Summoning the Holy Sword 57

Now you are reading Summoning the Holy Sword Chapter 57 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

57 – บาร์นนี่ผู้โชคร้าย

 

โรดส์ยืนขึ้น

 

เนโครแมนเซอร์ที่เป็นตัวตนชั้นสูงและกำลังนอนอยู่ต่อหน้าเขาในฐานะศพคนหนึ่ง

 

แต่โรดส์ไม่ได้ยิ้มออกมา ใบหน้าของเขามืดลง เขาจ้องมองไปที่มือซ้ายของเขาอย่างหมองหม่น

 

ขณะที่ปีกของทูตสวรรค์สามารถป้องกันพลังงานลบส่วนใหญ่ได้ แต่ท้ายที่สุด ช่องว่างระหว่างระดับยังห่างกันเกินไป ปัจจุบัน แขนซ้ายของเขากลายมาเป็นสีเขียว น่าสะอิดสะเอียนลุกลามไปยังร่างกายส่วนที่เหลือ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะค่าสถานะที่ผิดปกติของเขา บางทีแขนของเขาอาจจะแตกไปแล้ว

 

“เฮ้อออ….”

 

โรดส์ถอนหายใจ เขามองไปที่แหวนที่อยู่บนนิ้ว ความแวววาวบนหินเริ่มมัวหมอง ลงมาก หากสังเกตอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่ามีความมืดที่มีชีวิตกำลังหมุนวนอยู่ภายในอย่างต่อเนื่อง

 

ผูกวิญญาณสำเร็จ

 

แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ แต่เขายังสามารถทำตามเป้าหมายเดิมได้ อย่างไรก็ตาม….

 

แค่คิดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาโกรธ เขามั่นใจว่าเขาทำภารกิจที่เลือกได้สำเร็จอย่างแน่นอน เหตุผลที่สุสานพาเวลเป็นภารกิจระดับ 4 ดาวไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของบอส แต่เป็นเพราะพลังงงานด้านลบที่เหล่าอันเดดปลดปล่อยออกมานั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อสิ่งมีชีวิตอย่างชัดเจน ก่อนการบุกรุก ภายใต้การปกครองที่สงบสุขของมังกรแห่งแสงไม่มีการระบุว่ามนุษย์ได้ต่อสู้กับเหล่าอันเดด นั่นเพราะประสบการณ์การต่อสู้กับนั้นไร้ค่า NPC นั้นไม่เหมือนผู้เล่นที่สามารถฟื้นคืนชีพได้หากพวกเขาตาย นี่เป็นสาเหตุที่สมาคมทหารรับจ้างต้องพิจารณาว่าภารกิจเกี่ยวกับอันเดดนั้นจะอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับภารกิจอื่น

 

แต่ในความคิดของโรดส์ เนื่องจากเขามีนักบวชในปาร์ตี้ เขารู้ดีว่าพลังงานบวกของเธอสามารถต่อต้านกับพลังงานลบของอันเดดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้น มาร์ลีน ในฐานะ ‘ผู้มีพรสวรรค์’ ที่เพิ่มเข้ามาในทีม โอกาสที่จะได้รับชัยชนะมีมากถึง 90% ถ้าเธอเชื่อฟังคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด การพัฒนาในแง่บวกในอุโมงค์ที่ได้รับการส่งเสริมจากความคิดของโรดส์ว่าการจัดการอันเดดในระยะประชิดนั้นง่าย แต่พวกมันจะล้มลงเป็นกลุ่มถ้าเผชิญหน้ากับเวทมนตร์ ดังนั้นข้อได้เปรียบเหล่านี้ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่พวกเขาจะได้รับชัยชนะ แต่เขาไม่คิดว่า…..

 

โรดส์ส่ายศีรษะและเก็บหินผูกวิญญาณ ก่อนจะเดินกลับไป

 

เขาเดินไปหากลุ่มคนเมื่อรู้ว่าสถานการณ์กำลังวุ่นวาย

 

ไลซ์กำลังรักษาบาดแผลสาหัสของชอว์น่าที่กำลังนอนอยู่บนพื้น ในขณะที่ตัวปัญหาที่ทำให้เกิดความวุ่นวายทั้งหมดมองดูอยู่ด้านข้าง วอร์คเกอร์เก็บกวาดสนามรบเสร็จ และมาร์ลีนยืนอยู่ด้านข้างเขาด้วยใบหน้าเย็นชา แม้ว่าทหารรับจ้างเรดฮอว์คจะไม่ได้ดูดีไปกว่ากันมากนัก ขณะที่พวกเขากำลังล้อมชอว์น่าและกังวลเกี่ยวกับบาดแผลของเธอ

 

“ข้าขอโทษ หัวหน้า….ข้าขอโทษ หัวหน้า!!! ข้าไม่ได้พยายาม…”

 

บาร์นนี่คุกเขาสลงข้างชอว์น่าด้วยใบหน้าซีดๆ เขาสัมผัสได้ว่าคนอื่นๆมองเขาด้วยความโกรธ สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน มันทำให้เขาหวาดกลัวและสำนึกผิดอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่โรดส์เป็นหัวหน้าทีมและเพื่อนๆของเขาถูกดึงเข้าไปต่อสู้อย่างขมขื่น ในขณะที่โรดส์ยืนซ่อนอยู่ด้านหลัง ดังนั้นเขาจึงพยายามช่วย ทำไมคนเหล่านี้ต้องโกรธเขาด้วย? พวกเขาไม่ได้คิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากนี้รึ?

 

เมื่อบาร์นนี่มีความหวัง เขาพบว่ามีเสียงเท้าเดินเข้ามาด้านหลังเขาและเป็นเสียงเท้าของ ‘ผู้ร้าย’ ที่กำลังเดินตรงเข้ามา

 

บาร์นนี่รู้สึกว่าเลือดในร่างกายเดือดอย่างมาก หัวหน้ากลุ่มของเขาได้รับบาดเจ็บเพราะทำเพื่อกลุ่ม แต่ดูเหมือนว่าโรดส์จะไม่สนใจ

 

พวกขุนนางเป็นพวกเลือดเย็นจริงๆ!

 

ด้วยความโกรธของเขา บาร์นนี่กระโดดและชี้นิ้วไปที่โรดส์และตะโกนสาปแช่งเขา

 

“มันเป็นเพราะเจ้า!!! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า—-”

 

ก่อนที่บาร์นนี่จะพูดจบ หมัดลอยเข้ามาที่หน้าของเขา

 

“ปัง!!!”

 

โรดส์ชกไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างไร้ความปราณี บาร์นนี่กรีดร้องออกมา ขณะที่เขากลิ้งไปบนพื้น จากนั้นเขาจ้องมองมายังชายที่ยืนตรงหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่สนใจเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกของเขา

 

“ทำไมแกไม่ทำตามคำสั่ง?”

 

โรดส์พูดเสียงต่ำ แต่ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก แม้แต่ไลซ์ทีร่กำลังพันแผลให้กับชอว์น่า

 

เพราะว่าโรดส์หัวเราะออกมา!

 

ทุกคนคุ้นเคยกับโรดส์ที่มีใบหน้าสวยงาม แต่เขาเป็นคนจริงจังตลอดเวลาและไม่เคยยิ้มออกมา ทุกคนจึงคิดว่ามันน่าเสียดาย แม้แต่ตาแก่วอร์คเกอร์ยังหยอกล้อออกมา ถ้าเขายิ้มมากกว่านี้ บางทีอาจทำให้สาวๆทั้งเมืองหลงเสน่ห์ได้

 

แต่ตอนนี้โรดส์หัวเราะออกมาจริงๆ และมันเป็นเสียงหัวเราะที่น่าหลงใหล อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้สึกเย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง

 

“ตอบมา”

 

โรดส์ขยับแขนและยิ้ม ก่อนที่จะเดินไปหาบาร์นนี่ ต่อมาเขายกเท้าซ้ายขึ้นและกระทืบลงที่หน้าอกของบาร์นนี่ บังคับให้เขาก้มลงกับพื้น

 

“เฮือก!!!”

 

“ผมจำได้ว่า ก่อนเริ่มการต่อสู้ ผมบอกชัดเจนนะว่าให้แกรับผิดชอบพื้นที่รอบๆเนโครแมนเซอร์ หากไม่มีคำสั่งของผม ไม่ว่าใครก็ไม่อนุญาตให้โจมตี…แกโง่เหรอ? หรือว่าแกมีปัญหากับการได้ยินเสียง?”

 

“…บัดซบ”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการเหยียดหยามและรอยยิ้มของโรดส์ บาร์นนี่รู้สึกหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณราวกับว่าเขากำลังถูกรัดโดยงูเหลือม แต่เขายังไม่ยอมแพ้และถ่มน้ำลายใส่เท้าของโรดส์แทน

 

“คิดเหรอว่าข้าไม่รู้ เจ้าซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเนโครแมนเซอร์ เจ้าต้องการให้พวกเราเป็นโล่มนุษย์? ข้าจะไปฟังคำสั่งของเจ้าได้ยังไง? หรือเจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่ได้ซ่อนอย่างนั้นรึ? ทุกๆคนเห็นการกระทำอันขี้ขลาดของเจ้าหมดแหละ ใช่ไหม เฮนรี่?!”

 

เฮนรี่เป็นนักดาบที่ต่อสู้เคียงข้างชอว์น่า ตอนแรกบาร์นนี่คิดว่าเฮนรี่จะสนับสนุนเขา แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด เขาเงยหน้าขึ้นและหลบสายตาของบาร์นนี่

 

ความจริงแล้ว เฮนรี่ค่อนข้างไม่พอใจเพราะบาร์นนี่ทำลายแผนอันไร้ที่ติของพวกเขา แม้ว่าเขาจะดูน่าสมเพช แต่ตราบใดที่ทำตามแผนของโรดส์อย่างถูกต้อง พวกเขาจะสามารถหลบการโจมตีของเนโครแมนเซอร์ได้ คำแนะนำท่ามกลางสนามรบมีความสำคัญอย่างมาสำหรับเหล่าทหารรับจ้าง แต่สุดท้ายแล้วกลับเละเทะเพราะเด็กเพียงคนเดียว!

 

มันคล้ายกับว่ามีคนสองคนพยายามเต้นแทงโก้ด้วยกัน พวกเขาฝึกมาหลายพันชั่วโมงเพื่อเข้าใจจังหวะซึ่งกันและกัน แต่กลับมีไอ้ขี้เมาคนหนึ่งเข้ามาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

 

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครมีความสุข ถ้าเกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้น

 

แต่เพราะบาร์นนี่เป็นเพื่อนของเขา เขาจึงไม่ได้พูดอะไร แม้แต่ตอนนี้ เขายังไม่หยุดเถียงโรดส์เพื่อระบายความโกรธ

 

“เฮน-เฮนรี่….”

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเพื่อร่วมทีม บาร์นนี่กัดฟัน ในความคิดของเขา เขาไม่คิดว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะไม่พอใจเขา ตรงกันข้ามเขาคิดว่าเพื่อนของเขาต้องกลัวขุนนางคนนี้!

 

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรออกมา….

 

แต่ไม่ใช่กับข้า! ข้าจะไม่ยอมก้มหัวและไม่ยอมแพ้!

 

“ฮืมม จะพูดอะไรก็พูดไป แต่ข้าไม่ยอม….อ้ากกกกก!!”

 

บาร์นนี่ยังไม่ทันพูดจบ คมดาบแทงทะลุฝ่ามือของเขา ความเจ็บปวดกลืนกินคำพูดของเขาทั้งหมดและแทนที่ด้วยเสียงร้อง จากนั้นโรดส์ดึงดาบออกและเตะไปที่เด็กหนุ่ม เขากระเด็นไปไกล ก่อนจะหมดสติลง

 

เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของบาร์นนี่ มาร์ลีนอดไม่ได้ที่จะสั่งกลัว เธอจำสิ่งที่โรดส์พูดกับเธอเมื่อตอนที่เธอเข้ามาครั้งแรกได้ ในเวลานั้น เธอไม่เห็นโรดส์อยู่ในสายตา แต่โชคดีหลังจากได้ต่อสู้กัน เธอไม่สงสัยในตัวโรดส์อีกเลย ถ้าเธอยังมีทัศนคติที่เย่อหยิ่งเหมือนเธอคนเดิม คนที่นอนอยู่บนพื้นในตอนนี้อาจจะเป็นเธอ

 

เมื่อนึกถึงการต่อสู้ มาร์ลีนมั่นใจว่าโรดส์ไม่แสดงความเมตตาใดๆออกมา

 

หลังจากที่เตะบาร์นนี่ออกไป โรดส์กอดอกและลบรอยยิ้มออกไปจากใบหน้า เขาเมินเฉยต่อทุกสิ่งและใบหน้าหวาดกลัวจากผู้คนรอบข้าง

 

“เก็บกวาดสนามรบ”

 

คราวนี้ โรดส์ได้รับทรัยากรมหาศาล เนื่องจากเนโครแมนเซอร์อาศัยอยู่ในสุสานพาเวลมาเป็นเวลาหลายปี เป็นธรรมดาที่เขาจะซ่อนสมบัติเอาไว้ หลังจากที่ค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง คริสตัลเวทมนตร์ถุงใหญ่ อัญมณีและพืชถูกวางไว้ตรงหน้าเขา แน่นอน โรดส์เองก็นำสิ่งที่เขาเก็บได้มาไว้ที่นี่ด้วย เขาก้มตัวลงและค้นหาสิ่งของเหล่านั้น ก่อนจะพบกล่องไม้ที่มีออร่าความศักดิ์สิทธิ์ เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจและหันหน้าไปทางไลซ์

 

“คุณโรดส์ มีอะไรเหรอคะ?”

 

เมื่อเห็นท่าทางของโรดส์ ไลซ์รีบเดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ ท่าทางของเธอสับสนเล็กน้อย เพราะเธออยากเข้าไปรักษาแผลของบาร์นนี่ แต่โรดส์บอกว่า ‘ปล่อยเขาไว้’ ดังนั้นเธอจึงทิ้งเขาไปอย่างช้าๆ เอาจริงๆไลซ์ค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่บาร์นนี่ได้รับ แต่ในฐานะนักบวช เธอไม่อาจมองข้ามชีวิตอื่นๆเพราะความชอบส่วนตัวได้

 

“นี่สำหรับคุณ”

 

“นี่คือ….”

 

ไลซ์ได้รับหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่โรดส์ส่งมาให้และพลิกอ่านด้วยความสงสัย จากนั้นสีหน้าของเธอสดใสทันที เธอรู้แล้วว่าหนังสือเล่มนี้มีค่ามาก

 

“นี่คือหนังสือศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมคะ?”

 

“ใช่แล้ว”

 

โรดส์ตบไหล่ของเด็กสาว

 

“ด้วยพลังของคุณตอยนนี้ ผมเชื่อว่าการเรียนรู้เวทย์พวกนี้ไม่ใช่ปัญหา โชคดีนะ”

 

“แน่นอนค่ะ! ฉันจะพยายามค่ะ! ขอบคุณค่ะ คุณโรดส์!”

 

ไลซ์เผยรอยยิ้มกว้างและกอดหนังสือศักดิ์สิทธิ์แน่น แน่นอนเธอรู้ว่ามันมีค่ามหาศาล ในวิหาร มีเพียงไม่กี่คนที่มีคุณสมบัติเพียงพอได้เรียนรู้เวทย์ระดับสูง โดยทั่วไปแล้วนักบวชจะได้รับอนุญาตให้เรียนรู้เวทย์ระดับพื้นฐานเท่านั้น จากจุดนี้ เมื่อเธอได้รับหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่เวทย์ระดับสูงบันทึกอยู่  ไลซ์มั่นใจว่าถ้าเธอเรียนรู้เวทย์เพียงครึ่งเดียว ความแข็งแกร่งของเธอจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

 

ในเวลาเดียวกัน มาร์ลีนเดินเข้าไปหาทั้งคู่ แต่เมื่อเทียบกับไลซ์ ที่กำลังมีความสุขอยู่กับหนังสือศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าของเธอค่อยข้างตกใจ นั่นเพราะตอนนี้โรดส์ได้บอกให้เธอไปจัดการศพของเนโครแมนเซอร์ นี่เป็นการทดสอบทที่ท้าทายอย่างมากสำหรับมาร์ลีน เธอไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน แม้ว่ามาร์ลีนจะเปล่งเสียงประท้วงออกมา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับโรดส์ ‘เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกในกลุ่มทหารรับจ้างของผม คุณต้องทำตามคำสั่ง’ คำพูดเหล่านี้ทำให้จอมเวทย์สาวยอมแพ้และทำตามคำสั่งขณะที่เธอกลั้นหายใจ

 

“ฉันทำตามภารกิจเสร็จแล้วค่ะ คุณโรดส์”

 

“โอ้?”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของมาร์ลีน โรดส์มองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ

 

“คุณเจอของอะไรรึเปล่า?”

 

“ทุกอย่างอยู่ที่นี่หมดแล้ว”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของโรดส์ มาร์ลีนตอบกลับด้วยน้ำเสียงหุ่นยนต์ จากนั้นเธอยื่นมือออกมาเผยให้เห็นแหวนที่เธอพบ

 

แต่เธอไม่คิดว่าโรดส์จะไม่เอามันไป กลับกัน เขาจ้องมองมันเงียบๆและไม่พูดอะไร

 

“คุณโรดส์?”

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของโรดส์ มาร์ลีนเรียกเขาอีกครั้ง ในที่สุดโรดส์ก็ตอบและพยักหน้าในที่สุด

 

“อ่า ผมรู้…คุณทำงานหนัก”

 

โรดส์พูดและมองไปที่เธอ

 

เป็นโชคดีของเธอนะคุณหนู….เธอค้นหาแหวนวิญญาณมืดในตำนานเจอ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด