I Don’t Want To Defy The Heavens 77 ลูกพี่ลูกน้องโหดร้ายมาก

Now you are reading I Don’t Want To Defy The Heavens Chapter 77 ลูกพี่ลูกน้องโหดร้ายมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย | Don’t Want To Defy The Heavens

 

DTH ตอนที่ 77 ลูกพี่ลูกน้องโหดร้ายมาก

 

ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน

 

“นายน้อย นายท่านเรียกพบ”

 

เมื่อเขากลับมาได้ไม่นาน เขาก็เห็นอาวุโสบู่เดินมาแต่ไกลเขาเห็นโจว เชียงเหมาแบกปีศาจหยินไว้บนหลัง แม้ว่าการแสดงออกของเขาจะไม่เปลี่ยน แต่ก็ยังคงตกใจเล็กน้อย

 

“ท่านพ่อเรียกข้าทำไม?”

 

หลิน ฟานสับสนและรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องดี

 

ตอนนี้มันยังกลางวันอยู่ แถมเมื่อเร็วๆนี้เขาก็ไม่ได้ไปก่อบัญหาที่ไหน ดังนั้นพ่อของเขาจึงไม่ควรมีเหตุผลให้เรียกหาเขา

 

“เข้าใจแล้ว” หลิน ฟานตอบ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรยังไงเขาก็ต้องไปอยู่ดี ณ ห้องศึกษา

 

อาวุโสบู่เดินตามมาจากด้านข้าง “นายน้อย นายท่านกำลังจะพูดเรื่องที่สาคัญมากสำหรับท่าน ดังนั้นอย่าทำให้ท่านโกรธ”

 

ก่อนที่จะเข้าไป อาวุโสรูได้ย้ำกับนายน้อยเป็นพิเศษ

 

คำพูดของเขาทำให้หลิน ฟานสับสนยิ่งกว่าเดิม และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

“ท่านพ่อ ที่ท่านเรียกข้ามามีอะไรงั้นรึ?” หลินฟานถาม

 

หลิน วานยี่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือ วางหนังสือลงจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฟาน ตอนนี้เจ้าก็อายุไม่ใช่น้อยคงถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องส่งไม้ต่อของตระกูลหลิน ก่อนหน้านี้ข้าพบหญิงสาวนางหนึ่งที่ดูน่าจะเหมาะกับเจ้า นางเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลหลี่แห่งเมืองหลง นางเป็นคนดีและมีความรู้ซึ่งน่าจะดีสำหรับเจ้าถ้าได้นางมาเป็นคู่ชีวิต และมันก็ยังดีสำหรับตระกูลของเราด้วยเช่นกัน”

 

สิ่งที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจน ข้าจะหาภรรยาให้เจ้า

 

“ท่านพ่อ ข้ายังเด็กอยู่” หลิน ฟานตกใจ ต้องล้อกันเล่นแน่เรื่องที่เรียกมากลับกลายเป็นเรื่องแต่งงาน แน่นอนว่าเขาจะต้องปฏิเสธ

 

เจ้าหลุมที่เรียกว่าการแต่งงานนั้นน่ากลัวเพียงใด ไม่ว่าใครก็รู้ มันเป็นเรื่องอันตรายถึงขนาดทำให้เขาตายได้เลยทีเดียว

 

เขามีช่วงเวลาที่ดีในฐานะนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวยที่สามารถทำอะไรก็ได้ เขามีความสุขเหมือนเทพ และไม่อยากหาความทุกข์ใส่ตัว

 

“หืม?” หลิน วานยี่หรี่ตา สายตาของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

 

น้ำเสียงของเขาฟังดูน่าอึดอัดนิดหน่อย

 

ราวกับเขาจะสื่อว่าถ้าเจ้ากล้าขัดเจ้าตาย

 

อาวุโสขู่พยายามเกลี้ยกล่อม “นายน้อย ข้าเคยพบนางมาก่อน และนางก็ดีดั่งที่นายท่านว่าจริงๆ นางสวยมาก และบุคลิกของนางก็ดีด้วยเช่นกัน”

 

เธอสวยจริงๆ แต่บุคลิกของเธอนั้นยากที่จะพูด

 

“อาวุโสบู่ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวว่าหน้าตาจะดีหรือไม่ เพราะข้าไม่ใช่คนที่มองผู้อื่นเพียงแค่ผิวเผิน ท่านพ่อ เหตุการณ์สำคัญในชีวิตเช่นนี้จำเป็นต้องให้ทั้งสองฝ่ายเต็มใจ หากท่านบังคับข้าหรือนางเราทั้งคู่ก็จะไม่มีความสุข ดังนั้นท่านจะผลักบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านเข้าเปลวไฟไม่ได้!”

 

หลิน ฟานคร่ำครวญ สวรรค์ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?

 

ข้าไม่สมควรมีชีวิตที่ดีงั้นหรือ?

 

“หึหึ” หลิน วานยี่เผยรอยยิ้มเสน่ห์ ผลักเข้าเปลวไฟ? ใครผลักใครกันแน่

 

แต่เขาไม่มีทางเลือก ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องหาใครสักคนให้เจ้าเด็กจอมดื้อรั้นคนนี้

 

ตระกูลหลีแห่งเมืองหลงเป็นตัวเลือกที่ดี และเขาก็พอใจกับมันมาก

 

ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ข้าแค่ต้องการหลานชายของข้า ส่วนเรื่องอื่นข้าไม่สน

 

“เอาล่ะ หยุดกล่าวสิ่งที่ไร้ประโยช์เหล่านั้นกับข้าได้แล้วเพราะทุกสิ่งมันถูกตัดสินใจเรียบร้อย เจ้าจะต้องยอมรับมันแม้ว่าเจ้าจะไม่ชอบก็ตาม มิฉะนั้นเจ้าจะไม่มีสิทธิ์ออกไปข้างนอกตลอดชีวิต และต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น” หลินวานยี่ขู่

 

เขาไม่เปิดโอกาสให้หลิน ฟานโต้แย้ง

 

“ท่านพ่อ…” หลิน ฟานต้องการต่อรอง

 

มันเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดมันถึงกะทันหันขนาดนี้?

 

บุตรสาวคนโตของตระกูลหลื่อะไรกัน เขาไม่ได้ต้องการเลย

สักนิด

 

สิ่งที่เขาต้องการคืออิสระภาพเพื่อโผบินออกไปหาความหมายของชีวิต

 

“ออกไป” หลิน วานยี่โบกมือเพื่อบอกให้เจ้าเด็กไม่เอาไหนออกไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถปฏิเสธได้

 

“ไม่ว่ายังไงข้าก็ไม่เห็นด้วย ถ้าท่านอยากแต่งมากนักก็แต่งไปเองเถอะ และต่อให้ท่านฆ่าข้าจนตาย ข้าก็ไม่มีวันยอมรับ” หลินฟานพึมพำจากนั้นก็เดินออกจาหห้องอ่านศึกษา

 

“ความโกรธ +111”

 

หลิน วานยี่โกรธ

 

เจ้าเด็กไม่เอาไหนกล้าต่อต้านข้าจริงๆ เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?

 

“นายท่านมันเป็นธรรมดาที่นายน้อยจะคัดค้านเรื่องนี้ แต่เมื่อเขาเห็นนาง บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้” อาวุโสวี่กล่าว

 

หลิน วานยี่โกรธมากจนไม่อยากพูด

 

“เจ้าเด็กไม่เอาไหนคนนี้มักทำให้ผู้อื่นโกรธอยู่เสมอ แล้วมีตรงไหนที่ข้าไปทำร้ายเขากัน?”

 

อาวุโสบู่หัวเราะอย่างขมขื่น สิ่งที่ท่านหัวหน้าตระกูลพูดไม่มีสิ่งใดผิด ท่านทำทุกอย่างไปเพื่อผลประโยชน์ของนายน้อยทั้ง

 

ณ ลานด้านหลัง

 

“นายน้อยทำไมท่านถึงดูหดหูขนาดนี้?” โกวชิถามออกมาเมื่อเห็นว่านายน้อยของเขามีสีหน้าเคร่งเครียด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

 

“เฮ้อ” หลิน ฟานถอนหายใจ “แล้วเจ้าคิดว่าเรื่องอะไรล่ะ? ท่านพ่อของข้าต้องการให้ข้าแต่งงานกับบุตรสาวคนโตของตระกูลหลี่ แบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับการผลักข้าลงไปในเปลวเพลิงเลยไม่ใช่หรือ?”

 

โกวชิไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารู้สึกว่าท่านหัวหน้าตระกูลไม่ได้ทำอะไรผิด

 

มันถึงเวลาที่นายน้อยจะต้องสร้างครอบครัวของตนเองแล้ว

 

ถ้าเป็นนายน้อยของตระกูลอื่น บางที่พวกเขาอาจจะมีลูกไปแล้วในวัยเท่ากับนายน้อย

 

และแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีลูก แต่พวกเขาก็จะมีสนมหลายคน

 

แต่นายน้อยของเขากลับไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย ช่างน่าสงสาร

 

นายน้อยดูไม่กังวล แต่กับพวกเขาแล้วไม่

 

“โกวชิ เจ้าคิดว่าเรื่องนี้มันเร่งรีบเกินไปหรือไม่?” หลินฟานถาม

 

โกวชิมึนงงเล็กน้อย

 

นายน้อย ข้าควรจะตอบกลับคำถามท่านอย่างไรดี?

 

สุดท้านแล้วเขาก็ทำได้แค่เห็นด้วย

 

“นายน้อยพูดถูก”

 

หลิน ฟานอารมณ์ดีขึ้นหลังจากได้รับคำตอบของโกวชิ

 

ใช่แล้ว แม้แต่โกวชิก็ยังคิดว่าเขาถูก ดังนั้นแปลว่าเขาถูกจริงๆ

 

เขานั้นมีวิธีแก้อยู่เสมอ แต่เกรงว่ามันจะไม่มีช่องว่างสำหรับการเจรจา ดังนั้นหากนางกล้ามาที่คฤหาสน์ตระกูลหลินจริงๆ นายน้อยผู้นี้จะเป็นคนทำให้นางรู้จักความน่ากลัวที่แท้จริงเอง

 

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลี่หรือตระกูลไหนมันก็ล้วนแล้วแต่ไม่

สำคัญ

 

ไม่นานเขาก็รู้สึกเบื่อและเริ่มแกล้งปีศาจหยิน แต่สิ่งที่น่าเศร้าเลยก็คือปีศาจหยินตัวนี้ไม่ได้ให้คะแนนความโกรธแก่เขาเลยแม้แต่น้อย

 

ราวกับมันมึนงงและหมดสิ้นความหวังไปแล้ว

 

สำหรับปีศาจหยิน ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าหากได้เผชิญหน้ากับมันโอกาสรอดชีวิตก็หายไปครึ่งหนึ่ง

 

แต่ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกว่าปีศาจหยิน

 

มันถูกทรมานจนกำลังจะล้มลง และเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับ

 

ความตาย

 

ฆ่าข้า

 

ข้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

 

หลิน ฟานต้องการจัดการกับมัน ปีศาจหยินมันไม่ใช่สิ่งที่ดือ ยู่แล้ว เพราะไม่ว่ายังไงมันก็ยังเป็นผู้ร้ายที่ฆ่าชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหวังอย่างโหดร้าย

 

และนั่นก็ยังเป็นทรัพย์สินของตระกูลหลินอีกด้วย ดังนั้นเขาจะปล่อยมันไปได้อย่างไร

 

“ลูกพี่ลูกน้อง เราจะปล่อยมันให้ไปสบายโดยการโยนมันลงไปในน้ำมัน” หลิน ฟานโบกมือ

 

เนื่องจากมันไม่มีประโยชน์แล้ว การกำจัดมันย่อมดีกว่าการปล่อยมันเอาไว้เฉยๆ

 

“ได้เลยลูกพี่ลูกน้อง” โจว เชียงเหมาคว้าตัวปีศาจหยินและเดินไปที่กระทะน้ำมัน

 

โจว เชียงเหมาดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่ในมุมมองของหลินฟาน ลูกพี่ลูกน้องของเขาโหดร้ายมาก เพราะทุกอย่างที่เขาทำดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา

 

สำหรับคนนอกตัวตนของลูกพี่ลูกน้องเป็นที่น่าหวาดกลัว

 

เกี่ยวกับการเดินทางที่สิ้นสุดลงด้วยความตายเช่นนี้เดิมที่ปีศาจหยินควรจะแสดงความกลัวออกมา แต่ใบหน้าของปีศาจหยินในเวลานี้กลับมีแต่ความโล่งใจ

 

ราวกับมันรอมานาน และในที่สุดมันก็ถึงช่วงเวลานี้

 

มันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาติหน้ามันคงไม่ตกอยู่ในมือของมนุษย์คนนี้อีก

 

น่ากลัวเกินไป แรงกดดันที่ได้รับมันมากเกินไป

 

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากจะนั่นแขนขาทิ้ง เพราะไม่ว่ายังไงพวกมันก็มักจะฉีกหัวใจและดูดเลือด หรือไม่ก็ฆ่ามนุษย์ด้วยวิธีที่โหดร้ายเสมอ

 

แต่การที่ศักดิ์ศรีของมันถูกเหยียบย่ำโดยมนุษย์เป็นสิ่งที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

ความอัปยศนี้จะถูกจดจำตลอดไป

 

นอกจากนี้มันยังสามารถบอกสถานการณ์ได้ผ่านรูปแบบของความผันผวนทางจิตวิญญาณ เพื่อบอกให้สมาชิกเผ่าพันธุ์เดียวกันให้ระวังเอาไว้ว่ามนุษย์มีแนวโนมที่ผิดแปลกต่อปีศาจหยิน

 

ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนไม่ให้แปดเปื้อน

 

เสียงน้ำมันเดือดดังออกมา

 

โจว เชียงเหมาทำการโยนปีศาจหยินเข้าไปทันที ไม่มีเสียงกรีดร้องดังออกมา และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า

 

โจว เชียงเหมาผู้ลงมือทำทั้งหมดนี้ไม่มีความผันผวนใดในหัวใจเขา ราวกับว่าการตายของอีกฝ่ายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

 

ต้องโหดเหี้ยมขนาดไหนกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด