วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 6

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 6 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.6 – ทักษะอาวุธ

Translator : O-Minus / Author

 

หลังจากที่จัดการหมาป่าทั้งห้าตัวไป เสียงแจ้งเตือนเลเวลที่เพิ่มขึ้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

ในตอนนี้ที่มีแต้มโบนัสเหลืออยู่6แต้ม ฉันจึงแบ่งสามแต้มลงไปยังค่าความว่องไวและค่าความคล่องแคล่ว

ถ้าคุณโจมตีโดนจุดอ่อนของศัตรูแล้วล่ะก็ ถึงแม้ความเสียหายจะไม่มากพอแต่การเคลื่อนไหวจะถูกชะงัก ฉันเลยอยากที่จะโจมตีได้อย่างแม่นยำและว่องไว

 

แต่เดิมฉันตั้งใจที่จะใช้กำลังในการแก้ปัญหาโดยใช้ค่าสถานะทางกายภาพที่สูงของฉัน แต่พอคิดดูแล้วหลังจากนี้ต่อให้ค่าความว่องไวมากแค่ไหนก็ไม่พอ

กับความเร็วของหมาป่าเมื่อก่อนหน้านี้ก็ยังคงสบายๆ แต่ถ้าเป็นเวทมนต์สายฟ้าล่ะ? แค่ชื่อก็ฟังดูเร็วมากแล้ว

เพื่อกลบพลังป้องกันเวทมนต์อันต่ำต้อยของฉันแล้ว ฉันจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความว่องไวให้ส่งผลถึงการหลบหลีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นฉันคงจะต้องหาวิธีจัดการรับมือกับพวกเวทมนต์ด้วยสิ ฉันคิดเรื่องนั้นระหว่างที่เพิ่มแต้มสถานะ

 

“ดีจังนะที่เธอไม่เป็นอะไร”

 

“นั่นสินะ พวกมันได้กลายเป็นค่าEXPแล้วเพราะงั้นทุกอย่างก็โอเค”

 

หมาป่า ฉันคิดว่าพวกมันเหมาะสำหรับฉันนะ

ก็จริงที่พวกมันว่องไวแต่พลังป้องกันของพวกมันต่ำเกินไป ในตอนนี้ที่ค่าความแข็งแกร่งของฉันเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว ฉันสามารถจัดการพวกมันได้เพียงแค่โจมตีใส่จุดอ่อน

 

“ช่องคอมเมนต์คึกคักกันใหญ่เลยนะรู้ไหม?”

 

“ว้าว เยี่ยมไปเลยสิ”

 

“ผลตอบรับก็ เอ่อ ดีล่ะมั้ง”

 

ฉันจำไม่ได้เลยว่าไปทำอะไรให้พวกเขาประทับใจกันแต่ถ้ารินจังว่าอย่างนั้น

ฉันก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง

มีเพียงแค่สตรีมเมอร์เท่านั้นที่เห็นช่องคอมเมนต์ของผู้ชม ฉันจึงได้แต่คิดอย่างนั้น

 

“หลังจากนี้จะทำอะไรต่อดีล่ะ?”

 

“ตอนนี้ก็ล่าต่อล่ะมั้ง? คงจะดีถ้าพวกเราผ่านด่านทุ่งราบนี้ไปได้ก่อนที่เมืองเริ่มต้นจะเต็มไปด้วยผู้เล่นกลุ่มที่สองน่ะ”

 

“หืมมม เพราะว่าจะแย่งทรัพยากรกันน่ะเหรอ?”

 

“ใช่แล้ว โชคดีที่แถวๆ[ป่าสุดขอบเขต]ไม่ค่อยมีมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนต์สักเท่าไหร่ ถ้าเธอไปที่นั่นได้ก็คงจะเป็นพื้นที่ล่าที่เหมาะกับเธอนะ”

 

ถ้าบอกแค่ว่าแย่งชิงทรัพยากรกันก็คงจะเข้าใจลำบากนิดหน่อย แต่มันหมายถึงถ้ามีมอนสเตอร์ทั้งหมด100ตัว แล้วมีผู้เล่นทั้งหมด10,000คนที่ต้องแย่งกัน ก็นั่นล่ะ

ถ้าให้นึกภาพการแย่งชิงสินค้าลดราคาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอาจจะนึกภาพออกได้ง่ายขึ้นนะ

ถึงแม้จะเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่แต่มันก็ต้องมีลิมิตของจำนวนมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาอยู่

จะว่าไปแล้วการที่มอนสเตอร์โผล่ขึ้นมาคือการสปอว์น และการโผล่มาอีกครั้งเรียกรีสปอว์น(ต้นฉบับญี่ปุ่นเรียกป็อบกับรีป็อบ ซึ่งความหมายก็คือการที่มอนสเตอร์เกิดนั่นล่ะ)

 

“ถ้าพวกเราไปต่อกันอีกสักนิด พวกหมาป่าจะอยู่กันเป็นฝูงแบบเมื่อกี้นี้ล่ะ ตามปกติแล้วมันอันตรายเพราะงั้นฉันจึงไม่แนะนำแต่หลังจากที่ได้เห็นก่อนหน้านี้ ทางข้างหน้าคงจะคุ้มค่ากว่าสินะ”

 

“อืม ถ้ามีสัก10ตัวฉันคิดว่าฉันในตอนนี้คงจะรับมือไหวอยู่นะ”

 

“พึ่งพาได้จริงๆเลยนะ งั้นไปกันเถอะ”

 

ผลจากการสนทนาของพวกเรา พสกเราจึงตัดสินใจที่จะไปต่อยังทางทุ่งราบทิศใต้

 

พอมาคิดดูดีๆแล้วมีแต่ฉันคนเดียวที่ออกแรงนี่นา แต่สงสัยจังเลยนะว่ารินจังจะต่อสู้ยังไง?

 

ฉันอยากรู้นิดหน่อยแต่ว่าถ้ารินจังที่เล่นมาตลอดทั้งสองสัปดาห์ออกโรงล่ะก็ฉันคงไม่ได้ทำอะไรอีกแหง

สำหรับตอนนี้ก็มาเพิ่มเลเวลแล้วตามรินจังให้ทันกันเถอะ

จะตั้งหน้าตั้งตารอเลยล่ะ ฉันที่คิดแบบนั้นก็ได้มุ่งหน้าต่อไป

 

 

 

ฉันถอยหลบออกมาจากหมาป่าสองตัวที่โจมตีฉันจากด้านข้างแล้วตีลงไปยังหลังของหมาป่าตัวที่อยู่ด้านซ้าย

เมินในเรื่องที่หลังของหมานั้นบิดเบี้ยวตามไม้ตะบองไปด้านหลัง ฉันขว้างหินใส่หมาป่าทางด้านซ้าย

เจ้าหมาป่าที่พึ่งลงถึงพื้นไม่ทันได้คิดถึงเรื่องสิ่งที่ถูกขว้างใส่และชะงักไป พร้อมกับจังหวะที่โยนออกไปฉันย่นระยะเข้าหาและใช้[หวด]ด้วยไม้ตะบองเข้าไปที่หัวของมัน

 

“หืมมม?”

 

ตกใจกับการโจมตีครั้งเดียวตายและหัวของหมาป่าที่ระเบิดออก แต่ว่านี่ไม่ใช่เวลาสำหรับจะตกใจอยู่เฉยๆ

ตัวฉันนิ่งค้างไปเพราะใช้งานสกิลจึงมีหมาป่าอีกตัวที่กระโจนเข้าด้านหลังของฉัน แต่หลังจากที่ขยับตัวได้ฉันก็เหวี่ยงไม้ตะบองไปยังด้านหลังของฉันอย่างต่อเนื่อง

โชคไม่ดีที่ไม้ตะบองไม่โดนตรงๆแต่โดนแค่แขน จึงทำให้หมาป่าถูกซัดร่วงลงกับพื้นจนขยับไม่ได้ แล้วจึงถูกซัดจนตาย

และสุดท้ายหมาป่าตัวแรกที่ถูกทำให้ขยับไม่ได้เพราะกระดูกสันหลังที่แตกหัก ฉันจัดการมันด้วย[หวด]

 

“ฟู่ว~”

 

เกมสมัยนี้นี่สุดยอดไปเลยนะ

ฉันมั่นใจว่าพวกเขาต้องทำไปถึงชิ้นส่วนข้างในของร่างกายของมอนสเตอร์อีกด้วย

เพราะอย่างนั้นพอฉันตีไปที่คาง สมองพวกมันจึงถูกกระทบกระเทือน ถ้ากระดูกขาหักพวกมันก็จะขยับไม่ได้

พวกมันจะไม่ตายตราบที่ยังมีHPเหลือแต่ว่า ถ้าใช้ดาบแล้วตัดหัวของมันออกการโจมตีคงจะกลายเป็นโจมตีจุดตาย(คริติคอล)แล้วตายทันทีแน่นอน

 

อาจจะเพราะว่าการต่อสู้พึ่งจบลง

ฉันได้รับค่าประสบการณ์และการแจ้งเตือนเลเวลที่เพิ่มขึ้นก็ดังขึ้นมา

นี่เป็นครั้งที่หกแล้วที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ฉันเลเวล7แล้ว

หลังจากที่กระจายแต้ม ฉันมองดูค่าสถานะของตัวเองอีกครั้ง

ชื่อผู้เล่น:ซุคุนะ

เลเวล:7

เผ่า:[เผ่าโอนิ]

อาชีพ:

เงิน:4880 ไอริส

ค่าสถานะ

HP:120

MP:7

SP:65

ความแข็งแกร่ง:35

ความทนทาน:28

ความคล่องแคล่ว:48

ความว่องไว:41

ปัญญา:3

ความต้านทานเวทมนต์:3

โชค:22

แต้มที่หลงเหลือ:0

อุปกรณ์สวมใส่

อาวุธ:ไม้ตะบอง

หัว:ไม่มี

ลำตัว:เสื้อป่าน

แขน:ไม่มี

ช่วงล่าง:กางเกงป่าน

รองเท้า:รองเท้าป่าน

สกิล

[อาวุธไร้คม] : ความเชี่ยวชาญ 10

[ขว้าง] : ความเชี่ยวชาญ 7

 

เพราะว่าฉันแบ่งแต้มครึ่งหนึ่งทุกๆครั้งที่เลเวลอัพไปยังค่าความคล่องแคล่ว มันจึงออกมาค่อนข้างสูง

ถ้าให้เทียบกับตอนเริ่มต้นแล้วฉันคงบอกได้ว่าเริ่มใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวที่ฉันต้องการแล้วล่ะ

 

และฉันยังคงเพิ่มค่าความว่องไวตั้งแต่เลเวล3  ตอนนี้เลยเพิ่มข้นมาบ้าง

ค่าความแข็งแกร่งก็เช่นกันที่เพิ่มขึ้นทีละนิด ฉันยังไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มในที่ที่มีแต่หมาป่าแบบนี้ ฉันเลยจะค่อยๆเพิ่มไปทีละน้อย

แล้วยังรู้สึกว่าเงินฉันค่อยๆเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

ปัญหาก็คือค่าความชำนาญของสกิลนี่สิ

ฉันไม่เข้าใจระบบนี้เลยสักนิด

 

“สงสัยจังว่าจะเพิ่มความเชี่ยวชาญสูงสุดได้ถึงเท่าไหร่กัน…?”

 

“มีประกาศไว้จากเว็บทางการอยู่นะ แต่ง่ายๆก็1000ล่ะขึ้นอยู่กับว่าสกิลอะไรด้วย ดูเหมือนว่าของจริงจะเริ่มขึ้นหลังจากที่[อาวุธไร้คม]เริ่มแยกย่อยอีกหรอกนะ”

 

“แยกย่อยเหรอ?”

 

“ยกตัวอย่างก็[คฑามือเดียว] แล้วก็มี[คฑาสองมือ]หรือที่หายากหน่อยอย่าง[ไม้ตะบองสองมือ]ก็ถือว่าเป็นการแยกย่อยมาจาก[อาวุธไร้คม]นะ ถ้าสำหรับ[ดาบมือเดียว]แล้วก็มี[กระบี่]หรือ[ดาบสองมือ] สกิลแรกที่เลือกน่ะแข็งแกร่งมากเลยนะถ้าเพิ่มระดับแล้วแต่การแยกย่อยออกไปก็สนุกเหมือนกันนะ”

 

ดูเหมือนว่าจะมีการลงรายละเอียดลึกสำหรับประเภทอาวุธล่ะ

ถึงจะไม่แปลกก็เถอะถ้าจะมีบางเกมที่แบ่งประเภทโดยใช้แค่[คฑา]หรือ[ค้อน]

 

จะว่าไปแล้วสำหรับคฑาสองมือ มันอาจจะเป็นอาวุธสำหรับศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่าโบจูตสึ(ศิลปะการใช้พลองและกระบอง)

มันก็เหมือนกับหอกที่ไร้ปลายแหลม มันดูเรียบง่ายมากจนดูเหมือนเป็นแค่พลองธรรมดา

บางทีอาจจะเข้าใจได้ง่ายกว่าถ้าบอกว่ามันคือกระบองวิเศษ(ของหงอคง)ที่ยืดหดไม่ได้ล่ะนะ? ใช้ฟันไม่ได้แต่สามารถใช้หวด ทิ่มหลาว กวาด ปัดป้องได้ เน้นสำหรับการเคลื่อนไหวเบื้องต้นน่ะ

 

ด้วยความเรียบง่ายของคฑามือเดียวแล้วคงจะทรงพลังมากกว่าแต่ถ้ารวมเรื่องของระยะการโจมตีและประโยชน์ใช้สอยแล้วคฑาสองมือก็อาจจะดีกว่าก็ได้ละมั้ง

 

“อย่างนั้นนี่เอง หมายความว่า…เน้นแค่สกิล[อาวุธไร้คม]อย่างเดียวก็ได้เหมือนกันสินะ”

 

“เอาจริงๆนะ อาวุธไร้คมน่ะออกจะพิเศษนิดหน่อย เวลาที่ใช้คฑาหรือตะบองน่ะ ศาสตร์ของ[อาวุธไร้คม]…อ๊ะ หมายถึงสกิลพิเศษที่เรียนรู้ได้น่ะ มันก็ใช้ได้แต่ขีดจำกัดสูงสุดอยู่ที่เลเวล500 แล้วดูเหมือนว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีสกิลที่เรียนรู้ได้อีกก็เลยต้องแยกย่อยไปอยู่ดีน่ะ”

 

“หืมมม…ก็นะ คนที่ใช้ดาบยังต้องเริ่มจากสกิลดาบมือเดียวกันทุกคนเลยนี่ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะ”

 

[อาวุธไร้คม]อาจจะเหมารวมอาวุธในหมวดไว้ร่วมกัน แต่ถ้าคิดดูดีๆแล้วคนที่จะใช้ดาบสองมือได้ก็ต้องผ่าน[ดาบมือเดียว]เป็นสกิลเหมารวมมาด้วยเหมือนกัน

ไม่ใช่ว่าอาวุธไร้คมจะถูกเอาเปรียบสักหน่อย

 

ในความเป็นจริงแล้วศาสตร์…อาวุธ? ที่เรียนได้จากสกิล[อาวุธไร้คม]จะสามารถใช้ได้กับอาวุธไร้คมทุกชนิด เพราะอย่างนั้นจะเพิ่มเลเวลเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไร

ถึงคุณจะจำเป็นต้องใช้สกิลรุนแรงกับศัตรูระดับสูง เทคนิคง่ายๆก็ยังเอามาใช้กับพวกมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ

 

สกิล[หวด]ก็ยังสะดวกมากๆเพียงแค่ต้องถืออาวุธไว้ทั้งสองมือแล้วหวดออกไป

 

“แล้วก็นะ ยกตัวอย่างเช่นสกิล[คฑามือเดียว] จะต้องมีความเชี่ยวชาญระดับ30ก่อนถึงจะปลดล็อกได้นะ”

 

“ว่าแล้วเชียวว่าต้องเกี่ยวข้องกับค่าตัวเลขด้วย”

 

“ฉันได้ยินมาว่ามีสกิลที่มีเงื่อนไขปลดล็อกพิเศษอีกด้วยนะ อย่าง[คาตานะ]เองก็เป็นหนึ่งในสกิลพวกนั้น”

 

“ก็แหม มันมีความโรแมนซ์อยู่ในนั้นเหมือนกันนี่น่ะ”

คาตานะ ฉันสงสัยจังว่าจะทำให้ใช้วิชาดาบอิไอได้ไหมนะ?

ฉันคิดว่าการฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆคงจะรู้สึกดีน่าดู แต่ฉันกลัวว่าถ้าฉันใช้มันแล้วฉันจะพลาดจนทำดาบพังเอานี่สิ

 

แต่ในส่วนนั้นอาวุธไร้คมน่ะเหมาะกว่าเยอะ ที่ต้องทำก็แค่ฟาดลงไปสุดแรงก็พอ

 

“ว่าแล้วเชียวว่าการทุบก็คือความรุนแรงที่เรียบง่ายที่สุดแล้ว”

 

“จู่ๆก็พูดอะไรขึ้นมาน่ะ…”

 

รินจังที่ได้ยินคำพูดที่ฉันเผลอหลุดปากออกมาทำเหมือนกับว่าฉันเป็นบุคคลอันตรายอย่างไงอย่างงั้น

 

หลังจากนั้นพวกเราเดินทางลึกเข้าไปในทุ่งกว้างและสนุกกับเทศกาลหมาป่าพร้อมกับวัตถุดิบจากหมาป่ามากมายแล้วจึงเดินทางกลับเข้าเมือง

เมื่อถึงเลเวล10 ผู้ชมที่เห็นฉันผ่านสตรีมของรินจังได้ตั้งฉายาให้กับฉันว่า[ยักษ์สาวทุบแหลก]

 

บางทีฉันน่าจะทำตัวให้สงบนิ่งลงบ้างก็คงดี…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 6

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 6 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+