วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 33

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 33 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

        (มุมมองบุคคลที่สาม)

        เพียงประมาณสามร้อยวินาที หรือ ราวห้านาที เธอจะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นั่นคือสกิล[หมาป่าผู้หิวโหย]

        เป็นสกิลหายากที่มีที่มาเหมือนกับ[หยาดอสรพิษ]ของโรว แต่ในขณะนี้ไม่มีสิ่งใดเกินขึ้นนอกจากMPของโรวที่ถูกใช้ไปเมื่อเธอกำลังเทียบสกิลของเธอกับ[หมาป่าผู้หิวโหย] สกิลซึ่งมีผลเสียอันยิ่งใหญ่ที่ถูกซ่อนไว้อยู่

 

        ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มบทลงโทษจากการตายหรือลดค่าพลังด้านการป้องกันลง

        ผลเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่สิ่งที่เห็นกันได้ง่ายๆ นั่นก็คือสภาพการรับรู้ของผู้ใช้ที่ไม่เปลี่ยนไปต่างหาก

 

        เช่นเดียวกับหมาป่าแดงที่ซุคุนะสู้ด้วย มันมีความเร็วมากจนทำได้เพียงแค่การโจมตีอย่างเรียบง่าย สกิลนี้เองก็มีผลเหมือนเดียวกัน

        ร่างกายของคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถคำนวณการเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรมได้ เมื่อได้อะไรมาจนเกินกว่าจะรับไหวจะทำให้ไม่สามารถควบคุมได้

        ด้วยความที่สกิลนี้เพียงแค่ให้ค่าสถานะอย่างมากกับคุณ ถ้าควบคุมได้ก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย

        มันเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกหลอกว่าผลเสียของสกิลมีเพียงที่แสดงในคำอธิบายสกิล แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณควรจะ[ทำความเคยชิน]กับการใช้สกิลก่อนที่ความสามารถที่แท้จริงจะได้เฉิดฉาย

 

        หากแต่ว่า

        นั่นเป็นกรณีสำหรับผู้ใช้ที่เป็นเพียงผู้เล่นธรรมดาเท่านั้น

        ในเกมVRนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะได้รับความสามารถกายภาพแบบที่เทียบไม่ได้กับโลกความจริง ซึ่งคุณสามารถที่จะฝึกฝนจนชำนาญและทำความ[เคยชิน]กับมันได้

        ถ้าเป็นผู้เล่นที่ชำนาญเกมVRแล้วใช้สกิลนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาก็จะพอสามารถควบคุมสกิลนี้ได้

 

        แต่แล้วก็มีอีกหนึ่งข้อยกเว้น

 

        ☆

 

        รับรู้ได้ว่าแรงกดจากการก้าวเท้าของเธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างเทียบไม่ได้ ซุคุนะยิ้มออกมาเล็กน้อย และหลังจากนั้นทันทีเธอกดเท้าจนจมลงไปกับพื้นแล้วความเร็วกว่าสองเท่าจากเดิมของเธอก็ระเบิดออกมา

 

        ศัตรูต่อหน้าเธอได้แสดงไพ่ตายให้เธอเห็น ขณะที่กำลังอิ่มเอมไปกับความรู้สึกยินดีจากเรื่องนั้น จู่ๆโรวรู้สึกถึงความขนลุกคลืบคลานมากทางด้านหลังของเธอ ทำให้เธอโต้ตอบในทันทีด้วยการแทงดาบออกไปด้านหลัง

 

        “…!”

 

        เสียงโลหะแหลมคมดังขึ้นเมื่ออาวุธปะทะกัน

        ก้าวแรกของซุคุนะเพื่อพุ่งตัวมายังด้านหลังของเธอและก้าวที่สองเพื่อบดขยี้หัวของโรว

        เป็นเพียงชั่ววินาที เธอไม่ทันตั้งตัวจริงๆ

        แต่ว่า จากการที่หัวของเธอเกือบถูกบดไป ภายในอกของโรวกลับเต้นระรัวขึ้น

 

        “อ่า–ฮ่า”

 

        ฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า

        ทรมานลูกกระจ๊อกจนกว่าพวกมันจะตาย

        ไม่ลังเลที่จะใช้กลสกปรกหรือลอบโจมตีตราบใดที่เป้าหมายคือการฆ่า

        ทุกสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีความสุข

        แต่ว่าคนตรงหน้าเธอ….โรวรู้สึกได้ถึงความสุขที่คลืบคลานไปทั่วทั้งร่างกาย

 

        ตะบองเหล็กและเรเปียร์ปะทะซึ่งกันและกัน แต่ว่าแม้จะพึ่งพาความแข็งแกร่งที่ได้เพิ่มมาจากสกิลของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของโรวจะยังคงสูงกว่า แม้ว่าจะอยู่ในท่าทางที่เสียเปรียบแต่เธอก็ยังไม่แพ้ให้กับการแข่งความแข็งแกร่งขณะที่สะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว

        หากแต่การงัดอาวุธใส่กันได้หยุดลงเมื่อซุคุนะปล่อยมืออกจากอาวุธของเธอกะทันหัน เรเปียร์ที่โรวใส่แรงกดไว้ได้ขาดเป้าหมายและพุ่งไปยังที่ว่างข้างหน้า

 

        “ร่าห์!”

 

        “กึ๊…!?”

 

        ซีกซ้ายของเธอถูกคว้านโดยเท้าขวาของซุคุนะ ในจังหวะที่ซุคุนะปล่อยตะบองในมือ เธอหมุนตัวและใช้แรงนั่นเตะเป็นวงกว้าง

        เหมือนกับเมื่อก่อนหน้า ความเสียหายจากการโจมตีไม่ได้สูงนักเพราะว่าไม่ใช่สกิล

        แต่ว่าการถูกเตะขณะที่อยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคงทำให้ร่างกายของโรวกระเด็นออกไปไม่กี่เมตร

        ด้วยท่วงท่าราวกับล้อหมุน โรวได้จัดท่ายืนขึ้นใหม่และหลังจากที่ปัดมีดขว้างที่ขว้างมาหมายจะปิดฉากเธอ เธอก็แทงอย่างรวดเร็วไปยังข้างหลังของเธอซึ่งไม่มีสิ่งใดอยู่

 

        “แค่ก นั่นมันจะ….ปฏิกิริยาโต้ตอบดีไปแล้ว”

 

        ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงโลหะปะทะกันยืนยันว่าซุคุนะได้พุ่งตัวเข้าไปหวังจะโจมตีจากด้านหลังและได้ถูกโรวปัดป้องออกก่อนจะเป็นฝ่ายป้องกันการลอบโจมตีจากโรวด้วยส่วนกลางของตะบองเหล็ก

 

        “รู้ได้ยังไงน่ะ?”

 

        “ลางสังหรณ์ของผู้หญิง….ถ้าพูดไปอย่างนั้นจะเชื่อไหมนะ?”

 

        พูดขึ้นขณะที่โจมตี เสียงดังขึ้นสามครั้งเมื่อการโจมตีทุกครั้งนั้นถูกกันไว้ด้วยตะบองเหล็ก

        เพียงแต่ว่าแม้จะสู้กันไปได้ไม่กี่วินาที โรวก็สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของซุคุนะ

 

        “เห สกิลนั่นน่ะ ใช้ค่าHPในการใช้สินะ”

 

        “ก็ใช่ล่ะนะ แต่ว่า ถ้าไม่ใช้ฉันก็ชนะโรวไม่ได้น่ะสิ”

 

        โรวเองก็รู้ว่าสกิลที่ใช้HPขณะใช้งานนั้น ยิ่งพูดคุยระหว่างสู้ยิ่งเสียเวลาเปล่า

        ถึงกระนั้นแล้วซุคุนะก็ยังคงคุยด้วยตามเธอ

        นั่นหมายความว่าจะต้องมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่

 

        “เธอน่าจะระวังข้างบนหน่อยนะรู้ไหม?”

 

        โรวที่ก้าวถอยหลังออกไปทันทีที่ได้ยินก็แทบปล่อยเรเปียร์ในมือเมื่อถูกกระแทกจากลูกเหล็กที่ร่วงลงมาใส่หัวไหล่ของเธอ

        “โดนเข้าให้แล้ว” โรวคิดขึ้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันถูกขว้างออกไปเมื่อไหร่ แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว กับดักจากเวหาก็ถูกตั้งไว้แล้ว

        ซุคุนะยังคำนวณไว้อีกด้วยว่าเธอจะก้าวถอยหลังหลบ เธอเลยพูดออกมาอย่างนั้น

 

        โรวเลิกทิ้งระยะห่างจากซุคุนะที่ไล่ตามเธออยู่

        เธอไม่รู้ว่าผลเอฟเฟคของสกิลคืออะไร แต่ที่เธอรู้คือความว่องไวของซุคุนะนั้น–เหนือกว่าเลเวล60–ซึ่งนั่นมากกว่าของเธออย่างมาก

 

        ในเมื่อเธอแพ้ในด้านความว่องไว จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะสร้างระยะห่างระหว่างที่สู้

        และเพื่อที่จะใช้ความแข็งแกร่งที่เธอมีเหนือกว่า เธอจะต้องเข้าประชิด ซึ่งโชคดีสำหรับโรว ซุคุนะนั้นมีระยะเวลาที่จำกัดสำหรับสกิลของเธอ

        ผลเอฟเฟคระดับนั้นคงมีระยะมากสุดไม่เกินสิบนาที

 

        ขณะที่ตั้งสมมุติฐานเธอก็ถึงบทสรุปของสกิลได้สามรูปแบบ

        หนึ่ง HPของซุคุนะจะถูกใช้ไปเรื่อยๆจนหมดและเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะตาย

        สอง HPของเธอจะลดลงไปจนถึงหนึ่งแล้วผลเอฟเฟคก็จะหยุดลง

        สาม HPของเธอจะถูกลดลงไปถึงหนึ่งทำให้ลดลงไปไม่ได้อีกแต่เอฟเฟคจะยังคงอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะกรณีไหนก็จินตนาการตามได้ไม่ยากที่สกิลจะทำให้เธออยู่ในสภาพปางตายเมื่อระยะเวลาหมดลง

 

        ปัญหาก็คือความสามารถในการมองอันสุดยอดของซุคุนะและปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ

        ราวกับจะเยาะเย้ยโรวผู้ทุ่มเทเวลาไปกับการทำความเคยชินกับค่าสถานะของตัวละครที่สูงกว่าในโลกความเป็นจริงอย่างเทียบไม่ได้ โอนิสาวนั่นกลับควบคุมอวาตาร์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ

        การโจมตีครึ่งๆกลางๆไม่มีทางโดน กลับกันจะเป็นการเปิดช่องว่างให้โจมตีด้วยซ้ำ

        ถ้าโรวใช้สกิลไปแล้วถูกรับมือได้ ในช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการชะงักนั้น มีความเป็นไปได้ที่โรวที่ไม่ได้ใส่แต้มโบนัสไปยังพลังป้องกันเลยจะได้รับความเสียหายถึงตายจากสกิลของซุคุนะ

        แม้กระทั่งสกิลยูนีคของอาวุธ[เรเปียร์แห่งการยั่วยวน]และสกิลหายากของโรวเองก็จัดการกับซุคุนะได้ลำบากเพราะสกิลนั้นเป็นประเภทที่จะต้องทำความเสียหายทางกายภาพแก่เป้าหมายให้ได้ก่อนที่ผลเอฟเฟคสกิลจะทำงาน

        ดูเหมือนว่าความเข้ากันได้ของเหยื่อในครั้งนี้จะไม่เหมาะกับโรวเลย

 

        เพียงแต่ว่า ในฐานะนักฆ่าผู้เล่นแล้ว โรวตัดสินใจที่จะฆ่าเป้าหมายที่เธอเลือกไว้ให้ได้ทุกครั้ง

        แม้ว่าเธออาจจะกำลังทำสิ่งที่จะส่งผลร้ายให้กับเธอ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดการฆ่าผู้เล่นแต่อย่างใด อีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพบกับสถานการณ์เช่นนี้เสียหน่อย

        จนถึงตอนนี้เธอได้จัดการผู้เล่นไป66คนแล้ว และเธอมั่นใจว่าจะฆ่าซุคุนะให้ได้อย่างแน่นอน

        ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเลวร้ายแค่ไหน ไม่ว่าจะต้องเล่นสกปรกเพียงใด ทุกอย่างจะเรียบร้อยตราบที่เธอเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย

 

        (ไม่ใช่เรื่องที่จะล้อเล่นได้เลยนะ)

 

        แม้ว่าเธอเพียงแค่จะมาตรวจสอบความผิดปกติบริเวณหนองน้ำเฉยๆและฆ่าผู้เล่นอื่นเล่นไปเรื่อย ก่อนกลับเธอดันพบเข้ากับม้าพยศซะได้

        ขณะที่ตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองทำได้ เธอเหลือบไปยังคิจินที่มุ่งหน้าเข้ามา

 

        ซุคุนะไม่ใช่คนเดียวที่มีไพ่ตาย มีทางที่จะฆ่าเธอได้อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่โรวตัดสินใจให้ศึกนี้กลายเป็นการแข่งขันความอดทน

 

        ☆(มุมมองซุคุนะ)

 

        การที่โรวตัดสินใจแข่งความอดทนเป็นอะไรที่ฉันคาดไว้อยู่แล้ว

        ไม่ว่าฉันจะมีความว่องไวมากแค่ไหน ค่าสถานะอื่นๆของฉันนั้นน้อยกว่าโรวทั้งนั้น ฉันจำเป็นต้องใช้หมาป่าผู้หิวโหยเพื่อที่จะไม่ถูกฆ่าในทันที ถ้าฉันถูกโจมตีแม้สักครั้งเดียว ระยะเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยก็จะยิ่งลดลงไปอีกอย่างมาก ซึ่งนั่นเป็นข้อเสียเปรียบอย่างชัดเจน

 

        ยิ่งไปกว่านั้น เกมนี้ทีสิ่งที่เรียกว่าSP

        โดยการทำงานของมันคือยิ่งฉันเคลื่อนที่ไวแค่ไหน SPของฉันก็ยิ่งถูกใช้ไปมากเท่านั้น แต่ด้วยเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยฉันจึงต้องโจมตีอยู่เรื่อยๆยิ่งทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงไปตามความยืดเยื้อ

        แล้วก็มีหญิงสาวตรงหน้าฉันที่เคยชินกับการสู้กับผู้เล่นคนอื่น ฉันไม่อาจประมาทเธอได้เลยว่าเธอไม่มีวิธีจัดการกับศัตรูที่เร็วกว่า

 

        จากท่าทางที่เธอแสดงออกมาและวิธีที่เธอรับมือลูกเตะทั้งสองของฉันจนถึงตอนนี้ ไม่ผิดแน่ที่เธอเป็นประเภทนักดาบที่เน้นความว่องไวที่มีพลังป้องกันต่ำ

        การควบคุมร่างกายของเธอไม่ดีดีมากนักแต่จากความรวดเร็วอย่างมากของดาบของเธอ ค่าความคล่องแคล่วของเธอควรจะสูงมากเลย

        แล้วเธอยังแข็งแกร่งพอที่ฉันจะต้องไม่ประมาทในการต่อสู้ระยะประชิดอีกด้วย

        จนถึงตอนนี้ฉันคอยทำให้เธอเสียสมดุลด้วยกลวิธีต่างๆ แต่จากตรงนี้ไปฉันควรจะทำอะไรด้วยความคิดที่ว่าฉันจะโจมตีไม่ได้จนกว่าฉันจะทำลายการป้องกันของเธอไปได้

 

        เสียงอาวุธปะทะกันดังสะท้อนไปทั่วหนองน้ำ

        ในการต่อสู้นี้ฉันไม่ได้ใช้ตะบองสองมือ

        แม้ว่านั่นจะดูเหมือนอาวุธที่จะชนะได้ง่ายๆแต่ในศึก1ต่อ1แล้ว อาวุธนั้นยากที่จะควบคุมมากเกินไป

        พูดให้ถูกคือมันไม่เหมาะที่จะใช้โจมตีต่อเนื่องในขณะที่ปะทะกันด้วยความเร็ว

        เมื่อดูระยะการโจมตีของอาวุธนี้แล้ว จริงอยู่ว่าไม่ว่าจะใช้ส่วนไหนตะบองสองมือในการโจมตีก็สร้างความเสียหายได้สูง

        แต่ในการต่อสู้จริงแล้ว สุดท้ายฉันก็จะได้แต่คอยตั้งรับถ้าเลือกใช้มัน

 

        ระยะโจมตีของอาวุธถูกคำนวนในการใช้สกิลอย่าง[กวาดเรียบ]ซึ่งทุกส่วนของอาวุธนั้นสร้างความเสียหายได้มาก แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่านี้

 

        จริงๆแล้วฉันคิดว่ามันเหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดที่คุณถูกบังคับให้อยู่กับที่เสียมากกว่าอีก

        ถ้าเอาไว้ใช้กับมอนสเตอร์ล่ะก็ จะต้องมีสถานการณ์ที่อาวุธนี้ได้เฉิดฉายอย่างแน่นอน

 

        เพียงแต่ว่า สำหรับตอนนี้แล้ว ฉันจะต้องคอยกดดันโรวที่เน้นหลบหลีกการโจมตีของฉัน

 

        แล้วยังต้องคิดถึงกรณีที่ฉันอาจจะต้องใช้อาวุธขว้างพร้อมกันด้วย ฉันจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงตะบองสองมือไป ฉันอยู่ในการต่อสู้ที่ทำให้ไม่ได้ใช้อาวุธใหม่เลยนี่นา

 

        ตะบองเหล็กฟาดเฉียงจากทางด้านขวนถูกปัดออก

        ลูกเตะวงกว้างที่เตะหลอกแล้วสับเปลี่ยนเป็นเตะกวาดขาถูกหลบด้วยการกระโดดถอยหลัง

        แล้วก้อนหินที่ฉันดีดใส่ไปก็เฉี่ยวแก้มเธอเท่านั้น

 

        “ชิ!”

 

        ฉันลุกขึ้นจากการก้มราวกับเต้นเบรกแดนซ์แล้วพยายามจู่โจมโรวที่ชะงักไปชั่วครู่จากความเสียหาย แต่ราวกับจะเย้ยการโจมตีของฉัน เธอปัดออกแล้วสวนกลับ

 

        ฉันใช้ส่วนหนามของตะบองเพื่อปัดป้องก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วใช้[หวด]เข้าที่ด้านข้างลำตัวเธอ

        อย่างที่คิดไว้ โรวไม่สามารถหลบได้พ้นและถูกบังคับให้ใช้ดาบรับเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้าเป้าไปเล็กน้อยและลดHPของเธอ

 

        ผ่านมาสองนาทีแล้วหลังจากที่เริ่มสู้ HPของฉันเหลืออยู่ราวๆ60%แต่โรวเองก็ได้รับความเสียหายไปพอๆกัน

        พอคำนึงถึงความไวในการตอบสนองของโรวแล้ว ฉันไม่สามารถใช้สกิลที่มีช่องว่างกว้างได้ฉันเลยใช้[หวด] สกิลที่ใช้ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่อย่างที่คาดไว้ว่าการโจมตีนั้นไม่เข้าเป้าเป๊ะ

 

        แม้ว่ารอบข้างจะมีต้นไม้อยู่บ้าง…..ฉันได้แต่บ่นกับตัวเองที่ที่นี่คือหนองน้ำราบเรียบ อาวุธขว้างของฉันอย่างมากก็เป็นได้แค่ตัวล่อ

 

        “ฟุฟุ เป็นแบบนี้ต่อไปใครจะตายก่อนกันนะ?”

 

        “อยากรู้ก็ให้ฉันฆ่าเธอสิ”

 

        “เป็นข้อเสนอที่น่ารักมากเลยล่ะ”

 

        แลกเปลี่ยนทั้งเทคนิค การหลบหลีก และคำพูด ต้องขอบใจความไวของฉันที่เหนือกว่าเธอจึงทำให้ดูเหมือนว่าฉันเป็นฝ่ายโจมตี แม้ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ของฉันจะค่อนข้างร้ายแรงเลยก็เถอะ

        ความสามารถในการวิเคราะห์ของโรวนั้นสูงกว่าที่ฉันคาดคิดเอาไว้มาก พอมาลองคิดดูดีๆแล้วเธอเองก็เป็นผู้เล่นที่สามารถปราบบอสยูนีคได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเธอมีฝีมือพอที่จะทำถึงขนาดนี้อยู่แล้ว

 

        แทนที่จะบอกว่าฉันโจมตีโดนเธอ ควรจะบอกว่าเธอยอมให้โดนมากกว่า แทนที่จะยอมโดนโจมตีอย่างเต็มเป้า เธอยอมสละHPของเธอเล็กน้อยแทน นี่คือผลจากความสามารถของเธอ

 

        ในขณะที่เวลาซึ่งเต็มไปด้วยการปะทะฝีมือได้ผ่านไป เสียงอาวุธปะทะกันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ราวกับเป็นเสียงของเครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงดังสะท้านไปทั่วหนองน้ำ

        หนึ่งคนไล่ตาม,ฉัน หนึ่งคนถูกไล่ตาม,โรว จากมุมมองของคนอื่นที่มองมาคงจะเหมือนกับว่าพวกเรากำลังร่ายรำกันอยู่

 

        ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในตอนนั้นฉันถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขล่ะ

        เหมือนกับตอนที่ได้สู้กับหมาป่าแดง การต่อสู้ที่สนุกสุดๆที่ต้องใช้ทุกสิ่งที่มีอยู่ในการหาทางฆ่าศัตรู

        โลกที่รินจังชวนฉันเข้ามา ความสามารถในการทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ในโซ่ตรวนของโลกความจริง โลกที่ฉันเข้ามาหวังไว้เพียงสิ่งนั้น

        ยังไม่พอหรอก ฉันยังใช้งานมันได้ไม่พอ ขีดจำกัดของฉันยังไม่ถึงขีดสุด ฉันยังไปได้อีก เร็วกว่านี้ เร็วขึ้นกว่านี้อีก สู่การโจมตีที่เฉียบคมยิ่งกว่านี้!

 

        ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ทั้งฉันและโรวก็กำลังยิ้มอยู่

        ลืมไปเลยว่านี่เป็นศึกถึงตาย พวกเราก็ได้หัวเราะออกมา

 

        นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม

        เพราะพวกเราคอยแต่สนใจอีกฝ่าย

        พวกเราถึงไม่ทันสังเกตถึง –มัน–

 

        ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม ความสิ้นหวังได้เข้าปกคลุมหนองน้ำ

 

        ☆(มุมมองบุคคลที่สาม)

 

        ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม มันได้บินลงมา

        หนองน้ำสั่นสะเทือน ราวกับได้มีระเบิดลง พื้นดินได้กลายเป็นหลุมบ่อบริเวณเท้าของมัน

        ใช่แล้ว มอนสเตอร์นั่นปรากฏตัวขึ้นจากบนฟากฟ้า

 

        เปลือกหุ้มดำสนิท ร่างกายที่ใหญ่โต

        ตัดทุกอย่างเป็นชิ้นได้ง่ายดาย กรงเล็บของมัน

        ดวงตาประกายทองคำ–เยงแค่สะบัดหางก็สร้างลมโหมกระหน่ำ

        ทุกๆคนรู้จักถึงสิ่งมีชีวิตนี้

        สัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัว หรือบางทีอาจเป็นร่างกำเนิดใหม่ของปีศาจ ตัวตนที่ปรากฏขึ้นในทุกตำนาน พร้อมกับความแข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเคียง

 

        [มังกรบริสุทธ์แห่งสัจธรรม –อโพคาลิพส์– Lv.???]

 

        นี่คือการบุกรุกของมังกร

 

        ————————————–

        ไม่ค้างเนอะ

        ชื่อของมังกรอีกชื่อที่แปลได้คือมังกรแห่งความจริง โดยที่ผมเลือกใช้มังกรแห่งสัจธรรมแทนโดยคิดว่ามันเข้ากับการเป็นชื่อมากกว่าครับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 33

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 33 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

        (มุมมองบุคคลที่สาม)

        เพียงประมาณสามร้อยวินาที หรือ ราวห้านาที เธอจะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นั่นคือสกิล[หมาป่าผู้หิวโหย]

        เป็นสกิลหายากที่มีที่มาเหมือนกับ[หยาดอสรพิษ]ของโรว แต่ในขณะนี้ไม่มีสิ่งใดเกินขึ้นนอกจากMPของโรวที่ถูกใช้ไปเมื่อเธอกำลังเทียบสกิลของเธอกับ[หมาป่าผู้หิวโหย] สกิลซึ่งมีผลเสียอันยิ่งใหญ่ที่ถูกซ่อนไว้อยู่

 

        ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มบทลงโทษจากการตายหรือลดค่าพลังด้านการป้องกันลง

        ผลเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่สิ่งที่เห็นกันได้ง่ายๆ นั่นก็คือสภาพการรับรู้ของผู้ใช้ที่ไม่เปลี่ยนไปต่างหาก

 

        เช่นเดียวกับหมาป่าแดงที่ซุคุนะสู้ด้วย มันมีความเร็วมากจนทำได้เพียงแค่การโจมตีอย่างเรียบง่าย สกิลนี้เองก็มีผลเหมือนเดียวกัน

        ร่างกายของคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถคำนวณการเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรมได้ เมื่อได้อะไรมาจนเกินกว่าจะรับไหวจะทำให้ไม่สามารถควบคุมได้

        ด้วยความที่สกิลนี้เพียงแค่ให้ค่าสถานะอย่างมากกับคุณ ถ้าควบคุมได้ก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย

        มันเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกหลอกว่าผลเสียของสกิลมีเพียงที่แสดงในคำอธิบายสกิล แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณควรจะ[ทำความเคยชิน]กับการใช้สกิลก่อนที่ความสามารถที่แท้จริงจะได้เฉิดฉาย

 

        หากแต่ว่า

        นั่นเป็นกรณีสำหรับผู้ใช้ที่เป็นเพียงผู้เล่นธรรมดาเท่านั้น

        ในเกมVRนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะได้รับความสามารถกายภาพแบบที่เทียบไม่ได้กับโลกความจริง ซึ่งคุณสามารถที่จะฝึกฝนจนชำนาญและทำความ[เคยชิน]กับมันได้

        ถ้าเป็นผู้เล่นที่ชำนาญเกมVRแล้วใช้สกิลนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาก็จะพอสามารถควบคุมสกิลนี้ได้

 

        แต่แล้วก็มีอีกหนึ่งข้อยกเว้น

 

        ☆

 

        รับรู้ได้ว่าแรงกดจากการก้าวเท้าของเธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างเทียบไม่ได้ ซุคุนะยิ้มออกมาเล็กน้อย และหลังจากนั้นทันทีเธอกดเท้าจนจมลงไปกับพื้นแล้วความเร็วกว่าสองเท่าจากเดิมของเธอก็ระเบิดออกมา

 

        ศัตรูต่อหน้าเธอได้แสดงไพ่ตายให้เธอเห็น ขณะที่กำลังอิ่มเอมไปกับความรู้สึกยินดีจากเรื่องนั้น จู่ๆโรวรู้สึกถึงความขนลุกคลืบคลานมากทางด้านหลังของเธอ ทำให้เธอโต้ตอบในทันทีด้วยการแทงดาบออกไปด้านหลัง

 

        “…!”

 

        เสียงโลหะแหลมคมดังขึ้นเมื่ออาวุธปะทะกัน

        ก้าวแรกของซุคุนะเพื่อพุ่งตัวมายังด้านหลังของเธอและก้าวที่สองเพื่อบดขยี้หัวของโรว

        เป็นเพียงชั่ววินาที เธอไม่ทันตั้งตัวจริงๆ

        แต่ว่า จากการที่หัวของเธอเกือบถูกบดไป ภายในอกของโรวกลับเต้นระรัวขึ้น

 

        “อ่า–ฮ่า”

 

        ฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า

        ทรมานลูกกระจ๊อกจนกว่าพวกมันจะตาย

        ไม่ลังเลที่จะใช้กลสกปรกหรือลอบโจมตีตราบใดที่เป้าหมายคือการฆ่า

        ทุกสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีความสุข

        แต่ว่าคนตรงหน้าเธอ….โรวรู้สึกได้ถึงความสุขที่คลืบคลานไปทั่วทั้งร่างกาย

 

        ตะบองเหล็กและเรเปียร์ปะทะซึ่งกันและกัน แต่ว่าแม้จะพึ่งพาความแข็งแกร่งที่ได้เพิ่มมาจากสกิลของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของโรวจะยังคงสูงกว่า แม้ว่าจะอยู่ในท่าทางที่เสียเปรียบแต่เธอก็ยังไม่แพ้ให้กับการแข่งความแข็งแกร่งขณะที่สะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว

        หากแต่การงัดอาวุธใส่กันได้หยุดลงเมื่อซุคุนะปล่อยมืออกจากอาวุธของเธอกะทันหัน เรเปียร์ที่โรวใส่แรงกดไว้ได้ขาดเป้าหมายและพุ่งไปยังที่ว่างข้างหน้า

 

        “ร่าห์!”

 

        “กึ๊…!?”

 

        ซีกซ้ายของเธอถูกคว้านโดยเท้าขวาของซุคุนะ ในจังหวะที่ซุคุนะปล่อยตะบองในมือ เธอหมุนตัวและใช้แรงนั่นเตะเป็นวงกว้าง

        เหมือนกับเมื่อก่อนหน้า ความเสียหายจากการโจมตีไม่ได้สูงนักเพราะว่าไม่ใช่สกิล

        แต่ว่าการถูกเตะขณะที่อยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคงทำให้ร่างกายของโรวกระเด็นออกไปไม่กี่เมตร

        ด้วยท่วงท่าราวกับล้อหมุน โรวได้จัดท่ายืนขึ้นใหม่และหลังจากที่ปัดมีดขว้างที่ขว้างมาหมายจะปิดฉากเธอ เธอก็แทงอย่างรวดเร็วไปยังข้างหลังของเธอซึ่งไม่มีสิ่งใดอยู่

 

        “แค่ก นั่นมันจะ….ปฏิกิริยาโต้ตอบดีไปแล้ว”

 

        ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงโลหะปะทะกันยืนยันว่าซุคุนะได้พุ่งตัวเข้าไปหวังจะโจมตีจากด้านหลังและได้ถูกโรวปัดป้องออกก่อนจะเป็นฝ่ายป้องกันการลอบโจมตีจากโรวด้วยส่วนกลางของตะบองเหล็ก

 

        “รู้ได้ยังไงน่ะ?”

 

        “ลางสังหรณ์ของผู้หญิง….ถ้าพูดไปอย่างนั้นจะเชื่อไหมนะ?”

 

        พูดขึ้นขณะที่โจมตี เสียงดังขึ้นสามครั้งเมื่อการโจมตีทุกครั้งนั้นถูกกันไว้ด้วยตะบองเหล็ก

        เพียงแต่ว่าแม้จะสู้กันไปได้ไม่กี่วินาที โรวก็สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของซุคุนะ

 

        “เห สกิลนั่นน่ะ ใช้ค่าHPในการใช้สินะ”

 

        “ก็ใช่ล่ะนะ แต่ว่า ถ้าไม่ใช้ฉันก็ชนะโรวไม่ได้น่ะสิ”

 

        โรวเองก็รู้ว่าสกิลที่ใช้HPขณะใช้งานนั้น ยิ่งพูดคุยระหว่างสู้ยิ่งเสียเวลาเปล่า

        ถึงกระนั้นแล้วซุคุนะก็ยังคงคุยด้วยตามเธอ

        นั่นหมายความว่าจะต้องมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่

 

        “เธอน่าจะระวังข้างบนหน่อยนะรู้ไหม?”

 

        โรวที่ก้าวถอยหลังออกไปทันทีที่ได้ยินก็แทบปล่อยเรเปียร์ในมือเมื่อถูกกระแทกจากลูกเหล็กที่ร่วงลงมาใส่หัวไหล่ของเธอ

        “โดนเข้าให้แล้ว” โรวคิดขึ้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันถูกขว้างออกไปเมื่อไหร่ แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว กับดักจากเวหาก็ถูกตั้งไว้แล้ว

        ซุคุนะยังคำนวณไว้อีกด้วยว่าเธอจะก้าวถอยหลังหลบ เธอเลยพูดออกมาอย่างนั้น

 

        โรวเลิกทิ้งระยะห่างจากซุคุนะที่ไล่ตามเธออยู่

        เธอไม่รู้ว่าผลเอฟเฟคของสกิลคืออะไร แต่ที่เธอรู้คือความว่องไวของซุคุนะนั้น–เหนือกว่าเลเวล60–ซึ่งนั่นมากกว่าของเธออย่างมาก

 

        ในเมื่อเธอแพ้ในด้านความว่องไว จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะสร้างระยะห่างระหว่างที่สู้

        และเพื่อที่จะใช้ความแข็งแกร่งที่เธอมีเหนือกว่า เธอจะต้องเข้าประชิด ซึ่งโชคดีสำหรับโรว ซุคุนะนั้นมีระยะเวลาที่จำกัดสำหรับสกิลของเธอ

        ผลเอฟเฟคระดับนั้นคงมีระยะมากสุดไม่เกินสิบนาที

 

        ขณะที่ตั้งสมมุติฐานเธอก็ถึงบทสรุปของสกิลได้สามรูปแบบ

        หนึ่ง HPของซุคุนะจะถูกใช้ไปเรื่อยๆจนหมดและเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะตาย

        สอง HPของเธอจะลดลงไปจนถึงหนึ่งแล้วผลเอฟเฟคก็จะหยุดลง

        สาม HPของเธอจะถูกลดลงไปถึงหนึ่งทำให้ลดลงไปไม่ได้อีกแต่เอฟเฟคจะยังคงอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะกรณีไหนก็จินตนาการตามได้ไม่ยากที่สกิลจะทำให้เธออยู่ในสภาพปางตายเมื่อระยะเวลาหมดลง

 

        ปัญหาก็คือความสามารถในการมองอันสุดยอดของซุคุนะและปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ

        ราวกับจะเยาะเย้ยโรวผู้ทุ่มเทเวลาไปกับการทำความเคยชินกับค่าสถานะของตัวละครที่สูงกว่าในโลกความเป็นจริงอย่างเทียบไม่ได้ โอนิสาวนั่นกลับควบคุมอวาตาร์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ

        การโจมตีครึ่งๆกลางๆไม่มีทางโดน กลับกันจะเป็นการเปิดช่องว่างให้โจมตีด้วยซ้ำ

        ถ้าโรวใช้สกิลไปแล้วถูกรับมือได้ ในช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการชะงักนั้น มีความเป็นไปได้ที่โรวที่ไม่ได้ใส่แต้มโบนัสไปยังพลังป้องกันเลยจะได้รับความเสียหายถึงตายจากสกิลของซุคุนะ

        แม้กระทั่งสกิลยูนีคของอาวุธ[เรเปียร์แห่งการยั่วยวน]และสกิลหายากของโรวเองก็จัดการกับซุคุนะได้ลำบากเพราะสกิลนั้นเป็นประเภทที่จะต้องทำความเสียหายทางกายภาพแก่เป้าหมายให้ได้ก่อนที่ผลเอฟเฟคสกิลจะทำงาน

        ดูเหมือนว่าความเข้ากันได้ของเหยื่อในครั้งนี้จะไม่เหมาะกับโรวเลย

 

        เพียงแต่ว่า ในฐานะนักฆ่าผู้เล่นแล้ว โรวตัดสินใจที่จะฆ่าเป้าหมายที่เธอเลือกไว้ให้ได้ทุกครั้ง

        แม้ว่าเธออาจจะกำลังทำสิ่งที่จะส่งผลร้ายให้กับเธอ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดการฆ่าผู้เล่นแต่อย่างใด อีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพบกับสถานการณ์เช่นนี้เสียหน่อย

        จนถึงตอนนี้เธอได้จัดการผู้เล่นไป66คนแล้ว และเธอมั่นใจว่าจะฆ่าซุคุนะให้ได้อย่างแน่นอน

        ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเลวร้ายแค่ไหน ไม่ว่าจะต้องเล่นสกปรกเพียงใด ทุกอย่างจะเรียบร้อยตราบที่เธอเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย

 

        (ไม่ใช่เรื่องที่จะล้อเล่นได้เลยนะ)

 

        แม้ว่าเธอเพียงแค่จะมาตรวจสอบความผิดปกติบริเวณหนองน้ำเฉยๆและฆ่าผู้เล่นอื่นเล่นไปเรื่อย ก่อนกลับเธอดันพบเข้ากับม้าพยศซะได้

        ขณะที่ตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองทำได้ เธอเหลือบไปยังคิจินที่มุ่งหน้าเข้ามา

 

        ซุคุนะไม่ใช่คนเดียวที่มีไพ่ตาย มีทางที่จะฆ่าเธอได้อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่โรวตัดสินใจให้ศึกนี้กลายเป็นการแข่งขันความอดทน

 

        ☆(มุมมองซุคุนะ)

 

        การที่โรวตัดสินใจแข่งความอดทนเป็นอะไรที่ฉันคาดไว้อยู่แล้ว

        ไม่ว่าฉันจะมีความว่องไวมากแค่ไหน ค่าสถานะอื่นๆของฉันนั้นน้อยกว่าโรวทั้งนั้น ฉันจำเป็นต้องใช้หมาป่าผู้หิวโหยเพื่อที่จะไม่ถูกฆ่าในทันที ถ้าฉันถูกโจมตีแม้สักครั้งเดียว ระยะเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยก็จะยิ่งลดลงไปอีกอย่างมาก ซึ่งนั่นเป็นข้อเสียเปรียบอย่างชัดเจน

 

        ยิ่งไปกว่านั้น เกมนี้ทีสิ่งที่เรียกว่าSP

        โดยการทำงานของมันคือยิ่งฉันเคลื่อนที่ไวแค่ไหน SPของฉันก็ยิ่งถูกใช้ไปมากเท่านั้น แต่ด้วยเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยฉันจึงต้องโจมตีอยู่เรื่อยๆยิ่งทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงไปตามความยืดเยื้อ

        แล้วก็มีหญิงสาวตรงหน้าฉันที่เคยชินกับการสู้กับผู้เล่นคนอื่น ฉันไม่อาจประมาทเธอได้เลยว่าเธอไม่มีวิธีจัดการกับศัตรูที่เร็วกว่า

 

        จากท่าทางที่เธอแสดงออกมาและวิธีที่เธอรับมือลูกเตะทั้งสองของฉันจนถึงตอนนี้ ไม่ผิดแน่ที่เธอเป็นประเภทนักดาบที่เน้นความว่องไวที่มีพลังป้องกันต่ำ

        การควบคุมร่างกายของเธอไม่ดีดีมากนักแต่จากความรวดเร็วอย่างมากของดาบของเธอ ค่าความคล่องแคล่วของเธอควรจะสูงมากเลย

        แล้วเธอยังแข็งแกร่งพอที่ฉันจะต้องไม่ประมาทในการต่อสู้ระยะประชิดอีกด้วย

        จนถึงตอนนี้ฉันคอยทำให้เธอเสียสมดุลด้วยกลวิธีต่างๆ แต่จากตรงนี้ไปฉันควรจะทำอะไรด้วยความคิดที่ว่าฉันจะโจมตีไม่ได้จนกว่าฉันจะทำลายการป้องกันของเธอไปได้

 

        เสียงอาวุธปะทะกันดังสะท้อนไปทั่วหนองน้ำ

        ในการต่อสู้นี้ฉันไม่ได้ใช้ตะบองสองมือ

        แม้ว่านั่นจะดูเหมือนอาวุธที่จะชนะได้ง่ายๆแต่ในศึก1ต่อ1แล้ว อาวุธนั้นยากที่จะควบคุมมากเกินไป

        พูดให้ถูกคือมันไม่เหมาะที่จะใช้โจมตีต่อเนื่องในขณะที่ปะทะกันด้วยความเร็ว

        เมื่อดูระยะการโจมตีของอาวุธนี้แล้ว จริงอยู่ว่าไม่ว่าจะใช้ส่วนไหนตะบองสองมือในการโจมตีก็สร้างความเสียหายได้สูง

        แต่ในการต่อสู้จริงแล้ว สุดท้ายฉันก็จะได้แต่คอยตั้งรับถ้าเลือกใช้มัน

 

        ระยะโจมตีของอาวุธถูกคำนวนในการใช้สกิลอย่าง[กวาดเรียบ]ซึ่งทุกส่วนของอาวุธนั้นสร้างความเสียหายได้มาก แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่านี้

 

        จริงๆแล้วฉันคิดว่ามันเหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดที่คุณถูกบังคับให้อยู่กับที่เสียมากกว่าอีก

        ถ้าเอาไว้ใช้กับมอนสเตอร์ล่ะก็ จะต้องมีสถานการณ์ที่อาวุธนี้ได้เฉิดฉายอย่างแน่นอน

 

        เพียงแต่ว่า สำหรับตอนนี้แล้ว ฉันจะต้องคอยกดดันโรวที่เน้นหลบหลีกการโจมตีของฉัน

 

        แล้วยังต้องคิดถึงกรณีที่ฉันอาจจะต้องใช้อาวุธขว้างพร้อมกันด้วย ฉันจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงตะบองสองมือไป ฉันอยู่ในการต่อสู้ที่ทำให้ไม่ได้ใช้อาวุธใหม่เลยนี่นา

 

        ตะบองเหล็กฟาดเฉียงจากทางด้านขวนถูกปัดออก

        ลูกเตะวงกว้างที่เตะหลอกแล้วสับเปลี่ยนเป็นเตะกวาดขาถูกหลบด้วยการกระโดดถอยหลัง

        แล้วก้อนหินที่ฉันดีดใส่ไปก็เฉี่ยวแก้มเธอเท่านั้น

 

        “ชิ!”

 

        ฉันลุกขึ้นจากการก้มราวกับเต้นเบรกแดนซ์แล้วพยายามจู่โจมโรวที่ชะงักไปชั่วครู่จากความเสียหาย แต่ราวกับจะเย้ยการโจมตีของฉัน เธอปัดออกแล้วสวนกลับ

 

        ฉันใช้ส่วนหนามของตะบองเพื่อปัดป้องก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วใช้[หวด]เข้าที่ด้านข้างลำตัวเธอ

        อย่างที่คิดไว้ โรวไม่สามารถหลบได้พ้นและถูกบังคับให้ใช้ดาบรับเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้าเป้าไปเล็กน้อยและลดHPของเธอ

 

        ผ่านมาสองนาทีแล้วหลังจากที่เริ่มสู้ HPของฉันเหลืออยู่ราวๆ60%แต่โรวเองก็ได้รับความเสียหายไปพอๆกัน

        พอคำนึงถึงความไวในการตอบสนองของโรวแล้ว ฉันไม่สามารถใช้สกิลที่มีช่องว่างกว้างได้ฉันเลยใช้[หวด] สกิลที่ใช้ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่อย่างที่คาดไว้ว่าการโจมตีนั้นไม่เข้าเป้าเป๊ะ

 

        แม้ว่ารอบข้างจะมีต้นไม้อยู่บ้าง…..ฉันได้แต่บ่นกับตัวเองที่ที่นี่คือหนองน้ำราบเรียบ อาวุธขว้างของฉันอย่างมากก็เป็นได้แค่ตัวล่อ

 

        “ฟุฟุ เป็นแบบนี้ต่อไปใครจะตายก่อนกันนะ?”

 

        “อยากรู้ก็ให้ฉันฆ่าเธอสิ”

 

        “เป็นข้อเสนอที่น่ารักมากเลยล่ะ”

 

        แลกเปลี่ยนทั้งเทคนิค การหลบหลีก และคำพูด ต้องขอบใจความไวของฉันที่เหนือกว่าเธอจึงทำให้ดูเหมือนว่าฉันเป็นฝ่ายโจมตี แม้ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ของฉันจะค่อนข้างร้ายแรงเลยก็เถอะ

        ความสามารถในการวิเคราะห์ของโรวนั้นสูงกว่าที่ฉันคาดคิดเอาไว้มาก พอมาลองคิดดูดีๆแล้วเธอเองก็เป็นผู้เล่นที่สามารถปราบบอสยูนีคได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเธอมีฝีมือพอที่จะทำถึงขนาดนี้อยู่แล้ว

 

        แทนที่จะบอกว่าฉันโจมตีโดนเธอ ควรจะบอกว่าเธอยอมให้โดนมากกว่า แทนที่จะยอมโดนโจมตีอย่างเต็มเป้า เธอยอมสละHPของเธอเล็กน้อยแทน นี่คือผลจากความสามารถของเธอ

 

        ในขณะที่เวลาซึ่งเต็มไปด้วยการปะทะฝีมือได้ผ่านไป เสียงอาวุธปะทะกันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ราวกับเป็นเสียงของเครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงดังสะท้านไปทั่วหนองน้ำ

        หนึ่งคนไล่ตาม,ฉัน หนึ่งคนถูกไล่ตาม,โรว จากมุมมองของคนอื่นที่มองมาคงจะเหมือนกับว่าพวกเรากำลังร่ายรำกันอยู่

 

        ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในตอนนั้นฉันถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขล่ะ

        เหมือนกับตอนที่ได้สู้กับหมาป่าแดง การต่อสู้ที่สนุกสุดๆที่ต้องใช้ทุกสิ่งที่มีอยู่ในการหาทางฆ่าศัตรู

        โลกที่รินจังชวนฉันเข้ามา ความสามารถในการทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ในโซ่ตรวนของโลกความจริง โลกที่ฉันเข้ามาหวังไว้เพียงสิ่งนั้น

        ยังไม่พอหรอก ฉันยังใช้งานมันได้ไม่พอ ขีดจำกัดของฉันยังไม่ถึงขีดสุด ฉันยังไปได้อีก เร็วกว่านี้ เร็วขึ้นกว่านี้อีก สู่การโจมตีที่เฉียบคมยิ่งกว่านี้!

 

        ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ทั้งฉันและโรวก็กำลังยิ้มอยู่

        ลืมไปเลยว่านี่เป็นศึกถึงตาย พวกเราก็ได้หัวเราะออกมา

 

        นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม

        เพราะพวกเราคอยแต่สนใจอีกฝ่าย

        พวกเราถึงไม่ทันสังเกตถึง –มัน–

 

        ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม ความสิ้นหวังได้เข้าปกคลุมหนองน้ำ

 

        ☆(มุมมองบุคคลที่สาม)

 

        ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม มันได้บินลงมา

        หนองน้ำสั่นสะเทือน ราวกับได้มีระเบิดลง พื้นดินได้กลายเป็นหลุมบ่อบริเวณเท้าของมัน

        ใช่แล้ว มอนสเตอร์นั่นปรากฏตัวขึ้นจากบนฟากฟ้า

 

        เปลือกหุ้มดำสนิท ร่างกายที่ใหญ่โต

        ตัดทุกอย่างเป็นชิ้นได้ง่ายดาย กรงเล็บของมัน

        ดวงตาประกายทองคำ–เยงแค่สะบัดหางก็สร้างลมโหมกระหน่ำ

        ทุกๆคนรู้จักถึงสิ่งมีชีวิตนี้

        สัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัว หรือบางทีอาจเป็นร่างกำเนิดใหม่ของปีศาจ ตัวตนที่ปรากฏขึ้นในทุกตำนาน พร้อมกับความแข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเคียง

 

        [มังกรบริสุทธ์แห่งสัจธรรม –อโพคาลิพส์– Lv.???]

 

        นี่คือการบุกรุกของมังกร

 

        ————————————–

        ไม่ค้างเนอะ

        ชื่อของมังกรอีกชื่อที่แปลได้คือมังกรแห่งความจริง โดยที่ผมเลือกใช้มังกรแห่งสัจธรรมแทนโดยคิดว่ามันเข้ากับการเป็นชื่อมากกว่าครับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+