ซ่างเย่ 12 หมากัดหรือ?

Now you are reading ซ่างเย่ Chapter 12 หมากัดหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จิ้นเยว่เดินทางไปยังโรงหมอจริงๆ นางต้องรีบจัดการกับแผลที่ถูกกัดโดยเร็วที่สุด มีรอยแผลเป็นบนร่างกายของนางมากเกินพอแล้ว ดังนั้นนางจึงมิอยากทิ้งรอยแผลเป็นไว้ที่แขนอีก

หมอทำท่าทางประหลาดใจ รอยกัดนี้ลึกมากแสดงให้เห็นว่าใช้กำลังมิน้อย

"คุณหญิงเจ้าคะ บ่าวจะช่วยทำความสะอาดแผลเจ้าค่ะ!" ซวงจือกัดริมฝีปากแน่น

มีเพียงสองคนที่นั่งอยู่ในรถม้า การที่คุณหญิงได้รับบาดเจ็บแน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือของ……

หัวใจของซวงจือชัดเจนดุจกระจกเงา แต่นางมิกล้าเอ่ยถามอะไรออกมา ได้แต่ค่อยๆเช็ดเลือดรอบๆรอยกัดด้วยสำลีก้อนเล็ก

"ซวงจือ?" มีเสียงตะโกนขึ้นจากชั้นสอง "โอ้ น้องสะใภ้ห้ามิใช่หรือนั่น?"

จิ้นเยว่เงยหน้าขึ้นและเห็นหญิงสาวหน้าตางดงามคนหนึ่งกำลังเดินลงมาจากชั้นสอง

ริมฝีปากของหญิงสาวดูยิ้มแย้ม ทุกย่างก้าวที่นางเดินลงมาทำให้ปิ่นปักผมของนางก็ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ช่างสง่างาม

"คารวะคุณหญิงรอง!" ซวงจือคำนับอย่างเร่งรีบ และกระซิบกับจิ้นเยว่ว่า "ภรรยาของคุณชายรองเจ้าค่ะ"

คุณชายรอง?

จิ้นเยว่จึงเข้าใจว่า นางคือคุณหญิงรอง ภรรยาของคุณชายรองตระกูลฟู่ ฟู่หยุนเจี๋ย

จ้าวฝูฮุ่ยเดินเข้าไปหาจิ้นเยว่ด้วยรอยยิ้มแล้วกรีดร้องขึ้นว่า "โอ้ ตายแล้ว! นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

โชคดีที่ซวงจือมีความเฉลียวฉลาดว่องไวพอ นางรีบปิดบาดแผลของจิ้นเยว่ด้วยผ้าคลุม

แต่ดวงตาอันเฉียบคมของจ้าวฝูฮุ่ยก็ยังคงเห็นมัน

ที่แขนสีขาวราวหยก มีรอบถูกฟันกัดอย่างชัดเจน บริเวณโดยรอบก็แดงบวม เห็นได้ชัดว่าถูกใครกัดมา

"น้องสะใภ้ข้า เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?" จ้าวฝูฮุ่ยเอ่ยถาม "ผู้ใดกันกล้ากัดแขนของภรรยาของคุณชายห้าแห่งตระกูลฟู่? จงบอกข้ามาเถิด ข้าจักไปบอกท่านแม่ให้จัดการแทนเจ้า!"

ซวงจือกระสับกระส่าย แต่เจ้านายสนทนากันอยู่ นางเป็นเพียงทาสจะเอ่ยขึ้นขัดจังหวะได้อย่างไร? ต่อให้อึดอัดใจเพียงใดก็เท่านั้น

เรื่องน้องสะใภ้ห้านี้ จ้าวฝูฮุ่ยเคยได้ยินเรื่องราวมาบ้าง น่าเสียดายที่สองสามวันมานี้นางมิสบาย จึงยังมิมีโอกาสพบหน้า

ได้ยินมาว่าหญิงสาวคนนี้เกิดในชนบทและมิมีมารยาทใด ๆ นางมีปัญหาทันทีที่นางย้ายเข้าไปในเรือน นางมิสนใจแม้แต่ฮูหยินรอง ช่างไร้สมองเสียจริง

แม้ว่าจิ้นเยว่จะมิมีเข้าใจในเรือนใหญ่เท่าไร แต่นางก็เห็นซวงจือกะพริบตามายังตน จึงทำให้นางเข้าใจบางอย่างมิน้อย จากนั้นจึงลุกขึ้นและเคารพทักทายว่า "ขอบเจ้าพี่สะใภ้ที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ น้องรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง เพียงแต่ว่า……"

"เราเสมือนพี่น้องกัน เจ้ามิจำเป็นต้องเกรงใจข้าเช่นนี้หรอก!" จ้าวฝูฮุ่ยยื่นมือเพื่อจับมือจิ้นเยว่ไว้

จิ้นเยว่จะมิรู้เชียวหรือว่านางหมายถึงอะไร นางเพียงแค่ต้องการยกผ้าคลุมขึ้นเพื่อดูอาการบาดเจ็บที่แขนให้ชัดเจนเท่านั้น

ฝันไปเถิด!

จิ้นเยว่พลิกมือข้างหนึ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า "พี่สะใภ้กล่าวได้ถูกต้องแล้ว พวกเราล้วนเป็นสะใภ้ที่แต่งเข้ามา เปรียบเสมือนพี่น้องกัน ข้าแค่บังเอิญถูกหมากัดเข้า หากนำเรื่องนี้ไปบอกฮูหยินรอง เกรงว่าท่านจะแตกตื่นเสียเปล่าๆ"

จ้าวฝูฮุ่ยต้องการดึงมือของนาง แต่คิดมิถึงว่าจิ้นเยว่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ นางมิสามารถดึงมันออกมาได้แม้จะพยายามอยู่สักพัก ท้ายที่สุดนางจึงฝืนยิ้มแล้วกล่าวว่า "น้องสาวพูดอะไรเช่นนั้น เรื่องนี้จักไปทำให้ท่านแม่แตกตื่นได้อย่างไร? ขอแค่เจ้ากล่าวความจริงออกมา ท่านแม่มีความโอบอ้อมอารีรับรองว่าจะจัดการให้เจ้าแน่"

"เช่นนั้นหรือ?" จิ้นเยว่กะพริบตาทำท่าไร้เดียงสา "พี่สะใภ้รองช่างดียิ่ง!"

"แน่นอนว่า……โอ๊ย!"

จู่ๆ จิ้นเยว่ก็ปล่อยมือ จ้าวฝูฮุ่ยที่กำลังใช้แรงดึงอยู่จึงล้มลงหน้าคะมำ ช่างน่าอับอายยิ่ง

"ฮูหยินเจ้าคะ?" บ่าวรับใช้รีบก้าวเข้าไปช่วย

"พี่สะใภ้!" จิ้นเยว่เหลือบมองซวงจือ

ซวงจือก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยจ้าวฝูฮุ่ยเช่นกัน

การล้มของจ้าวฝูฮุ่ยนั้นแรงเสียจริง ปิ่นปักผมยุ่งเหยิงเอียงไปเอียงมาไปหมด คิ้วอันบอบบางทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน นางอ้าปากร้องด้วยความเจ็บปวด

"น้องสะใภ้หมายความว่าอย่างไรกัน?" จ้าวฝูฮุ่ยโมโห "ตั้งใจอย่างนั้นหรือ?"

จิ้นเยว่ยกแขนของนางขึ้น ขณะที่กำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่ทันใดนั้นนางก็หุบปากลง

เมื่อมองไปตามสายตาของนาง หัวใจของจ้าวฝูฮุ่ยก็สะดุ้ง มิรู้ว่าฟู่จิ่วชิงยืนอยู่ที่ประตูตั้งแต่เมื่อใด

ท่ามกลางแสงแดดนั้น ผิวพรรณงดงามราวกับหยก ดูเหมือนว่าแสงทั้งหมดถูกเขาปิดกั้นเอาไว้ เงาของเขาทอดยาวลงไปยังพื้น และค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาหาพวกนาง

และหยุดนิ่งลงในที่สุด

นิ้วมือของเขากำเข้าหากันเล็กน้อย ริมฝีปากหนาอวบอิ่มของเขากระแอมเบาๆ ดวงตาอันไร้ประกายช่างเยือกเย็น แต่น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนยิ่ง "พี่สะใภ้รอง มิทราบว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ที่นี่?"

ตั้งแต่นางแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่ จ้าวฝูฮุ่ยก็รู้สึกว่าฟู่จิ่วชิงช่างเยือกเย็น เพียงแต่ว่าในขณะนี้ เมื่อถูกเขามองมา นางรู้สึกว่าขนหลังของนางกำลังลุกตั้ง ทำมิได้แม้แต่จะแสร้งยิ้มออกมา จึงได้แต่ส่ายหน้าตอบว่า "มิ มิมีอะไร ข้าขอตัวกลับก่อน!"

เมื่อเห็นว่าจ้าวฝูฮุ่ยวิ่งออกไปเช่นนั้น จิ้นเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ฟู่จิ่วชิงหันมามองหน้าแล้วเหลือบมองแขนของนาง จากนั้นถามด้วยเสียงต่ำทุ้มว่า "หมากัดหรือ?"

จิ้นเยว่ "……"

บรรลัยแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด