ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิตเล่มที่ 7 บทที่ 203 สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต Chapter เล่มที่ 7 บทที่ 203 สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใบหน้าของเซียวจิ้งยี่พลันกลายเป็นสีขาวซีด เมื่อเซียวจินเห็นดังนั้น ก็รู้สึกยินดียิ่งนัก

เขารู้อยู่แล้ว ต่อให้สาบานให้ตัวเองไร้ทายาทสืบสกุล ก็ไม่เห็นผลเท่ากล่าวอ้างชื่อซ่งฉางชิง

“ใช่ขอรับ เถ้าแก่ร้านเซียนจวีโหลว! ”

“เขา เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย? ” เซียวจิ้งยี่ฟังเซียวจินแล้วรู้สึกงุนงง

เรื่องของเซี่ยยวี่หลัว เกี่ยวข้องกับซ่งฉางชิงได้อย่างไร

เซียวจินกล่าว “เถ้าแก่ซ่งผู้นั้นให้เซียวเหลียงรับซื้อผักตี้เอ่อในหมู่บ้านไม่ใช่หรือขอรับ? จากนั้นเซียวเหลียงก็ให้เซี่ยยวี่หลัวไปช่วย เรื่องนี้ทุกคนคงรู้ใช่หรือไม่? ”

“เจ้าพูดต่อ! ” เซียวจิ้งยี่รู้จักซ่งฉางชิง

ซ่งฉางชิงเป็นบุคคลมีชื่อในเมืองโยวหลัน เป็นถึงจวี่เหริน สุดท้ายรับสืบทอดกิจการของบิดา ดำเนินกิจการใหญ่ที่ผู้อื่นไม่อาจคาดคิดได้จนประสบผลสำเร็จ

“เซี่ยยวี่หลัวช่วยงานเซียวเหลียง ไม่รู้ว่าทำอย่างไรจึงไปล่อลวงซ่งฉางชิงเสียได้ ข้ายังได้ยินมาว่า เซี่ยยวี่หลัวตามราวีท่านซ่ง จนท่านซ่งลำบากใจยิ่งนัก เขารังเกียจเซี่ยยวี่หลัว บอกว่าจะมาที่หมู่บ้านเพื่อพูดกับเซี่ยยวี่หลัวให้ชัดเจน ให้นางเลิกตามรังควานเขา”

“ท่านซ่งจะมา? ”

“ขอรับ จะมา เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ท่านคิดดูท่านซ่งที่มีชื่อเสียงดีงามบริสุทธิ์ดุจหยก จะมีความสัมพันธ์กับคนอย่างเซี่ยยวี่หลัวได้อย่างไร ต้องเป็นเซี่ยยวี่หลัวที่บากหน้าไปให้ท่าแน่! ต่อให้พวกเราไม่รู้ว่าชายชู้ผู้นั้นคือใคร เซี่ยยวี่หลัวล่อลวงท่านซ่ง อีกฝ่ายถึงขั้นต้องมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ เรื่องนี้ท่านคงต้องเชื่อกระมัง? ”

เซียวจิ้งยี่ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าท่านซ่งจะมา? ”

เซียวจินชี้ภรรยาของตนเอง “นางนำผักตี้เอ่อไปขายที่เซียนจวีโหลว เคยเห็นเซี่ยยวี่หลัวเข้าออกเซียนจวีโหลว เพื่อไปหาท่านซ่ง! ในภายหลังตอนข้าไปขายผักตี้เอ่อ ได้ยินว่าข้าเป็นคนของหมู่บ้านสกุลเซียว ท่านซ่งน้อยที่ติดตามอยู่ข้างกายท่านซ่งจึงจงใจถามเรื่องของเซี่ยยวี่หลัว จากนั้นจึงบอกกับข้า ว่าถูกเซี่ยยวี่หลัวตามรังควานจนรำคาญแทบตาย! ”

เซียวจินขมวดคิ้วมุ่น แสดงสีหน้าหงุดหงิด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโมโหและเบื่อหน่ายของซ่งฉางชิงยามกล่าววาจาเหล่านี้กับเขา

เซียวจินกล่าวอ้างถึงซ่งฉางชิง ทำให้เซียวจิ้งยี่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

“เจ้าอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ออกไป รอให้ท่านซ่งมาก่อนค่อยว่ากัน! ” เซียวจิ้งยี่กล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง

เซียวจินพยักหน้าไม่หยุด “หัวหน้าหมู่บ้านว่าอย่างไรข้าก็จะทำตามนั้นขอรับ หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านอย่ารังเกียจที่ข้าต้องทำตัวเหมือนเป็นคนเลวร้าย ข้าทำไปก็เพราะหวังดีต่อหมู่บ้านของพวกเรา ท่านลองคิดดู หากเซี่ยยวี่หลัวไปตามรังควานท่านซ่งถึงในตัวเมืองจริง ถึงเวลาชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของหมู่บ้านเราก็จะกระฉ่อนไปทั่วเมืองโยวหลัน ท่านคิดดู หากหมู่บ้านอื่นรู้ว่าหมู่บ้านสกุลเซียวของเรามีหญิงครองเรือนมากรัก ต่อไปใครยังจะกล้าแต่งกับหญิงสาวจากหมู่บ้านของเรา? ท่านว่าจริงหรือไม่? ต่อไปท่านเดินออกไป ก็ไม่มีหน้าพบผู้คน! ”

สตรีที่ทำผิดศีลธรรม ต้องถูกขังกรงถ่วงน้ำ เผาจนกระดูกมอดไหม้เหลือเพียงขี้เถ้า โดยเฉพาะเซียวจิ้งยี่ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เกิดเรื่องบัดสีบัดเถลิงน่าอับอายเช่นนี้ในอาณาบริเวณของตน ต่อไปเขาเดินออกไป ต้องถูกผู้อื่นชี้ไม้ชี้มือติฉินนินทาเป็นแน่

สามีภรรยาเซียวจินไปแล้ว สองสามีภรรยาเซียวจิ้งยี่กลับจมดิ่งสู่ภวังค์เงียบขรึม

กวั่นซื่อยังไม่อยากเชื่อวาจาของสามีภรรยาเซียวจินเมื่อครู่นี้ กล่าวเสียงเบา “ท่านพี่ ท่านว่าเรื่องนี้มีความน่าเชื่อถือกี่ส่วน? ”

เซียวจิ้งยี่กรอกตาใส่นาง “อีกฝ่ายจะมาขอคำชี้แจงถึงที่แล้ว เจ้าคิดว่าข้าเชื่อกี่ส่วน? ”

หากเซียวจินสาบานต่อสวรรค์เพียงผู้เดียว เขาจะเชื่อได้อย่างไร!

ต่อให้เซียวจินสาบานให้อสนีบาตฟาดใส่สักห้าครั้ง บุตรชายคลอดออกมาไม่มีบั้นท้าย เขายังไม่คิดจะเชื่อ!

แต่หากซ่งฉางชิงมาจริง…

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าซ่งฉางชิงคือใคร? ” เซียวจิ้งยี่เอ่ยถามภรรยาของตนเอง

กวั่นซื่อไม่เคยรู้เรื่องภายนอก และไม่เคยได้ยินชื่อซ่งฉางชิง ส่ายหน้าพร้อมบอกว่าไม่รู้

เซียวจิ้งยี่ยิ้มทีหนึ่ง “นั่นเป็นบุคคลมีชื่อในเมืองโยวหลันเชียว! ตอนบิดาของเขายังมีชีวิตอยู่ เปิดภัตตาคารเซียนจวีโหลว เป็นกิจการอันดับต้นๆ ในเมืองโยวหลัน ครอบครัวมีฐานะร่ำรวย ซ่งฉางชิงเรียนหนังสือ มุ่งหวังจะเดินบนเส้นทางขุนนาง เด็กคนนี้เป็นเด็กอัจฉริยะอย่างแท้จริง อายุสิบกว่าปีก็สอบเป็นซิ่วไฉสำเร็จ สอบจวี่เหรินสองครั้งก็สอบผ่านแล้ว เวลานั้นเขาอายุสิบสี่ถึงสิบห้าปีเท่านั้น ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์ ทุกคนต่างคิดว่าซ่งฉางชิงจะได้เป็นขุนนางแน่ แต่ใครจะคาดคิด จู่ๆ บิดาของเขาก็เสียชีวิตกะทันหัน ทิ้งกิจการใหญ่โตไว้ไม่มีคนรับช่วงต่อ ซ่งฉางชิงได้แต่ฝืนทนความเจ็บปวดที่ต้องตัดใจจากสิ่งที่ตนรัก ละทิ้งการเรียนหนังสือ ไปหยิบจับลูกคิดแทน เห็นอย่างนี้ คนผู้นี้นอกจากจะเรียนหนังสือเก่งแล้ว ก็ทำการค้าเก่งด้วย ถึงแม้เวลานี้เขาเพิ่งอายุสิบแปดถึงสิบเก้าปี แต่เซียนจวีโหลวยังคงเป็นกิจการอันดับต้นๆ ในตัวเมือง! ”

โบราณกล่าวไว้ สร้างแผ่นดินง่ายแต่รักษาแผ่นดินนั้นยาก หากไม่มีความสามารถเหนือผู้อื่น เซียนจวีโหลวคงล่มจมนานแล้ว!

กวั่นซื่อได้ฟังก็ทอดถอนใจไม่หยุด “มิน่าล่ะเซียวจินกล่าวถึงซ่งฉางชิง ท่านถึงมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนี้! ”

“เขาเป็นถึงจวี่เหริน นายอำเภอกว่างชางของเราพบเขา ยังต้องให้เกียรติเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเราที่เป็นเพียงชาวบ้านทั่วไป! ” เซียวจิ้งยี่ถอนหายใจยาว “เจ้าคิดดูว่าเขาจะมาหาเรื่องเซี่ยยวี่หลัว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เจ้าคิดว่าข้าเชื่อหรือไม่? ”

กวั่นซื่อเอ่ยถามด้วยความกังวล “เช่นนั้นท่านต้องพูดคุยกับเซียวยวี่ก่อนหรือไม่? ”

เซียวจิ้งยี่ส่ายหน้า “พรุ่งนี้เขาก็จะมาแล้ว พูดคุยกันไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่าให้เกิดเรื่องโดยใช่เหตุเลย ในเมื่อพวกเขาต่างยังไม่รู้เรื่องนี้ ก็ปิดบังไว้ก่อน ส่วนเซี่ยยวี่หลัว… สุดท้ายก็ไม่ใช่คนที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบใจได้! ”

เขารู้สึกผิดหวังมาก เขานึกว่าเซี่ยยวี่หลัวกลายเป็นคนดีแล้ว ยอมใช้ชีวิตร่วมกับเซียวยวี่อย่างเต็มใจ แต่ใครจะรู้ ว่านางไม่ได้คิดเช่นนั้น!

ดั่งคำกล่าวที่ว่าสันดอนขุดง่ายสันดานขุดยาก เมื่อก่อนเป็นคนเช่นไร บัดนี้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คิดว่านางเปลี่ยนไปแล้ว กลับเป็นเพียงการหลอกลวงเท่านั้น

“แม่ของลูก เจ้าลองหาดู ว่ามียังหญิงสาวดีๆ อีกหรือไม่ หากว่ามี ก็ลองดูตัวไปก่อน รอให้เรื่องนี้จบแล้ว พวกเราไปเป็นแม่สื่อ ให้เซียวยวี่ได้แต่งภรรยาดีๆ สักหนึ่งคน” เซียวจิ้งยี่กล่าวพลางทอดถอนใจ “คนดีมักอายุไม่ยืนยาว บิดามารดาของเขาช่วยเหลือหมู่บ้านของเราไว้ไม่น้อย…”

หากบิดามารดาของเซียวยวี่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาคงไม่ต้องมีสภาพเช่นนี้ ย่อมไม่ต้องแต่งภรรยาที่ทำผิดศีลธรรมเยี่ยงนี้ด้วย

ช่างขายหน้าบรรพชนครอบครัวตระกูลเซียวเสียจริง!

กวั่นซื่อกัดริมฝีปาก ไม่ได้กล่าวอะไร

สองสามีภรรยาต่างไปทำงานของตัวเอง กวั่นซื่อยิ่งคิดยิ่งรู้สึกอัดอั้นใจจนกระวนกระวาย นางเห็นเซี่ยยวี่หลัวเป็นสหายที่ดีจริงๆ กวั่นซื่อตัดสินใจ ว่าต้องบอกเรื่องนี้ให้เซี่ยยวี่หลัว ให้นางคิดวิธีแก้ปัญหา

สตรีนั้น หากชื่อเสียงมีจุดด่างพร้อย

หากชื่อเสียงมัวหมอง ชั่วชีวิตนี้ก็จะโงหัวไม่ขึ้นอีก ต่อให้เป็นบุคคลที่งดงามประหนึ่งบุปผา เดินไปถึงไหนก็จะถูกผู้คนชี้ไม้ชี้มือ ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบไปชั่วชีวิต

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด