ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิตเล่มที่ 11 บทที่ 310 อ่านตำราจนสติเลอะเลือนแล้วกระมัง

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต Chapter เล่มที่ 11 บทที่ 310 อ่านตำราจนสติเลอะเลือนแล้วกระมัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ซี้ด…” เคี้ยวกรีดผ่าน ไม่ได้ตัดใส่ต้นถั่วในแปลง กลับกรีดมือของเซียวยวี่จากนิ้วก้อยไปถึงนิ้วกลาง

ความรู้สึกเจ็บแปลบรุนแรงถูกส่งตรงมา เซียวยวี่รีบชักมือกลับ

เคียวกรีดเข้าไปค่อนข้างลึก ไม่นานก็มีเลือดไหลซึมออกมา เขาไม่ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ เพียงถูบาดแผลไปบนเสื้อ เช็ดคราบเลือดออก ก่อนจะเกี่ยวตัดต้นถั่วต่อ

เซียวจื่อเซวียนก็ไม่เห็นมือของเขา ทั้งสองคนตัดต้นถั่วต่ออีกครู่หนึ่ง เซียวซานมาแล้ว เซียวจื่อเซวียนแย้มรอยยิ้มพลางนำต้นถั่วไปในใส่ในตะกร้า คราวนี้เขาแบกต้นถั่วกลับบ้าน

ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เซียวยวี่ก็ขมวดคิ้วมุ่นอยู่ตลอด

ทั้งสามคนช่วยกัน พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แสงตะวันสีแดงสาดส่องตรงขอบฟ้าทิศตะวันตก เมฆหมอกบริเวณรอบข้างถูกแสงสาดส่องจนเป็นสีแดงเลือด เซียวยวี่หาบต้นถั่วตะกร้าสุดท้ายกลับบ้าน

อากาศไม่ร้อนแล้ว เวลานี้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งออกมาทำงาน

อย่างไรเสียตอนนี้ในแปลงนาก็ไม่มีงานอะไรให้ทำ เพียงรอให้ถั่วในแปลงสุกงอม ค่อยไปเก็บเกี่ยว พอเห็นเซียวยวี่หาบถั่วฝักสดสีเขียวมรกตกลับมาสองตะกร้า แต่ละคนต่างก็รู้สึกตกใจยิ่งนัก “เซียวยวี่ ถั่วของเจ้ายังไม่สุก เหตุใดเจ้าถึงเก็บเกี่ยวเล่า? ”

“ทำไมเจ้าถึงตัดมามากขนาดนี้? เจ้ารออีกสักครึ่งเดือน รอให้ถั่วสุกงอมก็จะขายได้ราคาดี” ชาวบ้านต่างเกลี้ยกล่อม “อย่าตัดอีกเลย เก็บไว้ ปีนี้ผลผลิตดี ถั่วต้องขายได้ราคาดีแน่นอน”

ถั่วที่ตากแห้งแล้วเก็บได้หนึ่งปีกว่า ค่อยๆ ขาย

เซียวยวี่มองถั่วแระสองตะกร้าสุดท้าย ก่อนกล่าว “ข้าเก็บเกี่ยวมาทั้งหมดแล้ว”

“อะไรนะ? เจ้าเก็บเกี่ยวมาทั้งหมดแล้ว? ไอหยา เจ้าไม่เคยทำเกษตร ไม่รู้ว่าทำเช่นไร ทำไมเจ้าถึงไม่ถามพวกเราเล่า? เจ้าถนัดด้านการร่ำเรียน แต่เจ้าไม่เชี่ยวชาญการปลูกพืชสักนิด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเก็บเกี่ยวถั่วตอนนี้ ถึงเวลาน้ำหนักต้องลดไปมากแน่นอน ที่นาของเจ้า หากรออีกหน่อย เจ้าจะขายได้สองร้อยกว่าจินเลย แต่ตอนนี้ เจ้าขายได้อย่างมากแค่หนึ่งร้อยกว่าจินเท่านั้น”

หายไปกว่าร้อยจินเลยทีเดียว แค่ปล่อยทิ้งไว้ในแปลง ไม่จำเป็นต้องดูแล จินหนึ่งอย่างน้อยสามอีแปะ ความเสียหายนี้ เกรงว่าจะเป็นเงินหลายร้อยอีแปะเลยทีเดียว!

เซียวยวี่ไม่ได้กล่าวอะไร หาบตะกร้าเดินจากไป

ชาวบ้านต่างส่ายหน้า “พวกเจ้าว่าเซียวยวี่ผู้นี้ คงไม่ใช่ว่าอ่านตำราจนเลอะเลือนไปแล้วกระมัง ถั่วยังไม่สุก จะเก็บเกี่ยวไปทำไม เฮ้อ…”

“นั่นสิ ได้ยินว่าใกล้ประกาศผลสอบแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าว่าหากคราวนี้เขาสอบไม่ผ่านอีกจะทำเช่นไร? ร่ำเรียนไม่ประสบผลสำเร็จ ทำการเกษตรก็ไม่เป็น เฮ้อ น่าเป็นห่วงว่าครอบครัวพวกเขา ไม่มีชายชาตรีที่สามารถแบกรับภาระดูแลครอบครัวได้ จะอยู่อย่างไร…”

“ฮะฮะ อ่านตำราไปจะมีประโยชน์อะไร สุดท้ายก็ต้องมาปลูกพืชผลเหมือนพวกเราไม่ใช่หรือ พืชผลที่ปลูกยังเทียบพวกเราไม่ได้ด้วยซ้ำ! ”

“ร่ำเรียนจนสติเลอะเลือนแล้วอย่างไร ฮ่าฮ่า…”

เรื่องที่เซียวยวี่เก็บเกี่ยวต้นถั่วในแปลงของเขาจนหมดแพร่ไปทั่วทั้งหมู่บ้านทันที

ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย ทั้งยังบอกว่าเซียวยวี่ไม่มีความรู้กลับแสร้งทำเป็นรู้ดี

“ข้าว่าเขาอ่านตำรามากเกินไปจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว ไม่รู้แสร้งทำเป็นรู้ ดูว่าคราวนี้เขาเสียหายเท่าไร ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะไม่เสียใจ” เงินหลายร้อยอีแปะเชียว ต้องหายไปทั้งอย่างนี้

ข่าวลือในหมู่บ้านแพร่ไปถึงหูท่านป้าสี่อย่างรวดเร็ว พอได้ยินว่าเซียวยวี่เก็บเกี่ยวถั่วก่อนเวลา ก็หัวเราะอย่างดูแคลนก่อนกล่าว “ข้าคิดแล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่รู้จักใช้ชีวิตให้ดี แบกหามไม่ได้ ไม่มีกำลัง แม้แต่ฤดูเก็บเกี่ยวก็ยังไม่รู้ ใครแต่งกับเขาช่างโชคร้ายเสียจริง เงินตั้งหลายร้อยอีแปะ จะไปหาที่ไหนได้อีก”

ท่านลุงสี่ถอนหายใจด้วยความเสียดายก่อนกล่าว “นั่นเพราะอายวี่ไม่รู้ ทำเกษตรครั้งแรก ต่อไปก็มีประสบการณ์เอง เจ้าอย่าว่าเขาเช่นนี้”

ท่านป้าสี่หัวเราะอย่างเย็นชา “มีประสบการณ์? ข้าคิดว่าไม่ เดิมทีบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ ร่ำเรียนเก่ง แต่เจ้าดูสิ แค่ระดับซิ่วไฉก็สอบมาตั้งกี่ปีแล้ว อายุสิบเจ็ดแล้ว ยังสอบไม่ผ่าน เอาเถอะ ต่อให้ร่ำเรียนไม่ไหว มาปลูกพืชผล แม้แต่ฤดูเก็บเกี่ยวก็ยังไม่รู้ เจ้าบอกว่าเขาจะมีประสบการณ์ พวกเรารอดูต่อไป ดูว่าเขาจะมีประสบการณ์อะไรได้”

ท่านลุงสี่ไม่พอใจวาจาของภรรยาตัวเอง แต่เขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้

เรื่องคราวนี้ เซียวยวี่ใจร้อนเกินไปจริงๆ

ต่อให้เขาไม่รู้ เขาก็ควรดูรอบข้าง แปลงนารอบข้าง คนอื่นๆ ก็ปลูกต้นถั่วไว้เหมือนกัน คนอื่นยังไม่เก็บเกี่ยว เขากลับเก็บเกี่ยว ทั้งยังเก็บเกี่ยวจนเกลี้ยง ช่าง…

จะบอกว่าเพราะไม่รู้ ก็ไม่เหมือนไม่รู้ กลับเหมือน…

“ข้าบอกแล้วว่าเขาโง่” ท่านป้าสี่กล่าวต่อ “ข้าว่าครอบครัวเขาช้าเร็วก็ต้องยากจนถึงขั้นต้องไปขอทาน ไม่เชื่อก็คอยดู”

ท่านลุงสี่กล่าวอะไรไม่ออก ช่างเถอะ ช่างเถอะ ต่อไปเขาสอนเซียวยวี่ให้มากหน่อย คาดว่าเขาคงเกรงใจจึงไม่ถาม เช่นนั้นเขาก็จะไปสอนเอง

เสียงหัวเราะคิกคักของบุตรสาวดังมาจากห้องข้างๆ พอได้ยินเสียงหัวเราะ ใบหน้าของท่านป้าสี่ที่ทำสีหน้าบึ้งตึงมาตลอดก็แย้มรอยยิ้มทันที “เจ้าดูสิ พออาหยวนมา หมิงจูของเราก็หัวเราะอย่างมีความสุขถึงเพียงนี้”

กล่าวจบ ก็กลับเข้าเรื่องเดิม ว่ากล่าวต่อ “เซียวยวี่เทียบกับปลายนิ้วของอาหยวนไม่ได้ด้วยซ้ำ พูดถึงบุรุษที่รู้จักใช้ชีวิตให้ดี อาหยวนถือว่าดีเยี่ยม รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทั้งยังมีความสามารถในการทำมาหากิน หากหมิงจูอยู่กับเขา ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มอีก”

ท่านลุงสี่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ พยักหน้า “อืม ใช่! ”

เซียวหมิงจูที่อยู่ในห้องข้างๆ หัวเราะราวกับบุปผาโยกไปมา เมื่อเห็นเงินหยวนเป่า[1]ห้าก้อนตรงหน้า

เมื่อมีเงินห้าสิบตำลึงนี้ ซินแสสวี่ก็จะมาช่วยนางปราบปีศาจแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวอยู่อย่างสุขสบายมานานถึงเพียงนี้ ทำให้คนที่นางชอบที่สุดแตกหักกับนาง คราวนี้ จะทำให้นางตกนรก ให้นางไม่ได้ผุดได้เกิดอีก

“พี่อาหยวน ขอบคุณท่านมาก ท่านวางใจได้ เงินที่ยืมท่านมา ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อคืนให้ท่าน” เซียวหมิงจูกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง

เซียวหยวนแย้มรอยยิ้ม กล่าวด้วยท่าทางอ่อนโยนดุจสายน้ำ “ไม่ต้องรีบ ขอเพียงเจ้ามีความสุข ให้ข้าทำอะไรข้าก็ยินยอม”

ใบหน้าเซียวหมิงจูขึ้นสีแดงทันที แต่คราวนี้ไม่ได้ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย กลับแย้มรอยยิ้มบาน เหมือนจะอิ่มเอมกับความรักอันอบอุ่นที่เซียวหยวนมอบให้เป็นอย่างมาก

เซียวหยวนก็แย้มรอยยิ้มตาม ยื่นมือไปลูบหลังมือเซียวหมิงจู

เซียวหมิงจูไม่ได้หลบ ยังคงยิ้มอย่างเบิกบานใจ

เซียวยวี่หาบถั่วตะกร้าสุดท้ายกลับบ้าน เซี่ยยวี่หลัวและโจวซื่อ รวมทั้งเด็กๆ ล้วนกำลังเด็ดถั่วอยู่ เด็ดเสร็จสองตะกร้าแล้ว ยังเหลืออีกกึ่งหนึ่ง

เมื่อเห็นเซียวยวี่กลับมา เซี่ยยวี่หลัวรีบลุกขึ้นไปรับ

เหงื่อบนกายเซียวยวี่ไหลท่วมจนเสื้อผ้าไม่มีส่วนที่แห้งเลย แม้แต่บนเส้นผม ก็มีหยาดเหงื่อไหลออกมา

ใบหน้าสีขาวเนียนโดนแดดเผาจนแดงก่ำ

เซียวยวี่หันมองเซี่ยยวี่หลัว แสยะปากแย้มรอยยิ้ม “เก็บเกี่ยวเสร็จหมดแล้ว”

ดูสิ เขาเองก็สามารถทำเกษตรได้

เซี่ยยวี่หลัวกัดริมฝีปาก ฝืนทนความรู้สึกแสบจมูก วิ่งไปยังห้องครัว

นางต้มน้ำไว้ในห้องครัวตลอด เซี่ยยวี่หลัวรีบตักน้ำร้อนหนึ่งถัง และน้ำเย็นอีกสองถัง ยกไปยังห้องของเซียวยวี่

เซียวยวี่เห็นเข้า จึงรีบมาช่วย “ข้าทำเอง” กล่าวจบ ก็แย่งถังน้ำในมือเซี่ยยวี่หลัวไป เซี่ยยวี่หลัวไม่มีหนทางอื่น ได้แต่ไปหยิบเสื้อให้เขา

ท่านราชบัณฑิตน้อยเป็นคนรักสะอาด เหงื่อออกเต็มตัว เซี่ยยวี่หลัวเกรงว่าเขาจะทนไม่ไหว

เสื้อผ้าที่ตากเสร็จถูกพับเก็บไว้ในห้อง เซี่ยยวี่หลัวหยิบเสื้อออกมาจากตู้เสื้อผ้า วางไว้ในห้องเล็ก

เพิ่งออกมา เซียวยวี่ก็ยกน้ำถังสุดท้ายมา ทั้งสองคนเกือบชนกันตรงประตูห้อง

————————————-

เชิงอรรถ

[1] เงินหยวนเป่า คือเงินแท่งโบราณของจีน ลักษณะเป็นปลายโค้งสองข้างคล้ายเรือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด