ซ่างเย่ 27 อย่าป้อนแล้ว

Now you are reading ซ่างเย่ Chapter 27 อย่าป้อนแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"ก็คือว่า……"จิ้นเยว่ลังเลสักพัก ค่อยๆวางตะเกียบลง"ช่วงนี้กระเพาะของข้ารู้สึกไม่ดี กินสิ่งที่มันเย็นๆไม่ได้ พวกเมล็ดบัวไม่เหมาะกับข้า เจ้าค่อยๆกินนะ ข้าจะไป……"

"ไม่อยากกินที่นี่ อยากไปกินที่ศาลาชิวสุ่ยใช่ไหม?"ฟู่จิ่วชิงยกซุปดอกบัวขึ้นมา และกวนเบาๆ

ช้อนหยกขาวสัมผัสกับชามเบาๆ ส่งเสียงที่คมชัดออกมาบ้าง

จิ้นเยว่กำมือในแขนเสื้อไว้อย่างแน่น เงยหน้ามองไปดูฟู่จิ่วชิงที่อยู่ตรงข้าม แสงเทียนสีเหลืองอบอุ่นตกลงมาบนใบหน้าของเขา สีหน้าของเขาไม่มีอารมณ์แปรปรวนใดๆ เขารู้ทุกอย่าง แต่ยังมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้คนรู้สึกกระวนกระวายใจ

"ไม่ไป!"จิ้นเยว่ค่อยๆพูด"ข้ายังอยู่ในช่วงห้ามออกนอกเรือน ไม่สะดวกไป!"

"อาหารที่ทำจากดอกบัวในคืนนี้ เตรียมไว้ให้เฉพาะเจ้า"ฟู่จิ่วชิงตักเมล็ดดอกบัวเม็ดหนึ่งขึ้นไป และยื่นไปยังริมฝีปากของนาง"กินเถอะ!"

จิ้นเยว่อ้าปากโดยจิตสำนึก เมล็ดบัวที่ขาวและนุ่ม ถูกนางกินเข้าปากอย่างรวดเร็ว น้ำซุปรสหวานกำลังดี เพียงแต่ว่าเมล็ดดอกบัวนี้ไม่ได้เด็ดหัวใจออก กินถึงระยะสุดท้าย รู้สึกมีความขม

ฟู่จิ่วชิงตักเมล็ดบัวขึ้นมาอีกช้อนหนึ่ง"นี้ล้วนเป็นฝักดอกบัวสดๆที่เด็ดขึ้นมาจากทะเลสาบวันนี้ ปอกฝักดอกบัวออกและนำเมล็ดข้างในออกมาทำอาหาร ทุกอย่างล้วนอร่อยมาก เจ้ากินเยอะๆสิ อย่าให้เกิดความโลภแล้วทำเรื่องอะไรที่เกินขอบเขตขึ้นมา นั่นแหละสิ ไม่มีใครช่วยเจ้าได้หรอก!"

พอได้ยินคำพูดนี้ จิ้นเยว่ก็ใจสั่นเล็กน้อย และก็อ้าปากกินเมล็ดดอกบัวในช้อนของเขาอีก"ข้าสามารถกินเองได้!"

ไม่ต้องป้อน

ฟู่จิ่วชิงเงยหน้ามองนาง ใต้สายตาที่ลึกซึ้งของเขา มีแสงเทียนจางๆสะท้อนอยู่ สว่างบ้างมืดบ้าง ทำให้คนสังเกตได้ไม่ชัด แต่ก็รู้สึกหวาดกลัว คิ้วที่หล่อเหลาของเขาเลิกขึ้น และยังมีรอยยิ้มปรากฏอยู่ที่ริมฝีปาก เหมือนเป็นนักล่าที่รอให้เหยื่อตกหลุมมาเอง ซึ่งมีความหมายอันทรงลึกซึ้งมาก

"แผลบนมือยังไม่หาย ต้องระวัง!"น้ำเสียงของเขาราบเรียบมาก

เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ จิ้นเยว่ก็เหมือนจะมีเหตุมีผลขึ้นมา

"ทำไมเจ้าให้หมอทาครีมป้องกันการกัดกร่อนให้ข้า"จิ้นเยว่ยืดตัวตรง"เข้ารู้ไหมว่า ตอนนี้แผลของข้าเน่าจนเป็นรูแล้ว ทีหลังต้องมีร่องรอยเหลืออยู่แน่เลย!"

"เจ้าพบได้ยังไง?"ฟู่จิ่วชิงถาม

จิ้นเยว่เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา มีความภูมิใจในตัว เจตนาที่ทำหน้าบึ้งตึงและพูดว่า"คือข้าบังเอิญไปพบ"

"ไม่ใช่คนอื่นบอกเจ้าหรือ?"สายตาของเขาซึมเศร้ามาก

จิ้นเยว่กัดริมฝีปาก ไม่สามารถกล่าวถึงองค์ชายเล็ก ไม่อย่างงั้น……เป็นความคิดอีกสิ่งหนึ่งอีก!

ฟู่จิ่วชิงใช้ตะเกียบคีบขนมเปี๊ยะดอกบัวชิ้นหนึ่ง และวางไว้ในชามของนาง อารมณ์ค่อยๆผ่อนผันลง แต่ยังคงเย็นชาอยู่เช่นกัน"บนร่างกายมีสัญลักษณ์ของสามีอยู่ มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย ไม่ได้ถูกจิ้งจอกกัด ไม่เป็นพิษและก็ไม่ตาย เจ้ากลัวอะไร?"

ลุกตาหมุนสักรอบหนึ่ง จิ้นเยว่ก้มหน้าชกินขนมเปี๊ยะดอกบัวในชาม นางกัดเบาๆ หนังกรอบของขนมเปี๊ยะดอกบัวก็ถูกนางเคี้ยวจนขาด และกินเข้าปากอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการปิดกั้นปากของตัวเอง อย่างนี้ก็จะสามารถไม่ไปตอบคำถามของเขาแล้ว

เหมือนมองทะลุความคิดของนางได้ ฟู่จิ่วชิงคีบอาหารใส่ชามของนางอย่างต่อเนื่อง สีหน้าราบเรียบมาก เหมือนเรื่องอะไรล้วนไม่ได้เกิดขึ้น แต่กลับทำให้จิ้นเยว่รู้สึกว้าวุ่นใจ นั่งนิ่งไม่ได้ แต่ก็ต้องกินต่อไปอย่างเชื่อฟัง

ตามจริงแล้วฟู่จิ่วชิงกินไม่มาก เวลาส่วนใหญ่ล้วนคีบอาหารให้นาง บางทีเขาก็จะเงยหน้าขึ้นมา มองไปดูแก้มที่โปนเล็กน้อยของนาง ถ้าหากใส่ของอย่างอื่นเข้าปากอีก จะสนุกกว่านี้ไหมน่ะ?

น้ำซุปเมล็ดดอกบัวสองชามลงท้อง จิ้นเยว่มองไปดูเศษอาหารที่เหลือบนโต๊ะ ทำหน้าที่เศร้าโศกมาก สะอึกและร้องขอความเมตตา"อย่าป้อนอีกเลย ข้ากินไม่ลงแล้ว!ถ้ากินอีก ก็จะอาเจียนออกมา!"

"เมล็ดดอกบัวไม่อร่อยหรือ?"สายตาของฟู่จิ่วชิงเย็นชามาก

จิ้นเยว่รีบส่ายหน้า"ไม่กินอีกแล้ว!"

ฟู่จิ่วชิงเอ่ยเสียงเย็นชาออกมาเบาๆ ในที่สุดก็วางชามในมือลง"ทีหลังอยากกินอะไร บอกคนใช้ให้ไปเตรียม เจ้าเป็นคุณหญิงของข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าถูกเอาเปรียบ"

แม้ว่าพูดแบบนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นแค่สามีภรรยาในสายตาของคนอื่นเท่านั้น ตามความเป็นจริงแล้วไม่มีความสัมพันธ์อะไรเลย ไม่ใช่หรือ?

เมื่อเห็นว่านางไม่พูดอะไร สายตาของฟู่จิ่วชิงก็ลึกลง เมื่อเห็นลักษณะที่เม้นปากของนาง จู่ๆก็ถามขึ้นมาว่า"อยากกินจิ้งจอกไหม?"

"อะไรนะ?"จิ้นเยว่อึ้งอยู่กับที่ รู้สึกตัวไม่ทันเลย

รอบข้างเงียบสงบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกพื้น มีเพียงลมที่เข้ามาจากช่องว่างของหน้าต่าง พัดมาที่เทียนอย่างต่อเนื่อง และส่งเสียงออกมา

"ช่างเถอะ!"ฟู่จิ่วชิงวางตะเกียบลง และลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก

จิ้นเยว่ใจสั่นขึ้นมา เพราะนางรู้สึกว่าคนนี้เหมือนโกรธอยู่

"โกรธหรือ?"จิ้นเยว่มองไปที่แผลบนแขนของตัวเอง"ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ามาโกรธอะไรกัน?"

ข้างนอก จวินซานอ้าปากพูดว่า"ไปรับโทษ!"

จิ้นเยว่อึ้งอยู่กับที่ ตายแล้ว ซวงจือ!

"เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับซวงจือ คือข้าจะไปเอง"จิ้นเยว่รีบวิ่งมาถึงหน้าฟู่จิ่วชิง ยกแขนสองข้างขวางทางเดินของเขา

คงเป็นเพราะว่าฟู่จิ่วชิงเดินเร็วเกินไป หรือเป็นเพราะว่าจิ้นเยว่หับไปอย่างรีบ ทั้งสองคนชนเข้าหากันโดยตรงเลย ดูเหมือนว่าจิ้นเยว่ยกแขนทั้งสองข้างอยากจะกอดเขา

หน้าอกรู้สึกถึงความอบอุ่น สายตาของฟู่จิ่วชิงปรากฎความตกใจออกมา จากนั้นก็กลายเป็นความเย็นชา ขอความเมตตาแทนคนอื่นนี่ก็ช่างขยันหรือเกินเนอะ!

ก่อนหน้านี้ได้ยินซวงจือบอกว่า ฟู่จิ่วชิงไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้อง แม้ว่าเป็นนายท่านก็น้อยมากที่จะไปโดนข้อห้ามของเขา

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ จิ้นเยว่ก็รีบถอยหลัง แต่ในวินาทีต่อมา ฟู่จิ่วชิงก็ได้จับแขนของนางเอาไว้ มืออีกข้างหนึ่งก็ได้บีบกรามของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นมามองเขา

ปลายนิ้วเรียบๆลูบคางของนางเบาๆ สายตาของสุนัขจิ้งจอกเต็มไปด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย มองไปแล้วเหมือนยิ้มอยู่ แต่มองอย่างชัดเจนแล้ว ก็ราวกับว่ากำลังโมโหอยู่

สีหน้าที่ซีดเซียวของเขา ไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด ตอนที่ก้มลงมา รูม่านตาเหมือนขุมนรก ราวกับว่าจะกินกลืนนางเข้าไป"บอกข้ามาสิ อยากจะออกไปจริงๆหรือเปล่า?"

จิ้นเยว่พยักหน้าตามความเป็นจริง

มือของเขาค่อยๆกำแน่น ยืนอยู่ที่เดิมมองนางไปนานมาก แต่สีหน้ากลับไม่ได้แสดงอะไรเลย

หลังจากนั้นไม่นาน ฟู่จิ่วชิงก็ลุกขึ้น จับมือของนางเดินไปข้างนอก

"ไปไหน?"จิ้นเยว่นิ่งอึ้ง

"โยนเข้าไปในทะเลสาบเป็นอาหารปลา"

จิ้นเยว่"……"

เวลานี้ คนล้วนอยู่ที่ศาลาชิวสุ่ย ดังนั้นฝั่งของศาลากลางทะเลสาบไม่มีคนอะไร

ฟู่จิ่วชิงให้จวินซานวางม่านลง เหลือเพียงด้านหนึ่ง พอดีหันหน้าไปทางศาลาชิวสุ่ย สามารถเห็นโคมไฟสว่างไสวและทัศนียภาพอันงดงามของดอกไม้ไฟ

พอลมพัด ฝักดอกบัวบนทะเลสาบก็เขย่าซ้ายและขวา มันเขียวขจีและสวยงามมากในท่ามกลางแสงสลัว

จวินซานตักฝักดอกบัวอยู่ ซวนจือรับอยู่ริมฝั่งน้ำ แค่ได้เด็ดพวกที่มองขึ้นไปแล้วค่อนข้างจะอ่อน ฝักดอกบัวที่แก่เมล็ดจะขม ไม่เหมาะที่จะกินสดๆ

ฟู่จิ่วชิงยืนอยู่ริมน้ำ ถูกลมพัดจนไอไม่หยุด สายตาที่เย็นชาจ้องไปทางศาลาชิวสุ่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบ

"เหมือนไม่ค่อยถูก!"จิ้นเยว่ขมวดคิ้ว

มีคนวิ่งมาทางนี้ จิ้นเยว่รีบซ่อนเข้าไปในศาลา ไม่กล้าปรากฏหน้า

"เกิดอะไรขึ้น?"น้ำเสียงของฟู่จิ่วชิงเย็นชามาก

คนใช้ตอบอย่างเคารพ"คุณชายห้าขอรับ คือคุณชายสี่จมน้ำขอรับ ตอนนี้ฝั่งศาลาชิวสุ่ยล้วนวุ่นวายกันขึ้นมา ท่านไปดูดีกว่าขอรับ!"

"ข้ารู้แล้ว!"ฟู่จิ่วชิงกำมือในแขนเสื้ออย่างแน่น มองไปสะกิดจวินซาน

จวินซานรู้ความหมายของเขา เลยเข้าไปคำนับในศาลา"คุณหญิงขอรับ บ่าวส่งท่านกลับไปขอรับ!"

ยังไม่ทันรอให้จิ้นเยว่อ้าปาก ฟู่จิ่วชิงก็เดินไปไกลแล้ว

"คุณหญิงไม่ต้องห่วงขอรับ คุณชายจะจัดการให้เรียบร้อยขอรับ"จวินซานก้มคำนับ

จิ้นเยว่พยักหน้า สั่งให้ซวงจืออุ้มฝักดอกบัวขึ้นมา และเดินทางลัดกลับเรือน แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด นางรู้สึกว่ากระวนกระวายใจ เหมือนจะมีเรื่องใหญ่จะเกิดขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด