I Don’t Want To Defy The Heavens 98 ออกจากเมืองโหย่ว

Now you are reading I Don’t Want To Defy The Heavens Chapter 98 ออกจากเมืองโหย่ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย | Don’t Want To Defy The Heavens

DTH ตอนที่ 98 ออกจากเมืองโหย่ว

คืนนี้นั้นไม่ได้สงบอย่างเช่นทุกที่โดยเฉพาะตระกูลหยวนที่มีเสียงร้องไห้บีบคั้นหัวใจออกมาตลอดทั้งคืน

เหล่าคนรับใช้ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมกับสั่นเทา พวกเขารู้ว่านายน้อยเป็นเจ้าของเสียงกรีดร้องนี้

“ท่านพ่อ หยุดตีข้าเสียที! ไม่ ข้าให้พื้นที่เพาะปลูกไปแล้ว หากเราว่ามันกลับมา นั่นจะทําให้ข้าเสียหน้าและไม่มีที่ยืนในเมืองโหย่วอีกต่อไป”

“มันเป็นข้าเองที่ตัดสินใจแบ่งที่ดินออกไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน”

“อย่างไรก็ตามท่านช่วยฟังข้าก่อนสักเดี่ยว ความจริงแล้วเรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง”

“ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนการของเจ้าสกุลหลิน! แต่โชคดีที่ข้ามองเห็นจุดประสงค์ของเขา ดังนั้นเราจึงต้องใช้แผนของเขาเพื่อเล่นงานเขากลับ!”

“ท่านพ่อ ข้าขอร้อง! มิฉะนั้น ข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฆ่าตัวตายเพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นของข้า”

บางที่หัวหน้าตระกูลหยวนอาจรู้สึกว่าตนท่าไม่ถูกและกําลังบังคับลูกชายของเขาให้ไปตาย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมน้ําเสียงของเขาจึงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

หยวน เทียนไม่ได้กรีดร้องอีกต่อไปและพยายามใช้เหตุผลเพื่อโน้มน้าวใจพ่อ เขาบอกพ่อถึงการคาดเดาของเขาและความลับที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นซึ่งยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจ

แต่หลังจากเขาเกลาคําสักหน่อย มันก็ทําให้ทุกคนสามารถเข้าใจได้

“ท่านพ่อ ท่านจะส่งข้าไปไหน?”

“ข้าว่าเมืองโหย่วก็ดีอยู่แล้ว ทําไมข้าต้องไปด้วย?”

เรื่องใหญ่ นี่มันเรื่องใหญ่จริงๆ

พ่อต้องการส่งเขาออกจากเมืองโหย่วโดยไม่บอกว่าจุดหมายของเขาเป็นที่ไหน ดู เหมือนเบื้องหลังเรื่องนี้อาจซับซ้อนไม่ใช่น้อย

เขาครุ่นคิดอย่างลึกซึ่งแต่ก็ไม่ได้อะไร

บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้

พ่อของเขาคาดหวังกับเขาไว้สูงและคงต้องการจัดงานสําคัญให้เขาทํา

หลายวันต่อมา

ในเช้ที่อากาศดี หลินฟานเปิดประตูและหายใจเข้าลึก ๆ อากาศสดชื่นมาก

“นายน้อย ท่านหัวหน้าตระกูลบอกให้ท่านไปรอด้านนอกคฤหาสน์” อาวุโสหวี่กล่าว

“ห้ะ! ท่านพ่อบอกให้ข้าไปรอข้างนอกแต่เช้? เกิดอะไรขึ้นรึไม่?” หลินฟานถาม

เขามันงงเล็กน้อยและรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขานั้นไม่เคยถูกเรียกออกมาแต่เช้าตรู่แบบนี้มาก่อน

“นายน้อยจะรู้เองเมื่อไปถึงที่นั่น” อาวุโสหวี่กล่าว

เวลาได้มาถึงแล้ว

นายน้อย ข้าขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ

โกวชิตอนนี้กาลังเก็บของอยู่ในห้อง เขาได้รับแจ้งแต่เช้าว่าให้ไปเก็บของและ ออกไปกับนายน้อย พวกเขาจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกนาน

เมื่อหลิน ฟานมาถึงหน้าคฤหาสน์ เขาก็พบว่ามีรถมาจอดอยู่ ขณะที่พ่อของเขากำลังยืนรออย่างเงียบๆ

“ท่านพ่อ นั่นท่านกําลังจะไปไหน?” หลิน ฟานถาม

เมื่อเห็นรถม้า เขาก็คิดว่าพ่อของเขากําลังจะไปที่ไหนสักแห่งที่ไกลมากๆและจําเป็นต้องบอกลาเขานั่นไม่มีปัญหา

เพียงแค่ท่านแนะนํามา บุตรชายผู้แสนดีของท่านคนนี้จะดูแลตระกูลหลินเป็นอย่างดี และจะไม่มีปัญหาให้ท่านต้องกังวลอย่างแน่นอน

หลินวานยูกล่าว “ไม่ใช่ข้าที่จะไป แต่เป็นเจ้าต่างหาก ข้าอยู่ตรงนี้ก็เพื่อส่งเจ้า”

ตะลึง!

งงงวย!

“ท่าน.. ท่านพ่อ ท่านกําลังพูดเรื่องอะไรกัน? มาล้อเล่นกันแต่เช้าแบบนี้มันไม่ค่อยดีต่อหัวใจของข้าสักเท่าไหร่” หลิน ฟานมึนงงเล็กน้อย ไม่ใช่พ่อที่กําลังไปแต่กลาย เป็นเขาที่ต้องไป?

โอ้สวรรค์…

ท่านทําอะไรพลาดไปรีไม่?

ข้า หลิน ฟานระพฤติตัวดีอยู่เสมอและไม่เคยสร้างปัญหาให้กับตระกูล แล้วทําไมข้าถึงต้องไปด้วย?

ซ้ําก่อน

“ท่านพ่อ ท่านหาภรรยาคนใหม่ของข้าเจอแล้วและต้องการส่งข้าไปที่นั้นตอนนี้ ใช่รึไม่?”

เมื่อดูจากสถาการณ์ปัจจุบันดูเหมือนจะเป็นไปได้มากทีเดียว

“เจ้าไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่เรื่องนั้น ตอนนี้หยุดพูดและรีบขึ้นรถม้าไปได้แล้ว ลูกพี่ลูกน้องของเจ้ากําลังจะมาเร็ว ๆ นี้” หลินวานยี่ กล่าว

หากข้าจากไปทั้งๆแบบนี้มันไม่ได้แปลว่าชีวิตนายน้อยผู้ร่ํารวยของข้าจะจบลงตรงนี้งั้นหรือ?

เขาไม่คิดเลยว่าคนที่ดึงเขาลงจากตําแหน่งไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นพ่อของเขาเอง

โอ้พระเจ้า

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ข้ายังไม่ทันได้เตรียมอะไรสักอย่าง

หลิน ฟานเดินไปหาพ่อของเขาก่อนจะกล่าว “ท่านพ่อได้โปรดอย่าทําเช่นนี้เลย ข้าชอบอยู่ในตระกูลของเรามากกว่า ท่านลองคิดดูสิหากข้าต้องไปอยู่ในสถาที่ที่ไม่คุ้นเคยและเกิดหลงทางขึ้นมาล่ะจะทําอย่างไร?”

หลิน วานยี่กล่าว “เจ้าไม่ต้องกลัวหลงเพราะข้าจะให้แผนที่กับเจ้าไปด้วย อย่าลืม ดูแลตัวเองและอย่าสร้างปัญหาใดๆเนื่องจากข้าไม่ได้อยู่ปกป้องเจ้าดังเดิมอีกแล้ว”

ในตอนนั้นเองโจว เชียงเหมาก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ “ท่านลุง ข้าเก็บ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

โกวชิเองก็ตามมาหลังจากนั้นไม่นาน

“พวกเจ้ารู้อยู่ก่อนแล้ว?” หลิน ฟานถาม

“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน” โจว เชียงเหมากล่าว

หลิน ฟานรู้สึกว่าสิ่งต่างๆได้ถูกตัดสินเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เกรงว่าเขาคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะรู้แบบนั้นเขาก็ยังอยากลอง “ท่านพ่อ ไม่มีที่ว่างสําหรับเจรจาเลยงั้นเหรอ?”

“ขึ้นรถ” หลิน วานยี่รู้สึกว่าการพูดจาดีๆกับเจ้าเด็กที่ดื้อรั้นคนนี้ทําให้เขาไม่เชื่อฟัง ดูเหมือนเขาจะต้องเข้มงวดเท่านั้นเจ้าเด็กคนนี้ถึงจะยอมถอย

“ให้ตายเถอะ!”

มันไม่มีที่ว่างสําหรับเจรจาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ได้ยินเสียงของพ่อ เขาก็รู้ได้ในทันที่ว่ายังไงเขาก็ต้องออกไปวันนี้แม้จะไม่เห็นด้วยแค่ไหนก็ตาม

อย่างน้อยก็ช่วยบอกข้าหน่อยเถอะว่าทําไม

ช่วงนี้เขากําลังไปได้ดีในเมืองโหย่ว ทําไมถึงต้องส่งเขาออกไปด้วย? หรือมันจะมี เรื่องใหญ่เกิดขึ้น?

“โกวช เจ้าเอาเงินมาพอร์ไม่?” หลิน ฟานถาม

ช่างเถอะ ช่างมัน

เนื่องจากพวกเขากําลังจะออกไปข้างนอก อย่างน้อยเขาก็ต้องมีเงิน ไม่อย่างนั้น ชีวิตที่รอพวกเขาอยู่จะลำบากมาก

โกวชิตอบ “ข้านํามาพอ”

สิ้นเสียงโกวชก็ขึ้นไปจับบังเหียนอย่างรวดเร็ว

หลิน วานยี่เดินอยู่ข้างหลิน ฟานจนถึงประตูเมือง

ณ คฤหาสน์ตระกูลเหลียง

เหลียง หยงฉีเงียบ มันเป็นอย่างที่เขาคาดไว้ เขาถูกทิ้งและพ่อของเขากาลังจะไล่ เขาออกจากตระกูลเหลียง นี่ข้าถูกส่งให้ไปตายรึไม่?

เขามองไปยังเหลียง อี้ชุด้วยความโกรธที่ปะทุอยู่ข้างใน

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า สิ่งต่างๆคงไม่กลายเป็นแบบนี้

เหลียง อี้ชูส่งสัมภาระให้น้องสามของเขา “น้องสามดูแลตัวเองดีๆด้วย”

เหลียง หยงฉีรับมันมาโดยไม่ได้พูดอะไร “ท่านพ่อ ลูกขอลา”

เนื่องจากในตระกูลเหลียงไม่มีที่สําหรับเขา เขาจึงต้องออกไปสํารวจและสร้างที่สําหรับตัวเอง

“อย่ารีบร้อนไป รอนายน้อยตระกูลหลินก่อน เจ้าต้องไปกับเขา” หัวหน้าตระกูลเหลียงกล่าว

สีหน้าของเหลียง หยงฉีเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ เมื่อนึกถึงวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของหลิน ฟาน เขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นที่มันแล่นลงกระดูกสันหลัง

“ท่านพ่อได้โปรด! ข้าไม่อยากไปแล้ว ให้ข้าอยู่ที่ตระกูลด้วยเถอะ!”

เขาไม่อยากนึกภาพตอนที่เขาติดตามเจ้าสกุลหลินเลย บางทีเขาอาจถูกฆ่าตาย ระหว่างทาง

“หยุดพูดแล้วรอที่ประตูเมือง พวกเขาควรจะมาถึงเร็ว ๆ นี้” หัวหน้าตระกูลเหลียงก ล่าว

ไม่ว่าเหลียง หยงฉีจะร้องไห้และเรียกแม่ของเขาอย่างไร มันก็เปล่าประโยชน์

ทุกสิ่งมันถูกตัดสินไปแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนเปลงได้

แม้เจ้าไม่อยากยังไงก็ต้องไป

“ไม่…”

เขาพยายามต่อต้าน แต่มันก็ไร้ประโยชน์

ที่ประตูหลิน วานยี่พยักหน้าไปทางหัวหน้าตระกูลเหลียงและหยวน

หลิน ฟานมองไปยังเหลียง หยงฉีและหยวน เทียนชิอย่างเงียบๆด้วยรอยยิ้มที่สดใส

“พวกเราต้องไปด้วยกัน?”

เหลียง หยงจี้รู้สึกว่ามือและเท้าของเขาเย็น เขาไม่กล้าตอบเพราะกลัวจะถูกทุบตี

ที่เขากล่าวนั้นรวมถึงพ่อของเขาด้วย

หยวน เทียนชูขมวดคิ้ว เขากําลังคิดอยู่เรื่องหนึ่งว่าท่าไมพ่อของเขาถึงต้องส่งเขา ออกไป ยิ่งไปกว่านั้นทําไมต้องไปกับหลิน ฟานด้วย?

เกรงว่ามันต้องมีความลับซ่อนอยู่แน่

นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่าพ่อของเขาเองก็รู้ว่าหลิน ฟานเป็นคนรอบคอบและระมัดระวัง แค่ไหน เขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องเห็นเลือด ดังนั้นนั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่พ่อ ต้องการให้เขาติดต่อกับหลิน ฟานอย่างลึกซึ้ง

ตามค่ากล่าวที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง บางทีพ่ออาจต้องการให้เขา เข้าใจหลิน ฟานอย่างแท้จริง

“เชียงเหมา ลุงของฝากลูกพี่ลูกน้องของเจ้าด้วย อีกอย่างเจ้าต้องระมัดระวังให้ มากเข้าไว้” หลินวานยี่กล่าว

โจว เชียงเหมาพยักหน้า “ขอให้ท่านลงวางใจ ข้าเชียงเหมาจะปกป้องลูกพี่ลูกน้องเอง ใครก็ตามที่ต้องการทําร้ายเขาจะต้องข้ามศพข้าไปก่อน”

“เจ้าควรดูแลความปลอดภัยของนายน้อยตระกูลเหลียงและหยวนด้วย”

โจว เชียงเหมาตอบ “เข้าใจแล้วครับท่านลุง”

หลิน วานยี่โบกมือ “ไปเถอะฟานเอ๋อร์ ไปที่ภูเขาวิถียุทธ์และนําจดหมายฉบับนี้ไป ด้วย ก่อนหน้านี้ข้าเคยช่วยชีวิตผู้นํานิกายไว้ ดังนั้นเขาควรรู้ว่าจะต้องทําอย่างไร”

“ท่านพ่อ เราไม่ไปไม่ได้เหรอ? ข้าอยากอยู่บ้าน ข้าสัญญาว่าต่อไปนี้จะเชื่อฟัง ท่าน” หลิน ฟานถามอย่างไม่แน่ใจ

“ไปได้แล้ว” หลิน วานยกล่าว

หลิน ฟานถอนหายใจ “เอาล่ะ ก็ได้ งั้นลูกก็คงต้องขอลา”

นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น พ่อต้องการให้เขาไปจริงๆ และเขาคงอยู่ไม่ได้แน่นอน

หลิน วานยี่และคนอื่นๆ ยืนอยู่ที่ประตูเมือง เฝ้าดูรถม้าค่อยๆ หายไป

หัวหน้าตระกูลเหลียงตบไหล่เหลียง อี้ชูก่อนจะกระซิบ “ชู เจ้าอย่าโทษพ่อเลย นะ”

เหลียง อี้ชูส่ายหัว “ทําไมข้าต้องทําเช่นนั้น? น้องสามเป็นลูกคนสุดท้อง ดังนั้นจึง เป็นธรรมดาที่ควรให้โอกาสเขามากกว่า”

หลิน วานยี่เดินจากไปโดยเอามือไพล่หลัง ก่อนเขาจะหันกลับมามองพวกเขา “ข้าได้ชดใช้หนี้ที่ข้าค้างไว้กับพ่อของพวกเจ้าหมดแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้อย่าทําให้ข้าโกร

สมาชิกตระกูลเหลียงและหยวนมองไปยังหลิน วานย

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้

ปรากฏว่าบรรพบุรุษของเราเคยช่วยเหลือเจ้ามาก่อน

และตอนนี้เจ้าก็ได้ตอบแทนแล้ว

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

หากเจ้าไม่พูดถึงมัน เราก็คงไม่รู้เรื่องนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด