Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 245

Now you are reading Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต Chapter 245 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 245: ช่างน่าสมเพช

นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งจงได้เห็นอะไรเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวด้วยความตื่นตระหนก หญิงงามทั้งเก้าถอยกลับมายืนข้างเขาทันที เขาไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากถามพวกนาง “มีใครบอกข้าได้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

แม่มดเทวะตอบกลับอย่างรวดเร็ว “รายงานนายท่าน ตาเฒ่าเฟิงได้ใช้เวทมนตร์ที่เรียกว่าปีศาจเข้าสู่ร่างกาย มันคือการที่จิตวิญญาณของสมบัติวิเศษเข้าสู่ร่างกายพร้อมด้วยการเผาไหม้ให้เกิดเป็นปราณจิตวิญญาณที่รุนแรง พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าในระยะเวลาสั้น ๆ! เพราะว่าพายุอสรพิษทั้งสองตนนั้นเป็นอสูรกายขั้นหก พวกมันสามารถเผาไหม้ปราณจิตวิญญาณจำนวนมากออกมาได้! ซึ่งเวลานี้ตาเฒ่าเฟิงได้อยู่ในระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์แล้ว การต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเราพี่น้องไม่อาจต่อกรกับเขาได้เลย นายท่านรีบหนีก่อนจะดีกว่า!”

เมื่อซ่งจงได้ยินว่าตาเฒ่าเฟิงเข้าสู่ระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ เขาไม่กล่าวอะไรไร้สาระอีกต่อไปพร้อมกับตะโกนออกมา “ตกลง! หนี!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาคว้าดาบของตนเองพร้อมกับหนีด้วยทุกสิ่งที่เขามี

อย่างไรก็ตาม ตาเฒ่าเฟิงจะยอมให้เขาหนีไปได้อย่างไร? ปีศาจเข้าสู่ร่างกายนั้นไม่ใช่เวทมนตร์ธรรมดา มันใช้พายุอสรพิษขั้นหกถึงสองตน และมันเป็นอันตรายต่อเส้นลมปราณของผู้ฝึกตน ท้ายที่สุดแล้วร่างกายเขาไม่อาจทนได้นานและมันจะระเบิด อีกทั้งเมื่อใช้มันแล้วเขายังต้องพักฟื้นร่างกายเป็นเวลาสิบปีด้วย นอกจากนั้นสมบัติวิเศษขั้นแปดที่ปรับแต่งขึ้นมายังกลายเป็นขยะเนื่องจากไม่มีพายุอสรพิษอีกแล้ว

การจ่ายในราคาที่แพงมากเช่นนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ตาเฒ่าเฟิงจะยอมให้เจ้าอ้วนหนีไป? หลังจากที่ปราณจิตวิญญาณในร่างกายได้เพิ่มขึ้น เขาคำรามออกมาดังลั่น “ไขมันบัดซบ เจ้าคิดจะไปที่ใดกัน?!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาพุ่งตัวไปด้านหน้าราวกับสายฟ้า ในพริบตาเดียว เขาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าซ่งจง ในขณะนั้นเจ้าอ้วนรู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง

ก่อนอื่นเลยในตอนนี้เจ้าอ้วนอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์เท่านั้น เขาสามารถปลดปล่อยพลังของดาบบินได้เพียงแปดในสิบ ดังนั้นความเร็วของมันอยู่ที่สามพันลี้ต่อชั่วโมง กล่าวก็คือเขาสามารถบินได้เร็วสามพันลี้ในสิบนาที ความเร็วเช่นนี้ถือว่าไม่เลวเมื่อเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับจินตันทั่วไป แต่สำหรับตาเฒ่าเฟิงที่ไม่ต้องใช้แม้แต่ดาบบิน ด้วยปราณจิตวิญญาณที่ล้นเหลือและการเป็นผู้ฝึกตนธาตุลมของเขา ทำให้เขาสามารถจับกุมซ่งจงได้อย่างง่ายดาย กล่าวก็คือความเร็วของตาเฒ่าเฟิงอยู่ที่แปดพันลี้ต่อชั่วโมง! ซึ่งเร็วมากกว่าผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินทั่วไป! ความเร็วเช่นนี้ทำให้เขาน่ากลัวเกินไป!

ในความจริงแล้วความเร็วไม่ใช่สิ่งเดียวที่น่ากลัว การโจมตีของเขาแข็งแกร่งผิดปกติด้วยปราณจิตวิญญาณที่ล้นออกมา ในขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้น เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดนอกจากปล่อยลูกบอลออกมาจากฝ่ามืออย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลำแสงสีเขียวราวหนึ่งพันฟุตทุบลงที่หลังของซ่งจงราวกับมังกรคำราม!

ลำแสงสีเขียวนั้นแข็งแกร่งมาก ช่วงเวลาที่มันปรากฏออกมา เกิดเสียงสนั่นสะเทือนทั่วทั้งฟ้าดิน เพียงแค่เสียงของมันก็ทำให้ผู้คนธรรมดาตื่นตระหนกได้อย่างง่ายดาย!

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ ซ่งจงไม่กล้าที่จะใช้ร่างกายของตนเองรับมันโดยตรง ดังนั้นเขาจึงเรียกระฆังทองแดงออกมาทันที

ระฆังทองแดงปรากฏขึ้นได้ทันเวลาพอดี ถัดมาเกิดเสียงดังสนั่นจากการปะทะและลมทองแดงกว่าสามสิบฟุตได้ถูกร่อนออก ถ้าหากมีการโจมตีเกิดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าลมทองแดงจะหายไปทั้งหมด!

พลังที่น่ากลัวเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ระฆังทองแดงถูกทำลาย แต่ทำให้มันกระเด็นไปไกลหลายร้อยลี้ ซ่งจงนั้นได้รับผลกระทบเช่นกัน เขากระเด็นไปพร้อมกับระฆัง ในตอนนี้ราวกับว่าถูกภูเขาใหญ่พุ่งชน

ขอบคุณสวรรค์ที่เส้นสายธารโลหิตนั้นทำงาน ด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์ปกป้องเขาไว้ จึงทำให้ไม่เกิดการบาดเจ็บมากนัก ผลกระทบต่าง ๆ ถูกลดลงกว่าครึ่ง ดังนั้นกระดูกของซ่งจงยังอยู่ครบเหลือไว้เพียงรอยฟกช้ำเท่านั้น

ในขณะที่ซ่งจงกำลังมึนงง ตาเฒ่าเฟิงกระโดดมาด้านหน้า การกระโดดเพียงครั้งเดียวทำให้เขาเคลื่อนที่ได้กว่าร้อยลี้และมาอยู่ตรงหน้าซ่งจงอีกครั้ง เขายกมือขึ้นพร้อมส่งเสียงหัวเราะราวกับปีศาจ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจะกำจัดซ่งจงอย่างแท้จริง ในเวลานี้ซ่งจงที่กำลังมึนงงจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะตั้งรับได้ทัน ถ้าหากตาเฒ่าเฟิงเปิดฉากการโจมตีอีกครั้ง แน่นอนว่าความตายเป็นสิ่งสุดท้ายที่รอเขาอยู่!

ขอบคุณสวรรค์ที่แม่มดเทวะนั้นยังอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งหมดพุ่งไปด้านหน้าโดยไม่นึกถึงสิ่งใด ถัดมาแม่มดเทวะทั้งเก้าระดมการโจมตี เกิดเป็นปราณดาบและลำแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั่วท้องฟ้า

แต่ในตอนนี้ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันเกินไป อีกฝ่ายเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับเฟินเสิน กล่าวก็คืออำนาจของเขานั้นเหนือกว่าสิ่งใดแล้ว เมื่อตาเฒ่าเฟิงมองเห็นว่าแม่มดเทวะนั้นเปิดฉากการโจมตีออกมา เขาหัวเราะอย่างรังเกียจ จากนั้นเขาปลดปล่อยลูกบอลออกมาอีกครั้งพร้อมกับเย้ยหยัน “ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้านั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง? ลองหยุดข้าดูสิ!”

เมื่อมันปะทะกัน ค่ายกลของแม่มดเทวะแตกสลายทันที พวกนางส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ร่างกายของพวกนางถูกทำลายและถูกบังคับให้กลับไปอยู่ในภาพวาดอีกครั้ง

เมื่อจัดการกับแม่มดทั้งเก้าได้ ตาเฒ่าเฟิงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า ไขมันบัดซบ! ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้านั้นพ่ายแพ้ต่อข้าแล้ว เจ้ามีลูกไม้อะไรอีกล่ะ?”

ในที่สุดซ่งจงฟื้นคืนสติกลับมาพร้อมกับรับรู้ในสิ่งที่แม่มดเทวะได้ทำลงไปเพื่อปกป้องเขาจากตาเฒ่าเฟิง เมื่อเห็นว่าแม่มดเทวะนั้นพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย เขาอดไม่ได้ที่จะต่อว่าตนเองที่เป็นคนอ่อนแอเช่นนี้ ถ้าหากเขาอยู่ในระดับหยวนหยิน แม่มดเทวะทั้งเก้าจะสามารถใช้พลังของตนเองได้อย่างเต็มที่ พวกนางที่อยู่ในระดับเฟินเสินจะสามารถเล่นกับบุคคลผู้นี้จนตายอย่างแน่นอน! แต่ความแข็งแกร่งของพวกนางถูกลดระดับลงเพราะความแข็งแกร่งของซ่งจงยังน้อยนิด จึงทำให้พวกนางอยู่ในระดับจินตันเท่านั้น แล้วพวกนางจะสามารถเอาชนะผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ตรงหน้านี้ได้อย่างไรกัน?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชอย่างมาก แต่ซ่งจงก็ไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด ความชั่วร้ายของเขาค่อย ๆ เผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับบินไปด้วยดาบบินและไม่ลืมที่จะตะโกนกลับหลัง “ตาเฒ่าบัดซบ ลองทำลายระฆังทองแดงของข้าสิถ้าหากเจ้ามีความสามารถ! ไม่ใช่เจ้างั้นหรือที่บอกว่าจะทำลายมันให้ได้? เจ้าก็คงเป็นได้แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นหากผิดคำพูดของตน!”

“ว่าอะไร?” เมื่อตาเฒ่าเฟิงได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธทันทีพร้อมกับหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ยอดเยี่ยม เยี่ยมมาก ชายชราผู้นี้จะตอบสนองความต้องการของเจ้า! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าไม่สามารถทำลายระฆังขยะใบนี้ได้!”

เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น ตาเฒ่าเฟิงปรากฏตัวขึ้นด้านหลังซ่งจงพร้อมกับปล่อยลูกบอลออกมา เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับระฆังทองแดงและซ่งจงลอยออกไปด้วยกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้

เมื่อเห็นว่าผิดพลาดอีกครั้ง ตาเฒ่าเฟิงอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด เขาไม่กล่าวอะไรพร้อมกับปลดปล่อยลูกบอลออกไปอย่างต่อเนื่อง

ระฆังทองแดงลอยกระเด็นไปไกลด้วยการโจมตีของตาเฒ่าเฟิง ท้ายที่สุดทั้งสองมาถึงมหาสมุทร ในตอนนี้เปลือกนอกของระฆังทองแดงแทบจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น เผยให้เห็นพื้นผิวที่อยู่ด้านใน สีทองแดงและลักษณะที่โดดเด่นสะดุดตาเช่นนั้นดึงดูดความสนใจของตาเฒ่าเฟิงอย่างมาก

เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่เต็มไปด้วยความรู้ ด้วยการมองเป็นครั้งเดียวทำให้รู้ว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า จากนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า ไขมันบัดซบ ที่แท้เจ้าก็ซ่อนสมบัติไว้ภายในงั้นหรือ? ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสมบัติวิญญาณ ฮ่าฮ่า ข้าจะร่ำรวยจริง ๆ แล้ว ข้าจะได้ครอบครองสมบัติวิญญาณสองชิ้น! ขอบใจเจ้ามากจริง ๆ!”

ซ่งจงเห็นว่าความลับของเขาถูกมองเห็นแล้วโดยตาเฒ่าเฟิง เขาตกใจทันที อย่างไรก็ตามเขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เฒ่าชราบัดซบหยุดฝันเสีย แม้ว่าข้าจะต้องตายในวันนี้ เจ้าก็จะไม่มีวันได้ครอบครองระฆังทองแดงและภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าแน่นอน!”

ในขณะนั้นซ่งจงได้รับบาดเจ็บเพราะกระเด็นออกมาหลายครั้ง ไม่ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ได้

เมื่อตาเฒ่าเฟิงได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า มันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องตัดสินใจ ในตอนนี้ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะหนีไปที่ใด?”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกหมดหนทางอย่างช่วยไม่ได้ ทุกสิ่งของเขานั้นด้อยกว่าอย่างแท้จริง อีกทั้งในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่นี้ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือเขาได้ ไม่เหลือหนทางอะไรให้เขาเลยในตอนนี้ สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวได้ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ซ่งจงจะยอมให้ตนเองพ่ายแพ้ต่อตาเฒ่าเฟิงโดยง่ายได้อย่างไร? เมื่อมองไม่เห็นวิธีที่จะหลบหนี เขาเก็บระฆังทองแดง จากนั้นเขาพุ่งลงไปในมหาสมุทรทันทีและไม่ลืมที่จะตะโกนว่า “ตาแก่บัดซบ ข้าจะโยนขุมทรัพย์เหล่านี้ไว้ในทะเล ถ้าหากเจ้าต้องการก็จงหามันเอาเอง!”

ตาเฒ่าเฟิงไม่เคยคาดคิดว่าซ่งจงจะทำเช่นนี้ นอกจากนั้นเขายังไม่ได้ชักช้า ภายในพริบตาเขาหายไปในทะเลอย่างรวดเร็ว ตาเฒ่าเฟิงไม่มีโอกาสที่จะหยุดเขาไว้เลย ช่วงเวลาที่เขารู้สึกตัวได้ ซ่งจงนั้นพุ่งลงในทะเลไปหลายพันฟุตแล้ว

ซ่งจงนั้นรู้ดีแม้ว่าเขาจะดำน้ำในทะเล ตาเฒ่าเฟิงก็สามารถจัดการกับเขาได้เนื่องจากเขาเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ ในตอนนี้ที่เขาต้องการทำคือกระจายสมบัติของตนเองภายในทะเลเพื่อสร้างความยากลำบากให้กับตาเฒ่าเฟิงเท่านั้น

แต่ซ่งจงไม่เคยคาดคิดว่าตาเฒ่าเฟิงจะกลายเป็นทำอะไรไม่ถูกเมื่อซ่งจงพุ่งลงทะเล เขาไม่กล้าที่จะไล่ล่าได้แต่สาปแช่งซ่งจงอยู่ในอากาศ “ไขมันบัดซบ ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาพลันยินดี! พร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ตาแก่สารเลว ข้านั้นสนุกกับตนเองในทะเลและยังไม่ต้องการขึ้นไป! มันจะดีกว่าถ้าหากเจ้าลงมาเล่นด้วยกัน!”

ที่จริงแล้วซ่งจงไม่ได้อหังการดังที่กล่าวเช่นนั้น เขารู้สึกว่าเขามีความสัมพันธ์กับทะเลแห่งนี้อย่างมาก เขาแทบจะไม่ต้องหมุนเวียนปฐมกาลแห่งความโกลาหลเลย ปราณจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์สามารถเข้าหาร่างกายของเขาเองโดยอัตโนมัติ ในตอนนี้ปราณจิตวิญญาณของเขากำลังฟื้นฟูตนเองอย่างช้า ๆ ทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด