ภาพรักสีจางกลางสมุทร 4 กรดกำมะถันอยู่ในมือฉัน

Now you are reading ภาพรักสีจางกลางสมุทร Chapter 4 กรดกำมะถันอยู่ในมือฉัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอฟังบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขาอยู่เงียบๆ  

 

 

โม่หันมองไปที่เด็กสาวผิวซีดที่ยังคงอยู่ในชุดคนไข้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอหนีออกมาจากโรงพยาบาล เขายิ้มให้เธอตามมารยาท “คุณครับ ตอนนี้คุณก็รู้ความจริงแล้ว ถึงคุณจะบอกว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ของเรา แต่ว่าผมต้องขอโทษด้วย ผมไม่รู้จักคุณจริงๆ ครับ  

 

 

“ครอบครัวของคุณอยู่ที่ไหน คุณโทรหาพวกเขาได้นะ หรือถ้าคุณรู้ที่อยู่พวกเขา ผมให้คนไปส่งคุณที่นั่นก็ได้นะครับ” โม่หันมองใบหน้าซีดเซียวและร่างกายที่ซูบผอมของเธอ เขารู้สึกสงสาร เธอน่าจะยังเป็นแค่เด็กนักเรียนอยู่เลย  

 

 

เด็กสาวตอบกลับมา “ฉันจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาล ฉันไม่รู้อะไรสักอย่าง พอถามพยาบาล พวกเธอก็บอกว่าคุณเป็นคนเดียวที่ฉันรู้จักตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาล”  

 

 

น้ำเสียงของเธอแหบต่ำ สีหน้าของเธอดูสงบและปราศจากอารมณ์เมื่อเธอพูด  

 

 

อาจเป็นความจริงที่เธอไม่รู้อะไรอื่นอีกเลยนอกจากตัวเขา ความเงียบครอบงำพวกเขา  

 

 

โม่หันขยับตัวเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยเรื่องของเธอ เขาชี้ไปที่หลิวจื้อหย่วนที่ยืนเหม่ออยู่หน้าประตู “เดี๋ยวผมจะให้เขาไปส่งคุณที่สถานีตำรวจ ตำรวจน่าจะช่วยตามหาครอบครัวของคุณได้  

 

 

“คุณยังดูเด็กอยู่เลยนะ ผมคิดว่าคุณน่าจะยังเป็นนักเรียนอยู่ เราจะตรวจสอบกับทางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเมืองนี้ให้ ผมว่าเราน่าจะรู้ว่าคุณเป็นใคร”  

 

 

ทันใดนั้นคำพูดของโม่หันก็ถูกขัด “ฉันไม่อยากไปสถานีตำรวจ คุณพาฉัน…ไปอยู่กับคุณชั่วคราวได้ไหมคะ”  

 

 

เขานิ่งอึ้งไป หลิวจื้อหย่วนที่พยายามทำตัวล่องหนอยู่ก็ตกอยู่ในอาการเดียวกัน พวกเขามองไปที่เด็กสาวด้วยความตกใจ  

 

 

เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม เธอกำลังขอให้ทนายโม่เจ้าของฉายาวาจาอาบยาพิษรับเธอไปอยู่ด้วยเหรอ เจ้านายของเขาใจดีที่ไหนกัน!   

 

 

อย่างที่เขาคาดไว้ โม่หันหัวเราะออกมาก่อนจะบอกว่า “ขอโทษด้วยนะสาวน้อย ผมไม่ปรารถนาจะรับคนแปลกหน้าที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันมาอยู่กับผมหรอกนะครับ”  

 

 

เขาหมุนตัวกลับอย่างเย็นชาพร้อมสั่งหลิวจื้อหย่วนที่ยังยืนเหม่ออยู่ “เสี่ยวหลิว รบกวนส่งเธอด้วย เรายังมีงานที่ต้องกลับไปทำ”  

 

 

ขณะที่หลิวจื้อหย่วนกำลังจะพาเด็กสาวปริศนาออกมา อีกฟากของประตูก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เสียงกรีดร้องโวยวายของใครหลายคนดังขึ้น โม่หันได้ยินเสียงตื่นตระหนกจากอันนา  

 

 

“คุณ! คุณทำแบบนี้ไม่ได้ นี่มันที่ทำงานของเรานะคะ กรุณาใจเย็นลงและออกไปคุยกันข้างนอกเถอะค่ะ!”  

 

 

“ไปบอกไอ้บัดซบโม่หันให้ออกมาเดี๋ยวนี้!” เสียงเกรี้ยวกราดของชายคนหนึ่งดังขึ้น  

 

 

“ว้าย!” เสียงร้องของอันนาดังขึ้นพร้อมกับเสียงของโต๊ะและเก้าอี้ที่ล้มลง  

 

 

เมื่อโม่หันก้าวออกมาจากห้อง เขาเห็นอันนาล้มลงบนพื้น หลายคนเข้ามาช่วยเธอให้ลุกขึ้น บนพื้นมีเอกสารกระจายเละเทะไปหมด โต๊ะและเก้าอี้หลายตัวล้มระเนระนาด  

 

 

โม่หันจำได้ว่าเขาเคยเจอคนพวกนี้ที่ศาลก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นสมาชิกครอบครัวของผู้เสียหาย คนที่บุกเข้ามาเป็นชายร่างใหญ่ที่ไม่ได้สวมเสื้อ ไหล่ซ้ายของเขามีรอยสัก ท่าทางก้าวร้าว เขาเป็นพี่ชายคนโตของผู้เสียหายที่น่าจะมาที่นี่พราะโกรธที่แพ้คดี  

 

 

โม่หันก้าวไปข้างหน้า เขาจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างเย็นชา บางอย่างในน้ำเสียงของเขาทำให้ทุกคนต้องหยุดฟัง “คุณครับ กรุณาจำไว้ด้วย ที่นี่เป็นที่ทำงาน คุณไม่ได้เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้พนักงานของผมอย่างเดียว แต่คุณยังก่อกวนการทำงานของเราด้วย”  

 

 

ชายร่างอวบตะโกนขึ้น “โม่หัน! อย่ามาทำเป็นผู้ผดุงความถูกต้องหน่อยเลย แกจ่ายเงินให้ไอ้อัยการแก่นั่นใช่ไหม ถ้าไม่ใช่ ลูกความแกจะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ยังไง เขาบอกว่ามีหลักฐานไม่พอกันทั้งนั้น! ไร้สาระสิ้นดี!”  

 

 

“กรุณาอย่าตัดสินคนอื่นด้วยความเขลาของคุณเลยครับ” โม่หันหัวเราะเบาๆ แล้วจ้องหน้าชายคนนั้น “ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว การตายของน้องชายของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกความของผม เขาไม่ใช่ฆาตกร คุณควรกลับไปถามตำรวจมากกว่าที่จะมารบกวนการทำงานของเรานะครับ!”  

 

 

โม่หันพูดต่อด้วยเสียงหนักแน่น เขามองไปที่ชายร่างอวบด้วยสายตาดุดัน “รปภ.! รออะไรอยู่ล่ะ ใครก็ได้ช่วยตามรปภ.และบอกให้เขาเอาผู้ชายคนนี้ออกไปด้วย อย่าให้เขามาสร้างความวุ่นวายที่นี่อีก!”  

 

 

ชายคนเดิมโมโหและตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “น้องชายของฉันตาย! เราอุตส่าห์หาตัวฆาตกรเจอแต่เพราะแกไปยัดเงินใต้โต๊ะเลยทำให้มันรอดไปได้ พวกแกทุกคนสมควรลงนรกไปพร้อมกับไอ้ฆาตกรนั่น!”  

 

 

ทันใดนั้นเอง เขาหยิบขวดแก้วที่บรรจุของเหลวที่โรงพยาบาลใช้และแสดงความชั่วร้ายออกมา เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง เขย่าขวดแก้วขณะที่ตะโกนออกมา “ไอ้พวกโง่! รู้ไหมว่านี่คืออะไร!”  

 

 

ขณะที่ทุกคนนิ่งอึ้งด้วยความตกใจ เขาคว้าตัวผู้หญิงที่ใกล้ที่สุดแล้วรัดคอเธอเอาไว้ก่อนพูดขึ้น “นี่คือกรดกำมะถันเข้มข้น แค่หยดเดียวเท่านั้น ฮ่าๆ เตรียมเสียโฉมได้เลย น่าเสียดายหน้าสวยๆ นี่จัง! หลังจากนี้ชีวิตแกอาจพังลงก็ได้”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด