The Rise of The White Lotus 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า?

Now you are reading The Rise of The White Lotus Chapter 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า?

 

“ท่านประธาน…” ผู้ช่วยของมอริสหลิวชะงักขณะวางกล่องชุดปฐมพยาบาลและขี้ผึ้งยาสําหรับทําแผลบนริมฝีปากของเจ้านาย

 

“.. พวกเราต้องทําแผลของท่านนะครับ” เขากลับมาดําเนินการต่ออย่างเข้มงวดในขณะที่เขายืดตัวขึ้น

 

” พอล นี่เป็นแค่แผลนิดเดียว ไม่ต้องทําให้มันเป็นเรื่องใหญ่” มอริสหลิวโบกมือก่อนที่จะหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาและจุดไฟ

 

กลิ่นหอมของไม้จะค่อยๆลอยมาที่จมูกของพอลหยวน จากนั้นก็คละคลุ้งไปทั่วทั้งสี่มุมของห้องทํางานมอริสหลิว

 

พอลจ้องมองไปยังที่เขี่ยบุหรี่ที่เต็มไปด้วยกันบุหรี่ เขาจึงเดินไปที่ขาตั้งด้านข้าง พอลคว้าที่เขี่ยบุหรี่ที่ว่างเปล่าและใหม่เอี่ยมกลับไปที่หน้าโต๊ะทํางานของเจ้านายอีกครั้ง ขณะที่เขาวางที่เขี่ยบุหรี่อันใหม่ลงอย่างระมัดระวัง

 

จากนั้นเขาก็ก้มหน้าแล้วหยิบที่เขี่ยบุหรี่อีกอันที่เต็มไปด้วยกันบุหรี่ ก่อนออกจากห้องทํางานไปอย่างไร้คำพูด

 

เขาทํางานให้กับมอริสตั้งแต่ที่เขาเข้ามายึดครองอาณาจักรหลิว เขาได้เห็นว่าเจ้านายของเขานั้นมีนิสัยเสีย อย่างไรเมื่อเขาถูกกดดัน ตอนแรกก็เป็นแค่ครั้งคราว อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปมอริสจะสูบบุหรี่วันละครั้ง หรือสองครั้งเท่านั้น

 

จนกระทั้งหลายเดือนก่อน…นิสัยเสียของมอริสหลิวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและเขากลายเป็นคนสูบบุหรี่จัด แน่นอนพอลหยวนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรของเจ้านาย เพราะเขาเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ รวมถึงสาเหตุที่ทําให้เจ้านายของเขานอนไม่หลับในคืนนี้และทําไมเขาถึงสามารถสูบบุหรี่ได้หมดซองภายในหนึ่งหรือสองวัน

 

แต่เขาจะทําอะไรได้ล่ะ? มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทําให้เจ้านายของเขาสงบลงได้ ดังนั้นความช่วยเหลือเดียวที่เขาทําได้คือเปลี่ยนที่เขี่ยบุหรี่ของเขาอย่างเงียบ ๆ และโยนทิ้งอันที่ใช้แล้วราวกับว่าพวกเขาใช้แล้วทิ้ง

 

เมื่อผู้ช่วยของเขาพอลหยวนจากไป มอริสหลิวก็หมุนเก้าอี้ไปทางแสงไฟของเมืองที่สวยงาม แต่เขานั้นไม่ได้ชื่นชมทิวทัศน์และเอียงศีรษะไปข้างหลังและพึงมันลงบนเก้าอี้แทน

 

ด้วยการหายใจเข้าออกลากยาวช้าๆ มอริสหลับตาลง ขณะที่เขาหลับตาลงสีหน้าหงุดหงิดของอีธานลู่จากช่วงก่อนหน้านี้ฉายชัดในใจของเขา

 

“นายคิดว่านายเป็นใคร?!” เสียงตะโกนเกรี้ยวโกรธของเพื่อนของเขาดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่ามันจะดังขึ้นทุกครั้งที่นึกถึง

 

“หมอนั่น…เขายังคงไร้เดียงสาเหมือนเดิม” มอริสหลิวบ่นพึมพําก่อนจะถอนหายใจไปอีก

 

ในตอนนั้นเอง เขารู้สึกว่าโทรศัพท์ของเขาสั่นจากด้านในกระเป๋าเสื้อ โดยปกติเขาจะไม่สนใจว่าเป็นใคร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาทํา..ซึ่งเขาก็เสียใจก็ในภายหลัง

 

บนหน้าจอเป็นข้อความของเอเลียตกง พร้อมคลิปที่แนบมาคือสิ่งที่ต้อนรับเขา ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขาที่จะแยกแยะว่าใครคือบุคคลในวิดีโอเพราะเขารู้จักเธอมานานเท่าที่เขาจะจําได้

 

นิ้วโป้งลังเลที่จะเปิดคลิป แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าตัวเองกําาลังดูวิดีโออยู่

 

ในนั้นเป็นเล็กซี่กําลังร้องเพลงที่เขาไม่คุ้นเคยกับเธอ ราวกับว่ามันเป็นเพลงของเธอที่เป็นเจ้าของเขา หลงใหลในการร้องเพลงของเธอโดยไม่รู้ตัวและทุกๆคำที่เธอพูดออกมา

 

มีเพียงเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นที่ดังไปรอบห้องทํางานขนาดใหญ่ขณะที่มอริสหลิวยังคงเงียบอยู่ เมื่อวิดีโอจบลงเขาส่งอังเปาสีแดงพร้อมเงินจํานวนหนึ่งให้กับผู้ส่งก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทํางานช้าๆ

 

มอริสใช้เวลาลากยาวอีกครั้งเอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารแล้วเอียงศีรษะไปข้างหลัง เขาจ้องมองไปที่เพดานค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง

 

เขาไม่รู้ว่าเขาหลับไปได้อย่างไรและเมื่อไหร่ เพราะเขามีปัญหายากลําบากในการนอนหลับ ส่วนใหญ่เขาก็แทบไม่ได้นอน

 

ในการนอนหลับของเขา มอริสถูกพากลับไปยังช่วงเวลาที่เขาได้พบกับเล็กซี่ หลังจากผ่านไปหลายปี เป็นตอนที่เธอกลับมาถึงประเทศ

 

มันเป็นช่วงบ่ายที่เหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษในขณะที่เขาทํางานอย่างไม่มีหยุดพัก ทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลาหลายเดือน วันนั้นเป็นครั้งเดียวที่เขาได้หยุดพักในที่สุด แต่ตามปกติสถานที่ที่เขาพักผ่อนคือที่ทํางานของเขา

 

เมื่อเขามาถึง ที่พัก ของเขา มอริสหลิวไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ห้องส่วนตัวภายในสํานักงาน แต่นั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่ใจกลางสํานักงานกว้างขวาง

 

ในที่สุดเขาก็คลายเนคไทด์ออก เมื่อเขาเอนศีรษะไปข้างหลังมอริสหลิวก็ข่มตาที่เครียดด้วยการปิดมันลง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกได้ถึงมือที่นุ่มนวลและอ่อนโยนปิดตาของเขาที่ปิดอยู่แล้ว

 

คนที่มานั้นเก็บงําความเงียบของเธออย่างซุกซน คาดหวังให้เขาเดาว่าเธอเป็นใคร แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วออร่าของเขาก็ค่อยๆเย็นลง

 

“เอาออกไป ” คําพูดแรกที่เขาพูดเพียงพอที่จะทําให้ใครบางคนตกใจ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่นคงเช่นเธอ เธอไม่สะทกสะท้านและยังคงปิดตาของเขาซึ่งท่าให้เขายิ่งขมวดคิ้ว

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กล้าเข้ามาในห้องทํางานของเขาและทุกครั้งเขาจะไล่เธอออกไป และผู้หญิงคนนั้นก็จะปฏิบัติตามโดยไม่มีการเตือนครั้งที่สอง

 

แต่ตอนนี้คนที่ปิดตาเขาไม่มีวี่แววว่าจะปฏิบัติตาม เขาไม่ต้องการสัมผัสมือของเธอดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปัดมันออกด้วยตัวเอง ในขณะที่ริมฝีปากของเขาแยกออกจากกันอีกครั้ง คําพูดของมอริสก็ติดอยู่ที่ลําคอของเขา เพราะน้ําหอมที่คุ้นเคยดกรุ่นไปทั่วจมูกของเขา

 

มันเป็นกลิ่นที่เขาไม่มีวันลืมเพราะมีเพียงไม่กี่กลิ่นเท่านั้นที่ผลิตขึ้นและเขาซื้อทุกชิ้น สุดท้ายเพราะเธอเป็นคนบอกเขาว่าเธอชอบมันมาก

 

เขาค่อยๆยกมือขึ้นและรู้สึกถึงความอบอุ่นของมือที่ปิดตาของเขา เพียงสัมผัสเดียวเขารู้สึกถึงความคุ้นเคย

 

“เล็กซี่ …” มอริสหลิวยังคงสัมผัสมือของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะขยับมันอย่างไม่เร่งรีบ

 

ทันทีที่เขาลืมตา สีหน้ามุ่ยแสนสวยงามของเธอคือสิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรก เล็กซี่เอนศีรษะของเธอลงเล็กน้อยขณะที่เธอสบตาเขา ” นั้นเป็นวิธีที่คุณทําต่อคู่หมั้นของคุณเหรอ? “

 

มอริสกระพริบตาช้าๆขณะที่เขาจับจ้องไปที่เธอ ผู้ช่วยของเขาไม่ได้แจ้งให้เขาทราบว่าเล็กซี่กําลังจะกลับมา แต่นั่นไม่สําคัญเท่าว่าทําไมเธอถึงกลับมาเร็วเช่นนี้? เธอควรจะอยู่ต่างประเทศอีกหกเดือนไม่ใช่เหรอ?

 

เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เล็กซีก็ค่อยๆย่อตัวลงก่อนที่เธอจะยึดหลังให้ตรง

 

สายตาของเขาเลื่อนร่างของเธอขณะที่เธอเดินไปรอบ ๆ และนั่งลงข้างๆเขา เธอกําลังมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ก็ยังมีท่าทางขมวดคิ้วปลอม ๆ

 

“ฉันกลับมาแล้ว และคู่หมั้นของฉันกําลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลก ๆ … แค่พูดว่าคุณคิดถึงฉันก็จบ” เธอสะกิดไหล่ของเขาเบา ๆ

 

“เธอกลับมาแล้ว แต่ … ทําไมล่ะ? เธอยังไม่ควรกลับมาไม่ใช่เหรอ? ทําไมล่ะ?” จิตใจของมอริสหลิวหมกมุ่นอยู่กับคําถามนี้ แต่บนใบหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเขา

 

“พูดสิ พูดเลยว่าคิดถึงน่ะ” เล็กซี่ยังคงสะกิดไหล่ของเขาอย่างอ่อนโยน พยายามคาดคั้นค่าที่เธออยากได้ยิน แต่ก็ดูไม่มีประโยชน์ มอริสหลิวก็พูดอย่างอื่นที่ทําให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย

 

“ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

 

“หืม? คู่หมั้นของฉันใจร้ายที่สุด! ไม่โทรกลับแล้วก็ไม่ค่อยตอบกลับฉันด้วย แล้วข้อความสั้นๆนั่นหมายความว่ายังไง! เพื่อแก้แค้นฉันเลยไม่มาเจอคุณเมื่อวาน” โดยไม่สนใจคําตอบที่ไม่พึงประสงค์ เล็กซี่ขมวดคิ้วขณะที่เธอบ่นและอวดอ้างว่า แก้แค้น

 

วินาทีต่อมาเขาก็จับไหล่ทั้งสองข้างของเธออย่างดุดัน และผ่านฟันที่กัดแน่นของเขา ” ทําไมคุณถึงมาที่นี่!? “

 

เห็นได้ชัดว่าการโจมตีอย่างกะทันหันของเขาทําให้เล็กซี่ตัวสั้น โดยที่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นเช่นนี้ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ แม้ว่าเขาจะโกรธอะไรบางอย่างก็ตาม เขาไม่เคยระบายความโกรธให้เธอฟังในอดีตเลย

 

“พี่มอริส…พี่กําลังทําร้ายฉัน” เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดขณะที่เขาจับไหล่ของเธอแน่น ทําให้มอริสกลับมาสู่ความเป็นจริงและปล่อยเธอไป

 

เล็กซี่นวดไหล่ของเธอที่เจ็บ แต่หัวใจของเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่าไหล่

 

ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันสักพัก แน่นอนว่าการโจมตีอย่างกะทันหันของเขาไม่เพียงแต่ท่าให้เล็กซี่ตกใจเท่านั้น แต่เขาก็เช่นกัน

 

“ฉันกําลังทําอะไรลงไป?

 

“คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า? ” เล็กซี่ถามขณะที่มองลงไปข้างล่าง เธอเปลี่ยนคําพูดของเธอก่อนหน้านี้เป็นคำถาม แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้รับคําตอบเช่นเดิม เธอกล่าวเสริมว่า

 

“แค่พูดว่าใช่หน่อยเถอะ…แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม”

 

“กลับไป…ออกไปจากประเทศนี้” มอริสหลิวมองไม่เห็นการแสดงออกของเธอขณะที่เธอกําลังมองลงมา แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธอในขณะที่เขาพูดค่าที่เขาก็รู้ว่ามันจะทําร้ายเธอ

 

ด้วยความประหลาดใจของเขา เมื่อเล็กซี่เงยหน้าขึ้นเธอก็ทําหน้ามุ่ยราวกับว่าเธอไม่ได้ยินเขา “ใจร้ายมาก คุณแค่โกหกและบอกว่าคิดถึงฉันถ้าอยากให้ฉันไปได้ไหม? ”

 

เขามองผ่านใบหน้าสวย ๆ ของเธอ และด้วยความที่รู้จักเธอดี เขารู้ว่าเธอจะยังคงยืนกรานและพูดซ้ํา ๆ เหมือนท่าลายสถิติ ดังนั้นเขาตอบโดยไม่ใช้อารมณ์ใด ๆ ” ฉันคิดถึง”

 

” นั้นแหละเรื่องสําคัญที่สุด เอาล่ะ ฉันจะไปซื้อของและสนุกกับวันว่าง นอกจากนี้อย่าลืมว่าคืนนี้คุณจะต้องไปออกเดทกับฉัน ฉันหาที่ไว้แล้วเพราะฉันรู้ว่าคุณยุ่งมาก ” เมื่อได้ยินคําโกหกของเขา เล็กซี่ก็ยิ้มอย่างสดใส และแจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับเดทของพวกเขา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งแล้วคว้ากระเป๋าเงินของเธอก่อนที่เธอจะออกจากห้องท่างานโดยไม่พูดอะไรหรือหันกลับมามองอีก

 

เมื่อเธอจากไป มอริสหลิวยังคงจ้องมองไปที่ทางเข้าห้องทํางานของเขาที่ปิดอยู่ “ฉันขอโทษ…” เขากระซิบขณะที่สีหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปและกํามือของเขาแน่นขึ้นในขณะที่เขาวางแขนไว้บนขาแต่ละข้าง

 

มอริสหลิวลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนระหว่างนิ้วของเขา เมื่อเห็นว่าบุหรี่ใกล้จะหมดแล้วเขาก็นํามันไปบดบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะจุดบุหรี่อันใหม่

 

“หึ … ฉันแม่งทําผิดครั้งใหญ่จริงๆ…” มอริสเยาะเย้ยตัวเอง เขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีค่าขอโทษใดที่จะชดเชยความเจ็บปวดที่เขาทํากับเธอได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Rise of The White Lotus 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า?

Now you are reading The Rise of The White Lotus Chapter 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 138 คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า?

 

“ท่านประธาน…” ผู้ช่วยของมอริสหลิวชะงักขณะวางกล่องชุดปฐมพยาบาลและขี้ผึ้งยาสําหรับทําแผลบนริมฝีปากของเจ้านาย

 

“.. พวกเราต้องทําแผลของท่านนะครับ” เขากลับมาดําเนินการต่ออย่างเข้มงวดในขณะที่เขายืดตัวขึ้น

 

” พอล นี่เป็นแค่แผลนิดเดียว ไม่ต้องทําให้มันเป็นเรื่องใหญ่” มอริสหลิวโบกมือก่อนที่จะหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาและจุดไฟ

 

กลิ่นหอมของไม้จะค่อยๆลอยมาที่จมูกของพอลหยวน จากนั้นก็คละคลุ้งไปทั่วทั้งสี่มุมของห้องทํางานมอริสหลิว

 

พอลจ้องมองไปยังที่เขี่ยบุหรี่ที่เต็มไปด้วยกันบุหรี่ เขาจึงเดินไปที่ขาตั้งด้านข้าง พอลคว้าที่เขี่ยบุหรี่ที่ว่างเปล่าและใหม่เอี่ยมกลับไปที่หน้าโต๊ะทํางานของเจ้านายอีกครั้ง ขณะที่เขาวางที่เขี่ยบุหรี่อันใหม่ลงอย่างระมัดระวัง

 

จากนั้นเขาก็ก้มหน้าแล้วหยิบที่เขี่ยบุหรี่อีกอันที่เต็มไปด้วยกันบุหรี่ ก่อนออกจากห้องทํางานไปอย่างไร้คำพูด

 

เขาทํางานให้กับมอริสตั้งแต่ที่เขาเข้ามายึดครองอาณาจักรหลิว เขาได้เห็นว่าเจ้านายของเขานั้นมีนิสัยเสีย อย่างไรเมื่อเขาถูกกดดัน ตอนแรกก็เป็นแค่ครั้งคราว อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปมอริสจะสูบบุหรี่วันละครั้ง หรือสองครั้งเท่านั้น

 

จนกระทั้งหลายเดือนก่อน…นิสัยเสียของมอริสหลิวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและเขากลายเป็นคนสูบบุหรี่จัด แน่นอนพอลหยวนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรของเจ้านาย เพราะเขาเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ รวมถึงสาเหตุที่ทําให้เจ้านายของเขานอนไม่หลับในคืนนี้และทําไมเขาถึงสามารถสูบบุหรี่ได้หมดซองภายในหนึ่งหรือสองวัน

 

แต่เขาจะทําอะไรได้ล่ะ? มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทําให้เจ้านายของเขาสงบลงได้ ดังนั้นความช่วยเหลือเดียวที่เขาทําได้คือเปลี่ยนที่เขี่ยบุหรี่ของเขาอย่างเงียบ ๆ และโยนทิ้งอันที่ใช้แล้วราวกับว่าพวกเขาใช้แล้วทิ้ง

 

เมื่อผู้ช่วยของเขาพอลหยวนจากไป มอริสหลิวก็หมุนเก้าอี้ไปทางแสงไฟของเมืองที่สวยงาม แต่เขานั้นไม่ได้ชื่นชมทิวทัศน์และเอียงศีรษะไปข้างหลังและพึงมันลงบนเก้าอี้แทน

 

ด้วยการหายใจเข้าออกลากยาวช้าๆ มอริสหลับตาลง ขณะที่เขาหลับตาลงสีหน้าหงุดหงิดของอีธานลู่จากช่วงก่อนหน้านี้ฉายชัดในใจของเขา

 

“นายคิดว่านายเป็นใคร?!” เสียงตะโกนเกรี้ยวโกรธของเพื่อนของเขาดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่ามันจะดังขึ้นทุกครั้งที่นึกถึง

 

“หมอนั่น…เขายังคงไร้เดียงสาเหมือนเดิม” มอริสหลิวบ่นพึมพําก่อนจะถอนหายใจไปอีก

 

ในตอนนั้นเอง เขารู้สึกว่าโทรศัพท์ของเขาสั่นจากด้านในกระเป๋าเสื้อ โดยปกติเขาจะไม่สนใจว่าเป็นใคร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาทํา..ซึ่งเขาก็เสียใจก็ในภายหลัง

 

บนหน้าจอเป็นข้อความของเอเลียตกง พร้อมคลิปที่แนบมาคือสิ่งที่ต้อนรับเขา ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขาที่จะแยกแยะว่าใครคือบุคคลในวิดีโอเพราะเขารู้จักเธอมานานเท่าที่เขาจะจําได้

 

นิ้วโป้งลังเลที่จะเปิดคลิป แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าตัวเองกําาลังดูวิดีโออยู่

 

ในนั้นเป็นเล็กซี่กําลังร้องเพลงที่เขาไม่คุ้นเคยกับเธอ ราวกับว่ามันเป็นเพลงของเธอที่เป็นเจ้าของเขา หลงใหลในการร้องเพลงของเธอโดยไม่รู้ตัวและทุกๆคำที่เธอพูดออกมา

 

มีเพียงเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นที่ดังไปรอบห้องทํางานขนาดใหญ่ขณะที่มอริสหลิวยังคงเงียบอยู่ เมื่อวิดีโอจบลงเขาส่งอังเปาสีแดงพร้อมเงินจํานวนหนึ่งให้กับผู้ส่งก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทํางานช้าๆ

 

มอริสใช้เวลาลากยาวอีกครั้งเอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารแล้วเอียงศีรษะไปข้างหลัง เขาจ้องมองไปที่เพดานค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง

 

เขาไม่รู้ว่าเขาหลับไปได้อย่างไรและเมื่อไหร่ เพราะเขามีปัญหายากลําบากในการนอนหลับ ส่วนใหญ่เขาก็แทบไม่ได้นอน

 

ในการนอนหลับของเขา มอริสถูกพากลับไปยังช่วงเวลาที่เขาได้พบกับเล็กซี่ หลังจากผ่านไปหลายปี เป็นตอนที่เธอกลับมาถึงประเทศ

 

มันเป็นช่วงบ่ายที่เหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษในขณะที่เขาทํางานอย่างไม่มีหยุดพัก ทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลาหลายเดือน วันนั้นเป็นครั้งเดียวที่เขาได้หยุดพักในที่สุด แต่ตามปกติสถานที่ที่เขาพักผ่อนคือที่ทํางานของเขา

 

เมื่อเขามาถึง ที่พัก ของเขา มอริสหลิวไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ห้องส่วนตัวภายในสํานักงาน แต่นั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่ใจกลางสํานักงานกว้างขวาง

 

ในที่สุดเขาก็คลายเนคไทด์ออก เมื่อเขาเอนศีรษะไปข้างหลังมอริสหลิวก็ข่มตาที่เครียดด้วยการปิดมันลง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกได้ถึงมือที่นุ่มนวลและอ่อนโยนปิดตาของเขาที่ปิดอยู่แล้ว

 

คนที่มานั้นเก็บงําความเงียบของเธออย่างซุกซน คาดหวังให้เขาเดาว่าเธอเป็นใคร แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วออร่าของเขาก็ค่อยๆเย็นลง

 

“เอาออกไป ” คําพูดแรกที่เขาพูดเพียงพอที่จะทําให้ใครบางคนตกใจ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่นคงเช่นเธอ เธอไม่สะทกสะท้านและยังคงปิดตาของเขาซึ่งท่าให้เขายิ่งขมวดคิ้ว

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กล้าเข้ามาในห้องทํางานของเขาและทุกครั้งเขาจะไล่เธอออกไป และผู้หญิงคนนั้นก็จะปฏิบัติตามโดยไม่มีการเตือนครั้งที่สอง

 

แต่ตอนนี้คนที่ปิดตาเขาไม่มีวี่แววว่าจะปฏิบัติตาม เขาไม่ต้องการสัมผัสมือของเธอดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปัดมันออกด้วยตัวเอง ในขณะที่ริมฝีปากของเขาแยกออกจากกันอีกครั้ง คําพูดของมอริสก็ติดอยู่ที่ลําคอของเขา เพราะน้ําหอมที่คุ้นเคยดกรุ่นไปทั่วจมูกของเขา

 

มันเป็นกลิ่นที่เขาไม่มีวันลืมเพราะมีเพียงไม่กี่กลิ่นเท่านั้นที่ผลิตขึ้นและเขาซื้อทุกชิ้น สุดท้ายเพราะเธอเป็นคนบอกเขาว่าเธอชอบมันมาก

 

เขาค่อยๆยกมือขึ้นและรู้สึกถึงความอบอุ่นของมือที่ปิดตาของเขา เพียงสัมผัสเดียวเขารู้สึกถึงความคุ้นเคย

 

“เล็กซี่ …” มอริสหลิวยังคงสัมผัสมือของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะขยับมันอย่างไม่เร่งรีบ

 

ทันทีที่เขาลืมตา สีหน้ามุ่ยแสนสวยงามของเธอคือสิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรก เล็กซี่เอนศีรษะของเธอลงเล็กน้อยขณะที่เธอสบตาเขา ” นั้นเป็นวิธีที่คุณทําต่อคู่หมั้นของคุณเหรอ? “

 

มอริสกระพริบตาช้าๆขณะที่เขาจับจ้องไปที่เธอ ผู้ช่วยของเขาไม่ได้แจ้งให้เขาทราบว่าเล็กซี่กําลังจะกลับมา แต่นั่นไม่สําคัญเท่าว่าทําไมเธอถึงกลับมาเร็วเช่นนี้? เธอควรจะอยู่ต่างประเทศอีกหกเดือนไม่ใช่เหรอ?

 

เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เล็กซีก็ค่อยๆย่อตัวลงก่อนที่เธอจะยึดหลังให้ตรง

 

สายตาของเขาเลื่อนร่างของเธอขณะที่เธอเดินไปรอบ ๆ และนั่งลงข้างๆเขา เธอกําลังมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ก็ยังมีท่าทางขมวดคิ้วปลอม ๆ

 

“ฉันกลับมาแล้ว และคู่หมั้นของฉันกําลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลก ๆ … แค่พูดว่าคุณคิดถึงฉันก็จบ” เธอสะกิดไหล่ของเขาเบา ๆ

 

“เธอกลับมาแล้ว แต่ … ทําไมล่ะ? เธอยังไม่ควรกลับมาไม่ใช่เหรอ? ทําไมล่ะ?” จิตใจของมอริสหลิวหมกมุ่นอยู่กับคําถามนี้ แต่บนใบหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเขา

 

“พูดสิ พูดเลยว่าคิดถึงน่ะ” เล็กซี่ยังคงสะกิดไหล่ของเขาอย่างอ่อนโยน พยายามคาดคั้นค่าที่เธออยากได้ยิน แต่ก็ดูไม่มีประโยชน์ มอริสหลิวก็พูดอย่างอื่นที่ทําให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย

 

“ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

 

“หืม? คู่หมั้นของฉันใจร้ายที่สุด! ไม่โทรกลับแล้วก็ไม่ค่อยตอบกลับฉันด้วย แล้วข้อความสั้นๆนั่นหมายความว่ายังไง! เพื่อแก้แค้นฉันเลยไม่มาเจอคุณเมื่อวาน” โดยไม่สนใจคําตอบที่ไม่พึงประสงค์ เล็กซี่ขมวดคิ้วขณะที่เธอบ่นและอวดอ้างว่า แก้แค้น

 

วินาทีต่อมาเขาก็จับไหล่ทั้งสองข้างของเธออย่างดุดัน และผ่านฟันที่กัดแน่นของเขา ” ทําไมคุณถึงมาที่นี่!? “

 

เห็นได้ชัดว่าการโจมตีอย่างกะทันหันของเขาทําให้เล็กซี่ตัวสั้น โดยที่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นเช่นนี้ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ แม้ว่าเขาจะโกรธอะไรบางอย่างก็ตาม เขาไม่เคยระบายความโกรธให้เธอฟังในอดีตเลย

 

“พี่มอริส…พี่กําลังทําร้ายฉัน” เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดขณะที่เขาจับไหล่ของเธอแน่น ทําให้มอริสกลับมาสู่ความเป็นจริงและปล่อยเธอไป

 

เล็กซี่นวดไหล่ของเธอที่เจ็บ แต่หัวใจของเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่าไหล่

 

ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันสักพัก แน่นอนว่าการโจมตีอย่างกะทันหันของเขาไม่เพียงแต่ท่าให้เล็กซี่ตกใจเท่านั้น แต่เขาก็เช่นกัน

 

“ฉันกําลังทําอะไรลงไป?

 

“คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า? ” เล็กซี่ถามขณะที่มองลงไปข้างล่าง เธอเปลี่ยนคําพูดของเธอก่อนหน้านี้เป็นคำถาม แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้รับคําตอบเช่นเดิม เธอกล่าวเสริมว่า

 

“แค่พูดว่าใช่หน่อยเถอะ…แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม”

 

“กลับไป…ออกไปจากประเทศนี้” มอริสหลิวมองไม่เห็นการแสดงออกของเธอขณะที่เธอกําลังมองลงมา แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธอในขณะที่เขาพูดค่าที่เขาก็รู้ว่ามันจะทําร้ายเธอ

 

ด้วยความประหลาดใจของเขา เมื่อเล็กซี่เงยหน้าขึ้นเธอก็ทําหน้ามุ่ยราวกับว่าเธอไม่ได้ยินเขา “ใจร้ายมาก คุณแค่โกหกและบอกว่าคิดถึงฉันถ้าอยากให้ฉันไปได้ไหม? ”

 

เขามองผ่านใบหน้าสวย ๆ ของเธอ และด้วยความที่รู้จักเธอดี เขารู้ว่าเธอจะยังคงยืนกรานและพูดซ้ํา ๆ เหมือนท่าลายสถิติ ดังนั้นเขาตอบโดยไม่ใช้อารมณ์ใด ๆ ” ฉันคิดถึง”

 

” นั้นแหละเรื่องสําคัญที่สุด เอาล่ะ ฉันจะไปซื้อของและสนุกกับวันว่าง นอกจากนี้อย่าลืมว่าคืนนี้คุณจะต้องไปออกเดทกับฉัน ฉันหาที่ไว้แล้วเพราะฉันรู้ว่าคุณยุ่งมาก ” เมื่อได้ยินคําโกหกของเขา เล็กซี่ก็ยิ้มอย่างสดใส และแจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับเดทของพวกเขา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งแล้วคว้ากระเป๋าเงินของเธอก่อนที่เธอจะออกจากห้องท่างานโดยไม่พูดอะไรหรือหันกลับมามองอีก

 

เมื่อเธอจากไป มอริสหลิวยังคงจ้องมองไปที่ทางเข้าห้องทํางานของเขาที่ปิดอยู่ “ฉันขอโทษ…” เขากระซิบขณะที่สีหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปและกํามือของเขาแน่นขึ้นในขณะที่เขาวางแขนไว้บนขาแต่ละข้าง

 

มอริสหลิวลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนระหว่างนิ้วของเขา เมื่อเห็นว่าบุหรี่ใกล้จะหมดแล้วเขาก็นํามันไปบดบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะจุดบุหรี่อันใหม่

 

“หึ … ฉันแม่งทําผิดครั้งใหญ่จริงๆ…” มอริสเยาะเย้ยตัวเอง เขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีค่าขอโทษใดที่จะชดเชยความเจ็บปวดที่เขาทํากับเธอได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+