หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 242 นี่คือพรหมลิขิต

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 242 นี่คือพรหมลิขิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นี่​คือ​พรหมลิขิต​

ฮองเฮา​ของ​ฮ่องเต้​หลี​?

ไม่ใช่แค่​นางสนม​ แต่​เป็น​ถึงจ้าว​แห่ง​ตำหนัก​ใน​?

ใน​ชั่ว​ขณะนั้น​เอง​ ที่​หลิน​เสวี่ยเหยียน​นั้น​ลืม​เรื่อง​จงซู่เฟิงคนโปรด​ของ​นาง​ไป​เสีย​สนิท​ และ​ตกหลุมรัก​ให้​กับ​บัลลังก์​ของ​ฮองเฮา​ ถ้าเกิด​ว่า​นาง​ได้​เป็น​ฮองเฮา​ ก็​จะเหมือนกับ​ว่า​นาง​ได้​สยาย​ปีก​ออก​และ​กลายเป็น​หงส์​ไฟยังไง​อย่าง​งั้น​

ไม่ว่า​จะเป็น​หลิน​ซีเหยียน​ที่​เก่ง​เรื่อง​วิชา​หมอ​และ​ หลิน​รั่ว​จิ่งที่​ฉลาด​หลักแหลม​ พวก​นาง​ก็​ยัง​ต้อง​อยู่​ต่ำกว่า​นาง​อยู่ดี​ ในขณะที่​หลิน​เสวี่ยเหยียน​กำลัง​ฝันหวาน​และ​ยัง​ดึง​สติ​ตัวเอง​กลับมา​ไม่ได้​อยู่​นั้น​ มหา​เสนาบดี​หลิน​ก็​ได้รับ​ราชโองการ​มา

“ได้​โปรด​ให้​เวลา​เสียหน่อย​แล้ว​ให้​ลูกสาว​ของ​ข้า​ได้​ล้าง​เนื้อ​ล้าง​ตัว​สักนิด​ เพื่อที่จะ​ได้​ไม่เป็นการ​เสียมารยาท​ต่อ​พระ​ราชสำนัก​ได้​หรือไม่​?”

กาว​กง​กง​ก็ได้​ผงกหัว​ด้วย​ท่าที​ที่​สุภาพ​ อย่างไร​เสีย​คุณหนู​เหล่านี้​คนใดคนหนึ่ง​ก็​จะต้อง​ไป​เป็น​ฮองเฮา​ในอนาคต​ เขา​จะไป​ล่วงเกิน​ไม่ได้​เด็ดขาด​ “คุณหนู​ทั้งหลาย​ รีบ​ไป​เสีย​ข้า​จะรอ​อยู่​ที่​นี่แหละ​”

หลิน​ซีเหยียน​นั้น​ไม่ได้​เตรียมตัว​อะไร​ อย่างไร​เสีย​ตำแหน่ง​ฮองเฮา​นั้น​ไม่เคย​เป็นที่​หลงใหล​สำหรับ​นาง​เลย​ อย่าง​ที่​รู้กัน​ใน​สายตา​ของ​นาง​นั้น​ ฮองเฮา​นั้น​เหมือนกับ​นก​ขมิ้น​ที่อยู่​กักขัง​อยู่​ใน​กรง​เสีย​มากกว่า​

หลังจาก​ 1 ชั่ว​ก้านธูป​ผ่าน​ไป​ บุตรสาว​ทั้ง​สี่คน​ของ​มหา​เสนาบดี​หลิน​ก็ได้​กลับมา​รวม​กันที่​ห้องโถง​อีกครั้ง​ และ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ใคร​นั้น​หวัง​ตำแหน่ง​นี้​อยู่​

เสื้อผ้า​ของ​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​ดู​เรียบร้อย​และ​งดงาม​ แต่​บรรยากาศ​รอบ​ตัวนาง​นั้น​ทำให้​ผู้คน​ต้อง​หันมา​มอง​นาง​ โดยเฉพาะ​ดวงตา​ที่​นุ่มนวล​และ​อ่อนไหว​ราวกับ​น้ำ​ใน​ลำธาร​ ซึ่งทำให้​ผู้คน​ต้อง​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ยาม​ที่​มอง​ไป​ที่​ดวงตา​ของ​นาง​

ส่วน​หลิน​หัว​เย​ว่​นั้น​แต่งตัว​ใน​ชุด​สีขาว​ ซึ่งแลดู​นุ่มนวล​และ​บอบบาง​เหมือนกับ​ดอกบัว​

และ​ใน​บรรดา​ทั้ง​สี่คน​นี้​ เสื้อผ้า​ของ​หลิน​เสวี่ยเหยียน​นั้น​ดู​สวยงาม​มาก​ที่สุด​ แม้แต่​ผู้​ที่​ไม่มีความคิดสร้างสรรค์​ด้าน​การ​แต่งตัว​เหมือน​พวก​เศรษฐี​ก็​ยัง​บอก​ได้​ว่า​ชุด​นี้​ดู​หรูหรา​มาก​

ส่วน​หลิน​ซีเหยียน​นั้น​แทบ​ไม่มีอะไร​เปลี่ยน​เลย​ แต่​แค่​มอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ที่จะ​นำพา​หายนะ​มาให้​อาณาจักร​และ​ผู้คน​ของ​นาง​แล้ว​ นาง​ก็​ชนะ​ทุกคน​ขาด​แล้ว​

กาว​กง​กง​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​คุณหนู​ทั้ง​สี่ที่​มีเอกลักษณ์​เป็น​ของ​ตัวเอง​ที่​โดดเด่น​เช่นนี้​แล้ว​เขา​ก็ได้​ยิ้ม​ และ​หัวเราะ​ออกมา​

แล้ว​ทั้งหมด​ก็ได้​เดินทาง​ไป​ที่​พระราชวัง​หลวง​กัน​

ณ ศาลา​ริม​สระ​ใน​พระราชวัง​หลวง​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​สวม​ผ้าคลุม​สีแดง​ก็ได้​นอน​อย่าง​ขี้เกียจ​อยู่​บน​โซฟา ที่​มุมปาก​สีแดง​ของ​เขา​ก็ได้​ยกขึ้น​มาเล็กน้อย​ เผย​ความ​ชั่วร้าย​ออกมา​ทั่ว​ทั้งตัว​ของ​เขา​

“ฮ่องเต้​หลี​ มหา​เสนาบดี​หลิน​นั้น​มีบุตรี​อยู่​ 4 นาง​ ซึ่งล้วนแต่​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ ท่าน​สามารถ​เลือก​คน​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​ได้​ตามใจ​ท่าน​เลย​” ด้วย​รอยยิ้ม​บน​สีหน้า​ของ​เขา​ ฮ่องเต้​เจียง​ก็ได้​สะบัด​แขน​เสื้อ​ของ​เขา​อย่าง​ใจกว้าง​ การกระทำ​เช่นนี้​ทำให้​กรงเล็บ​ทั้ง​ห้า​ของ​มังกร​ทองคำ​บน​ชุด​สีเหลือง​ของ​เขา​นั้น​ดู​ราวกับ​มีชีวิต​และ​ดู​ศักดิ์สิทธิ์​นัก​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​ผงกหัว​ตอบ​ แต่​ใน​ใจของ​เขา​นั้น​ได้​ไป​ไกล​หลาย​พัน​ลี้​แล้ว​ เขา​นั้น​ไม่อยาก​จะแต่งงาน​กับ​คน​ที่​สวรรค์​เลือก​ให้​แล้ว​ เขา​อยาก​ที่จะ​แต่ง​กับ​หมอ​หลิน​

ถ้าคน​ที่​เป็นตัวแทน​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่มหา​นักบวช​แล้ว​ เขา​อาจจะ​ยัง​พอ​ทำ​อะไร​บางอย่าง​ได้​ แต่​ทันทีที่​มหา​นักบวช​มาเขา​รู้​ว่า​เขา​คง​หมดโอกาส​แล้ว​

ท่าน​มหา​นักบวช​ก็ได้​นั่ง​ตรง​ที่นั่ง​ถัดจาก​ฮ่องเต้​หลี​ เขา​ได้​หันมา​มอง​ที่​เจ้านาย​ของ​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​ให้​ระวัง​เรื่อง​มารยาท​หน่อย​ แต่​มัน​ก็​ไม่ได้ผล​เลย​

ฮ่องเต้​เจียง​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​หลี​เจี้ยนเฉิน​ ก่อนที่​เหล่า​อาคันตุกะ​จะมาถึง เขา​ก็​ได้รับ​จดหมาย​มาฉบับ​หนึ่ง​เขียน​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​องค์​ฮ่องเต้​หลี​นั้น​ต้องการ​แต่ง​กับ​หลิน​รั่ว​จิ่ง

แต่ทว่า​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​เป็น​ลูกสะใภ้​ของ​เชื้อพระวงศ์​รัฐ​เจียง​ จะให้​นาง​ไป​รัฐ​หลี​ไม่ได้​

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ฮ่องเต้​เจียง​จึงได้​มีความคิด​ที่จะ​ให้​ลูกสาว​คนอื่น​ของ​มหา​เสนาบดี​หลิน​ไป​แต่ง​แทน​

ในขณะที่​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​กำลัง​คิด​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​อยู่​นั้น​ กาว​กง​กง​ก็ได้​กลับมา​พร้อมกับ​คุณหนู​ทั้ง​สี่

ในขณะที่​ทั้ง​สี่คน​ปรากฏตัว​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ตกตะลึง​ และ​ห​ลี่​เจี้ยนเฉิน​เอง​ก็​ตกตะลึง​เช่นกัน​ และ​ปรากฏ​แววตา​ตื่นเต้น​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​

“นี่​จะต้อง​เป็น​พรหมลิขิต​ระหว่าง​พวกเขา​เป็นแน่แท้​!”

มหา​นักบวช​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​ฮ่องเต้​หลี​ที่​จู่ๆก็​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มาพร้อม​เลือด​สูบฉีด​ ก่อนที่จะ​ผงกหัว​อย่าง​พึงพอใจ​และ​คิด​: “นี่​จะต้อง​เป็นผล​มาจาก​พลัง​ของ​ฮองเฮา​เป็นแน่​”

ส่วน​ฮ่องเต้​เจียง​ที่​ไม่รู้เรื่อง​นี้​ ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สีหน้า​ดำมืด​ขึ้น​มาเมื่อ​เห็น​ท่าที​ของ​ฮ่องเต้​หลี​ อีก​ฝ่าย​นั้น​มาเพื่อ​หลิน​รั่ว​จิ่งจริงๆ​

“ขอ​เชิญฮ่องเต้​หลี​ใช้เวลา​ร่วมกัน​กับ​คุณหนู​ทั้ง​สี่คน​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​เลือก​ดี​ไหม​?” ฮ่องเต้​เจียง​ก็ได้​ถามออก​ไป​ เขา​นั้น​คิด​ที่จะ​เล่นลูกไม้​อะไร​นิดหน่อย​ที่จะ​ทำให้​ชาย​คน​นี้​ไป​ชอบ​คนอื่น​แทน​

ก่อนที่​องค์​ฮ่องเต้​จะตอบ​อะไร​ มหา​นักบวช​ก็ได้​ลุกขึ้น​มาก่อน​แล้ว​ทำท่า​คารวะ​ให้​ “ขอบคุณ​ใน​น้ำใจ​ของ​พระองค์​ แต่​อย่าง​ที่​เคย​กล่าว​ไป​ อาณาจักร​เรา​ไม่ควร​ที่จะ​ไร้​นาย​ได้​นานๆ​ ดังนั้น​การตัดสินใจ​เลือก​ให้​ไว​จะเป็นการ​ดีกว่า​พ่ะย่ะค่ะ​”

ฮ่องเต้​หลี​ที่​ได้สติ​คืน​มาก็ได้​คิ้ว​ขมวด​ ในเวลานี้​ท่าน​หมอ​หลิน​เอง​ก็​มีเจ้าของ​อยู่แล้ว​ และ​เขา​ก็​ไม่ต้องการ​ที่จะ​ฝืนใจ​บังคับ​ใคร​ด้วย​ เขา​จำต้อง​ใช้เวลา​เสียหน่อย​จึงได้​กระแอม​ขึ้น​มาและ​กล่าว​ “ใน​เมื่อ​มาเยี่ยม​บ้าน​เขา​ ก็​ควรจะ​ทำ​ตามที่​เจ้าบ้าน​ว่า​ ใน​เมื่อ​ฮ่องเต้​เจียง​เสนอ​มาเช่นนั้น​ เรา​ก็​เห็นด้วย​”

“ฝ่าบาท​!” มหา​นักบวช​ก็ได้​จ้อง​ไป​ที่​หลี​เจี้ยนเฉิน​อย่าง​ไม่พอใจ​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​กะพริบตา​ จากนั้น​ก็ได้​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ภาคภูมิใจ​ว่า​ “มีคน​พวก​นั้น​คอย​ดูแล​รัฐ​หลี​อยู่​ ยัง​จะมีอะไร​ที่​เรา​กับ​มหา​นักบวช​ต้อง​กังวล​อีก​”

ต่อหน้า​คนนอก​เช่นนี้​ มหา​นักบวช​นั้น​ไม่สามารถ​ที่จะ​ขัดคำสั่ง​ของ​ฮ่องเต้​ได้​ เขา​จึงทำได้​แค่​พูด​ออก​ไป​ “ทูล​ฝ่าบาท​ ถ้ามีพวกเขา​อยู่​ ข้า​มหา​นักบวช​ก็​ไม่มีอะไร​ต้อง​กังวล​จริงๆ​”

ฮ่องเต้​เจียง​ก็ได้​ยิ้ม​ขึ้น​มา และ​เขา​นั้น​ก็ได้​วางแผน​เอาไว้​ใน​ใจว่า​จะหาทาง​ทำลาย​ความชอบ​ของ​ฮ่องเต้​หลี​ที่​มีต่อ​หลิน​รั่ว​จิ่งให้ได้​ใน​ไม่กี่​วันนี้​

จากนั้น​องค์​ฮ่องเต้​เจียง​ก็ได้​ออกคำสั่ง​ให้​มหา​เสนาบดี​หลิน​พา​หลี​เจียน​เฉิน​ไป​พัก​อยู่​ที่​จวน​ของ​เขา​เป็นการชั่วคราว​ เพื่อ​ที่​อีก​ฝ่าย​กับ​บุตรี​ทั้ง​สี่คน​จะได้​พูดคุย​สร้าง​ความ​สนิทสนม​ซึ่งกันและกัน​

เมื่อ​ได้ยิน​ที่​กล่าว​ มหา​เสนาบดี​หลิน​ก็ได้​มีสีหน้า​ขมขื่น​ขึ้น​มาทันที​ ในเวลานี้​ไม่มีเรือน​ว่าง​ๆเหลือ​ใน​จวน​มหา​เสนาบดี​แล้ว​ แล้ว​เขา​จะให้​ฮ่องเต้​เจียง​พัก​ที่ไหน​ดี​?

จนกระทั่ง​กลับ​ไป​ถึงที่​จวน​มหา​เสนาบดี​ มหา​เสนาบดี​ก็​ยังคง​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ แล้ว​ในที่สุด​เขา​ก็​ตัดสินใจ​ที่จะ​เบียดเสียด​อยู่​กับ​ฮูหยิน​สอง​แล้ว​ยก​เรือน​ของ​เขา​ให้​ฮ่องเต้​หลี​

ฮ่องเต้​หลี​ก็ได้​น้อม​รับ​ด้วยความยินดี​มาก​ ก่อนที่จะ​ย้าย​เข้าไป​ เขา​ก็ได้​สั่งให้​คน​ทำความสะอาด​และ​ปรับเปลี่ยน​ทุกสิ่ง​ใน​เรือน​นั้น​

“ใน​ตอนค่ำ​ฮ่องเต้​หลี​ก็ได้​เรียก​คนรับใช้​มาคน​หนึ่ง​ แล้ว​หลังจากที่​ถามว่า​หลิน​ซีเหยียน​อยู่​ไหน​แล้ว​ เขา​ก็ได้​จากไป​อย่าง​ยิน​ดีมาก​”

ฮ่องเต้​หลี​นั้น​ไม่เคย​มีผู้หญิง​อยู่​ใน​วังหลัง​มาก่อน​ เขา​จึงไม่เคย​รู้เรื่อง​ของ​วังหลัง​ ซึ่งก่อนที่​เขา​จะออก​ไป​ เหล่า​คุณหนู​ทั้งหมด​นอกจาก​หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​รับทราบ​ข่าว​นี้​กัน​หมด​

พวก​นาง​จึงได้​พา​กัน​ลงมือ​กัน​ก่อน​ ก่อนอื่น​เลย​หลิน​หัว​เย​ว่​ก็ได้​ไป​ยืน​อยู่​ระหว่าง​เรือน​เชีย​นเหยียน​กับ​เรือน​ของ​ เจี้ยนเฉิน​เพื่อ​ต้องการ​ที่จะ​ทำที​เป็น​พบ​โดยบังเอิญ​ แต่​หลังจากที่​ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ ก็ได้​มีสาวใช้​นำ​จดหมาย​มาส่งให้​บอ​กว่า​ฮ่องเต้​หลี​นั้น​ถูก​ดัก​โดย​หลิน​เสวี่ยเหยียน​ก่อน​

หลิน​เสวี่ยเหยียน​นั้น​ได้​น้ำ​ถ้วย​ซุป​มาพร้อมกับ​คารวะ​ฮ่องเต้​หลี​ด้วย​ใบหน้า​สีชมพู​

เมื่อ​หลี​เจี้ยนเฉิน​ได้​หันไป​มองดู​อีก​ฝ่าย​และ​เห็น​ใบหน้า​ของ​นาง​แล้ว​ เข้า​ก็ได้​รู้สึก​ประหลาดใจ​ขึ้น​มาและ​กล่าว​ “ข้า​ไม่นึก​เลย​ว่า​คุณหนู​ที่​ข้า​ชน​ใน​วันนั้น​จะเป็น​บุตรี​จวน​มหา​เสนาบดี​หลิน​ ข้า​นี้​ช่างเสียมารยาท​กับ​เจ้าจริงๆ​”

หลิน​เสวี่ยเหยียน​ก็ได้​ถือ​ถ้วย​ซุป​ไว้​ใน​มือ​ของ​นาง​ แล้ว​กล่าว​พร้อมกับ​ยิ้ม​ “หม่อมฉัน​เอง​ก็​คิด​ว่า​มัน​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​เช่นกัน​เพคะ​ แล้ว​หม่อมฉัน​ก็ได้​ต้ม​ซุป​มากับ​มือ​ของ​หม่อมฉัน​เอง​มา ขอให้​ฝ่าบาท​ได้​โปรด​ลอง​ชิมด้วย​เพคะ​”

อันดับ​แรก​เพราะ​ความตกใจ​และ​สอง​เพราะ​ความเกรงใจ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​จึงได้​ยอม​ตกลง​แต่​โดยดี​ เขา​นั้น​คิด​ว่า​แค่​ดื่ม​ซุป​ถ้วย​เดียว​ ดื่ม​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​ไปหา​หมอ​หลิน​ก็​ยัง​ไม่สาย​

“ซุป​ชามนี้​ได้​ใส่ดอกบัว​หิมะ​และ​เก๋า​กี่​ลง​ไป​ รสชาติ​จึงออก​หวาน​เล็กน้อย​ หม่อมฉัน​หวัง​ว่า​ฝ่าบาท​จะชอบ​นะ​เพคะ​” หลิน​เสวี่ยเหยียน​ก็ได้​หยิบ​เอา​ชามหยก​อย่าง​ดี​ออก​มาจาก​กล่อง​ข้าว​ ซึ่งบรรจุ​ซุป​ใสเอาไว้​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​ผงกหัว​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออก​ไป​ แต่​ก็​ดื่ม​ลง​ไป​รวดเดียว​ จากนั้น​เขา​ก็ได้​เช็ด​ปาก​ของ​เขา​แล้ว​กล่าว​ “ข้า​ดื่ม​ซุป​ถ้วย​นี้​เสร็จ​แล้ว​ ตอนนี้​ข้า​มีธุระ​ต้อง​ไป​ทำ​ แล้ว​ข้า​จะไปหา​แม่นาง​วันหลัง​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด