Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 291.1

Now you are reading Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต Chapter 291.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

••••••••••••••••••••

บทที่ 291: ขั้นกว่า (1)

“แท้จริงแล้วเรือมังกรทองคำนั้นมีสองแบบ ก่อนที่มันจะเป็นของนายท่าน มันคือแบบแรก เป็นรูปลักษณ์สำหรับคนขี้เหนียว แต่รูปแบบที่สองของมันคือรูปลักษณ์ที่แท้จริง!”

แม่มดเทวะคนอื่นกล่าวเสริม “นายท่านเลือกมาได้เลยว่าต้องการแบบใด แล้วพวกเราจะประเมินระยะเวลาในการซ่อมแซมมันอีกครั้ง!”

“แปลกมากที่ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าเรือมังกรทองคำนั้นมีสองลักษณะ แล้วลักษณะที่สองของมันเป็นอย่างไรล่ะ?” ซ่งจงตอบกลับอย่างสนใจ

“รายงานนายท่าน แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้พวกเราก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่คงเป็นเพราะสงครามในครั้งนี้ใช้พลังของแก่นมังกรทองคำมากเกินไป จึงทำให้เราสามารถสื่อสารกับมันได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยเห็นความลับนี้มาก่อนเลย!” แม่มดเทวะตอบกลับ

“เป็นเช่นนั้นเอง!” ซ่งจงเข้าใจพร้อมถามออกไปอย่างรวดเร็ว “เจ้าจงบอกข้ามาโดยเร็วว่าลักษณะที่สองของมันนั้นเป็นอย่างไร?”

“เจ้าค่ะ!” แม่มดเทวะตนหนึ่งตอบกลับมาพร้อมกับอธิบายทุกอย่างให้จบอย่างรวดเร็ว หลังจากนางกล่าวจบแล้วซ่งจงได้คลี่คลายข้อสงสัยทันที

แต่เดิมเรือมังกรทองของซ่งจงนั้น แม้ว่าจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน แต่ในความจริงแล้วมันไม่อาจต่อกรกับเรือของผู้ฝึกตนระดับเลือนจือได้ เหตุผลที่แท้จริงของมันก็คือมันคือเรือของผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน จึงไม่สามารถเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงได้เพราะอาจจะไปเข้าตาของผู้ฝึกตนระดับเลือนจือ เช่นนี้จึงเป็นเหตุผลที่เรือมังกรทองคำถูกลดระดับความสามารถลงไม่อาจเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาได้

อีกทั้งสาเหตุที่มันถูกลดระดับความสามารถลงนั้นสามารถเข้าใจได้โดยง่ายมากนั่นเป็นเพราะว่าการดูดกลืนหินจิตวิญญาณที่บ้าคลั่งของมันนั้นน่ากลัวเกินไป เหตุผลเช่นนี้ทำให้แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับเลือนจือยังไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องลดระดับของเรือมังกรทองคำเพื่อลดการดูดกลืนหินจิตวิญญาณ!

หลังจากทำความเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ซ่งจงเข้าใจทุกอย่างทันที หลังจากนั้นเขาเริ่มสอบถามแม่มดเทวะถึงความแตกต่างของรูปลักษณ์ทั้งสองแบบ แม่มดเทวะทั้งหมดอธิบายให้ซ่งจงทราบอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความประหลาดใจและตื่นเต้นให้กับซ่งจงอย่างมาก

เรียกได้ว่าความแตกต่างของรูปลักษณ์ทั้งสองนี้ต่างกันราวกับสวรรค์และโลก ซึ่งมันแตกต่างกันอย่างมาก มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหมือนกันเล็กน้อย

รูปลักษณ์ของเรือมังกรทองคำในครั้งแรก

มันสูงกว้างและยาวสามพันฟุต

สำหรับความเร็วในการบินจะถูกควบคุมด้วยกระดิ่งดำ

หอคอยสายฟ้าทองคำศักดิ์สิทธิ์นั้นตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ซึ่งกินพื้นที่อย่างมาก รอบๆหอคอยนั้นมีหอคอยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขนาดกลางล้อมรอบซึ่งพวกมันจะสามารถยิงสายฟ้าออกไปได้ในระยะร้อยลี้

มีหวงหลงสายฟ้าสีม่วงสองกระบอก ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับหินจิตวิญญาณที่ใส่เข้าไป

Protection magic arts gold Divine Protection light

มีลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองสำหรับป้องกัน

ปกป้องเรือด้วยเวทมนตร์สองชั้นจากเมฆาสีทอง

ในทุกการเดินทางจะต้องใช้หินจิตวิญญาณอย่างน้อยหนึ่งพันก้อน สำหรับการต่อสู้ที่ไม่เปิดการใช้งานกระดิ่งดำจะต้องใช้หินจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งหมื่นก้อน อีกทั้งจะต้องเพิ่มมากขึ้นไปอีกเมื่อใช้หวงหลงสายฟ้าสีม่วง

ส่วนรูปลักษณ์ของเรือมังกรทองคำขั้นที่สอง

มันกว้างสูงและยาวห้าพันฟุต

สำหรับความเร็วนั้นมากกว่ารูปแบบแรกถึงหนึ่งในสี่

หอคอยสายฟ้าทองคำศักดิ์สิทธิ์นั้นสูงใหญ่ เด่นเป็นสง่าราวกับจะจุมพิตกับท้องฟ้า พร้อมด้วยหอคอยขนาดกลางล้อมรอบเช่นเดิม ความสามารถในการยิงของมันคือร้อยลี้เช่นกัน

มีหวงหลงสายฟ้าสีม่วงสองกระบอก ระยะการยิงของมันนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของหินจิตวิญญาณระดับสูง

ซึ่งอาวุธมังกรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนั้นจะต้องใช้ปริมาณหินจิตวิญญาณระดับสูงมากถึงหนึ่งแสนก้อน

พร้อมด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองเพื่อป้องกัน

อีกยังเมฆาสีทองยังคงอยู่เช่นเดิม

ระดับการป้องกันนั้นมีสามระดับซึ่งใช้หินจิตวิญญาณในแต่ละครั้งมากถึงหนึ่งหมื่นก้อน

การใช้รูปลักษณ์ที่สองของมันในการเดินทางประจำวันจะต้องมีหินจิตวิญญาณอย่างน้อยสามพันก้อน เมื่อต่อสู้จะต้องใช้สามหมื่นก้อนเป็นอย่างน้อยเพื่อเปิดใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วง หอคอยสายฟ้าทองคำศักดิ์สิทธิ์ หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นๆร่วมด้วย

แน่นอนว่ารูปลักษณ์ของแบบที่สองนั้นจะต้องแตกต่างจากแบบแรกโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือค่าใช้จ่ายที่มหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถที่ได้รับเพิ่มมานั้นต้องจ่ายแพงเกินกว่าจะทนได้ไหว

อีกหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งความรุนแรงของมันได้เพิ่มขึ้นมากถึงสองเท่า เช่นกันการใช้จ่ายของมันมากกว่าในรูปแบบแรกกว่าเท่าตัว! ปืนใหญ่ทั้งสามกระบอกนี้สามารถโจมตีแยกกันได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องเน้นไปที่เป้าหมายเดียวเหมือนคราวก่อน

แต่หางของมังกรศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าชื่อของมันจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่ความสามารถใหม่ของมันนั้นน่าประทับใจอย่างมาก แท้จริงแล้วมันมีความสามารถในการปะทะ เมื่อมันแสดงฤทธิ์ มันจะไม่ใช่หางมังกรอีกต่อไป ในทุกการขยับของมันจะปลดปล่อยปราณดาบสีทองออกไปอย่างทรงพลัง ดูเหมือนว่าการเปิดใช้งานมันจะต้องการหินจิตวิญญาณระดับสูงถึงหนึ่งแสนก้อน การโจมตีนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่คนทั่วไปจะคาดเดาได้ เพราะมันทรงพลังมากกว่าปกติอย่างมาก

ส่วนเกล็ดของเรือโดยรอบแล้วมีลักษณะเป็นสีทอง สามารถสะท้อนการโจมตีได้เมื่อเปิดใช้งาน การป้องกันของมันคือโดยรอบของเรือทั้งหมด แม้ว่ามันจะถูกทำลายชั้นป้องกันออกไป แต่ถ้าหากกระทบกับแสงแดด มันจะสามารถฟื้นฟูพลังขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจ

สิ่งเดียวที่น่ากังวลสำหรับพลังพวกนี้คือมันต้องการหินจิตวิญญาณในจำนวนที่มากเกินไป ในการเปิดใช้งานมันครั้งแรกจะต้องสูญเสียหินจิตวิญญาณมากถึงหนึ่งหมื่นก้อน ในการต่อสู้หนึ่งครั้งจะต้องจ่ายออกไปมากถึงเพียงนี้ นั่นไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดผู้ฝึกตนระดับเลือนจือยังไม่สามารถอดทนได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องเปลี่ยนรูปร่างของมันเพื่อลดความต้องการของเรือลงอย่างช่วยไม่ได้

แต่การจ่ายทุกอย่างออกไปย่อมคุ้มค่าเสมอ เกล็ดมังกรทองคำนั้นสามารถดูดซับพลังของแสงอาทิตย์ได้ จึงไม่แปลกที่มันจะต้องใช้หินจิตวิญญาณจำนวนมาก การป้องกันของมันนับได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมากเทียบเท่าการใช้สมบัติวิญญาณของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน ซึ่งมีเพียงผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินที่ใช้สมบัติวิญญาณเท่านั้นจะสามารถทะลวงผ่านการป้องกันเหล่านี้ได้ แม้ว่าการป้องกันจะแตกหักแต่สุดท้ายแล้วถ้าหากมีเวลา เกล็ดมังกรทองคำจะสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้อีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าเรือมังกรทองคำนั้นสามารถยืนหยัดในการต่อสู้ที่ดุเดือดได้อย่างกล้าหาญ แม้ว่าผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินยังต้องเหน็ดเหนื่อยกับคู่ต่อสู้เช่นนี้

หลังจากที่ได้ฟังแม่มดเทวะกล่าวจบ ซ่งจงทำได้เพียงสูดเอาอากาศเย็นเข้าปอดเพื่อสงบอารมณ์ ภายในใจของเขารู้สึกหลงรักและเกลียดชังเรือมังกรทองลำนี้อย่างมาก เขาหลงรักในความสามารถที่ทรงพลังของมัน แต่เกลียดที่มันกินจุเกินกว่าจะทำใจได้!

หลังจากที่ผ่านสงครามที่หนักหน่วงมา ซ่งจงคิดว่าเขาไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้ เพียงแค่พัฒนาเรือมังกรทองคำให้เป็นรูปลักษณ์ที่สอง มันก็เป็นเพียงเรื่องของหินจิตวิญญาณไม่ใช่หรือ? แม้ว่าในสงครามที่ผ่านมาซ่งจงได้จ่ายหินจิตวิญญาณจำนวนมากออกไป แต่ทว่าเขาใช้มันไปนับหมื่นเท่านั้นในส่วนของเขาและเขายังเหลือหินจิตวิญญาณระดับสูงจากเทพธิดาเหมยฮวาอีกมากกว่าครึ่ง

อีกทั้งในตอนนี้ซ่งจงยังสามารถผลิตหินจิตวิญญาณได้ภายในมิติลึกลับของเขาอย่างไร้ขีดจำกัด และถ้าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปภายในสามปีเขาจะมีหินจิตวิญญาณระดับต่ำและจากนั้นมันจะควบแน่นกลายเป็นปราณจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์กว่าเดิม ถ้าหากใช้เวลาสิบปีทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าเขาจะมีหินจิตวิญญาณระดับสูงจำนวนมาก

ในตอนนี้ซ่งจงจะต้องซ่อมแซมเรือมังกรทองคำ แน่นอนว่าเขาจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันด้วยและการเตรียมหินจิตวิญญาณระดับสูงเป็นสิ่งที่เขาต้องให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่เขาใช้เวลาฝึกฝนแบบปิดอยู่ในทะเลตะวันออกยาวนานกว่าแปดปี หินจิตวิญญาณของเขาหมดลงไปมาก แต่ก็ไม่ถึงกับยากจนเพราะเขายังเต็มไปด้วยสมบัติที่แตกหักมากมายรอการย่อยสลาย ดินสีดำนั้นแทบไม่ได้พักผ่อนเลย พวกมันทำหน้าที่ต่อไปอย่างไม่หยุดพัก ในตอนนี้พวกมันต้องย่อยสลายสมบัติน้ำหนักกว่าหมื่นจินในทุกๆวัน กล่าวได้ว่าในทุกๆวันเขาผลิตหินจิตวิญญาณระดับต่ำได้นับแสนก้อน ซึ่งมันเพียงพอสำหรับการลงทุนเพื่อซื้อสมบัติมาต่อยอดให้เพิ่มพูนมากขึ้นไปในทุกวัน

ดังนั้นเมื่อหินจิตวิญญาณที่อยู่ในมือของซ่งจงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้มันจะจัดการตัวเองเปลี่ยนจากระดับต่ำกลายเป็นระดับสูงภายในไม่กี่ปี

นอกจากนี้หินจิตวิญญาณในมือของเขาตอนนี้มีอยู่นับล้านก้อน

เพราะว่ายังมีหินอีกมากที่เหลืออยู่ ทำให้ซ่งจงไม่ลังเลที่จะขึ้นรูปแบบที่สองของเรือทันที!

เมื่อซ่งจงได้ตัดสินใจแล้ว แม่มดเทวะนั้นไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีวัสดุมากมายภายในห้องเก็บของของเรือมังกรทองคำ แต่การซ่อมแซมเรือที่เสียหายอย่างหนักและต้องต่อเติมเพื่อขึ้นรูปแบบที่สอง ด้วยความสามารถของเหล่าแม่มดเทวะนั้นต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งปีเต็มเท่านั้นเอง

เป็นเพราะแม่มดเทวะนั้นมีประสบการณ์มากมาย อีกทั้งพื้นฐานเดิมพวกนางเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน เป็นไปไม่ได้เลยที่งานเช่นนี้จะไม่สำเร็จ

อีกทั้งจิตวิญญาณของพวกเขายังหลอมรวมเข้ากับแก่นมังกรทองคำเรียบร้อยแล้วเสียด้วย

หลังจากที่มอบหมายหน้าที่ให้กับแม่มดเทวะเกี่ยวกับเรือมังกรทองคำแล้ว ซ่งจงเข้าไปเสพสุขกับหานหลิงเฟิงอยู่หลายวันก่อนที่จะกลับออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด