หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 265 การเต้นรำที่น่าตกตะลึง

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 265 การเต้นรำที่น่าตกตะลึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 265 การเต้นรำ​ที่​น่า​ตกตะลึง​

เสียง​ขลุ่ย​กังวาน​ใสดัง​ลอย​มาจาก​ไม่ไกล​ หญิงสาว​ใน​ชุด​สีแดงสด​ที่อยู่​อยู่​กลาง​เวที​บัดนี้​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ตาม​ทำนอง​อย่าง​เนิบ​ช้า ผ้า​สีแดง​พะเยิบ​พลิ้วไหว​ไปมา​ตาม​การเคลื่อนไหว​คน​ ดู​คล้าย​กับ​หางปลา​ยาม​แหวกว่าย​

แม้แต่​สายลม​ก็​เหมือน​จะหยุด​พัด​เพื่อ​นาง​

ทุก​ท่วงท่า​ของ​หลิน​ซีเหยียน​ที่​ขยับ​ไป​ตาม​เสียง​ขลุ่ย​นั้น​ เกรง​ว่า​แม้แต่​นักดนตรี​และ​นัก​เต้น​ของ​วังหลวง​ที่ทำงาน​ร่วมกัน​มานาน​หลาย​ปี​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ทำได้​ถึงขนาด​นี้​

และ​เพียง​อึดใจ​ต่อมา​ ก็​ปรากฏ​ร่าง​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ซึ่งนั่ง​อยู่​บน​รถเข็น​ เสียง​ขลุ่ย​ที่​คอย​บรรเลง​ให้​หลิน​ซีเหยียน​ดัง​มาจาก​เขา​นั่นเอง​

ขลุ่ย​ที่​ถูก​ผิว​ออกมา​ภายใต้​หน้ากาก​หยก​ขาว​นั้น​ควรจะ​อู้อี้​ แต่กลับ​ฟังกังวาน​สบาย​หู​ยิ่งนัก​

“นั่น​มัน​องค์​ชาย​รัตติกาล​นี่​นา​”

“องค์​ชาย​รัตติกาล​เล่น​ดนตรี​ให้​นาง​อย่างนั้น​หรือ​?!”

บรรดา​คุณหนู​ทั้งหลาย​พา​กัน​มอง​ไป​ที่​หลิน​ซีเหยียน​ด้วย​ความอิจฉา​ แต่​สุดท้าย​ก็​จนใจ​ ด้วย​คิด​ว่า​การเต้นรำ​ของ​พวก​นาง​ในเวลานี้​ไม่อาจ​เทียบ​หลิน​ซีเหยียน​ติด​แม้แต่​ปลาย​เล็บ​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ลุกขึ้น​ยืน​มอง​หลิน​ซีเหยียน​ไม่วางตา​ เขา​ไม่มีแม้แต่​เสี้ยว​ขณะ​จิต​เดียว​ที่​คิด​จะหลับตา​ลง​ ด้วย​กลัว​ว่า​ภาพ​ตรงหน้า​อาจจะ​หาย​ไป​

การเต้นรำ​ของ​หลิน​ซีเหยียน​ต่าง​จาก​การเต้นรำ​ที่​น่าหลงใหล​ของ​หลิน​รั่ว​จิ่ง การเต้นรำ​ของ​นาง​เสมือน​กับ​อยู่​ใน​สนามรบ​ ทั้ง​อิสระ​ งดงาม​ และ​ดุดัน​ ทุก​ท่วงท่า​สอด​ประสานกัน​ได้​อย่าง​ลงตัว​ และ​เมื่อ​จะเปลี่ยน​ท่วงท่า​ ทุกอย่าง​ก็​เป็นไป​อย่าง​ลื่นไหล​ฉับไว​

กระโดด​ หมุนตัว​ กระโดด​ เตะ​

ทุก​การเคลื่อนไหว​ล้วน​ตราตรึง​และ​ควรค่า​แก่​การ​จดจำ​

การเต้นรำ​ของ​นาง​งดงาม​ราวกับ​หงส์​บิน​ ผู้ชม​ทุกคน​ล้วน​นิ่งอึ้ง​ไม่ขยับตัว​ ประหนึ่ง​ถูก​หยุด​เวลา​ไว้​

จนกระทั่ง​เพลง​จบ​ลง​ หลิน​ซีเหยียน​จึงค่อย ๆ​ หยุด​ลง​ ทว่า​โดยรอบ​นั้น​ยังคง​เงียบกริบ​อยู่​ นาง​จึงหันไป​กระซิบ​กับ​เจียง​หวาย​เย่​พร้อม​ยักคิ้ว​ให้​ “เป็น​อย่างไรบ้าง​ล่ะ​ น่าทึ่ง​สุด​ ๆ ไป​เลย​ใช่หรือไม่​?”

เมื่อ​เห็น​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​กลับมา​ยียวน​ได้​อีกครั้ง​ เจียง​หวาย​เย่​จึงยิ้ม​ออกมา​อย่าง​โล่งใจ​ จากนั้น​จึงบอก​ให้​อัน​เอ้อ​เข็น​รถ​ตน​กลับ​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​ตัวเอง​

และ​เมื่อ​หลิน​ซีเหยียน​เดินลง​มาจาก​เวที​แล้ว​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​เพิ่ง​หลุด​ออกจาก​ภวังค์​ก็​พลัน​กล่าว​กับ​นาง​ “แม่นาง​หลิน​ได้​ทำให้​ผู้คน​ต้อง​ตกตะลึง​ด้วย​การ​เต้น​ ใน​ยาม​นี้​ทหาร​ของ​รัฐ​หลี​จะปกป้อง​เกียรติ​ของ​แม่นาง​บ้าง​”

หลิน​ซีเหยียน​ที่​ยัง​จับต้นชนปลาย​เรื่อง​ที่​อีก​ฝ่าย​พูด​ไม่ได้​ก็​หันไป​มอง​จิ่งชุน​ จิ่งชุน​จึงจัดแจง​บอก​กับ​คุณหนู​ของ​ตน​เรื่อง​การ​ท้า​ประ​ลองของ​ฮ่องเต้​

“ถ้าเช่นนั้น​ก็​ขอบ​พระทัย​ฮ่องเต้​หลี​ด้วย​เพคะ​” หลิน​ซีเหยียน​ตอบกลับ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

“มิได้​ ๆ”

หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​ได้​มอง​รอยยิ้ม​ของ​หลิน​ซีเหยียน​เข้า​จัง ๆ ก็​รู้สึก​ฮึกเหิม​มากยิ่งขึ้น​ พลัน​รีบ​ส่งสายตา​กดดัน​ไป​ทาง​เหล่า​ทหาร​ของ​ตน​

นายทหาร​รัฐ​หลี​ทั้งหลาย​เห็น​ดังนั้น​ก็​พา​กัน​กลืนน้ำลาย​ลง​ไป​กัน​เป็น​แถบ​ ๆ ด้วย​พวกเขา​รู้จัก​ฮ่องเต้​ของ​ตน​ดี​ จึงรู้อยู่แก่ใจ​ว่า​จะแพ้​ไม่ได้​เป็นอันขาด​ หาก​แพ้​ขึ้น​มา ย่อม​มีเรื่อง​ไม่ดี​ตามมา​อย่าง​แน่นอน​

การ​ประลอง​หมัด​แบ่ง​ออก​เป็น​ 3 รอบ​ โดยรอบ​แรก​นั้น​องค์​ฮ่องเต้​เจียง​ได้​ส่งสวี่จ​วิน​ชูไป​สู้ ในขณะที่​ฮ่องเต้​หลี​… ส่งตัวเอง​ไป​

“ข้า​เกรง​ว่าการ​ที่​ฮ่องเต้​หลี​ทำ​เช่นนี้​มัน​จะผิดกติกา​นะ​” ฮ่องเต้​เจียง​คิ้ว​ขมวด​และ​เอ่ย​ปราม​ฮ่องเต้​หลี​ที่​กำลังจะ​เดิน​ขึ้นไป​ประลอง​บน​เวที​ “ท่าน​กลับมา​จะดีกว่า​ ไม่อย่างนั้น​ท่าน​อาจจะ​พลั้งพลาด​บาดเจ็บ​ขึ้น​มาได้​”

ฝ่าย​ฮ่องเต้​หลี​ไม่ตอบรับ​สิ่งใด​จาก​ฮ่องเต้​เจียง​ เพียงแต่​หันไป​พูด​กับ​สวี่​จิน​ชูเสียงกร้าว​ “ข้า​หวัง​ว่า​เจ้าจะสู้อย่าง​เต็มที่​ ไม่อย่างนั้น​เจ้าได้​แพ้​อย่าง​แน่นอน​ นอกจากนี้​เจ้าอย่า​ริ​มีนิสัย​เที่ยว​ไป​บอก​คนอื่น​ว่า​อ่อน​ให้​ข้า​ด้วย​”

“อย่า​กังวล​ไป​เลย​ฝ่าบาท​” สวี่​จิน​ชูเอง​ก็​ไม่ทน​ต่อ​คำ​ยั่วยุ​ของ​อีก​ฝ่าย​เช่นกัน​ “ผู้​ที่​แพ้​ย่อม​ต้อง​เป็น​ท่าน​แน่นอน​”

หลังจาก​ปะทะ​ฝีปาก​ไป​ได้​ครู่หนึ่ง​ การปะทะ​ฝีมือบน​เวที​ก็​เริ่ม​ขึ้น​ ผู้ชม​ทั้งหลาย​ล้วน​คาดเดา​การ​ประลอง​ครั้งนี้​กัน​ไม่ถูก​ แต่​เจียง​หวาย​เย่​ที่​รู้ซึ้ง​ถึงวรยุทธ์​ของ​หลี​เจี้ยนเฉิน​ดี​ ก็​หลับตา​พักผ่อน​และ​ทำ​เพียง​รอ​ประกาศ​ผล​แพ้ชนะ​

เดิมที​ฮ่องเต้​หลี​เอง​ก็​คิด​จะทำ​เช่นนั้น​ แต่​หลังจากที่​ผ่าน​ไป​หลาย​กระบวน​สวี่จ​วิน​ชูก็​เริ่ม​เป็น​ฝ่าย​ตาม​ และ​ในขณะที่​หลี​เจี้ยนเฉิน​กำลัง​ตั้ง​ท่าจะ​ปิดฉาก​ใน​หมัด​เดียว​ แผล​ที่​หน้าอก​ของ​เขา​ก็​ปริ​ออก​เสีย​ก่อน​

หลิน​ซีเหยียน​เห็น​ดังนั้น​ก็​กำ​หมด​แน่น​ทันที​ นาง​ใคร่​จะต่อว่า​ฮ่องเต้​ผู้​นี้​ยิ่งนัก​

ข้า​เกือบจะ​ต้อง​เอาชีวิต​ไป​ทิ้ง​เพราะ​หา​ผักเบี้ยใหญ่​เชียว​นะ​ ถ้าแผล​ท่าน​ฉีก​ขึ้น​มา ข้า​จะเอา​อึ่งอ่าง​ใส่ลง​ไป​ใน​ยาต้ม​ของ​ท่าน​ให้​ดู​

ให้​มัน​ขม​ตาย​กัน​ไป​ข้าง​หนึ่ง​เลย​!

ด้วย​อา​การชะงัก​ของ​ฮ่องเต้​หลี​ สวี่จ​วิน​ชูเอง​ก็​เล็งเห็น​ปัญหา​นั้น​เช่นกัน​ แม้จะไม่ได้​แสดงออก​บน​สีหน้า​ แต่​เขา​ก็​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​และ​คว้า​โอกาส​นี้​จัดการ​กับ​อีก​ฝ่าย​

กระบวนท่า​ของ​สวี่จ​วิน​ชูดุดัน​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​เห็น​เจตนา​ของ​อีก​ฝ่าย​ผ่าน​กระบวนท่า​ก็​พูด​ขึ้น​อย่าง​ดูแคลน​ “ฮึ ช่างเป็น​คน​ที่​ชั่วร้าย​จริง ๆ​”

“ชนะ​เป็น​จ้าว​แพ้​เป็น​โจร​ ฝ่าบาท​คง​ไม่มีวัน​เข้าใจ​หรอก​กระมัง​?” สวี่จ​วิน​ชูกล่าว​ด้วย​แววตา​ถากถาง​เถียง​น้ำเสียง​ประชดประชัน​

ดวงตา​ของ​ฮ่องเต้​หลี​พลัน​ดำมืด​ขึ้น​มา แต่​แล้วก็​เหมือน​จะนึก​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ มุมปาก​คน​จึงบิด​ยกขึ้น​ “บางที​ที่​เจ้าพูด​มาก็​มีเหตุผล​” ทันทีที่​พูด​จบ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​เตะ​ตัด​ขา​สวี่จ​วิน​ชูจน​ฝ่าย​หลัง​ทรุด​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​แรง​

“อ๊าก!!!”​ สวี่จ​วิน​ชูที่​ดู​คล้าย​กับ​กำลัง​คุกเข่า​อยู่​หน้า​ฮอ่งเต้​หลี​พลัน​หลุด​ร้อง​ออกมา​ ก่อน​จะเหลือบมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​อาฆาตแค้น​และ​กัดฟัน​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ท่าน​โกง​นี่​!”

“ไม่ใช่ว่า​คุณชาย​สวี่​ก็​เข้า​ใจดี​ไม่ใช่หรือ​ ชนะ​เป็น​จ้าว​แพ้​เป็น​โจร​น่ะ​?” หลังจากที่​ฮ่องเต้​ต่าง​รัฐ​หลี​พูด​จบ​ คณะ​ราชทูต​รัฐ​หลี​ก็​พา​กัน​ตะโกน​เห็นด้วย​ทันที​ “ฝ่าบาท​กล่าว​ได้ดี​ กล่าว​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​”

ใน​ชั่ว​ขณะนั้น​เอง​ สีหน้า​ของ​ฮ่องเต้​เจียง​ก็​ดู​ไม่ค่อย​สู้ดี​นัก​ และ​เพียง​อึดใจ​ต่อมา​ สวี่จ​วิน​ชูที่​รายล้อม​ไป​ด้​วสา​ย​ตา​เยาะเย้ยถากถาง​ก็​หยัด​ตัว​ลุกขึ้น​มา พร้อม​จ้องหน้า​อีก​ฝ่าเขม็ง​ “เข้ามา​อีก​สิ!”

“ใน​เมื่อ​เจ้ายัง​สู้อุตส่าห์​ฝืนทน​ลุกขึ้น​มาได้​ ข้า​ก็​คง​ต้อง​สนอง​เจ้าหน่อย​เสียแล้ว​” ว่า​จบ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​พุ่ง​โจมตี​เข้าที่​จุด​ลับ​ของ​อีก​ฝ่าย​โดยที่​ไม่มีใคร​ทัน​สังเกตเห็น​ทันที​

ใบหน้า​ของ​สวี่จ​วิน​ชูพลัน​ม่วง​คล้ำ​ทันใด​ ร้อง​ไม่ออก​แม้แต่​คำ​เดียว​ด้วย​ความเจ็บ​จุก​ ซึ่งหลังจากนั้น​หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​ประเคน​หมัด​รัว​ไป​ที่​อีก​ฝ่าย​ไม่มีหยุด​ ราวกับ​กำลัง​ระบาย​ความแค้น​มากกว่า​

สุดท้าย​ สวี่จ​วิน​ชูก็​ถูก​หาม​ไป​ท่ามกลาง​เสียงหัวเราะ​ ผู้คน​ที่อยู่​ด้านล่าง​ของ​เวที​นั้น​ไม่ทราบ​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​บาดเจ็บ​หนัก​แค่​ไหน​ พวกเขา​รู้​เพียงแค่​ว่า​ดู​จาก​บาดแผล​แล้ว​คง​ไม่น่าจะเป็น​อะไร​มาก​ และ​คิด​ว่า​สวี่จ​วิน​ชูถูก​หาม​เช่นนี้​คงจะ​สำออย​เสีย​มากกว่า​

ใน​ตอนแรก​หมอ​ที่มา​ดู​อาการ​ของ​เขา​ก็​คิด​อย่างนั้น​เช่นกัน​ จนกระทั่ง​สวี่จ​วิน​ชูถูก​ถอดเสื้อผ้า​ออก​ จึงเห็น​ว่าที่​ตัว​ของ​เขา​นั้น​มองหา​จุดดี​ไม่ได้​เลย​ จากนั้น​คณะ​หมอ​จึงตระหนัก​ได้​ว่า​หมัด​ของ​ฮ่องเต้​หลี​หนัก​เพียงใด​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​ปิดฉาก​ลง​อย่าง​สวยงาม​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้วก็​ลง​มาจาก​เวที​ แล้ว​เดิน​ไปหา​หลิน​ซีเหยียน​ ส่วน​เจียง​หวาย​เย่​เมื่อ​เห็น​การเคลื่อนไหว​ของ​อีก​ฝ่าย​ ก็​รีบ​ให้​อัน​เอ้อ​เข็น​รถ​พา​เขา​ไปหา​นาง​ด้วย​ ไม่อย่างนั้น​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​คง​ถูก​หลี​เจี้ยนเฉิน​ฉวยโอกาส​เป็นแน่​

“ท่าน​หมอ​หลิน​ ข้า​ชนะ​….”

ก่อนที่​เขา​จะได้​พูด​จบ​ ก็​ต้อง​ชะงัก​กับ​ใบหน้า​ของ​ท่าน​หมอ​หลิน​เสีย​ก่อน​ หลี​เจี้ยนเฉิน​พลัน​ห่อ​ไล่​ด้วย​ความกลัว​ทันที​แล้ว​ถามอย่าง​สงสัย​ “คือ​… ข้า​ทำ​อะไร​ผิด​ไป​อย่างนั้น​หรือ​?”

“ถ้าหม่อมฉัน​เห็น​ว่า​แผล​ของ​ท่าน​เปิด​นะ​ หม่อมฉัน​นี่แหละ​จะวางยา​ท่าน​ให้​ตาย​เอง​” หลิน​ซีเหยียน​ยิ้ม​แยกเขี้ยว​ขึ้น​ทันควัน​ก่อน​จะจัดการ​ถอดเสื้อผ้า​ของ​เขา​ออก​

เจียง​หวาย​เย่​ที่​เห็น​เช่นนั้น​ก็​เข้ามา​หยุด​มือ​หญิงสาว​ทันที​ พร้อม​จ้อง​หลี​เจี้ยนเฉิน​เขม็ง​ “ถอดเสื้อผ้า​ออก​เอง​สิ เจ้าจะให้​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ทำให้​เจ้าได้​อย่างไร​? มา! ข้า​จะถอด​ให้​เจ้าเอง​”

หลี​เจี้ยนเฉิน​คิ้ว​ขมวด​และ​มอง​ไป​ที่​เจียง​หวาย​เย่อ​ย่าง​ระวังตัว​ “ท่าน​หมอ​หลิน​ เขา​จะเข้ามา​ทำร้าย​ข้า​ เจ้าจะต้อง​ช่วย​ปกป้อง​ข้า​นะ​”

“หุบปาก​ทั้งคู่​นั่นแหละ​!” หลิน​ซีเหยียน​ตะโกน​อย่าง​หมด​ความอดทน​ แล้ว​จากนั้น​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​ถอดเสื้อผ้า​ออกจาก​ตัว​ได้​สำเร็จ​

ผ้าพันแผล​ที่​พัน​รอ​บอก​หลี​เจี้ยนเฉิน​นั้น​ บัดนี้​ชุ่มไป​ด้วย​เลือด​

หลิน​ซีเหยียน​หรี่ตา​ลง​ฉับพลัน​ทันใด​ เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงรังสี​ที่​น่ากลัว​ที่​นาง​ปล่อย​ออกมา​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​กลืนน้ำลาย​ลง​ไป​และ​ตั้ง​ท่าจะ​ลุก​หนี​ ทว่า​หญิงสาว​ชิงกด​ไหล่เขา​เอาไว้​จน​ขยับ​ไม่ได้เสีย​ก่อน​ “จะมากลัว​ตอนนี้​ก็​สาย​ไป​แล้ว​ล่ะ​”

“ท่าน​หมอ​หลิน​ ข้า​รู้ดี​ว่า​ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​” หลี​เจี้ยนเฉิน​ในเวลานี้​ไม่รู้​เลย​ว่า​ทำไม​หลิน​ซีเหยียน​ถึงได้​โมโห​นัก​

นี่​มัน​ไม่ยุติธรรม​!

จนกระทั่ง​งานเลี้ยง​จบ​ลง​ ทั้ง​สามคน​ก็​ไม่ได้​โผล่​มาอีก​เลย​ โดยที่​พวกเขา​ไม่ได้​รู้เรื่อง​ว่า​ฮูหยิน​อวี้​นั้น​ได้​ ‘เมา’ และ​ประพฤติ​ตัว​เป็น​คน​เสียสติ​ต่อหน้า​ทุกคน​ จึงได้​ถูก​ฮ่องเต้​เจียง​ลงโทษ​กักบริเวณ​ไว้​ใน​ศาล​บรรพชน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด