วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก 23

Now you are reading วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก Chapter 23 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.23 – ถนนสู่ป่าแห่งเวทมนตร์

Translator : O-Minus / Author

 

แต่เดิมแล้วเนี่ย

เป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะบังคับมอบไอเท็มให้กับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ หรือไม่ได้ส่งมอบผ่านจดหมาย?

 

คำตอบคือ[เป็นไปไม่ได้] การจะแลกเปลี่ยนไอเท็มกันนั้น นอกจากในกรณีของข้อสัญญาแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องให้ความยินยอมเสียก่อน

ไม่ได้เข้าใจยากอะไรเลย ก็แค่[คุณตกลงรับไอเท็ม□□□ จากผู้เล่น ○○○-ซังหรือไม่?] [ตกลง ยกเลิก] จะปรากฏขึ้นมาก่อนการแลกเปลี่ยนทุกครั้ง

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าตามปกติแล้วจะไม่สามารถรับไอเท็มที่ถูกผลักมาให้แต่ว่า

ถ้าอาศัยช่องว่างของระบบแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีวิธีส่งมอบไอเท็มทางกายภาพอย่างลูกทุ่มนี้

 

นั่นก็คือ การสละสิทธิในการครอบครองไอเท็มของตัวเอง

ผู้เล่นฮารูรุคนนั้น เธอก็แค่หยิบไอเท็มที่ไม่มีเจ้าของแล้วส่งต่อมาให้ฉัน

นั่นหมายความว่าในตอนนี้ลูกทุ่มพวกนี้ก็มีค่าเท่ากับก้อนหินข้างทาง

 

แล้วก็อันที่จริงแล้ว ด้านหน้าของฉันยังมี[ต้องการเก็บ[ลูกทุ่ม(เล็ก)]ใส่ช่องเก็บของหรือไม่?]อยู่เลยด้วย

สุดท้ายแล้วถ้าฉันไม่ทำอะไรที่เป็นการรับไอเท็มมา มันจะกลายเป็นอาวุธไร้เจ้าของและถ้าปล่อยทิ้งไว้มันจะเสียค่าความทนทานจนสลายไปหรือไม่ก็มีใครสักคนที่เก็บมันไป

 

ในเมื่อฉันไม่อยากให้มันต้องเสียเปล่า แทนที่จะมัวกังวลฉันเลยกดตกลงและเก็บลุกทุ่มในกระเป๋าไว้ในช่องเก็บของ

การที่ทำแบบนั้นได้เป็นหลักฐานยืนยันว่าลูกทุ่มนี้เป็นไอเท็มไร้เจ้าของจริงๆ

 

“เมื่อกี้มันอะไรกันนะ…???”

 

[โดนโลลิยัดของให้ ฮา]

[ทองเหลือง?](ลูกทุ่ม=ฟุนโด ทองเหลือง=ซุนโด)

[↑นั่นมันหม้อแล้ว]

[เล่นเป็นตัวเด็กผู้หญิงได้ด้วยเหรอ?]

[ลูกทุ่ม…]

 

“เอาเถอะ ไหนๆก็ได้มาแล้วเอาไปลองใช้หน่อยดีกว่า คันเนื้อคันตัวอยากออกแรงแล้วล่ะ ไปที่ทุ่งราบกันเลยเถอะ”

 

ถึงแต่เดิมแล้วเป็นเพียงแค่การสนองความอยากรู้อยากเห็นของฉันแต่ถนนร้านค้าทำให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่าที่คิด

ขณะตอบกลับที่ช่องคอมเมนต์ที่ทำตัวหวาดกลัวกัน ฉันก็เร่งเท้าไปยังประตูทางออก

 

 

ที่เมืองแห่งการเริ่มต้น ฝั่งประตูทิศใต้ถือว่าเป็นจุดที่ยากที่สุด สำหรับเมืองนี้ที่ไม่มีทางไหนที่เป็นทางตันเลย กลับมีทิศเหนือที่ยากที่สุด

ดันเจี้ยนที่เชื่อมต่อไปยังเมืองที่สาม ป่าแห่งเวทมนตร์ ทางเข้าของมันกำลังรอฉันอยู่เบื้องหน้าของทุ่งราบที่มีถนนแย่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้

 

อย่างแรกเลย มีหญ้าสูงขึ้นอยู่ตรงนั้นตรงนี้แล้วยังมีหลุมพรางอยู่ที่พื้นอีก…หรือต้องเรียกว่าหลุมหลบภัยสำหรับซ่อนตัวที่ถูกขุดเอาไว้กันนะ

ถ้ามัวแต่กังวลว่าจะมีมอนสเตอร์ซ่อนอยู่ในพงหญ้าก็จะดินตกลงไปในหลุม หรืถ้ามัวแต่กังวลเรื่องหลุมก็จะถูกมอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ดักจู่โจมเข้า

แล้วยังจะมีก้อนหินขนาดใหญ่ร่วงลงมาใส่อีกด้วย

สรุปแล้วมอนสเตอร์จะได้รบโบนัสการซ่อนตัว เป็นพื้นที่ที่ไม่ดีเลย

 

“กย๊าาาา”

 

“เอาฮึบ หืมมมม หรือเพราะว่าที่นี่ถนนไม่ดีด้วย เลเวลของมอนสเตอร์เลยไม่ได้สูงขนาดนั้นกันนะ”

 

ขณะที่ฉันทุบกะโหลกของก็อบลินที่ทำท่าเหมือนจะลอบโจมตีฉันจากข้างหลัง HPของมันก็หมดลงอย่างน่าผิดหวังและสลายไป

ขณะที่เดินตามถนนแย่ๆอย่างสบายใจ ฉันก็เริ่มที่จะชินกับอาชีพใหม่ของฉัน

 

เอาจริงๆนะก็อบลินที่ไม่ใช่ชนิดสูงก็เป็นได้แค่ตัวน่ารำคาญเท่านั้นล่ะ

ไหนจะเป็นแค่มอนสเตอร์จากดันเจี้ยนที่แล้วแท้ๆ ไม่ว่าพื้นที่จะแย่หรือจะอยู่ในท่าทางที่ลำบากแค่ไหน มอนสเตอร์กระจอกเหล่านั้นก็ยังถูกจัดการได้ง่ายๆ

เมื่อเทียบกับหมาป่าที่เปราะบางแต่รวดเร็วแล้ว ก็อบลินมีความเร็วและความถึกที่ปานกลาง

นอกจากมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีอาวุธแล้ว พวกมันก็จัดการได้ง่ายกว่าหมาป่าเยอะ

 

สำหรับฉันแล้วมันง่ายที่จะโจมตีโดนจุดตายเพราะว่าพวกมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ว่าดูเหมือนจะมีผู้เล่นบางคนที่ไม่อาจโจมตีมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ได้อยู่ ฉันคิดว่าแบบนั้นน่าลำบากมากเลย

ในโลกนี้ไม่ว่าจะแมลง สัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์น่ารักๆต่างก็เป็นมอนสเตอร์ในโลกนี้ ถ้าพวกนั้นยังโจมตีได้แต่กลับโจมตีพวกคล้ายมนุษย์ไม่ได้ทั้งๆที่พวกมันก็เป็นมอนสเตอร์เหมือนกันแล้ว ฉันคิดว่าคงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ

 

จะว่าไปแล้ว ไอเท็มหายากที่ก็อบลินดรอปคืออาวุธในเซ็ต[○○เก่าๆ] ซึ่งถ้านำไปให้NPCที่ร้านแล้วจะสามารถซ่อมแซมไอเท็มให้กลายเป็นอาวุธเริ่มต้นได้ล่ะ

ได้อาวุธเริ่มต้นหลังจากมาถึงเมืองที่สองแล้ว ถ้าเป็นสายนักสะสมของก็คงจะพอใจละมั้ง?

แล้วก็ถ้าเอาไปขายก็จะได้500ไอริส ราคาไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น

 

อ๊ะ ก็อบลินอาเชอร์กำลังเล็งมาทางนี้จะมุมก้อนหินไกลออกไป

 

“อุรย๊า!”

 

สิ่งที่ฉันขว้างออกไปด้วยท่าทางจริงจังคือลูกทุ่มที่ฉันได้รับมาก่อนหน้านี้

มันดูเหมือนลูกทุ่มที่เอาไว้ใช้วัดน้ำหนักนะ แต่ฉันสงสัยจังว่ามันทำงานยังไงกัน ขนาดพอๆกับลูกเทนนิสแต่กลับหนักกว่ามาก น้ำหนักราวๆ2กิโลกรัม

ลูกทุ่มที่ถูกขว้างออกไปในท่าขว้างบอลธรรมดาๆเหมือนขว้างเบสบอลพุ่งตรงไปตามที่ฉันตั้งใจไว้และบดหัวของก็อบลินตัวนั้น

 

“ไนซ์”(Nice)

 

หลังจากที่ได้เห็นเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปกว่า30เมตรถูกทำลาย ฉันก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอันสดชื่นภายในมือ

ก็อบลินอาเชอร์โจมตีจากระยะไกลได้แต่แลกมากับพลังโจมตีและป้องกันที่ต่ำ

แต่ถ้าเป็นฮ็อบก็อบลินล่ะก็ฉันไม่คิดว่าจะตายภายในครั้งเดียวหรอกนะ

 

[ฮี๊]

[เมื่อกี้ทำอะไรลงไปกันน่ะ เอาจริงดิ]

[อย่าปาหัวง่ายๆเหมือนขว้างกระป๋องเปล่าลงถังขยะสิ]

 

“นี่ ถ้าฉันจะขว้างกระป๋องเปล่าฉันก็ไม่ขว้างแบบจริงจังอย่างนี้หรอกนะ”

 

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว แต่ว่าเมื่อก่อนที่สวนสาธารณะมักจะมีถังปริศนาที่เอาไว้ใส่ขยะอยู่ด้วยสินะถ้าจำไม่ผิดแล้ว

ในตอนที่ฉันกำลังรำลึกอดีตอยู่นั้น ช่องคอมเมนต์ต่างเต็มไปด้วย[ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ] ทำไมกันล่ะ?

 

“แต่ว่านะ ลูกทุ่มพวกนี้ขว้างได้ง่ายกว่ามีดขว้างอีกนะ”

 

ไม่ต้องให้ฉันบอกก็ได้มั้งแต่ว่าวัตถุทรงกลมน่ะขว้างได้ง่ายกว่าวัตถุรูปทรงยาวอีกนะ

ประเด็นสำคัญคือลูกทุ่มน่ะมีแค่ความหนักกับความแข็ง ถ้าขว้างโดนล่ะก็ ด้วยความแรงที่พอเหมาะก็สามารถทำความเสียหายได้ดีเลยล่ะ

ท่าขว้างลูกบอลแบบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว ด้วยความที่มันมีน้ำหนักทำให้รักษาความเสถียรได้ดีกว่าก้อนหินอีก ขว้างง่ายกว่ามีดขว้างอีกด้วย

 

ข้อเสียก็คือฉันไม่สามารถนำมันมาใส่ในช่องเก็บมีดที่เข็มขัดที่ฉันใส่อยู่ได้

ถ้าฉันไปหาเด็กผู้หญิงที่ชื่อฮารูรุคนนั้น ฉันจะหาอุปกรณ์สำหรับเจ้านี้ได้ไหมนะ…?

 

ขณะที่ลองใช้ลูกทุ่มไปเรื่อย ฉันก็ได้สังหารก็อบลินและกระต่ายจำนวนมากไปสักพัก

 

“โอ้ว นี่น่ะเหรอป่าแห่งเวทมนตร์น่ะ?”

 

ฉันก็มาถึงดันเจี้ยนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นป่าทึบที่มีแสงแดดผ่านม่านใบไม้ตามกิ่งใบ

ดูเหมือนว่าจะเริ่มเข้าจากตรงไหนก็ได้นะ แต่ว่าจะมีทางเข้าเล็กๆทางหนึ่งที่ถูกดูแลเอาไว้ ตรงนั้นมีอะไรคล้ายๆกระท่อมอยู่ด้วย

 

[จะเข้าดันเจี้ยนเหรอ?]

[กระท่อม!]

[ดันเจี้ยนนี้ที่จะฆ่าซุคุนะง่ายๆเลยน่ะเหรอ?]

[↑หืมมมม…..]

[ก็นะ พอมองเรื่องความเข้ากันได้แล้ว…]

[คิดว่าคงไม่โดนหรอกถ้ามันไม่ใช้เวทมนตร์ติดตามตัว]

 

“เวทมนตร์เดียวที่ฉันเคยเห็นใกล้ๆคือของรินจังเพราะงั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ตอนนี้ลองไปดูที่กระท่อมแล้วกลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องล็อกเอาท์สักแปปนึงตอนเที่ยงด้วย”

 

เชื่อตามคำพูดของผู้ชมผ่านคอมเมนต์ ฉันเดินเข้าไปใกล้กระท่อมที่ผู้เล่นหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น

พอมาเห็นใกล้ๆแล้ว มันใหญ่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีกนะ

แทนที่จะเรียกว่ากระท่อม มันดูเหมือนร้านน้ำชาหรืออะไรที่เป็นที่พักผ่อนเลยล่ะ

 

“ขอโทษนะคะ ที่นี่คือที่แบบไหนกันเหรอคะ?”

 

“หือ? อ่า ก็เป็นจุดพักเซฟล่ะนะ…เดี๋ยวนะ เธอคนเมื่อวานนี่”

 

แทนที่จะมัวแต่สงสัย ฉันตัดสินใจถามชายผู้ใช้ดาบมือเดียว จากการตอบรับของเขาดูเหมือนว่าเราจะเคยเจอกันมาก่อน

หลังจากย้อนนึกความทรงจำในหัวได้5วินาที ฉันก็จำหน้าของเขาได้

เขาคือนักดาบมือเดียวที่บอกฉันว่าศูนย์ลงทะเบียนอาชีพอยู่ที่ไหนยังไงล่ะ

 

“…อ๊ะ! พี่ชายที่บอกทางนั่นเอง ขอบคุณสำหรับเมื่อวานด้วยนะ มาที่นี่คนเดียวเหรอ?”

 

“เปล่าหรอก มากับเพื่อนน่ะ ตอนนี้คนนั้นกำลังซื้อของอยู่…ขอโทษทีนะ ฉันชื่อชูยะ”

 

“ฉันซุคุนะ อ๊ะ ฉันกำลังสตรีมอยู่นะ เป็นอะไรไหม?”

 

“อ่า ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนฉันหลายคนก็สตรีมเหมือนกัน…เดี๋ยวนะ ซุคุนะ? ชื่อซุคุนะเหรอ?”

 

“ใช่แล้ว…”

 

ชูยะซังนักดาบมือเดียว ดูเหมือนว่าเขาจะเคยได้ยินชื่อของฉันมาก่อนนะ

แต่ว่าจากที่เห็นแล้ว เขาคงไม่ได้ไปได้ยินชื่อฉันจากสตรีมของฉัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เหมือนว่าเขาจะได้ยินจากที่คนอื่นคุยกัน

ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้

 

“รอตรงนี้ก่อนได้ไหม ขอตามเพื่อนมาก่อนนะ”

 

“อ่า โอเค”

 

ชูยะซังเข้าไปและเรียกเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่ชั้นสองของบ้านน้ำชา

 

“เกิดอะไรขึ้นกันนะ?”

 

[คงจะเป็นผู้ชม]

[ผู้ชมงั้นเหรอ?](risuna kana?)

[งั้นเหรอ](kana)

[งั้นเหรอ-?](kana-?)

[ค้อน](kanazuchi เล่นมุขต่อคำกันเองในช่องคอมเมนต์)

 

“ค้อนทำไมเหรอ”

 

ถึงฉันจะเป็นที่รู้จักจากสตรีมที่ฉันสู้กับอาเรีย แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลกๆอยี่ที่ถูกรู้จักโดยคนแปลกหน้าแบบนี้

คิดถึงเรื่องอะไรแบบนั้นระหว่างที่ฉันไม่ได้ทำอะไร ขณะที่เขายังไม่กลับมาฉันก็เล่นกับช่องคอมเมนต์ระหว่างที่รอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด