ซ่างเย่ 11 หึ ผู้หญิง!

Now you are reading ซ่างเย่ Chapter 11 หึ ผู้หญิง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"ดูเหมือนว่า……จะเป็นคนจากตระกูลฟู่พ่ะย่ะค่ะ!" เฉิงหนานตอบ

ซ่งเยี่ยนหรี่ตาลง "ตระกูลฟู่แห่งเมืองเหิงโจวงั้นหรือ?"

"พ่ะย่ะค่ะ!" เฉิงหนานพยักหน้า "องค์ชายเล็กพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องและพระชายาทรงทักท้วงให้องค์ชายเสด็จกลับไป นี่ก็ใกล้ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว เป็นเวลาสองปีแล้วที่องค์ชาย……"

"หากเจ้ายังเอ่ยเรื่องไร้สาระอยู่ ก็จงอย่าได้ตามข้ามา!" ซ่งเยี่ยนกล่าวอย่างเย็นชาแล้วรีบควบม้าจากไปทันที

เฉิงหนานถอนหายใจเบาๆ นิสัยขององค์ชายน้อยช่างเจ้าอารมณ์เสียจริง……

รถม้าสั่นคลอนเล็กน้อย มันมิราบรื่นเหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับว่ากำลังเร่งรีบ

จิ้นเยว่จิตใจมิสงบ นางหันไปมองฟู่จิ่วชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ

บังเอิญกับที่ฟู่จิ่วชิงเอียงศีรษะเล็กน้อยและเหลือบมองนางอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาช่างลึกล้ำเยือกเย็น

ทันทีที่สายตาของทั้งคู่สบประสานกัน จิ้นเยว่ก็เอนกายไปพิงหน้าต่างกล่าววขึ้นว่า "ข้า ข้าก็มิรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว โจรผู้นั้นก็……"

"จวินซานเป็นคนฆ่า" เสียงของฟู่จิ่วชิงแหบแห้งเล็กน้อย ราวกับเป็นการเอ่ยเตือน

จิ้นเยว่ยังคงต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ถูกแววตาอันเย็นยะเยือกของเขาทำให้ตกใจและหุบปากของนางลง

"จำมิได้งั้นหรือ?" สีหน้าของเขาสงบลงลง มองดูเห็นว่าหลังของนางเกือบจะชิดกับผนังรถม้าอยู่แล้ว จู่ๆดวงตาของเขาก็แข็งทื่อขึ้นมา "มานี่สิ!"

จิ้นเยว่เม้มริมฝีปากของนางและขยับไปด้านข้างของเขา

เมื่อเห็นดวงตาของเขาจริงจังขึ้น จิ้นเยว่จึงทำได้เพียงขยับเข้าไปใกล้เขามากกว่าเดิม ชายผู้นี้เป็นคนขี้โรคแท้ๆ ใบหน้าของเขาช่างซีดเซียว แต่เหตุใดจึงมีพลังดึงดูดมากมาย อีกทั้งสายตาของเขานั้นมักดูมืดมนเสมอ ราวกับว่าจะกลืนกินนางไปได้ทั้งตัว

"ข้าจะกินเจ้างั้นหรือ? เหตุใดจึงนั่งห่างเช่นนั้น?" เขาจ้องเข้าไปในดวงตาของนาง น้ำเสียงยังคงดูเย็นชา

"ด้านในรถนี้ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน ข้าพิงหน้าต่างรับลมเย็นสักหน่อย" น้ำเสียงของนางสั่นคลอนอันเนื่องมาจากความรู้สึกผิดในใจ

เขาส่งเสียงหึๆออกมาเบาๆเสียจนแทบฟังมิได้ยิน

แต่นางก็ยังได้ยินมัน และคิดจะขยับไปด้านหลัง

ทว่าจู่ๆฟู่จิ่วชิงก็เข้ามาคว้าเอวนางไว้ "ร่างกายของข้าเย็น หากเจ้าอยู่ใกล้ข้า ก็จะมิร้อนอีกต่อไป!"

จิ้นเยว่หัวเราะออกมาแห้งๆ นางพยายามปกปิดความรู้สึกใจสั่นของตนเอาไว้ นางรู้สึกเสียวสันหลังเย็นวาบ

"มือข้างไหน?" เขาเอ่ยถามขึ้น

จิ้นเยว่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น

เมื่อมองดูเขาในระยะใกล้ๆเช่นนี้ เห็นเพียงขนตาหนาดกดำปิดบังลงมาเป็นเงาปกปิดความดุร้ายในดวงตาของเขาได้พอดิบพอดี

หากมิมองดวงตาเขา จิ้นเยว่คิดว่าผู้นี้ดูมิน่ากลัวเท่าไหร่นัก

แต่วินาทีต่อมา……

"ข้าเจ็บ!" จิ้นเยว่อุทาน

จู่ๆก็มีเลือดพุ่งออกมาจากแขนของนาง มันหยดลงบนกระโปรงผ้าทันที มองไปเสมือนดอกบ๊วยสีแดงสด

ที่แขนของนางปรากฏรอยฟัน และเลือดสีแดงเข้ม

เขากัดข้างั้นหรือ? !

จิ้นเยว่น้ำตาคลอเบ้า นางรีบเอามือปิดบาดแผลไว้อย่างรวดเร็ว "เจ้ากัดข้าทำไม?"

"จงจำความเจ็บปวดและบาดแผลนี้เอาไว้ ต่อไปจักได้รู้จักควบคุมตนเอง!" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

ใบหน้าซีดขาวไร้ที่ติราวกับหิมะ มีสีแดงจากเลือดเพียงเล็กน้อยตรงริมฝีปากของเขา กลับทำให้เกิดความรู้สึกถึงความลุ่มหลง ช่างดูน่าเกรงขาม แม้จะยังคงเป็นดวงตาที่เย็นเยียบคู่นั้น ก็ดูเหมือนจะอบอุ่นขึ้นมาจากเลือดมิน้อย

จิ้นเยว่ขมวดคิ้วแน่น นางกำบาดแผลเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด บาดแผลที่ถูกกัดนั้นทิ้งรอยแผลเป็นได้ง่าย เขาต้องจงใจทำเช่นนี้แน่!

"โมโหงั้นรึ?" ฟู่จิ่วชิงแลบลิ้นเลียริมฝีปากของเขา เขากลืนเอาเลือดของนางลงไปจนสิ้น

จิ้นเยว่ตกอกตกใจ เขาดื่มเลือดงั้นหรือ?!

แท้จริงแล้วนางเคยได้ยินว่ามีบันทึกของหมอ คนบางคนเกิดมาพร้อมกับอาการป่วยแปลกๆ และพวกเขาเหล่านั้นชื่นชอบเลือด

จิ้นเยว่มองดูบาดแผลที่แขนของนาง เลือดไหลซึมผ่านแขนเสื้อบางๆจนทำให้นิ้วมือของนางเปื้อน นางกลืนน้ำลายอย่างมิรู้ตัว บัดนี้นางรู้เพียงแต่ว่านางมิกล้าเอ่ยสุ่มสี่สุ่มห้าต่อหน้าเขาอีกแล้ว แม้จะเจ็บปวดก็ต้องอดทนเอาไว้!

ฟู่จิ่วชิงเอนตัวลงบนพนักพิงแสนนุ่ม มองจากมุมนี้ นางกำลังก้มหน้าสี ริมฝีปากแดงเข้มได้หลุดออกไปบ้างหลังจากการต่อสู้เมื่อสักครู่ ใบหน้าของนางเป็นรอยด่างประกอบกับท่าทางอันเคร่งขรึมของนางตอนนี้ มองดูช่างตลกนัก

ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นโดยมิรู้ตัว ดูเหมือนว่าลมหายใจจากร่างกายของนางยังคงติดอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟันของเขา

เมื่อรถม้าเข้ามาไปถึงในเมือง จิ้นเยว่ก็กระโดดลงจากรถด้วยความโกรธ

"คุณหญิงขอรับ?" จวินซานตกตะลึงแล้วหันกลับมามองที่หน้าต่าง "คุณชาย?"

ภายในรถม้ามีเสียงกระแอมออกมาเบาๆ ฟู่จิ่วชิงก้าวลงจากรถอย่างช้าๆ "จงให้คนไปรายงานท่านพ่อของข้าว่า คนจากจวนเยี่ยนอ๋องมาถึงแล้ว"

"ขอรับ!" จวินซานพยักหน้า "แล้วคุณหญิงเล่าขอรับ?"

"มิต้องรีบ!" ฟู่จิ่วชิงเดินออกไป

นางจะไปที่ใดได้อีก?

แน่นอนว่าต้องไปยังโรงหมอเพื่อสมานแผล เนื่องจากนางกลัวจะเป็นรอยแผลเป็นอย่างไรเล่า……

หึๆ ผู้หญิง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด