บ่วงแค้นแสนรัก 308 ใจอ่อน

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 308 ใจอ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โม่โยวหมดหนทาง ในที่สุดก็ใจอ่อนจนได้จึงตอบตกลงไป ลู่จิ้นยวนเห็นสถานการณ์ทั้งหมด ทักษะการแสดงละครของลูกชายนั้นเขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แต่กับผู้หญิงคนนี้ …

เขามองเธอ ความรู้สึกคุ้นเคยที่แปลกประหลาดนั้นได้เกิดขึ้นอีกแล้ว และอดขมวดคิ้วไม่ได้

สถานที่อันแรกของลู่อันหราน คือสวนสนุกที่เด็ก ๆ ทุกคนอยากไป ปกติลู่จิ้นยวนมักจะยุ่งอยู่กับงาน ยังไม่เคยมาเล่นกับเขามาก่อน พอดีเลยวันนี้จะได้ชดเชยให้เขา

สวนสนุกใหญ่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองพาเด็ก ๆ มาเล่น รอบๆจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มไร้เดียงสาของเด็ก ๆ จิตใจของเธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

“ คุณพ่อครับ ทางนู่นมีกล้องถ่ายรูปให้เช่า คุณพ่อช่วยไปเช่ามาอันหนึ่งได้ไหมครับ ผมอยากถ่ายรูปกับโยวโยว ”

สำหรับข้อเรียกร้องที่ไม่มากจนเกินไปของลูกชาย เขาไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง

ลู่จิ้นยวนจากไปได้ไม่นาน ลู่อันหรานก็ได้เจอคนรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนอนุบาลของเขา แต่น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ค่อยจะดีเท่าไร

“ ลู่อันหราน คิดไม่ถึงเลยว่านายก็มาเล่นในที่แบบนี้ด้วย” น้ำเสียงนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองเล็กน้อย

โม่โยวหันหน้าไปมอง เห็นว่าเป็นหญิงผู้ดีที่แต่งตัวอย่างกับคุณนาย กำลังจูงมือของเด็กผู้ชายอ้วนๆคนหนึ่งเดินเข้ามา ฟังจากคำพูดแล้ว รู้ได้ทันทีว่ารู้จักเจ้าตัวเล็กอย่างแน่นอน

ใบหน้าเล็ก ๆ ของลู่อันหรานบึงตื้อ ทำให้เห็นถึงความไม่พอใจเล็กน้อย จากนั้นตะโกนพูดว่า“ สวนสนุกไม่ใช่ของบ้านนายสักหน่อย ฉันอยากมาก็มา ”

เด็กอ้วนหรี่ปาก แล้วทำหน้าตาบิดเบี้ยวให้เขา เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ รีบเข้าไปกอดแขนคุณแม่ไว้ แล้วยิ้มอย่างได้ใจ

“ วันนี้แม่ฉันเป็นคนพามา ใครจะไปเหมือนนาย ลูกไม่มีแม่ ยังมีหน้ามาเล่นสวนสนุกอีก ”

เด็กๆเขาพูดกันด้วยภาษาวัยเด็ก แต่เนื้อหานั้นค่อนข้างที่จะทำร้ายจิตใจคน โม่โยวขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อได้ยินคนอื่นเขาพูดว่าลู่อันหรานไม่มีแม่ ความโกรธและความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในใจเธอ

เธอเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของลู่อันหรานที่ตึงเครียด จากเด็กที่สดใส่ร่าเริง ความอ้างว้างก็แสดงออกมาผ่านดวงตากลมโตที่สดใสของเขา ความเจ็บปวดใจของเธอได้พุ่งขึ้นอีก

ถึงแม้ยังไม่เข้าใจคำพูดที่ว่าลูกไม่มีแม่ของเด็กอ้วนคนนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่เธอไม่อยากเห็นสีหน้าของเจ้าตัวเล็กในตอนนี้เลย

โม่โยวไม่ได้ลังเลอะไรอุ้มลู่อันหรานขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วจ้องไปที่เด็กอ้วน " หนุ่มน้อย ฉันเป็นคุณแม่ของลู่อันหรานจ๊ะ คำพูดของหนูเมื่อกี้มันไม่มีมารยาทอย่างมากเลยรู้ไหม ต่อไปอย่าพูดอย่างงี้อีกนะครับ "

เด็กอ้วนได้แต่งง อย่างกับว่าเขาคิดไม่ถึงว่าลู่อันหรานจะมีคุณแม่กับเขาขึ้นทันที

ลู่อันหรานจ้องมองเธออย่างเหม่อลอย จากนั้นก็เอื้อมมือเข้าไปโอบคอเธอไว้ แล้วมองไปที่เด็กอ้วนตะโกนพูดเสียงดังว่า " ใครว่าฉันไม่มีแม่ เห็นหรือยัง นี่คือคุณแม่ของฉัน"

เขาดีสดใสขึ้นอีกครั้งขณะที่พูด แล้วยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เด็กอ้วนอย่างพอใจเล็กน้อย “ คุณแม่ของฉันสวยกว่าคุณแม่ของเธอตั้งเยอะ นายรู้ไหมว่าทำไหมนายถึงได้อ้วนแบบนี้ นี่มันเป็นปัญหาทางพันธุกรรมรู้หรือยัง เห็นนายไง่แบบนี้ต้องไม่รู้แน่ๆเลยใช่ไหม "

โม่โยวทำปากกระตุก เมื่อเห็นสีหน้าที่เขียวของแม่เด็กอ้วน ก็รีบกล่าวคำขอโทษทันที แล้วตบไปที่ก้นน้อยๆของลู่อันหรานอย่างช่วยไม่ได้ทีหนึ่ง

เธอรู้เลยว่าเจ้าตัวเล็กไม่ยอมหยุดง่ายๆเป็นแน่

ลู่อันหรานหลังจากโดนตักเตือนไป ก็เงียบลงทันที

หลังจากที่เด็กอ้วนแม่ลูกคู่นั้นเดินจากไป โม่โยวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันทีที่หันหลังกลับ ก็เห็นว่าลู่จิ้นยวนกำลังจองมองพวกเขาอยู่

เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เธอทำลงเมื่อกี้นี้ ก็ไม่รู้ว่าเขายืนดูมานานแค่ไหนแล้ว จากนั้นจึงวางลู่อันหรานลงด้วยท่าทางแปลก ๆ กำลังลังเลอยู่ว่าจะอธิบายยังไงดี

ลู่จิ้นยวนไม่ให้โอกาสเธอพูด มองไปที่ลู่อันหราน " อยากเล่นอะไรครับ "

เจ้าตัวเล็กรีบหยิบแผนกระดาษที่เขาจัดไว้ออกมาทันที แล้วเริ่มบุกไปทีละด่านทีละด่าน ช่วงครึ่งวันเช้าทั้งสามคนเล่นไปหลายด่านมาก

แม้ว่าจะเป็นแต่พวกของเล่นเด็กๆ แต่โม่โยวก็รู้สึกว่ามันมีความหมายต่อเธอมาก

ในขณะที่รับประทานอาหารเที่ยง จู่ๆลู่จิ้นยวนก็พูดว่า " ลู่อันหราน ขอโทษคุณโม่เดียวนี้"

ทั้งโม่โยวและลูอันหรานตกใจ มองไปที่เขาอย่างมึนงง

ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเฉยเมยว่า " คุณโม่เขายังไม่ได้แต่งงานเลย ลูกไปนับญาติต่อหน้าคนอื่นเขาแบบนี้ มันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณโม่เสียหาย ต่อไปห้ามทำแบบนี้เป็นอันขาด "

ลู่อันหรานเม้มปากอย่างไม่พอใจ และไม่พูดอะไร

โม่โยวพูดขึ้นทันที " ไม่โทษอันหรานค่ะ เป็นความคิดฉันเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คุณชายลู่คะ ถ้าคุณถือ หรือมันทำให้คุณไม่สบายใจ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วค่ะ .”

ลู่จิ้นยวนมองไปที่เธอ เห็นโม่โยวชาไปทั้งตัว จึงรีบพูดออกมาอย่างอ่อนโยน " ที่แท้เป็นความเต็มใจของคุณโม่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็แล้วไป ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีอะไร"

อ๋อ

โม่โยวรู้สึกมึนงงเล็กน้อย สรุปคือเขาถือสาหรือไม่ถือสากันแน่ เธอไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ

ในช่วงบ่ายโปรแกรมสวนสนุกของลู่อันหราน ยังมีด่านหนึ่งที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน คือบ้านผีสิง

โม่โยวขมวดคิ้ว " ด่านนี้ให้ผ่านได้ไหม อีกอย่างในนี้เขามีกำหนดเรื่องอายุด้วย "

คำบอกกล่าวด้านข้างระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าเด็กอายุต่ำกว่าสิบสองปีไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เธอก็คิดว่าเด็กๆอย่าไปสัมผัสเรื่องเหล่านี้จะดีกว่า

แต่ลู่อันหรานจะต้องเล่นให้ได้ ยังตบไปที่หน้าอกเล็กของเขา " โยวโยวครับ ไม่เป็นไรนะ ถ้าคุณกล้วก็จูงมือผมไว้ ผมจะปกป้องคุณเอง "

โม่โยว "… "

ลู่จิ้นยวนไม่ได้กังวลเขา เขารู้จักลูกชายของตัวเองดีพอ แค่บ้านผีสิงเล็ก ๆ ไม่สามารถหลอกหหรือทำให้เขาตกใจได้

สองต่อหนึ่ง มติประชาธิปไตย โม่โยวก็เลยจำใจต้องเข้าไปด้วย

หลังจากจ่ายเงินแล้ว เข้าไปที่บ้านผีสิง ข้างในเหมือนอย่างที่คิด มืดครึ้มมีแค่แสงสลัวๆ

ผนังรอบด้านตะกุตะกะไม่เรียบ ตรงมุมถูกจัดวางไปด้วยกองกะโหลกที่ซ้อนกัน ตรงมุมบนผนักถูกห้อยด้วยแมงมุมตัวใหญ่ที่คลานไปมาอย่างช้าๆ

เป็นเพราะเหมือนจริงมาก ช่วงเวลาหนึ่งโม่โยวก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม พูดตามตรง เธอค่อนข้างที่กลัวแมลงเหล่านี้มาก จนอดกลืนน้ำลายลงไปไม่ได้

ลู่อันหรานก้าวเท้าเดินไปอย่างใจใหญ่ ไม่เพียงไปเตะโดนกองโครงกระดูก แต่ยังไปเกี่ยวโดนแมงมุมที่อยู่บนผนังลงมาด้วย เห็นขาที่กำลังพลิกไปพลิกมาแล้ว

โมโยวเห็นแมงมุมที่อยู่ในมือเขาที่เต็มไปด้วยฟันและกรงเล็บที่ยังขยับไปมานั้น รู้สึกชาไปทั้งตัว แล้วซุบซิบเบาๆ

"คุณพ่อครับ ที่นี้ติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้จริงๆด้วย ทำได้ไม่เหมือนจริงเลยสักนิด " ลู่อันหรานทำปากหรี่ แล้วโยนแมงมุมที่อยู่ในมือออกไปอย่างดูถูกนิดๆ

ทั้งสามคนเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ในห้องมีวางเตียงเหล็กอยู่หลายเตียง ทุกเตียงมีคนอยู่

ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา หนึ่ง'คน'ในนั้นที่อยู่บนเตียงก็ได้เดินเข้ามาหาพวกเขา โม่โยวตกใจกลัว แล้วส่งเสียงอุทานออกมาสั้น ๆ

“ โยวโยวครับ อย่ากลัว ดูผมนะ”

แขนและขาเล็ก ๆ ของลู่อันหรานก็ได้ทำท่าการต่อสู้แบบมาตรฐานออกมาทันที แล้วหันไปรอบ ๆ ยกขาขึ้นมาแตะไปยัง 'คน' ที่เดินเข้ามา

หลังจากเตะเสร็จ เขารีบวิ่งไปหาลู่จิ้นยวนอย่างได้ใจเพื่อขอคำชมจากลู่จิ้นยวน " คุณพ่อครับ เป็นยังไงครับ"

ลู่จิ้นยวนให้คำสรุปอย่างเฉยเหม่ย " ความว่องไวยังพอได้ แต่แรงและกำลังยังไม่เพียงพอ"

เจ้าตัวเล็กทำหน้ามุ่ย อย่างไม่พอใจเล็กน้อย

ทันใดนั้นโม่โยวก็ถึงกับเบิกตากว้าง ชี้ไปที่ด้านหน้า " มัน มัน มันยืนขึ้นมาอีกแล้ว"

คุณภาพของบ้านผีสิงหลังนี้ไม่เลวจริงๆ อุปกรณ์ประกอบภายในนั้นทำออกมาได้เหมือนจริงมาก เช่นเดียวกับ 'คน' ที่อยู่ตรงหน้านี้ อย่างเช่นเมื่อกี้ที่ถูกเจ้าตัวเล็กเตะจนล้มลงไป ยังมีเสียงออกมาอู้อี้อย่างกับ คนจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บ่วงแค้นแสนรัก 308 ใจอ่อน

Now you are reading บ่วงแค้นแสนรัก Chapter 308 ใจอ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โม่โยวหมดหนทาง ในที่สุดก็ใจอ่อนจนได้จึงตอบตกลงไป ลู่จิ้นยวนเห็นสถานการณ์ทั้งหมด ทักษะการแสดงละครของลูกชายนั้นเขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แต่กับผู้หญิงคนนี้ …

เขามองเธอ ความรู้สึกคุ้นเคยที่แปลกประหลาดนั้นได้เกิดขึ้นอีกแล้ว และอดขมวดคิ้วไม่ได้

สถานที่อันแรกของลู่อันหราน คือสวนสนุกที่เด็ก ๆ ทุกคนอยากไป ปกติลู่จิ้นยวนมักจะยุ่งอยู่กับงาน ยังไม่เคยมาเล่นกับเขามาก่อน พอดีเลยวันนี้จะได้ชดเชยให้เขา

สวนสนุกใหญ่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองพาเด็ก ๆ มาเล่น รอบๆจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มไร้เดียงสาของเด็ก ๆ จิตใจของเธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

“ คุณพ่อครับ ทางนู่นมีกล้องถ่ายรูปให้เช่า คุณพ่อช่วยไปเช่ามาอันหนึ่งได้ไหมครับ ผมอยากถ่ายรูปกับโยวโยว ”

สำหรับข้อเรียกร้องที่ไม่มากจนเกินไปของลูกชาย เขาไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง

ลู่จิ้นยวนจากไปได้ไม่นาน ลู่อันหรานก็ได้เจอคนรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนอนุบาลของเขา แต่น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ค่อยจะดีเท่าไร

“ ลู่อันหราน คิดไม่ถึงเลยว่านายก็มาเล่นในที่แบบนี้ด้วย” น้ำเสียงนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองเล็กน้อย

โม่โยวหันหน้าไปมอง เห็นว่าเป็นหญิงผู้ดีที่แต่งตัวอย่างกับคุณนาย กำลังจูงมือของเด็กผู้ชายอ้วนๆคนหนึ่งเดินเข้ามา ฟังจากคำพูดแล้ว รู้ได้ทันทีว่ารู้จักเจ้าตัวเล็กอย่างแน่นอน

ใบหน้าเล็ก ๆ ของลู่อันหรานบึงตื้อ ทำให้เห็นถึงความไม่พอใจเล็กน้อย จากนั้นตะโกนพูดว่า“ สวนสนุกไม่ใช่ของบ้านนายสักหน่อย ฉันอยากมาก็มา ”

เด็กอ้วนหรี่ปาก แล้วทำหน้าตาบิดเบี้ยวให้เขา เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ รีบเข้าไปกอดแขนคุณแม่ไว้ แล้วยิ้มอย่างได้ใจ

“ วันนี้แม่ฉันเป็นคนพามา ใครจะไปเหมือนนาย ลูกไม่มีแม่ ยังมีหน้ามาเล่นสวนสนุกอีก ”

เด็กๆเขาพูดกันด้วยภาษาวัยเด็ก แต่เนื้อหานั้นค่อนข้างที่จะทำร้ายจิตใจคน โม่โยวขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อได้ยินคนอื่นเขาพูดว่าลู่อันหรานไม่มีแม่ ความโกรธและความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในใจเธอ

เธอเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของลู่อันหรานที่ตึงเครียด จากเด็กที่สดใส่ร่าเริง ความอ้างว้างก็แสดงออกมาผ่านดวงตากลมโตที่สดใสของเขา ความเจ็บปวดใจของเธอได้พุ่งขึ้นอีก

ถึงแม้ยังไม่เข้าใจคำพูดที่ว่าลูกไม่มีแม่ของเด็กอ้วนคนนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่เธอไม่อยากเห็นสีหน้าของเจ้าตัวเล็กในตอนนี้เลย

โม่โยวไม่ได้ลังเลอะไรอุ้มลู่อันหรานขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วจ้องไปที่เด็กอ้วน " หนุ่มน้อย ฉันเป็นคุณแม่ของลู่อันหรานจ๊ะ คำพูดของหนูเมื่อกี้มันไม่มีมารยาทอย่างมากเลยรู้ไหม ต่อไปอย่าพูดอย่างงี้อีกนะครับ "

เด็กอ้วนได้แต่งง อย่างกับว่าเขาคิดไม่ถึงว่าลู่อันหรานจะมีคุณแม่กับเขาขึ้นทันที

ลู่อันหรานจ้องมองเธออย่างเหม่อลอย จากนั้นก็เอื้อมมือเข้าไปโอบคอเธอไว้ แล้วมองไปที่เด็กอ้วนตะโกนพูดเสียงดังว่า " ใครว่าฉันไม่มีแม่ เห็นหรือยัง นี่คือคุณแม่ของฉัน"

เขาดีสดใสขึ้นอีกครั้งขณะที่พูด แล้วยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เด็กอ้วนอย่างพอใจเล็กน้อย “ คุณแม่ของฉันสวยกว่าคุณแม่ของเธอตั้งเยอะ นายรู้ไหมว่าทำไหมนายถึงได้อ้วนแบบนี้ นี่มันเป็นปัญหาทางพันธุกรรมรู้หรือยัง เห็นนายไง่แบบนี้ต้องไม่รู้แน่ๆเลยใช่ไหม "

โม่โยวทำปากกระตุก เมื่อเห็นสีหน้าที่เขียวของแม่เด็กอ้วน ก็รีบกล่าวคำขอโทษทันที แล้วตบไปที่ก้นน้อยๆของลู่อันหรานอย่างช่วยไม่ได้ทีหนึ่ง

เธอรู้เลยว่าเจ้าตัวเล็กไม่ยอมหยุดง่ายๆเป็นแน่

ลู่อันหรานหลังจากโดนตักเตือนไป ก็เงียบลงทันที

หลังจากที่เด็กอ้วนแม่ลูกคู่นั้นเดินจากไป โม่โยวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันทีที่หันหลังกลับ ก็เห็นว่าลู่จิ้นยวนกำลังจองมองพวกเขาอยู่

เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เธอทำลงเมื่อกี้นี้ ก็ไม่รู้ว่าเขายืนดูมานานแค่ไหนแล้ว จากนั้นจึงวางลู่อันหรานลงด้วยท่าทางแปลก ๆ กำลังลังเลอยู่ว่าจะอธิบายยังไงดี

ลู่จิ้นยวนไม่ให้โอกาสเธอพูด มองไปที่ลู่อันหราน " อยากเล่นอะไรครับ "

เจ้าตัวเล็กรีบหยิบแผนกระดาษที่เขาจัดไว้ออกมาทันที แล้วเริ่มบุกไปทีละด่านทีละด่าน ช่วงครึ่งวันเช้าทั้งสามคนเล่นไปหลายด่านมาก

แม้ว่าจะเป็นแต่พวกของเล่นเด็กๆ แต่โม่โยวก็รู้สึกว่ามันมีความหมายต่อเธอมาก

ในขณะที่รับประทานอาหารเที่ยง จู่ๆลู่จิ้นยวนก็พูดว่า " ลู่อันหราน ขอโทษคุณโม่เดียวนี้"

ทั้งโม่โยวและลูอันหรานตกใจ มองไปที่เขาอย่างมึนงง

ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเฉยเมยว่า " คุณโม่เขายังไม่ได้แต่งงานเลย ลูกไปนับญาติต่อหน้าคนอื่นเขาแบบนี้ มันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณโม่เสียหาย ต่อไปห้ามทำแบบนี้เป็นอันขาด "

ลู่อันหรานเม้มปากอย่างไม่พอใจ และไม่พูดอะไร

โม่โยวพูดขึ้นทันที " ไม่โทษอันหรานค่ะ เป็นความคิดฉันเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คุณชายลู่คะ ถ้าคุณถือ หรือมันทำให้คุณไม่สบายใจ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วค่ะ .”

ลู่จิ้นยวนมองไปที่เธอ เห็นโม่โยวชาไปทั้งตัว จึงรีบพูดออกมาอย่างอ่อนโยน " ที่แท้เป็นความเต็มใจของคุณโม่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็แล้วไป ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีอะไร"

อ๋อ

โม่โยวรู้สึกมึนงงเล็กน้อย สรุปคือเขาถือสาหรือไม่ถือสากันแน่ เธอไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ

ในช่วงบ่ายโปรแกรมสวนสนุกของลู่อันหราน ยังมีด่านหนึ่งที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน คือบ้านผีสิง

โม่โยวขมวดคิ้ว " ด่านนี้ให้ผ่านได้ไหม อีกอย่างในนี้เขามีกำหนดเรื่องอายุด้วย "

คำบอกกล่าวด้านข้างระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าเด็กอายุต่ำกว่าสิบสองปีไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เธอก็คิดว่าเด็กๆอย่าไปสัมผัสเรื่องเหล่านี้จะดีกว่า

แต่ลู่อันหรานจะต้องเล่นให้ได้ ยังตบไปที่หน้าอกเล็กของเขา " โยวโยวครับ ไม่เป็นไรนะ ถ้าคุณกล้วก็จูงมือผมไว้ ผมจะปกป้องคุณเอง "

โม่โยว "… "

ลู่จิ้นยวนไม่ได้กังวลเขา เขารู้จักลูกชายของตัวเองดีพอ แค่บ้านผีสิงเล็ก ๆ ไม่สามารถหลอกหหรือทำให้เขาตกใจได้

สองต่อหนึ่ง มติประชาธิปไตย โม่โยวก็เลยจำใจต้องเข้าไปด้วย

หลังจากจ่ายเงินแล้ว เข้าไปที่บ้านผีสิง ข้างในเหมือนอย่างที่คิด มืดครึ้มมีแค่แสงสลัวๆ

ผนังรอบด้านตะกุตะกะไม่เรียบ ตรงมุมถูกจัดวางไปด้วยกองกะโหลกที่ซ้อนกัน ตรงมุมบนผนักถูกห้อยด้วยแมงมุมตัวใหญ่ที่คลานไปมาอย่างช้าๆ

เป็นเพราะเหมือนจริงมาก ช่วงเวลาหนึ่งโม่โยวก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม พูดตามตรง เธอค่อนข้างที่กลัวแมลงเหล่านี้มาก จนอดกลืนน้ำลายลงไปไม่ได้

ลู่อันหรานก้าวเท้าเดินไปอย่างใจใหญ่ ไม่เพียงไปเตะโดนกองโครงกระดูก แต่ยังไปเกี่ยวโดนแมงมุมที่อยู่บนผนังลงมาด้วย เห็นขาที่กำลังพลิกไปพลิกมาแล้ว

โมโยวเห็นแมงมุมที่อยู่ในมือเขาที่เต็มไปด้วยฟันและกรงเล็บที่ยังขยับไปมานั้น รู้สึกชาไปทั้งตัว แล้วซุบซิบเบาๆ

"คุณพ่อครับ ที่นี้ติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้จริงๆด้วย ทำได้ไม่เหมือนจริงเลยสักนิด " ลู่อันหรานทำปากหรี่ แล้วโยนแมงมุมที่อยู่ในมือออกไปอย่างดูถูกนิดๆ

ทั้งสามคนเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ในห้องมีวางเตียงเหล็กอยู่หลายเตียง ทุกเตียงมีคนอยู่

ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา หนึ่ง'คน'ในนั้นที่อยู่บนเตียงก็ได้เดินเข้ามาหาพวกเขา โม่โยวตกใจกลัว แล้วส่งเสียงอุทานออกมาสั้น ๆ

“ โยวโยวครับ อย่ากลัว ดูผมนะ”

แขนและขาเล็ก ๆ ของลู่อันหรานก็ได้ทำท่าการต่อสู้แบบมาตรฐานออกมาทันที แล้วหันไปรอบ ๆ ยกขาขึ้นมาแตะไปยัง 'คน' ที่เดินเข้ามา

หลังจากเตะเสร็จ เขารีบวิ่งไปหาลู่จิ้นยวนอย่างได้ใจเพื่อขอคำชมจากลู่จิ้นยวน " คุณพ่อครับ เป็นยังไงครับ"

ลู่จิ้นยวนให้คำสรุปอย่างเฉยเหม่ย " ความว่องไวยังพอได้ แต่แรงและกำลังยังไม่เพียงพอ"

เจ้าตัวเล็กทำหน้ามุ่ย อย่างไม่พอใจเล็กน้อย

ทันใดนั้นโม่โยวก็ถึงกับเบิกตากว้าง ชี้ไปที่ด้านหน้า " มัน มัน มันยืนขึ้นมาอีกแล้ว"

คุณภาพของบ้านผีสิงหลังนี้ไม่เลวจริงๆ อุปกรณ์ประกอบภายในนั้นทำออกมาได้เหมือนจริงมาก เช่นเดียวกับ 'คน' ที่อยู่ตรงหน้านี้ อย่างเช่นเมื่อกี้ที่ถูกเจ้าตัวเล็กเตะจนล้มลงไป ยังมีเสียงออกมาอู้อี้อย่างกับ คนจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+