอย่างเหลืออด พูดโต้เขากลับไปว่า “อันหรานรู้ดีอยู่แล้ว”

แม้ว่าลูกชายจะยังเล็กอยู่ แต่เธอก็รู้อย่างแน่ชัดอยู่แล้วว่า อันหรานไม่เหมือนกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ฉลาดหลักแหลมมาก สถานการณ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับลู่จิ้นยวนนั้น เธอไม่เชื่อว่าลูกชายจะไม่เข้าใจ

“เขารู้เรื่องก็จริง แต่รู้ก็ส่วนรู้ แต่กลับไม่ได้เป็นตัวแทนของความคาดหวังในสิ่งที่เขาอยากจะเห็น อันหรานน่ะอ่อนไหวมาก แล้วก็ไม่มีเด็กคนไหนหรอกที่ไม่คาดหวังที่จะได้เห็นพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

โม่โยว “……….”

เธอกัดฟันกรอดอยู่เงียบๆ แต่กลับไม่มีทางใดที่จะโต้เถียงกลับได้เลย

ลู่จิ้นยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดึงโม่โยวให้ยืนอยู่บนเวที แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พวกเรามาคิดกันดีกว่าว่า จะรับมือกับเรื่องในตอนนี้ยังไงดี”

โม่โยวสีหน้าไร้อารมณ์ “ก็เป็นแค่เกม”

“แต่ว่า……..ดูเหมือนเจ้าลูกชาย จะอยากให้พวกเราชนะเอามากๆ เลยนะ เธออยากเห็นเขาผิดหวังงั้นเหรอ” เอื้อนเอ่ยคำพูดนี้เบาๆ ออกมา

โม่โยว “………..”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องเขาตาเขม็งอย่างไม่สบอารมณ์ไปหนึ่งที ไอ้คนคนนี้ อย่าคิดว่าเธอจะโง่ดูไม่ออกว่าทุกๆ ครั้งเขาจะยกเอาเรื่องลูกมาพูดเป็นข้ออ้าง

แต่ว่าทุกครั้งทุกครา เธอก็ไร้คำที่จะเอ่ยออกไป

ในตอนนี้ เสี่ยวอันหรานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยก็ยังอยู่ตรงนั้น ตะเบ็งเสียงจนคอแข็งตะโกนเชียร์ออกมาอย่างสุดแรง สีหน้าท่าทางดูมีความสุขมาก ราวกับเชื่อมันเป็นอย่างมากว่าพวกเธอทั้งสองคนจะสามารถคว้าชัยชนะมาได้

โม่โยวเม้มมุมริมฝีปากเล็กน้อย ทำอย่างไรดี แต่ก็ทำได้เพียงส่งยิ้มให้เขาและหลังจากนั้นก็พยักหน้าให้ตามไปด้วย

“วางใจได้เลย เงื่อนไขการเล่นเกมนี้ค่อนข้างง่าย โดยทั่วไปตามปกติแล้วก็จะเป็นฝ่ายชายออกแรง ส่วนฝ่ายหญิงก็คอยสนับสนุน ก็มีแค่นี้แหละ” รอยยิ้มของลู่จิ้นยวนนั้นมีความนัยที่น่าสงสัย

อันที่จริงแล้ว ตอนที่อยู่บนสะพานแล้วเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยถือตะกร้าขายดอกกุหลาบอยู่ เธอก็พอจะจับสังเกตได้แล้วว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรักของฝรั่งเศส

แล้วกิจกรรมนี้ยังจัดขึ้นในวันนี้อีก ก็จะต้องเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น ชายหญิงที่ยืนอยู่เป็นแถวบนเวทีนั้น ทุกคู่ล้วนแล้วแต่เป็นแฟนกันหรือไม่ก็คู่สามีภรรยา

เงื่อนไขกติกาของเกมก็คือ มีทั้งหมดสามรอบคนที่สามารถยืนหยัดได้จนถึงรอบสุดท้ายจะได้คว้ามงกุฎและถือว่าชนะเลิศไป ดังนั้นจึงเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกไปเรื่อยๆ ตลอดการแข่งขัน ผู้แพ้จะได้รับรางวัลปลอบใจเล็กๆ น้อยๆ และสามารถเข้าร่วมสนุกอีกได้

รอบแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว

โม่โยวยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไร แต่ร่างทั้งร่างก็รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกลับหมุนคว้าง เธอถูกลู่จิ้นยวนอุ้มขึ้นมาแบบท่าเจ้าหญิง จึงทำให้เธอตื่นตกใจ “คุณทำอะไรน่ะ”

ลู่จิ้นยวนทำสีหน้าบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด “รอบแรก ฝ่ายชายจะต้องอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นมา ไม่มีจำกัดเวลา รอจนกว่าจะมีคนถูกคัดออกไปครึ่งหนึ่งจึงจบการแข่งขัน”

โม่โยว “………..”

นี่มันเกมผีบ้าอะไรกันเนี่ย

เธอมองขึ้นไปข้างบนอย่างช่วยไม่ได้ ผลปรากฏว่า คู่อื่นต่างก็ทำแบบนี้กันหมด

เกรงว่าที่ลู่จิ้นยวนเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องก่อนหน้าที่ตนจะสูญเสียความทรงจำนั้น ว่าเธอยังไม่เคยที่จะได้มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดแบบนี้กับเขาบ่อยมากนัก บริเวณเอวและขานั้นก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว

โม่โยวกัดริมฝีปาก หลับตาลงไปเสียอย่างนั้น ให้มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น พยายามทำให้สมองโล่งปลอดโปร่งอย่างสุดชีวิต ไม่คิดอะไรเลยเสียจะดีกว่า

แต่พูดนั้นแสนง่าย หลังจากที่เธอหลับตาลงแล้ว สัมผัสการรับรู้ของเธอกลับแหลมคมมากยิ่งขึ้น ลมหายใจอันมั่นคงของลู่จิ้นยวนที่อยู่ด้านบนก็กลับได้ยินเสียชัดถนัดสองหู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บ่วงแค้นแสนรัก 329 เกมผีบ้าผีบอ

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 329 เกมผีบ้าผีบอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พี่สาวคนสวย นี่คือพ่อแล้วก็แม่ของผมเอง”

เจ้าตัวเล็กที่ยังเยาว์วัยอยู่ แต่พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องพอตัว

โม่โยวตัวแข็งทื่อ เคราะห์ซวยอีกครั้ง เพราะคำว่าพ่อกับแม่สองคำนี้ในภาษาฝรั่งเศส เธอก็รู้เช่นกัน แต่ลู่อันหรานนั้นไม่เหมือนกับลู่จิ้นยวน

สำหรับลูกชายตนเองแล้ว เธอก็ไม่อาจที่จะโต้เถียงออกไปได้ จึงทำได้เพียงยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน

ลู่จิ้นยวนยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ จ้องมองไปที่ลูกชายเจ้าตัวยุ่งของตัวแล้วก็พลันรู้สึกว่าดูรื่นหูรื่นตาอยู่เหมือนกัน

เด็กสาวที่ขายดอกไม้แม้จะรู้สึกได้ว่าลูกชายบ้านนี้จะประหลาดอยู่มากก็ตาม แต่ก็ยังยิ้มและเอ่ยออกมาอีกครั้งว่า “คุณผู้ชายคะ ซื้อดอกไม้สักช่อให้คุณผู้หญิงสิคะ และขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ”

ลู่จิ้นยวนอารมณ์ดี โบกธนบัตรใบใหญ่ แล้วหยิบเอาตะกร้าดอกกุหลายมา โดยซื้อทั้งหมดรวมไปถึงตะกร้ามาด้วยเลย

“โม่โยว สุขสันต์วันแห่งความรักนะ” เขาส่งดอกไม้ไปให้เธอ ประโยคที่พูดออกไปนั้นพูดด้วยภาษาฝรั่งเศส

ลู่จิ้นยวนกดน้ำเสียงให้ทุ้มต่ำลง มองมาด้วยสายตาที่ลุ่มลึก ทำให้ใจของโม่โยวกระตุกวูบ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นจนเริ่มที่จะควบคุมไม่อยู่ เธอกระแอมไอเบาๆ หนึ่งที ไม่ได้รับดอกไม้ดอกเดียวที่เขายื่นมาให้ แต่หยิบทั้งตะกร้านั้นมาแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า

“เด็กผู้หญิงคนนั้นขายดอกไม้อย่างยากลำบาก ซื้อมาก็ดีแล้ว”

เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้จุดประสงค์ของเขากลายมาเป็นเรื่องเจตนาดีแทน ลู่จิ้นยวนหัวเราะออกมาเบาๆ และไม่ได้สนใจอะไรนัก

ไม่ผิด วันนี้คือวันแห่งความรัก

เทศกาลแบบนี้ ลู่จิ้นยวนมักไม่สนใจอะไรนัก แต่เพราะได้รับข้อความเตือนมาจากอันเฉินเมื่อเช้านี้ถึงได้พึ่งรู้เรื่อง เขาพึงพอใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ช่างสมกับที่เป็นผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติจริงๆ ตอนที่เจ้านายตนเองกำลังตามตื้อคนอยู่ ก็ส่งข้อความมาช่วยเหลือในทันที

“แม่ครับ ตรงนั้นคนเยอะมากเลย” เสียงของลู่อันหรานดึงความสนใจของทั้งสองคนกลับมา

ด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง บนสนามหญ้าอันกว้างใหญ่มีเวทีตั้งอยู่ ที่มุมสุดของทั้งสองด้านมีป้ายห้อยเอาไว้ และมีคนมุงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

มีชายหนุ่มรูปงามชาวประเทศF กำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่บนเวที ดูแล้วคึกคักเป็นอย่างมาก

“นี่กำลังจัดงานอะไรกันอยู่นะ” โม่โยวเอ่ยถาม

ลู่จิ้นยวนดึงลู่อันหรานขึ้นมาอุ้มด้วยมือเดียว “ไปกันเถอะ เข้าไปดูก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร”

มาเที่ยวเล่นที่ต่างประเทศ แล้วบังเอิญได้เจอเข้ากับกิจกรรมท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โม่โยวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งสามคนเดินเข้าไป ด้วยลักษณะนิสัยใจกล้าบ้าบิ่นของเจ้าตัวเล็กจึงทำให้รู้สึกไม่อยากที่จะยืนอยู่บริเวณด้านหลัง จึงไม่ลังเลที่จะทำให้ดวงตากลมโตดูน่ารักน่าชังเป็นที่สุด แล้วปากก็พูดจาเจื้อยแจ้วหวานหยาดเยิ้ม

เมื่อเจอผู้ชายก็เรียกพี่ชายสุดหล่อ เมื่อเห็นผู้หญิงก็เรียกพี่สาวสุดสวย ใช้ประโยชน์จากใบหน้ายิ้มแย้มอันน่ารัก กุมหัวใจของชายหญิงทั้งกลุ่มที่อยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างล้วนแต่หลีกทางให้เจ้าตัวน้อย เพื่อให้เขาไปดูอยู่ที่ด้านหน้าทันที

โม่โยวหัวเราะออกมาเบาๆ อดไม่ได้ที่จะยีหัวของลูกชาย

ความหน้าตาดีของพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ดึงดูดคนจำนวนไม่น้อยให้มามุงล้อมรอบดู และสิ่งที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปก็คือคนครอบครัวนี้ล้วนแล้วแต่มีผมสีดำ ซ้ำแล้วนัยน์ตาก็สีดำอีกด้วย เป็นชาวเอเชียอย่างชัดเจน จึงยิ่งเรียกความสนใจให้คนมาดู

ในขณะเดียวกัน คนที่สังเกตเห็นพวกเขาก็รวมไปจนถึงพิธีกรที่อยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน

ดวงตาของพิธีกรหนุ่มสุดหล่อก็เป็นประกาย รีบกระโดดลงมาทันที “ทั้งสองท่านมาลองร่วมกิจกรรมของเราดีกว่าครับ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีรางวัลปลอบใจให้ คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้ของรางวัลชิ้นใหญ่จากเราไปด้วยนะครับ”

นี่เป็นการเชื้อเชิญที่พิธีกรถึงกับลงมาเสนอเองกับตัวเลย บรรดาผู้คนที่ล้อมรอบก็ส่งเสียงเชียร์ทั้งสองคนขึ้นมาทันที ให้ทั้งสองคนนั้นขึ้นบนเวทีไป

โม่โยวฟังไม่เข้าใจ จึงทำได้เพียงมองไปที่ลู่จิ้นยวน

ลู่จิ้นยวนนัยน์ตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วจึงยิ้มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เสี่ยวอันหรานที่อยู่ในอ้อมแขนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา “แม่ เขาให้แม่กับพ่อขึ้นไปเล่นเกม”

ห๊ะ?

โม่โยวตัวนิ่งค้างไป เธอเล่นเกมเป็นเสียที่ไหนกันล่ะ

แต่ลู่อันหรานเจ้าเพื่อนตัวน้อยอยากจะเห็นพวกพวกเธอเล่นเกมเอามากๆ ดิ้นจนหลุดออกมาจากอ้อมแขน แล้วจูงมือของทั้งสองคนให้ขึ้นไปบนเวที

ลู่จิ้นยวนมุมปากยกขึ้นยิ้ม เดินขึ้นเวทีตามน้ำไป โม่โยวขัดขืนเล็กน้อย ยากราวกับต้อนเป็ดให้ขึ้นเวที แถมยังเป็นการถูกเจ้าลูกชายของตัวเองต้อนเอาเสียด้วย

“แม่ สู้ๆ นะครับ” เจ้าตัวน้อยเกาะอยู่ที่ขอบเวที เอามือกำเป็นหมัดน้อยๆ แล้วตะโกนออกมาเสียงดัง

โม่โยวยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรดี

ทันใดนั้นเอง ที่บริเวณรอบเอวก็ถูกรัดแน่นขึ้น ลู่จิ้นยวนเอาแขนโอบเธอไว้ “วางใจได้ ไม่ใช่ว่ามีผมอยู่ทั้งคนด้วยเหรอ”

เธอเม้มริมฝีปาก ขยับตัวเล็กน้อยอย่างทนไม่ไหว คิดที่จะให้มือของเขาคลายออก

ฝ่ามือของลู่จิ้นยวนกลับคว้ารัดเอาไว้แน่นขึ้น “อย่าขยับสิ พวกเราเป็นพ่อกับแม่ของอันหรานนะ เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าอยากจะปฏิเสธต่อต้านฉันแบบนี้ต่อหน้าลูก”

โม่โยวตัวนิ่งไป ขมวดคิ้วออกมาอย่างเหลืออด พูดโต้เขากลับไปว่า “อันหรานรู้ดีอยู่แล้ว”

แม้ว่าลูกชายจะยังเล็กอยู่ แต่เธอก็รู้อย่างแน่ชัดอยู่แล้วว่า อันหรานไม่เหมือนกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ฉลาดหลักแหลมมาก สถานการณ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับลู่จิ้นยวนนั้น เธอไม่เชื่อว่าลูกชายจะไม่เข้าใจ

“เขารู้เรื่องก็จริง แต่รู้ก็ส่วนรู้ แต่กลับไม่ได้เป็นตัวแทนของความคาดหวังในสิ่งที่เขาอยากจะเห็น อันหรานน่ะอ่อนไหวมาก แล้วก็ไม่มีเด็กคนไหนหรอกที่ไม่คาดหวังที่จะได้เห็นพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

โม่โยว “……….”

เธอกัดฟันกรอดอยู่เงียบๆ แต่กลับไม่มีทางใดที่จะโต้เถียงกลับได้เลย

ลู่จิ้นยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดึงโม่โยวให้ยืนอยู่บนเวที แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พวกเรามาคิดกันดีกว่าว่า จะรับมือกับเรื่องในตอนนี้ยังไงดี”

โม่โยวสีหน้าไร้อารมณ์ “ก็เป็นแค่เกม”

“แต่ว่า……..ดูเหมือนเจ้าลูกชาย จะอยากให้พวกเราชนะเอามากๆ เลยนะ เธออยากเห็นเขาผิดหวังงั้นเหรอ” เอื้อนเอ่ยคำพูดนี้เบาๆ ออกมา

โม่โยว “………..”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องเขาตาเขม็งอย่างไม่สบอารมณ์ไปหนึ่งที ไอ้คนคนนี้ อย่าคิดว่าเธอจะโง่ดูไม่ออกว่าทุกๆ ครั้งเขาจะยกเอาเรื่องลูกมาพูดเป็นข้ออ้าง

แต่ว่าทุกครั้งทุกครา เธอก็ไร้คำที่จะเอ่ยออกไป

ในตอนนี้ เสี่ยวอันหรานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยก็ยังอยู่ตรงนั้น ตะเบ็งเสียงจนคอแข็งตะโกนเชียร์ออกมาอย่างสุดแรง สีหน้าท่าทางดูมีความสุขมาก ราวกับเชื่อมันเป็นอย่างมากว่าพวกเธอทั้งสองคนจะสามารถคว้าชัยชนะมาได้

โม่โยวเม้มมุมริมฝีปากเล็กน้อย ทำอย่างไรดี แต่ก็ทำได้เพียงส่งยิ้มให้เขาและหลังจากนั้นก็พยักหน้าให้ตามไปด้วย

“วางใจได้เลย เงื่อนไขการเล่นเกมนี้ค่อนข้างง่าย โดยทั่วไปตามปกติแล้วก็จะเป็นฝ่ายชายออกแรง ส่วนฝ่ายหญิงก็คอยสนับสนุน ก็มีแค่นี้แหละ” รอยยิ้มของลู่จิ้นยวนนั้นมีความนัยที่น่าสงสัย

อันที่จริงแล้ว ตอนที่อยู่บนสะพานแล้วเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยถือตะกร้าขายดอกกุหลาบอยู่ เธอก็พอจะจับสังเกตได้แล้วว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรักของฝรั่งเศส

แล้วกิจกรรมนี้ยังจัดขึ้นในวันนี้อีก ก็จะต้องเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น ชายหญิงที่ยืนอยู่เป็นแถวบนเวทีนั้น ทุกคู่ล้วนแล้วแต่เป็นแฟนกันหรือไม่ก็คู่สามีภรรยา

เงื่อนไขกติกาของเกมก็คือ มีทั้งหมดสามรอบคนที่สามารถยืนหยัดได้จนถึงรอบสุดท้ายจะได้คว้ามงกุฎและถือว่าชนะเลิศไป ดังนั้นจึงเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกไปเรื่อยๆ ตลอดการแข่งขัน ผู้แพ้จะได้รับรางวัลปลอบใจเล็กๆ น้อยๆ และสามารถเข้าร่วมสนุกอีกได้

รอบแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว

โม่โยวยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไร แต่ร่างทั้งร่างก็รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกลับหมุนคว้าง เธอถูกลู่จิ้นยวนอุ้มขึ้นมาแบบท่าเจ้าหญิง จึงทำให้เธอตื่นตกใจ “คุณทำอะไรน่ะ”

ลู่จิ้นยวนทำสีหน้าบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด “รอบแรก ฝ่ายชายจะต้องอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นมา ไม่มีจำกัดเวลา รอจนกว่าจะมีคนถูกคัดออกไปครึ่งหนึ่งจึงจบการแข่งขัน”

โม่โยว “………..”

นี่มันเกมผีบ้าอะไรกันเนี่ย

เธอมองขึ้นไปข้างบนอย่างช่วยไม่ได้ ผลปรากฏว่า คู่อื่นต่างก็ทำแบบนี้กันหมด

เกรงว่าที่ลู่จิ้นยวนเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องก่อนหน้าที่ตนจะสูญเสียความทรงจำนั้น ว่าเธอยังไม่เคยที่จะได้มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดแบบนี้กับเขาบ่อยมากนัก บริเวณเอวและขานั้นก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว

โม่โยวกัดริมฝีปาก หลับตาลงไปเสียอย่างนั้น ให้มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น พยายามทำให้สมองโล่งปลอดโปร่งอย่างสุดชีวิต ไม่คิดอะไรเลยเสียจะดีกว่า

แต่พูดนั้นแสนง่าย หลังจากที่เธอหลับตาลงแล้ว สัมผัสการรับรู้ของเธอกลับแหลมคมมากยิ่งขึ้น ลมหายใจอันมั่นคงของลู่จิ้นยวนที่อยู่ด้านบนก็กลับได้ยินเสียชัดถนัดสองหู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+