Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 285

Now you are reading Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต Chapter 285 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 285: การต่อสู้ภายใน

ขณะที่ซ่งจงเห็นผู้ฝึกตนราวกับฝูงมดกำลังพุ่งเข้าหาเขา อารมณ์ในตอนนี้เขาดีใจมากยิ่งกว่าเสียใจอีก หลังจากนั้นเขาออกคำสั่งทันที “พวกเจ้าสี่คนควบคุมเรือเอาไว้ พวกเจ้าต้องทำทุกอย่างให้เป็นปกติและแน่ใจได้ว่าเราจะบินต่อไปได้ ส่วนที่เหลือเข้าไปหลบซ่อนตัวในเรือเพื่อเล่นซ่อนหากับพวกเขา สำหรับสหายที่กำลังจะขึ้นเรือมา แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะทำลายเรือลำนี้แน่นอน หึหึ ตราบใดที่เรายังสามารถไปที่ทะเลตะวันออกได้ พวกเขาจะ… เหอะ!”

แม้ว่าซ่งจงจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่แม่มดเทวะนั้นรู้ถึงความหมายทันที เขาคิดจะให้ทะเลตะวันออกจัดการกับบุคคลเหล่านี้จนตาย ดังนั้นแม่มดเทวะทั้งเก้าตื่นเต้นกับภารกิจนี้อย่างมากและเริ่มแยกย้ายกันประจำตำแหน่งทันที ซ่งจงเผยหัวเราะที่เย็นชาออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปด้านในของเรือ

ผู้ฝึกตนที่กำลังพุ่งเข้ามาเห็นว่าซ่งจงหลบเข้าไปด้านในของเรือ ทั้งหมดฮึกเหิมทันทีเพราะคิดว่าซ่งจงนั้นเกรงกลัวเขาจึงต้องหลบเข้าไปด้านในของเรือ ดังนั้นพวกเขายิ่งเร่งความเร็วให้มากขึ้นอีกเพื่อไปยังเรือมังกรทองให้เร็วที่สุด

ในขณะที่เรือมังกรทองคำมีขนาดยาวเพียงสามพันฟุต ด้านในของมันนั้นราวกับอยู่ในอวกาศ มันถูกสร้างให้มีหลายชั้นและจำนวนห้องที่มากมายนับไม่ถ้วน ครั้งที่ซ่งจงสำรวจมันเขาใช้เวลากว่าครึ่งปีจึงจะครบถ้วน ดังนั้นเรือลำนี้สามารถบรรทุกคนไว้ได้มากกว่าสามถึงสี่พันคนอย่างสบายๆ หลังจากที่ผู้ฝึกตนจำนวนมากขึ้นมาบนเรือ เดิมทีเรือนั้นสงบสุข แต่ในตอนนี้มันกำลังจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้มีหลายคนกำลังโต้เถียงและยื้อแย่งสมบัติกันแล้ว

เมื่อเปิดมันออกพวกเขาจะพบกับสมบัติมากมายบนเรือมังกรทองคำ แม้แต่กระถางดอกไม้ทั่วไปยังเป็นสมุนไพรอายุกว่าพันปี ภายในสวนขนาดใหญ่แม้แต่สมุนไพรวิญญาณอายุหนึ่งหมื่นปีก็ยังสามารถพบเจอได้อย่างง่ายดาย

นอกเหนือจากนั้นการตกแต่งของเรือมังกรทองคำนั้นนับได้ว่ามันถูกประดับไปด้วยสมบัติมากมาย แม้แต่ขวดไวน์ที่ดูไร้ประโยชน์ก็ยังคงเป็นกระเป๋ามิติเก็บของ ในขณะที่มันดูเล็กมาก แต่กลับบรรจุไวน์น้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยจิน อุปกรณ์บางอย่างแม้ว่าจะไม่ใช่สมบัติ แต่วัสดุที่ปรับแต่งมันนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถนำไปสร้างอุปกรณ์วิเศษได้อย่างไม่ยากเย็นนัก มีเพียงผู้ฝึกตนระดับเลือนจื่อเท่านั้นที่สร้างเรือที่ฟุ่มเฟือยเช่นนี้ได้ ถ้าหากเป็นผู้อื่น แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ทำเช่นนี้ สมบัติมากมายเช่นนี้สามารถสร้างความโกลาหลให้กับโลกของผู้ฝึกตน โดยเฉพาะกับสำนักที่ไม่ร่ำรวย ทั้งหมดได้แต่ลืมเส้นทางของตนเองพร้อมกับยืนจ้องมองภูเขาทองคำตรงหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใด ในเวลานี้ใครกันที่จะสนใจซ่งจง? พวกเขาทั้งหมดเริ่มต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสมบัติทันที

แม้ว่าสมบัติจะมีจำนวนมาก แต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับคนนับพันในตอนนี้ ทั้งหมดต่อสู้ถกเถียงกันเพื่อแย่งชิงให้มาเป็นของตน แม้จะเรียกว่าการโต้เถียงแต่ความจริงแล้วทั้งหมดกำลังต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ผู้ฝึกตนชอบธรรมและชั่วร้ายโดยปกติแล้วพวกเขามักจะทะเลาะกันเมื่อพบหน้ากันอยู่แล้ว ในตอนนี้เขามารวมตัวกับนักบวชฮัวอวิ๋นเพียงเพราะผลประโยชน์ การเป็นพันธมิตรเช่นนี้ไม่สามารถยั่งยืนได้ มันถูกตัดขาดทันทีเมื่อทุกคนเห็นสมบัติ โดยเฉพาะผู้ฝึกตนชั่วร้าย พวกเขาไม่สนใจเกียรติหรือสิ่งใดทั้งสิ้น เมื่อผลประโยชน์มาอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าพวกเขาจะใช้พลังทั้งหมดเพื่อแย่งชิงมันมา และเป็นธรรมดาว่าผู้ฝึกตนชอบธรรมนั้นไม่อาจสู้ได้และตายตกไปจำนวนมาก

แต่แน่นอนว่าคนที่มาจากสำนักชอบธรรมก็จะไม่ยอมถูกกลั่นแกล้งเพียงฝ่ายเดียว เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้ฝึกตนชั่วร้ายได้ลงมือ พวกเขาเริ่มโต้ตอบทันที

ดังนั้นก่อนที่ซ่งจงจะได้ลงมือทำอะไร ด้านบนท้องเรือนั้นได้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว เดิมทีผู้ฝึกตนชอบธรรมและชั่วร้ายต่างต่อสู้กันเอง แต่ในสุดท้ายแล้วแม้ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการขัดแย้งนี้ไว้ได้ ทั้งหมดเริ่มต่อสู้กันเองและไม่สนว่าใครอยู่ฝ่ายไหน

ซ่งจงหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องลับและสามารถเห็นว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง ในครั้งแรกที่เห็นพวกเขาทั้งหมดต่อสู้กันเอง ซ่งจงยืนมองด้วยความเบิกบานใจ เมื่อสิ่งต่างๆได้เข้าสู่ความวุ่นวาย แน่นอนว่าขั้นต่อไปของเขาจะง่ายดายขึ้นอย่างมาก

ขณะนี้เขาได้เกิดความคิดดีๆขึ้นมาแล้ว เขาออกคำสั่งให้แม่มดเทวะทั้งห้าไปควบคุมเหล่าผู้ฝึกตนเหล่านั้นให้สร้างความวุ่นวายให้มากกว่าเดิม ต่อสู้กับทุกคนโดยมีเป้าหมายคือเอาชีวิต

ในตอนนี้ซ่งจงกำลังเพลิดเพลินกับไวน์ของเขาและดูการแสดงตรงหน้า นักบวชฮัวอวิ๋น ฮัวชิงหยุนและนักบวชเซือหมัวขึ้นมาบนเรือมังกรทองคำ เมื่อทั้งสามเห็นฉากที่น่าสมเพชบนเรือแห่งนี้ ทั้งหมดโกรธจัดจนแทบจะตายอยู่ตรงนี้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพันธมิตรเหล่านี้จะเห็นแก่สมบัติมากมายจนลืมข้อตกลง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากซ่งจงหลบหนีไปในขณะที่เกิดความวุ่นวายเช่นนี้? เมื่อคิดได้เช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นตะโกนออกมาทันที “สหาย สหายเอ๋ย อย่าได้ต่อสู้กันเองให้เปลืองแรง! ก่อนอื่นเราต้องสังหารซ่งจงก่อนที่จะแบ่งสมบัติจากสงคราม ข้าสัญญาว่าจะแบ่งมันอย่างยุติธรรมที่สุด!”

แม้ว่าเขาจะตะโกนจนคอแตก ก็ไม่มีใครสักคนฟังเขาอีกแล้ว สังหารซ่งจงงั้นหรือ? ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่นใดเลย เพียงแค่ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าหรือระฆังทองแดงยักษ์ก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดแล้ว นอกจากนั้นคนที่ครอบครองสมบัติที่น่ากลัวเช่นนี้คือเด็กเหลือขอซ่งจง! และมันมีเพียงอย่างละชิ้น แน่นอนว่าถ้าหากเขาตายใครกันจะเป็นผู้ครอบครองคนต่อไป? ในเวลานั้นคงจะต้องต่อสู้กันอีกครั้งใช่หรือไม่? ในสุดท้ายแล้วใครจะรู้ว่าผู้ใดจะได้รับผลประโยชน์ เมื่อเทียบกันแล้วการได้รับรางวัลในตอนนี้คุ้มค่าเสียยิ่งกว่าออกตัวไล่ล่าเขา ท้ายที่สุดแล้วการมีอะไรติดมือออกไปบ้างก็ดีกว่าเสี่ยงชีวิตแต่กลับไม่ได้รับสิ่งใดเลย

เมื่อฮัวชิงหยุนเห็นเช่นนั้น นางอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “ลืมมันไปเถอะ คงไร้ประโยชน์ถ้าหากจะกล่าวอะไรในตอนนี้ พวกเขานั้นไม่มีความเป็นปฏิปักษ์กับซ่งจงแม้แต่น้อยและยอมที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงสมบัติมากกว่าสร้างปัญหากับซ่งจง!”

“บัดซบ คนเหล่านี้นั้นไม่รู้ว่าซ่งจงนั้นมีสมบัติล้ำค่ายิ่งกว่านี้อีกในตัวเขา!” นักบวชฮัวอวิ๋นในตอนนี้คือชายวัยกลางคนสวมใส่ชุดคลุมสีชมพูอ่อนและดูอ่อนโยนมีเสน่ห์อย่างมาก แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเขาคือดวงตาที่แดงฉานซึ่งทำลายภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนจนหมดสิ้น “เหอะ!” ฮัวชิงหยุนกล่าวออกมาอีกครั้ง “เรือมังกรทองคำนั้นกว้างมากและเราไม่รู้ว่าซ่งจงนั้นอยู่ที่ใด ถ้าหากเราต้องการค้นหาเขาจริงๆ ก็คงไม่สามารถทำได้โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ และพวกเขาทั้งหมดจะไม่ยอมล้มเลิกการต่อสู้เพื่อแย่งชิงสมบัติ ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นเพียงพันธมิตรชั่วคราวเท่านั้นและเราไม่สามารถบังคับพวกเขาได้”

“เหอะ ไร้ประโยชน์ เราควรฆ่าไอ้พวกบัดซบนี้ทั้งหมดจริงๆ!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างโกรธแค้น

“ลืมมันไป หยุดพูดเรื่องนี้เสีย!” ฮัวชิงหยุนกลัวว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะลงเอยที่ทำลายสำนักอื่นจนเกิดความขัดแย้งอีกครั้งเพราะความโกรธของเขา ในเวลานี้มันยากมากที่จะค้นหาซ่งจง ดังนั้นนางจึงคิดที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเขา “ในตอนนี้เราเข้าควบคุมเรือมังกรทองคำและซ่งจงได้อยู่ท่ามกลางคนของเราแล้ว ตราบใดที่เรายึดพื้นที่นี้อยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปได้ สุดท้ายแล้วเราจะได้พบกับเขาอย่างแน่นอน!”

“อืม เป็นเช่นนั้น!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวเสริม “ข้าไม่เชื่อว่าหลังจากตรวจสอบเรือมังกรทองคำทั้งหมดแล้วจะไม่พบไอ้สารเลวนั่น!”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น!” นักบวชเซือหมัวพยักหน้าก่อนที่จะกล่าวเสริม “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ทำไมเราจึงไม่เข้าไปด้านในและแยกย้ายกันตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไอ้สารเลวไขมันนั่นยังไม่ได้หลบหนีไปล่ะ!”

“เป็นความคิดที่ดี!” นักบวชฮัวอวิ๋นและฮัวชิงหยุนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นทั้งหมดเริ่มวางแผนและกำหนดสถานที่ที่ควรระวัง จากนั้นทั้งสามดำเนินการตามแผนของตนทันที

แท้จริงแล้วแผนของทั้งสามคนไม่ได้เลวร้ายมากนักและอาจเรียกได้ว่าเป็นแผนที่ยอดเยี่ยม สำหรับทั้งสามที่จะเข้าไปในเรือตอนนี้นั้นง่ายมาก เพราะผู้ฝึกตนอื่นๆกำลังหมกหมุ่นอยู่กับสมบัติ นอกจากนี้ทั้งหมดนั้นเปิดโอกาสให้ซ่งจงหลบหนีโดยใช้โอกาสจากความวุ่นวายนี้ได้ แต่ถ้าหากพวกเขาเพียงเฝ้าระวังตามจุด แน่นอนว่าจะไม่ต้องกังวลว่าจะกลัวซ่งจงหลบหนี!

ในเวลานี้ทั้งสามต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่บ้าคลั่งบนเรือมังกรทองเสียก่อน นี่เหมือนกับฆ่านกทั้งฝูงด้วยหินก้อนเดียว แต่ปัญหาก็คือแผนนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อซ่งจงไม่มีแผนสำรองและคิดจะหลบหนีไปเท่านั้น ทั้งสามคนนั้นไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับซ่งจงที่กลายเป็นฝ่าบาทน้อยของทะเลตะวันออกในตอนนี้

นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนและไม่เคยเตรียมการสำหรับมัน เช่นนี้จึงทำให้โอกาสของซ่งจงมากขึ้นไปอีก ในตอนนี้เรือมังกรทองคำได้รับความเสียหายร้ายแรงอยู่ด้านนอก แต่สำหรับระบบภายในนั้นยังคงสามารถบินต่อไปได้และไม่มีสิ่งใดรบกวน

ดังนั้นในตอนนี้เรือมังกรทองคำก็ยังคงบินอยู่ที่ความเร็วสามพันหน่วยต่อชั่วโมง ภายในเรือมังกรทองคำผู้ฝึกตนกำลังแย่งชิงสมบัติ ในขณะที่เรือบินด้านนอกสิบสองลำนั้นพร้อมที่จะทำลายการบินของเรือมังกรทองคำนี้ แต่แน่นอนว่าทั้งหมดจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างยุ่งอยู่กับสมบัติตรงหน้า ไม่มีใครสักคนที่คิดจะทำลายการบินของเรือลำนี้แม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีแม่มดเทวะทั้งสี่คอยป้องกันการโจมตีรูปแบบการบินของเรืออยู่ แน่นอนว่าทั้งหมดจะเข้าสู่ทะเลตะวันออกอย่างปลอดภัย

แน่นอนว่าความวุ่นวายภายในเรือจะไม่เป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล ผู้คนที่อยู่บนเรือลำนี้ล้วนแต่เป็นจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์ หลังจากที่ต่อสู้มาสักระยะหนึ่งทั้งหมดรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาได้รับสมบัติเพียงน้อยนิดและสูญเสียกำลังมากเกินไป ดังนั้นผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินจึงหยุดที่จะต่อสู้เพื่อรอให้ทั้งหมดแย่งชิงสมบัติกันเสร็จสิ้นก่อนและเขาค่อยจัดการในครั้งเดียว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้น แน่นอนว่ามันจะถูกทำลายลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะผู้ฝึกตนระดับจินตันบางคนนั้นไม่ฟังคำสั่งและโจมตีพวกพ้องของตนเอง หรือไม่ก็มีสมบัติที่ล้ำค่าปรากฏขึ้นมาหลังจากที่จบการต่อสู้ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ฉากเช่นนี้วนซ้ำไปเวียนมาบนเรือมังกรทองคำ ซึ่งพวกเขาไม่เคยหยุดต่อสู้ได้เลยสักนาทีเดียว การที่พวกเขาจะหยุดต่อสู้ได้มีเพียงยอมแพ้ต่อความวุ่นวายเช่นนี้เท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเรือมังกรทองคำได้บินออกจากเขตของเทือกเขาใหญ่และเข้าสู่ทะเลตะวันออกอย่างรวดเร็ว

เดิมทีนักบวชฮัวอวิ๋น ฮัวชิงหยุนและนักบวชเซือหมัวต่างก็เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนเรือของตนเอง พวกเขาไม่ได้กังวลสิ่งใดเลย เพราะซ่งจงนั้นเป็นศัตรูต่อผู้ฝึกตนทั่วทั้งโลกไปแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้ ตราบใดที่สามารถล้อมเขาไว้เช่นนี้ ทุกสิ่งที่เหลือจึงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด แต่ตอนนี้เรือมังกรทองคำได้บินออกจากเทือกเขาใหญ่และเข้าสู่ทะเลตะวันออก ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล ทะเลตะวันออกนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของอสูรกาย พวกเขาทั้งสามสามารถเข้าพื้นที่ไปได้เพียงเส้นแบ่งเขตเท่านั้น ถ้าหากเข้าไปลึกกว่านั้น ทั้งสามไม่แน่ใจว่าจะสามารถหลบหนีออกมาได้หรือไม่

เมื่อคิดถึงอสูรกายที่อยู่ในทะเลตะวันออก ทั้งสามไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาพร้อมกับขมวดคิ้ว “ทำไมเรือมังกรทองคำจึงไม่หยุด? ถ้าหากว่ายังคงบินต่อไปในทิศทางนี้เราจะเข้าสู่เขตแดนของจักรวรรดิทะเลตะวันออก ข้าไม่ต้องการที่จะมีปัญหากับอสูรกายที่บ้าคลั่งเหล่านั้น!”

“แน่นอนว่าไม่มีใครเต็มใจที่จะสู้กับพวกมัน รวมถึงข้าด้วย!” นักบวชเซือหมัวกล่าวออกมาอย่างกังวล

“มีบางอย่างผิดปกติ ไขมันบัดซบนี้ก็คงไม่คิดที่จะล่อลวงเราเข้าสู่เขตแดนของจักรวรรดิทะเลตะวันออกใช่ไหม?” ฮัวชิงหยุนกล่าวออกมา

“อ่า!” หลังจากถูกเตือนโดยฮัวชิงหยุน นักบวชฮัวอวิ๋นและนักบวชเซือหมัวเข้าใจทันที ทั้งหมดไม่รีรอและสังเกตทิศทางอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขารู้แล้วว่ามีบางสิ่งผิดปกติ “บัดซบ แม้ว่าเรือมังกรทองคำจะยับเยินมากเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าความเร็วของมันจะไม่ลดลงเลย! นอกจากนั้นมันยังมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลตะวันออก ถ้าบอกว่าไม่มีใครควบคุมมันอยู่ แน่นอนว่าต่อให้ตายข้าก็คงไม่เชื่อ!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมา

“ไม่ได้ สถานการณ์จะต้องไม่ดำเนินต่อเช่นนี้ เราจะต้องหยุดเรือมังกรทองคำเดี๋ยวนี้!” ฮัวชิงหยุนกล่าว

“แต่เราจะสามารถจัดการกับรูปแบบการบินของเรือได้อย่างไรในเมื่อมีจลาจลอยู่ด้านใน?” นักบวชเซือหมัวกล่าวออกมาอย่างอับจนปัญญา “เราจะต้องยอมแลกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างไร้หนทาง “ซึ่งแน่นอนว่ามันดีกว่าที่จะมานั่งรอความตาย!”

“ทำไมเราจึงไม่ลองชักชวนพวกเขาอีกครั้ง!” ฮัวชิงหยุนกล่าว “บางทีพวกเขาอาจจะลืมตามาดูว่าในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติและกลับมาร่วมมือกับเรา!”

“อืม!” นักบวชฮัวอวิ๋นและนักบวชเซือหมัวพยักหน้าพร้อมกัน

ฮัวชิงหยุนรวบรวมพลังของตนเองก่อนที่จะตะโกนออกมา “สหายทั้งหลายได้โปรดฟังข้าก่อนในตอนนี้! บัดนี้เราได้เข้าสู่เขตแดนของทะเลตะวันออกแล้ว และอีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะเข้าสู่เขตแดนของจักรพรรดิอสูรกายแห่งทะเลตะวันออก ในเวลานั้นแน่นอนว่าพวกเราจำนวนมากจะต้องไปกระตุ้นอสูรกายมากมายและไม่สามารถหลบหนีได้!”

“สหายเอ๋ย มันเป็นแผนของซ่งจงอย่างแน่นอน! เห็นได้ชัดว่ามันต้องการให้เราต่อสู้กับอสูรกายจนตายไปเอง! จากนั้นเขาจะใช้โอกาสนี้ในการหลบหนี เราจะต้องไม่หลงกลพวกเขา!” นักบวชเซือหมัวตะโกนออกมา

“ถูกต้อง ซ่งจงต้องการให้อสูรกายเหล่านั้นดูแลพวกเราจนตาย! เราจะไม่ยอมเดินไปตามทางของเขาอย่างแน่นอน!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวเสริม

เมื่อผู้นำสำนักทั้งสามโห่ร้องขึ้นมาเช่นนี้ ทำให้ผู้ฝึกตนบนเรือมังกรทองคำนั้นสนใจทันที แม้ว่าสมบัติจะสำคัญอย่างมากแต่ชีวิตย่อมสำคัญกว่า ความแข็งแกร่งของเหล่าอสูรกายนั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจของพวกเขามานานแสนนานและมนุษย์จะไม่ประมาทพวกมัน แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินยังไม่สามารถรอดชีวิตได้ถ้าหากหลงเข้าไปในเขตแดนของพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญสองถึงสามคนหยุดการต่อสู้และตะโกนกลับ “แล้วท่านทั้งสามต้องการให้พวกเราทำอะไร?”

“ง่ายมาก พวกเจ้าทั้งหมดเพียงแค่ทำลายรูปแบบการบินของเรือ ถ้าหากเรือไม่สามารถบินต่อได้ในเวลานั้นพวกเจ้าอยากจะทำอะไรก็เชิญ!” ฮัวชิงหยุนกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

“อืม เข้าท่า! ข้าตกลงจะทำมัน!”

“ข้าตกลงเช่นกัน!”

“ตกลง!” ภายใต้การกดดันของอสูรกายมากมาย ผู้ฝึกตนทั้งหมดยอมร่วมมือกันอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าทั้งหมดยินดีจะยอมทำงานร่วมกันอีกครั้ง ฮัวชิงหยุนร่าเริงทันที “ยอดเยี่ยม ข้าหวังว่าพวกท่านจะหยุดการต่อสู้และทำลายการบินของเรือลำนี้ก่อน!”

“อืม!” ผู้ฝึกตนที่อยู่บนเรือมังกรทองคำหยุดการต่อสู้และตกลงกันว่าทำลายรูปแบบการบินให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะค่อยมาจัดการสมบัติตรงหน้า ถ้าหากผู้ใดต่อต้านจะถูกสังหาร แน่นอนว่าข้อตกลงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและสาวกต่างๆก็เชื่อฟังผู้นำของตน อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด! เพราะผู้ฝึกตนชอบธรรมและชั่วร้ายต่างก็มีความโกรธแค้นกันและสหายร่วมสำนักได้ตายตกไปในเงื้อมือของศัตรู พวกเขาย่อมจดจำกันได้ และเมื่อได้พบเจอกันในเรือแน่นอนว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เนื่องจากด้วยคำสั่งของเบื้องบน ทำให้ทั้งสองไม่สามารถต่อสู้กันแบบเปิดเผยได้ จึงทำได้เพียงฝากหนี้แค้นไว้เท่านั้น

ทั้งสองฝ่ายต่างก็ระมัดระวังกันอย่างยิ่งเพราะเกรงกลัวว่าอีกฝ่ายจะลอบโจมตี แต่ยิ่งกลัวมากเท่าไหร่ ยิ่งจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเท่านั้น เมื่อทั้งสองกลุ่มต้องพบเจอกัน ผู้ฝึกตนชอบธรรมที่เดินตามคนสุดท้ายมักจะทำได้เพียงส่งเสียงคร่ำครวญและล้มลงไปก่อนที่จะได้กล่าวอะไร ด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายจะไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่าพวกพ้องของตนนั้นถูกโจมตีเสียแล้ว! ฝ่ายของผู้ฝึกตนชั่วร้ายนั้นคิดว่าการโจมตีเช่นนี้เป็นเจตจำนงของสำนัก ทั้งหมดเริ่มลงมือทันทีโดยไม่ลังเลเพราะเกรงว่าจะเป็นการไม่ให้ความร่วมมือที่ดีพอ!

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง ปราณดาบมากมายและเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เหล่าสาวกที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และหันมาเห็นว่าสหายร่วมสำนักกำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่ ใครกันที่จะมาตั้งคำถามในตอนนี้? แน่นอนว่าทั้งหมดยกดาบขึ้นมาและเข้าร่วมการต่อสู้ทันที! และเป็นอีกครั้งที่การต่อสู้ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ใช้ทุกสิ่งที่ตนเองมี ในตอนนี้ทั้งหมดไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูหรือไม่ เพียงแค่ไม่คุ้นเคยก็จะลงมือสังหารทันที

เช่นนี้ผู้ฝึกตนบางคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่สุดท้ายก็ถูกดึงเข้าไปในการต่อสู้อย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นพวกเขาก็ตายตกไปอย่างไม่รู้ตัวภายในสนามรบ ในตอนสุดท้ายความตายของพวกเขาทั้งหมดจะพาสำนักของตนเองลงเหว!

นอกจากนี้การต่อสู้เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสถานที่เดียว มีการต่อสู้ห้าครั้งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นการทะเลาะวิวาทที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมีบางคนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างไร้เหตุผล…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด