วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 16

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 16 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.16 – การสร้างและข้อสัญญา

Translator : O-Minus / Author

 

“ถ้างั้นก็มาเริ่มสตรีมกันเลยดีกว่า”

 

[ยินดีต้อนรับ]

[ยินดีต้อนรับกลับมานะ]

[มาดูครั้งแรกล่ะ]

[กำลังรออยู่เลย]

[บุคคลตัวอย่างของสังคมที่ตรงต่อเวลาจริงๆ]

[เลทส์โก้!]

 

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงตรงพอดี หลังจากที่ได้งีบไปสักครู่ฉันก็ได้เริ่มไลฟ์สตรีมอีกครั้งตามสัญญา

มีผู้ชมสูงถึง200คนในทันที แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะเคยมียอดผู้ชมสูงถึง10,000คนก็ตามแต่นั่นก็ทำให้ฉันดีใจที่ยังมีคนบางส่วนที่ยังคงอยู่

 

“ผู้ชมครั้งแรก ต้องขอโทษด้วยนะแต่ฉันยังติดลิมิทจากโทษการตายอยู่เลย ฉันเลยจะใช้เวลาในการซื้อตะบองและกางเกงใหม่นะ”

 

[ท่านตะบองเหล็ก]

[เขาเป็นคนดีจริงๆ]

[ไม่นึกเลยว่าจะพังจากการต่อสู้ครั้งเดียวนั่น]

[ได้ยินว่ามันดีตรงที่พังยากไม่ใช่เหรอ]

[ก็นะ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงบอสเลยนี่นา]

 

ผลจากการใช้[ปิดฉาก] ตะบองเหล็กของฉันจึงสลายกลายเป็นฝุ่นไป ส่วนกางเกงก็ขาดตามขาข้างที่ถูกตัดไปด้วย

ในตอนนี้ฉันต้องซื้ออุปกรณ์มาทดแทนทั้งสองอย่างนี้

จะว่าไปแล้ว ถึงแม้ว่ากางเกงหนังของฉันจะพังไป กางเกงผ้าฝ่ายจะถูกสวมใส่ให้แทนโดยอัตโนมัติ ไม่มีฉากเซอร์วิสให้หรอกนะ

 

“จริงๆแล้วที่ตะบองเหล็กพังไปก็เพราะสกิลที่ฉันใช้หรอกนะ เป็นไม้ตายสุดท้ายที่แลกมาด้วยความทนทานทั้งหมดของอาวุธยังไงล่ะ”

 

[ฟุโอ้ววว]

[เสียความทนทานทั้งหมด ฮา]

[สกิลของอาวุธไร้คม[ปิดฉาก]สินะ เป็นสกิลที่โด่งดังเรื่องของราคาที่สูงแต่พลังก็ไม่ได้มากขนาดนั้น เพียงแต่ว่ามันมีข้อดีตรงที่เพิ่มค่าความเชี่ยวชาญแค่นิดหน่อยก็เรียนรู้ได้แล้วและตราบใดที่ใช้สองมือถืออาวุธก็จะสามารถใช้งานสกิลได้จากทุกท่าทางร่างกาย เป็นสกิลปิดฉากสมชื่อที่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้]

[นายคนที่อธิบายเรื่องความทนทานคนนั้น!?]

[ฮา พิมพ์อย่างไวตลอดเลย]

[↑ทั้งสองก็ไวไม่ต่างกันนะรู้ไหม]

 

ราวกับว่าเขาคาดเดาได้ว่าหัวข้อนี้จะโผล่มาจึงได้พิมพ์เตรียมไว้ก่อนแล้วเลยสามารถพิมพ์ตอบในช่องคอมเมนต์ด้วยความรวดเร็ว ช่องคอมเมนต์ก็เลยคุยกันใหญ่เลย

ในตอนเช้าก็คงจะมีคนที่สตรีมเหมือนกันกับฉันอยู่บ้าง อย่างน้อยฉันก็คิดว่ามีนะ สงสัยจังว่าสไตล์การเล่นของฉันจะโอเคหรือเปล่านะ?

 

“สำหรับตอนนี้ก็ไปร้านค้าอุปกรณ์กันก่อนเถอะ~ แล้วฉันก็ยังได้ข้อมูลของอาวุธที่จะมาแทนที่ตะบองเหล็กด้วยล่ะ”

 

เพราะว่าฉันยังเหลือเวลาอีกประมาณ1ชั่วโมงจนกว่าบทลงโทษจากการตายจะหมดลง ระหว่างนี้ฉันเลยจะไปซื้อของจนกว่าจะหายอยากเลยล่ะ

อย่างเช่นยาโพชั่นที่ฉันยังไม่มีโอกาสได้ใช้ และฉันเองก็อยากซื้อยาถอนพิษหรือไอเท็มพวกนั้นด้วย ถ้างั้นเพื่อเป็นการเริ่มต้นฉันเลยไปที่ร้านค้าอุปกรณ์ก่อนเลย

 

 

“เฮ้ เธอน่ะคือซุคุนะคุงที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่สินะ”

 

“หือ?”

 

ในตอนที่ฉันไปยังร้านขายอุปกรณ์สวมใส่ ฉันก็ถูกทักโดยผู้เล่นที่ฉันไม่รู้จักนหนึ่ง

 

เป็นสุภาพบุรุษวัยกลางคนผมสั้นสีขาวสวมผ้าโพกหัว

อุปกรณ์สวมใส่ของเขาเป็นเกราะเบาที่มีรวดลายสวยงามอย่างมาก มากจนเอาไปเทียบกับที่ขายในร้านค้าไม่ได้เลยฉันเลยเดาว่าน่าจะเป็นของที่ผู้เล่นสร้างขึ้นเอง(PlayerMade)

อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่จะมาใช้บริการของร้านค้าของNPCในเมืองเริ่มต้นหรอก

เขาเป็นผู้เล่นที่มีบรรยากาศแบบนั้นล่ะ

 

เพราะว่าหน้าตาและชื่อของฉันถูกรู้เข้าแล้ว ฉันคงจะถูกคนสนใจขึ้นมาในระดับหนึ่งเลยสินะ

แต่ว่าการที่มาคุยกับฉันขณะที่ฉันกำลังไลฟ์สตรีมอยู่ ทั้งใบหน้าและอุปกรณ์สวมใส่ของอีกฝ่ายก็จะถูกเผยแพร่ออกไปด้วยเช่นกัน

แต่ก็นะ ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มไปทักเขาก่อนนี่นาเพราะงั้นคงไม่ต้องกังวลอะไรมากหรอก

และอีกอย่างหนึ่งตอนนี้มีผู้ชมอยู่ประมาณ500คน คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

 

“คุณเป็นใครกันน่ะ?”

 

“โอ๊ะ ฉันนี่หยาบคายจริง ฉันชื่อว่าโคเนโกะมารุ(子猫丸) เป็นเพียงผู้เล่นสายผลิตคนหนึ่งน่ะ”

 

“ทางนี้ก็เช่นกัน ซุคุนะค่ะ”

 

ไม่ใช่ว่าใช้คำยกยออะไรแต่เป็นการแนะนำตัวที่สุภาพมากๆ สุภาพบุรุษเบื้องหน้าแนะนำตัว

ชื่อเล่นว่าโคเนโกะมารุค่อนข้างน่ารักมากเลยล่ะ

เป็นแก๊ประหว่างภาพลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกมีสไตล์ ไม่เลวเลยๆ

 

“แล้ว มีธุระอะไรเหรอ?”

 

“เข้าประเด็นหลักทันทีช่วยได้มากเลยล่ะ หรือเพราะว่ารินเนะคุงจะแนะนำไว้ก่อนแล้ว?”

 

“รู้จักรินจังด้วยเหรอ?”

 

“ก็ถึงขั้นได้แลกเปลี่ยนรายชื่อเพื่อนกันล่ะนะ”

หน้าจอแสดงผลที่ถูกหันมาให้กับฉัน โคเนโกะมารุซังได้ทำให้หน้าจอแสดงผลให้ฉันเห็นเอาไว้

ในรายชื่อเพื่อน มีตัวอักษรที่เขียนเรียงกันได้ว่า[รินเนะ]อยู่

 

“หมายความว่า…เป็นผู้เล่นแนวหน้าสินะ?”

 

“ฮ่ะฮ่ะฮ่า เดาได้เยี่ยมเลยนี่ ตอนนี้ฉันใช้เมืองที่4[ฟีอัส]เป็นฐานที่ตั้งอยู่ เอาล่ะพูดนอกเรื่องไปเดี๋ยวจะเสียเวลาเปล่า ฉันขอพูดตรงๆนะ ให้ฉันได้ทำอุปกรณ์สวมใส่ให้จะได้ไหม?”

 

คำขอจากโคเนโกะมารุซังซึ่งเป็นคนรู้จักของรินจังเป็นไปตามที่คาดเอาไว้

จงใจเรียกตัวเองว่าเป็นผู้เล่นสายผลิต และพูดถึงฐานที่ตั้งที่อยู่1เมืองถัดจากเมืองที่5ที่อยู่หน้าสุดของแนวหน้า

ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงล่ะก็ ไม่ผิดแน่ที่เขาเป็นนักผลิตที่มีฝีมือ ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเขาจะขออะไร

 

“อุปกรณ์สวมใส่แบบไหนงั้นเหรอ? ฉันไม่ใส่ชุดเกราะเต็มตัวหรือชุดผ้าคลุมหรอกนะรู้ไหม?”

 

“ความถนัดของฉันอยู่ที่เซ็ตชุดเกราะเบา ฉันทำได้ทั้งโลหะและขนสัตว์ ชุดเกราะที่ฉันใส่อยู่ก็ด้วย เป็นสุดยอดผลงานของฉันเลยล่ะ ในฐานะนักผลิตแล้วฉันเองก็มีหน้าที่ในการโฆษณาด้วยตัวเองเหมือนกันนะ”

 

“เห…มีสไตล์ที่ดีเลยนี่นา”

 

“เคล็ดลับอยู่ที่การไม่ทำอะไรแปลกๆไงล่ะ”

 

เขาโฆษณางานของตัวเองอย่างมั่นใจ แต่ฉันคิดว่าผลงานนั่นก็คู่ควรจริงๆ

ชุดเกราะที่โคเนโกะมารุสวมใส่อยู่นั้น เมื่อมองรายละเอียดให้ดีแล้วจะเห็นว่าถูกสร้างมาด้วยความประณีต  เป็นชุดเกราะหนังที่ตรงตามจุดประสงค์ทุกด้าน

ป้องกันในส่วนที่จำเป็น ไม่ขัดขว้างการขยับเคลื่อนไหว มันถูกสร้างมาโดยคำนึงถึงจุดนั้น

 

ในเกมนี้ แม้ว่าจะเพิ่มค่าสถานะพลังป้องกันให้เท่ากันแต่ส่วนที่มีเกราะหุ้มไว้กับส่วนที่ไม่มีเกราะหุ้มจะได้รับค่าความเสียหายที่ต่างกัน

เป็นเรื่องที่เห็นๆกันอยู่แต่ชุดเกราะทั้งตัวป้องกันได้มากกว่าชุดเกราะบิกินี่แน่นอน

ในความหมายเดียวกัน เซ็ตชุดเกราะที่โคเนโกะมารุนั้นได้มอบพลังป้องกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่ชุดเกราะเบาจะให้ได้

 

“เงื่อนไขล่ะ?”

 

“ทำเซ็ทชุดเกราะเบาหนังจากวัตถุดิบของหมาป่าแดง ถ้าจะมอบวัตถุดิบที่เหลือให้ด้วยฉันก็จะลดราคาให้ได้ ยิ่งถ้ามี[สิ่งนั้น(จิตวิญญาณ)]ด้วยยิ่งดี”

 

พูดออกมาได้อย่างราบรื่น จะว่ายังไงดีล่ะ สมกับเป็นผู้เล่นแนวหน้าที่คุ้นเคยกับการต่อรองสินะ?

[สิ่งนั้น] เหตุผลที่พูดไม่ชัดเจนเป็นเพราะว่าเขาคงไม่อยากหลุดข้อมูลอะไรออกมาต่อหน้าผู้คน

สิ่งที่โคเนโกะมารุซังต้องการ อย่างที่รินจังว่าไว้ คือไอเท็มดรอปหายากที่ปัจจุบันมีทั้งหมดเพียง4ชิ้นในเกม

 

หรือก็คือ [จิตวิญญาณ]ของบอสยูนีค [จิตวิญญาณของหมาป่าแดงแห่งความสันโดษ-อาเรีย-]

 

เรื่องของการมีอยู่ของบอสยูนีคและฉายาที่ได้รับหลังจากที่ปราบมันลงได้เป็นข้อมูลที่ถูกแบ่งปันกันอยู่แล้ว

มีเพียงเรื่องของ[จิตวิญญาณ]เท่านั้นที่มีเพียงผู้เล่นแนวหน้าปิดบังข้อมูลกันเอาไว้ รินจังบอกมาอย่างนั้น

เพราะว่ารินจังเองก็ปิดบังเอาไว้เหมือนกัน ฉันเลยต้องระวังไม่ให้เผลอหลุดข้อมูลนี้ออกมา

 

มีเพียงอีกคนที่เข้าใจในความลับของข้อเสนอนี้ซึ่งก็คือโคเนโกะมารุซัง ผู้ซึ่งเป็นผู้เล่นสายผลิตระดับสูงที่มีฝีมือพอที่จะรู้ถึงเรื่องของ[จิตวิญญาณ]

และเขาก็ต้องการสร้างบางสิ่งจากมัน

 

ฉันจึงได้เริ่มการต่อรอง

 

“ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ แ ต่ ว่ า นะ ฉันอยากจะได้อะไรอีกสักหน่อยน่ะ”

 

ตามจริงแล้วจะรับข้อเสนอเลยก็ได้

แต่เพราะว่ามันเป็นไอเท็มหายากที่ฉันได้มาอย่างยากลำบาก

ฉันเลยอยากที่จะเพิ่มผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ จริงๆแล้วฉันเริ่มที่จะโลภขึ้นมาล่ะ

 

“ฟุมุ…ไหนดูสิ ในเมื่อเป็นวัตถุดิบยูนีคคงจะปล่อยไปไม่ได้จริงๆสินะ ฉันขอกลั้นน้ำตาแล้วตกลงทำให้ฟรีละกัน แล้วฉันจะจัดเตรียมวัตถุดิบอื่นๆให้ด้วยเลยเอ้า”

 

ถึงจะพูดว่ากลั้นน้ำตาแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของโคเนโกะมารุซังก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

เขาคงคาดไว้แล้วว่าฉันจะต่อรองเพิ่มล่ะมั้ง แต่ฉันคิดว่าตราบใดที่เขาได้ใช้วัตถุดิบยูนีคเขาคงไม่สนใจหรอกว่าจะได้ราคาเท่าไหร่

ในขณะที่คิดกับตัวเองว่าดีแล้วที่ต่อรองไป ฉันก็ยิ้มรับตอบ

 

“ถ้างั้นก็เป็นอันตกลง แล้วพวกเราควรจะทำยังไงต่อเหรอ…?”

 

“อ๊ะ ก่อนอื่นเลยพวกเราควรจะมาตัดสินเนื้อหาของ[ข้อสัญญา]กันก่อนนะ”

 

“[ข้อสัญญา]?”

 

“เวลาที่พวกเราจะตัดสินใจในเงื่อนไขและค่าใช้จ่าย พวกเราจะต้องทำ[ข้อสัญญา]กันนะ มันเป็นระบบที่มีไว้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบกันในด้านการผลิตน่ะ ยกตัวอย่างเช่นป้องกันไม่ให้นักผลิตหนีไปพร้อมกับของหรือเอาไปขายต่อผู้อื่น นอกจากนั้นก็เอาไว้ห้ามไม่ให้เอาของไปทำเสียหายล่ะมั้ง อีกด้านหนึ่งฝั่งผู้ว่าจ้างก็ทำอะไรอย่างไม่ยอมจ่ายเงินไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ทำตามข้อตกลงก็จะถูกตีตราให้เป็น[ผู้เล่นอาชญากร] เป็นข้อจำกัดที่ไม่อาจทำลายได้น่ะ”

 

“มีระบบอะไรอย่างนั้นด้วยสินะ” ฉันค่อนข้างประทับใจเลยล่ะ

 

ไม่ใช่ว่าไม่ค่อยมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น แต่เมื่อเป็นเรื่องระหว่างผู้คนยังไงก็ต้องมีปัญหาขึ้นมาสักทาง

การที่จะยับยั้งปัญหาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ฉันคิดว่าระบบนี้ทำได้ดีเลย

ถ้าหากเผลอฝ่าฝืน[ข้อสัญญา]ด้วยเหตุสุดวิสัยแล้ว ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันและแจ้งผู้ดูแลระบบให้ยกเว้นข้อลงโทษได้

 

จะว่าไปแล้วสาเหตุที่ข้อสัญญาส่วนใหญ่ถูกฝ่าฝืนเป็นเพราะการไม่จ่ายเงินตามข้อตกลง

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มีการจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อซื้อความไว้ใจ

แน่นอนว่าถ้าเป็นกรณีที่นักผลิตโกงขึ้นมา ผู้ดูแลระบบจะทำการยึดไอเท็มและเงินของพวกเขา

 

“เพราะว่าครั้งนี้ไม่มีเรื่องค่าใช้จ่าย เงื่อนไขหลักๆก็มีแค่การดูแลวัตถุดิบและก็กำหนดเวลา ถึงจะมีเวลาอยู่บ้างเพราะว่าเป็นวันหยุดแต่ฉันต้องกลับไปที่ห้องทำงานของฉัน ฉันต้องใช้เวลา 2 วัน รวมวันเตรียมการด้วยอีกเผื่อเอาไว้เป็น 3 วันโอเคไหม?”

 

“ฉันยกเรื่องกำหนดเวลาให้เลยละกันเพราะฉันไม่รู้เรื่องของการผลิตเลย…”

 

“เข้าใจล่ะ ในส่วนของวัตถุดิบ ฉันจะขอเอาไปทั้งหมดและจะคืนให้หลังจากที่สร้างเสร็จแล้วนะ ส่วนวัตถุดิบที่เหลือที่จะหั้นค่อยมาตกลงกันอีกที ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะว่าระบบสร้างเอง100%ไม่เสียของเปล่าแน่”

 

แต่เดิมแล้วดูเหมือนว่านอกจากดีไซน์แล้ว จะสามารถผลิตได้เลยถ้าเลือกที่จะสร้างตามระบบของเกมที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้

ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าอุปกรณ์ที่มีเอฟเฟคต่ำจะมาจากคุณภาพของวัตถุดิบมากกว่าความสามารถของผู้ผลิต

 

คิดถึงการดีไซน์ เปลี่ยนวัตถุดิบให้เข้ากัน นั่นจึงทำให้อุปกรณ์ที่ผู้เล่นสร้างมีคุณภาพสูงกว่าแบบทั่วไป

 

“อย่างนี้นี่เอง…การผลิตเองก็มีกฏการเล่นอีกแบบไปสินะ”

 

“ไม่ใช่แค่ล่าวัตถุดิบมาเอง สร้างมา แล้วก็ขายไปแบบนั้นล่ะนะ”

 

“ยังไงฉันก็จะทำต่อไปอยู่ดีเพราะว่ามันสนุกยังไงล่ะ” โคเนโกะมารุซังพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

 

“อ๊ะ แต่ว่า… ฉันกำลังสตรีมอยู่แล้วหน้าของคุณก็ถูกโชว์ด้วย จะไม่มีผู้เล่นคนอื่นมาโจมตีคุณแล้วแย่งไอเท็มหายากเหรอ?”

 

“ฮ่ะฮ่า ไม่ต้องกังวลไปหรอก ไม่มีใครโง่พอจะมาโจมตีผู้เล่นแนวหน้าอย่างฉันหรอกนะ ถึงจะดูเป็นแบบนี้แต่ฉันก็เป็นสมาชิกในแคลนชื่อดังนะ เพราะฉันเป็นผู้สนับสนุนหลักด้วยทักษะการสร้งให้กับผู้เล่นแนวหน้ายังไงล่ะ เพราะงั้นคนที่มาโจมตีฉันไม่ได้สร้างศัตรูแค่กับแคลนฉันกลุ่มเดียวหรอก อีกอย่างเลยแต่เดิมแล้วPK(ผู้เล่นฆ่าผู้เล่น)ไม่สามารถแย่งไอเท็มได้อยู่แล้วด้วย”

 

หัวเราะให้กับความกังวลของฉัน โคเนโกะมารซังก็พูดขึ้นมาพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

“ถ้างั้นฉันขอฝากด้วยนะ”

 

“ได้ ไว้ใจฉันได้เลย ฉันจะแสดงให้เห็นถึงอุปกรณ์ที่สมชื่ออุปกรณ์ยูนีคเอง”

 

ทำ[ข้อสัญญา]กันเรียบร้อย และบันทึกรายชื่อเพื่อน โคเนโกะมารุซังก็ออกเดินทางไปยังเมืองที่4พรอมกับวัตถุดิบจากหมาป่าแดงทั้งหมด

ไม่กี่ชั่วโมงลังจากที่ดูสตรีมเสร็จก็วิ่งมาจนถึงเมืองแห่งการเริ่มต้นแล้วก็กลับไปที่ฐานของตัวเองอีกครั้ง

คงเป็นเพราะแรงผลักดันของโคเนโกะมารุซังที่ทำให้เขาเป็นถึงผู้เล่นสายผลิตแนวหน้าได้

 

 

“ฟู่ว~ ถ้างั้นก็ไปซื้อตะบองเหล็กกันต่อดีกว่า”

 

[เก่งมาก]

[ทำได้ดีมากเลยล่ะ]

[ฮา มีการยิ้มธุรกิจตอนคุยเรื่องข้อตกลงกันด้วย]

 

“ฉันเคยทำงานสายการบริการเป็นพาร์ทไทม์อยู่นานเลยล่ะ แต่พอเป็นการเจรจาข้อตกลงแบบนั้นมันต่างกันจริงๆเลยนะ”

 

อาจจะเป็นเพราะอวาตาร์ที่เห็นแต่ฉันนึกภาพของการเจรจาผู้ชายที่แก่กว่า ฉันถอนหายใจแล้วก็เดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์สวมใส่

ต่างกับครั้งที่ฉันมาเมื่อวานนี้ มีผู้เล่นกลุ่มที่สองหลายคนที่เริ่มมีอิสระในการเงินขึ้นเลือกดูสิ่งของกันบ้างแล้ว

 

“พอเห็นแบบนี้แล้วเข้าใจเลยล่ะว่าทำไมถึงไม่มีNPCเฝ้าร้าน…”

 

เทียบกับร้านขายดาบ,หอก,หรือไม้เท้าแล้ว ร้านอาวุธไร้คมค่อนข้างโล่งแม้รอบข้างจะเต็มไปด้วยผู้คนก็ตาม ราวกับอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าในตัวเมืองเลย

แต่พอมาคิดว่าการเลือกซื้ออุปกรณ์สวมใส่ก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่งฉันก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเขานะ

เพราะเมื่อวานฉันเองก็สนุกเหมือนกันล่ะ

 

ในขณะที่มองไปยังฝูงคนด้วยความรู้สึกสุขใจ ฉันตรงไปยังมุมอาวุธไร้คมมุมเดิม

 

จริงๆแล้วหลังจากที่เลเวลเกิน20ไปแล้วจะถือว่าจบจากการเป็นมือใหม่ จึงมีสินค้าลับถูกเพิ่มขึ้นมาในร้านของNPC

และหนึ่งในสินค้าลับพวกนั้น รินจังบอกว่า “มั่นใจไดเลยว่าเธอจะต้องชอบมัน” เธอพูดด้วยความมั่นใจว่าจะมีอาวุธแบบนั้นอยู่

และนั่นก็คือ…

 

“ธาด้าา~ อาวุธใหม่ที่ปลดล็อหลังจากเลเวล20! [สุดยอดตะบองเหล็ก]! กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่หลังจากผ่านไปได้5ชั่วโมงล่ะ!”

 

ค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการคือ50! ค่าพลังโจมตีที่เพิ่มมาสองเท่าคือ30! และค่าความทนทานที่ยังคงอยู่ที่500!

พูดได้เต็มปากเลยว่าสมกับที่มีคำว่าสุดยอดอยู่หน้าชื่อ

พอมองดูแล้วก็ไม่มีความต่างในรูปลักษณ์มากนักนอกจากสีที่เข้มขึ้น

ราคา20,000ไอริส ก็นะช่วยไม่ได้ที่ราคามันจะเท่านี้ ในเมื่อฉันจะได้ชุดเกราะมาฟรี ฉันก็ขอเอาเงินมาใช้กับอาวุธบ้างละกัน

 

[ผ่ามมมมมมม]

[ผ่ามมมมมมม]

[ผ่ามมมมมมม]

[↑จะสามัคคีกันไปไหน]

[ตะบองของโอนิมัน….]

[การกลับมาของโอนิสาวป่าเถื่อน]

 

ถึงจะพูดกันตามใจอยาก แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะเป็นผู้พันสมองกล้ามสักหน่อยนะ

 

“เลิกพูดว่าโอนิสาวป่าเถื่อนได้แล้วโอเคไหม? ฉันจะร้องไห้แล้วนะ? เรียกอะไรที่ดูดีกว่านี้ไม่ได้เหรอไง?”

 

[วิญญาณฆ่าล้างบาง]

[นางฟ้าแห่งการสังหารหมู่]

[โอนิสาวฆ่าไม่เลี้ยง]

 

“จะโมโหจริงๆแล้วนะ”

 

ฉันตั้งมั่นที่จะกำจัดผู้ชมใจร้ายเหล่านั้น

เรื่องล้อเล่นเอาไว้ก่อน ท่ามกลางชื่อที่ดูเป็นตัวร้ายเหล่านั้นมีอยู่ชื่อหนึ่งที่สะดุดตาฉันขึ้นมา

 

[โอนิสาวสายอัดกระแทก]

 

ฉันไม่มั่นใจว่าอายุของฉันจะยังเรียกว่าโอนิสาวได้อยู่ไหมแต่ว่านะ ไม่ใช่ว่าเพราะอันอื่นๆมีแต่อันแย่ๆแต่เพราะว่าชื่อนี้ตรงที่สุดแล้ว

 

“และด้วยอำนาจของสตรีมเมอร์ฉันขอตัดสินว่าเป็นโอนิสาวสายอัดกระแทก จะไม่ยอมรับข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น!”

 

[เอ๋~]

[เอ๋~]

[สำเร็จ]

[เอ๋~]

[เอ๋~ ห๊ะ?]

[โอนิสาวสายอัดกระแทกในวัยยี่สิ- พลั๊วะ]

[↑ม-หมอนั่นตายไปแล้ว]

[(แย่แล้วสิ)]

[↑จะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว…]

 

“พวกนายไม่ปราณีกันเลยนะ!?”

 

ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรที่ถูกแซวเรื่องอายุหรอก

จะว่าไปแล้วฉันคิดว่ารินจังเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรในเรื่องนั้นด้วยเหมือนกัน

ถึงจะทำตัวโมโหคนดูที่พูดตามใจอยาก การโต้เถียงกันแบบนี้ก็สบายใจดีเหมือนกัน

 

“ทีนี้พวกเราก็มีอาวุธเรียบร้อยแล้ว บทลงโทษจากการตายเองก็หายไปแล้วเหมือนกันพวกเราไปซื้อไอเท็มแล้วมุ่งหน้าสู่ประตูทิศเหนือกันเถอะ! เป้าหมายต่อไป[ถ้ำแห่งการทดสอบ]!”

 

ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ฉันเตรียมพร้อมและออกเดินทางสู่ประตูทางทิศเหนือ

เป้าหมายของพวกเราคือ[ถ้ำแห่งการทดสอบ] ผ่านทุ่งราบทิศเหนือไป ซึ่งเป็นดันเจี้ยนเชื่อมต่อไปยังเมืองที่สอง [ดูอัลลิส]

พร้อมๆกับผู้ชมที่ส่งเสียงดัง ฉันก้าวเดินออกไปข้างหน้า

—-

ผู้เขียน : จากหลายตอนก่อน ผู้เล่นสายผลิตคนนั้นสำเร็จในการสปีดรันของเขาแล้ว

 

ซุคุนะให้วัตถุดิบไปง่ายๆเพราะเธอชอบรูปร่างของชุดเกราะที่เขาทำ และเธอก็ได้ยืนยันแล้วว่ารินเนะอยู่ในรายชื่อเพื่อนจริงๆ

แม้อีกฝ่ายจะมีคนหนุนหลังไว้เยอะ ซุคุนะเองก็มีรินเนะคอยหนุนหลังไว้อยู่เหมือนกัน

 

โคเนโกะมารุ: “ในที่สุดก็ได้เพิ่มรายชื่อเพื่อนที่อยากได้มาแล้ว”

เขาเป็นหนุ่มหล่อวัpกลางคน แต่งงานแล้ว และชอบการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น

ภรรยาของเขาเองก็อยู่ในWLOเช่นกัน เขาเป็นผู้เล่นสายผลิตเพื่อที่จะผลิตอุปกรณ์สวมใส่ให้กับเธอ แต่ว่าภรรยาของเขาเองก็เหมือนกับเขา เป็นผู้เล่นสายผลิตเช่นกัน ทั้งสองเป็นคู่รักที่เข้าคู่กันอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด