I Don’t Want To Defy The Heavens 88 เจ้ารู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน?

Now you are reading I Don’t Want To Defy The Heavens Chapter 88 เจ้ารู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย I Don’t Want To Defy The Heavens

DTH ตอนที่ 88 เจ้ารู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน?

เสียงไก่ขันเป็นสัญญาณของรุ่งอรุณมาเยือน
แสงแดดยามเช้สาดส่องเข้ามา

หลินฟานเปิดตาของเขา เขาดูค่อนข้างสงบเมื่อวานนี้เขาได้ผ่านสิ่งต่างๆและได้รับประสบการณ์บางอย่าง

เขาวางมือลงบนร่างของนางมันเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนคงไม่เหมาะนักที่จะพูดออกมาตอนนี้เขาก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่เช่นกันเขาจึงลุกขึ้นและค่อยๆลุกขึ้นแต่งตัวอย่างสบายๆแน่นอนว่าดาบยังคงอยู่ข้างกายของเขา

หลี่ คือเซียวตื่นขึ้น

สายตาของนางแข็งค้างนางดูตกตะลึงเล็กน้อย

เมื่อคืนนี้นางพยายามอย่างมากเพื่อปกป้องตนเองแต่ดูเหมือนที่ทําไปมันจะไร้ประโยชน์

“สาวน้อย ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าพ่อของข้าเป็นคนทําสิ่งนี้ทั้งหมด ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ตระกูลหลินในแต่ละวันที่เจ้าตื่นคนแรกสุดที่เจ้าเห็นจะเป็นข้าเจ้าไม่สามารถหนีจากมันได้”

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาที่ตระกูลหลินทําไมหรือมีเป้าหมายอะไรแต่ข้าจะบอกให้ว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หากเจ้าต้องการแค่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งนั่นก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกันข้ารักความบริสุทธิ์ของข้าและข้าก็ไม่ใช่คนแบบนั้น”

หลิน ฟานสวมเสื้อผ้าและพร้อมจะชักดาบออกมาทุกเมื่อ

หลี่ คือเซียวลุกขึ้นนั่งบนเตียง แม้กระทั่งตอนนี้จิตใจของนางก็ยังสับสนอยู่เล็กน้อย

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นนางก็ยังได้ยินทุกอย่างที่หลินฟานพูด

ความโกรธ +333

ความโกรธ +666

แต้มความโกรธสองกอง

ความโกรธของนางระเบิดออกมาทั้งๆที่เขายังไม่ได้ทําอะไรเลยด้วยซ้ํา

เขาผลักเปิดประตู

ข้างนอกอากาศสดชื่น แสงแดดก็สดใส

หลิน ฟานสูดหายใจเข้าลึกๆรับความสดชื่นที่เข้ามา เขาหันกลับไปและกล่าว “โอ้จริงสิข้าลืมบอกเจ้าไปว่าพ่อของข้านั้นค่อนข้างป่วย ในสองวันที่ผ่านมามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราก็จริงแต่ข้า พนันเลยว่าวันที่สามคงหนีไม่พ้นเขาจะต้องว่ายาเราหรือไม่ก็หาคนช่วยแน่ในตระกูลเราตอนนี้ไม่มีสาวใช้แต่ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานคงมี”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลี่คือเซียวก็ตกใจมากจนวิญญาณเกือบออกจากร่าง

นางมาที่ตระกูลหลินไม่ใช่เพื่อเอาใจผู้อื่นแต่เพื่อต้องการอิสระ
ในเมื่อนางไม่ได้มีอารมณ์ร่วมบวกกับไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้ดังนั้นนี่จึงเป็นการบังคับกันอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะหลิน ฟานคิดอยากจะจากไปจริงๆแต่เขารู้สึกว่าแรงกดดันจากคําพูดของเขามันไม่หนักแน่นพอดังนั้นเขาจึงราดน้ํามันเข้าไปอีก

“ที่พ่อของข้าปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี เพียงเพราะเขาอยากให้เจ้ามีลูกกับข้างั้นเอาแบบนี้เป็นไงเจ้าแค่ต้องคลอดลูกให้ข้าคนหนึ่งจากนั้นเราก็แยกกันทางใครทางมัน?”

“ความคิดบรรเจิดมากเจ้าหัวโต” หลี่จือเซียวตําหนิ
ความโกรธ +777

หลิน ฟานยิ้ม “ถ้าหัวโตที่เจ้ากล่าวหมายถึงฉลาดและมีสมองล่ะก็งั้นข้าขอน้อมรับไว้ล่ะกันเอาเข้าจริงแค่เจ้าสามารถคลอดลูกได้สิ่งอื่นก็ไม่สําคัญ”

“แล้วเจ้ารู้ไหมว่าการคลอดลูกมันเจ็บปวดแค่ไหน? เจ้าจะรู้สึกราวกับกระดูกทั้งหมดในร่างการของเจ้าถูกทุบเป็นชิ้นๆและความเจ็บปวดนั้นจะคงอยู่นานมาก”

สําหรับคนโบราณแล้ว คนที่ไม่เคยให้กําเนิดลูกจะไม่รู้จักความเจ็บปวดขอ การคลอดลูก

อย่างไรก็ตามหลิน ฟานนั้นต่างกันเขาเคยสัมผัสกับมันมาก่อน

อย่าถามเลยว่าทําไมเขาถึงรู้ เหตุมัน เกิดจากเขาว่างเลยคิดอยากไปหาประสบการณ์จําลองแม่ง!

เมื่อถึงระดับ 7 เขาก็แทบจะเป็นลมเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปสําหรับขั้นที่ 9 นั้นเขาไม่คิดลองนอกซะจากว่าเขาอยากตาย

นิ้วของหลี่ คือเซียวสั่นเล็กน้อย

สิ่งที่เขาพูดนั้นสมจริงมากจนทําให้นางหวาดกลัว

หลิน ฟานออกจากห้องและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็เร่งฝีเท้าและออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วใครจะรู้บางที่หลีจือเซียวอาจไล่ตามมาฆ่าเขาก็เป็นได้

โจว เชียงเหมาเฝ้าดูอยู่ในความมืด

เขาคิดว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแบบนี้นี่มันค่อนข้างแปลก
ภายในห้อง

“ซุยหลาน ซุยหลาน…” หลี่จือเซียวตะโกน

ซุยหลานมาทันที เมื่อเห็นใบหน้าที่ขาวซีดนางก็ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง “คุณหนูเกิดอะไรขึ้น?”

“ซุยหลาน ตอนที่แม่ให้กําเนิดข้าท่านดูเป็นยังไง? ท่านได้รับอันตรายรึเปล่า?” หลี่คือเซียวถาม

“คุณหนู ทําไมท่านถึงถามเช่นนั้น?”ซุยหลานรู้สึกสับสน นางไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทําไมคุณหนูของนางจึงเกิดสนใจเรื่องนั้นขึ้นมา

“เล่ามา” หลี่ คือเซียวถามอย่างเย็นชา

ซุยหลานคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง แต่จากคําบอกเล่าที่ได้ยินมาเมื่อท่านให้กําเนิดคุณหนูท่านก็สิ้นลมจากไปในทันทีขณะที่ท่านหัวหน้าตระกูลกําลังจะเตรียมจัดงานศพอยู่ในตอนนั้นเองก็ได้มีภิกษุเฒ่ารูปหนึ่งเดินทางมาคฤหาสน์ตระกูลหลี่ เนื่องจากมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นในตระกูลพวกเขาจึง ไม่ได้ไล่ภิกษุเฒ่ารูปนั้นและทําบุญโดยให้เงินเขาไปเล็กน้อย จากนั้นภิกษุเฒ่า ก็นั่งลงตรงทางเข้าและเริ่มสวดมนต์วันนั้นเสียงของเคาะปูอวี่ดังก้องไปทั่วเมืองหลงสุดท้ายคุณหญิงก็รอด”

“แล้วภิกษุเฒ่ารูปนั้นล่ะ?” หลี่จือเซียวถาม

ซูยหลานคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เขาถูกไล่ออก
มา”

นางได้ยินเรื่องนี้มาจากคนรับใช้ที่ทํางานให้ตระกูลหลี่มาช้านาน

ซึ่งนางก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

คุณหญิงจากไปแล้วแต่ภิกษุเฒ่ายังมาเคาะปูออยู่หน้าคฤหาสน์ ดังนั้นพ่อบ้านจึงเตะเข้าไปที่หน้าทําให้ภิกษุหนีไปอย่างลนลาน

แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้ว่าคุณหญิงยังมีชีวิคอยู่และคิดว่าบางทีเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับภิกษุเฒ่า

“ซุยหลาน เจ้ารีบไปเก็บของของเจ้าข้าอยากกลับตระกูล” หลี่ จือเซียวรู้สึกสิ้นหวัง

ชายคนนั้นไม่ได้โกหก

นี่ไม่ใช่ชีวิตที่นางต้องการ

นางคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง นางจะสามารถทําสิ่งที่ต้องการได้แต่ตอนนี้นางกลับพบว่าหัวหน้าตระกูลหลินคนนี้น่ากลัวมาก

หากนางยังคงอยู่ที่นี่ต่อไปเกรงว่าผลที่ตามมาคือหายนะ

แต่มันติดตรงที่นางเป็นคนเห็นด้วยกับคําขอแต่งงานที่คฤหาสน์ตระกูลหลินส่งมาซึ่งเป็นผลให้ตระกูลหลี่ยอมรับคําขอนั้นหากนางกลับไปทั้งๆแบบนี้มันต้องไม่สมเหตุสมผลมากอย่างแน่นอนแต่ ไม่ว่ายังไงนางก็ทําได้เพียงจากไปชั่วคราว

“หือ?” ซุยหลานประหลาดใจ “คุณหนูอยากกลับตระกูล?”

“ใช่ เรากลับตระกูลกันเถอะ ที่นี่มันอันตรายเกินไปตอนแรกข้ามั่นใจตัวเองมากไปหน่อยและคิดว่าสามารถคุมสิ่งต่างๆได้แต่ความจริงแล้วมันไม่มีสิ่งใดเลยที่ตรงกับที่ข้าหวัง” หลี่จือเซียวกล่าวอย่างสับสน

ในมุมมองของซุยหลานคุณหนูควรจะกลับตระกูลตั้งแต่แรกแล้ว

อย่างที่คุณหนูเพิ่งกล่าวไปที่แห่งนี้มันอันตรายจริงๆ

นายน้อยหลินเป็นปีศาจ

ลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เป็นปีศาจของ

ตระกูลนี้มันไม่มีคนปกติเลยสักคนเดียวมีเพียงหัวหน้าตระกูลหลินเท่านั้นที่ดีกว่าเล็กน้อย

ซุยหลานยังเด็กเกินไป

หากนับในตระกูลหลินทั้งหมดหลินฟานและโจวเชียงเหมานั้นเป็นคนดีมาก

ส่วนคนที่เลวร้ายที่สุดจริงๆแล้วต้องเป็นหลินวานยี่และอาวุโสหรูต่างหาก

ณ ทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลหลิน

เมื่อหลิน วานยได้ยินว่าลูกสะใภ้ต้องการกลับตระกูลสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเกิดอะไรขึ้น?

นางเพิ่งมาตระกูลหลินได้ไม่กี่วันแต่ต้องการจะกลับไป มันเป็นเพราะตระกูลหลินไม่ดีพอหรือเป็นเพราะเขาไม่เคา
รพนางมากพอ?
หลิน ฟานเห็นพ่อของเขาดูร้อนรนเขาจึงเดินเข้าไปหาก่อนจะกล่าว “ขอบคุณท่านพ่อ!”

เขากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เขากระทั่งเกือบหัวเราะออกมาดังๆ

เขาไม่คิดเลยว่าหลี่ จือเซียวจะคิดกลับตระกูลจริงๆแบบนี้

แต่เมื่อเขาลองมาคิดดู

เขาก็เข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้เพราะพ่อส่งเขาไปที่ห้องของหลี่ คือเซียวทุกวันดังนั้นจึงไม่แปลกที่อารมณ์ของนางจะระเบิดออกมา

นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและมีเพียงความคิดที่อยากจะจากไปอยู่ในหัวเท่านั้น

หลินวานยี่สับสนเมื่อได้ยินสิ่งที่ล

เขาหมายถึงอะไร?

เขาจะมาขอบคุณข้าทําไม?

“ท่านพ่อ ถ้าท่านไม่ส่งขาเข้าไปในห้องของนางทุกวันนางคงไม่คิดจากไปแบบนี้ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าท่านพ่ออยู่ข้างข้ามาตลอด”หลินฟานยิ้ม

หลิน วานยิ้มองไปทางอาวุโสหวี่เขาพยักหน้าเงียบๆเพื่อบ่งบอกว่าเขาเห็นด้วยกับคําพูดของนายน้อยของเขา

นี่ข้าเป็นคนทําให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้?

“ลูกสะใภ้ ทําไมจู่ๆเจ้าถึงอยากกลับไปล่ะ?ทั้งๆวันแต่งงานของเจ้าถูกกําหนดเอาไว้แล้ว” หลินวานยี่เดินไปหาหลี่คือ เซียวและถาม

หลี่ จ่อเซียวรู้สึกกลัวหลินวานยี่เล็กน้อยเมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกนางก็หลงคิดไปว่าเขาเป็นคนดีแต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานางก็ได้ตระหนักว่าสิ่งที่ตาของนางเห็นไม่สามารถเชื่อถือได้
รูปลักษณ์สามารถหลอกลวงได้

“ทะ…ท่านพ่อ เซียวเอ๋อร์อยากกลับตระกูลไปหาพ่อแม่ของข้า” หลี่จ่อเซียวกล่าว

ตอนนี้ในหัวของนางมีแต่อยากหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

แต่มีหรือที่หลินวานยจะยอมปล่อยนางไป?

“เซียวเอ่อร์ข้าว่าเจ้าไม่ต้องกลับไปหรอกถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องมาที่นี่ตอนงานแต่งเจ้าอยู่แล้ว”

“แต่ยังไงเซียวเอ๋อร์ก็อยากกลับ” หลี่จือเซียวตื่นตระหนก

หลิน ฟานกล่าว “ท่านพ่อ ในเมื่อนางอยากกลับทําไมท่านไม่ปล่อยให้นางกลับไปเล่า”

“หุบปาก” หลิน วานนี่จ้องเขม็งไปยังเขาก่อนจะหันกลับมายิ้มให้หลี่คือเซียว“เซียวเอ๋อร์เจ้าเด็กคนนี้รังแกเจ้างั้นหรือ?หากมีอะไรก็แค่บอกข้าข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเอง”

หลิน ฟานกลอกตา

พ่อของเขากําลังโกหกหน้าตาย

ใครรังแกใครกันแน่? นี่ท่านไม่รู้จริงๆ?

แม้ว่าหลิน วานยี่กําลังยิ้ม แต่ในสายตาของหลี่คือเซียวรอยยิ้มนั้นดูราวกับรอยยิ้มของปีศาจที่ปากเต็มไปด้วยฟันแหลม

“ไม่ เซียวเอ๋อร์แค่อยากเจอพ่อแม่” หลี่คือเซียวแค่อยากจะไปจากตรงนี้แม้ว่านางจะต้องถูกทุบตีจนตายนางก็ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ในตอนนั้นเอง

“พี่หลิน…” เสียงหนึ่งดังขึ้น

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ร่างกายของหลี่คือเซียวก็สั่นสะท้านไม่นะ!
หลิน วานยิ้มองไปยังผู้ที่กําลังมาและดีใจ

“เซียวเอ๋อร์ เจ้าไม่จําเป็นต้องไปแล้วเพราะพ่อแม่ของเจ้าอยู่ที่นี่”

เชี่ย!

หลิน ฟานตกตะลึงจนอ้าปากค้าง อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้
สิ่งต่างๆกําลังไปได้สวย

แล้วนี่มันอะไร?

พวกท่านเป็นปีศาจงั้นรึ?

[1] “ม่อ” หรือถ้าแปลตรงตัวก็จะเป็น “ปลาไม้” มันเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาชิ้นสําคัญของพระสงฆ์จีนที่เวลาเคาะแล้วดังป๊อก ป๊อกน่าจะนึกภาพกันออก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด