[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) 17

Now you are reading [นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) Chapter 17 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 17

ตามคำแนะนำของประธาน มานะและชั้นก็มาถึงโรงงานแห่งหนึ่ง

 

โรงงานร้างนั้นแบ่งออกเป็นสองชั้น และที่ชั้นหนึ่งมีเครื่องจักรหลายเครื่องที่ถูกปล่อยทิ้งไว้

 

พวกเราสองคนจะเริ่มทำงานด้วยกันเป็นครั้งแรก แต่บรรยากาศโครตมาคุ

 

 

 

「เอ่อ…อิมป์อยู่ที่นี่จริงเหรอ?」

 

「……」

 

 

 

พอถามแบบนั้นก็ไร้ซึ่งคำตอบ

 

จากนั้นแมมมอนที่เห็นบรรยากาศระหว่างเราก็หัวเราะลั่น

 

 

 

『ฟุฮะฮะฮะ…..ดูเหมือนจะโดนเกลียดจริงๆนะเนี่ย……』

 

「หนอยแน่แกกกกกก」

 

「……」

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นของแมมมอน ก็ชวนของขึ้นทันที มานะเองก็มองมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

 

ใช่แล้วตอนนี้แมมมอนอยู่ในร่างของชั้น มันก็เหมือนกับว่าตอนนี้ชั้นกำลังคุยคนเดียว

 

 

 

「เอ่อ พอดีชั้นคุยกับแมมมอน ในที่สุดก็เพิ่งเอาแมมมอนเข้ามาในร่างได้น่ะ」

 

「แล้ว」

 

 

 

ชั้นอธิบายอย่างเร่งรีบ แต่มานะก็ไม่ได้สนใจ

 

ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่คามิยะชิกิหรือมานะ นี่ชั้นทำอะไรลงไปงั้นเหรอ

 

ดูเหมือนว่ามานะนั้นจะเคยมีความบาดหมางกับจอมมารมาก่อน แต่ชั้นก็ไม่รู้หรอกว่ารายละเอียดเป็นมายังไง

 

ขณะที่กำลังคุยกับแมมมอน มานะก็พูดขึ้น

 

 

 

「ดิฉันจะให้คำแนะนำหนึ่งอย่างนะคะ」

 

「เอ๋?」

 

「อย่าได้มาเกะกะดิฉันเป็นอันขาด」

 

 

 

มานะจ้องมองชั้นอย่างรังเกียจและเดินตรงเข้าไปในโรงงานร้าง

 

ชั้นกับแมมมอนก็ตามไป

 

 แต่ว่า……。

 

 

 

「เฮ้ เฮ้ เอาจริงปะเนี่ย……」

 

 

 

 รูปร่างนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและเคลื่อนไหวเหมือนควันสีดำ『นานิกะ(ナニカ)』。

 

เมื่อมองดูควันดำอย่างใกล้ชิด ก็เห็นว่าเป็นปีศาจมีเขาเล็กๆสองตัวและหางคล้ายลูกศร ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตคล้ายมอนสเตอร์ที่มีปีกค้างคาวอยู่ด้านหลัง

 

 

 

「นี่คืออิมป์งั้นเหรอ?」

 

『อืม』

 

「……ดูเหมือนปีศาจมากกว่านายอีกนะ」

 

『หุบปากไปเลยโว้ย!』

 

 

 

เมื่อชั้นเปิดเผยความในใจ อิมป์ก็สังเกตเห็นพวกเราและเข้าโจมตี

 

 

 

「เกี๊ยยยยยยยยยยยยย!」

 

「หวาาาาาา!?」

 

 

 

ตามที่แมมมอนเคยอธิบาย ก็ได้พูดถึงเรื่องสติปัญญากับการกระทำของพวกมอนสเตอร์ว่าไม่มีสติปัญญา มันจึงเหมือนกับว่าเข้ามาโจมตีเพราะเห็นคนบุกรุกพื้นที่มันก็แค่นั้นเอง

 

ชั้นเองก็สามารถหลบได้ง่ายๆด้วยการกลิ้งไปรอบๆ

 

 

 

「นะนี่ต้องจัดการหมดนี่เลยจริงดิ!?」

 

 

 

 มองยังไงก็มีมากกว่าสองสามร้อยตัว……。

 

จำนวนที่มันเยอะจนทำให้ชั้นถึงกับเครียด

 

ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

 

 

 

「ชั้นจะเอาชนะพวกมันทั้งหมดโดยไม่ให้พวกมันรอดได้ยังไงฟะ……」

 

「――――『บาเรียสกัดกั้น(封魔結界)』」

 

「เกี๊ย!?」

 

 

 

ครู่ต่อมาก็มีโดมโปร่งแสงขึ้นห่อหุ้มทั่วทั้งโรงงาน

 

ด้วยความตกใจจึงหันไปมองเจ้าของเสียงและเห็นมานะที่ทำสีหน้าเบื่อหน่าย

 

 

 

「เฮ้อ……『สกัดกั้นการรับรู้』」

 

 

 

จากนั้นสิ่งที่ดูเหมือนวงเวทย์ที่มีอักขระที่ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนก็ปรากฏบนพื้นของโรงงานร้าง

 

 

 

「นี่มัน……」

 

『อืม…ก็เป็นเวทย์ที่ใช้สกัดกั้นไม่ให้อิมป์หลบหนีและไม่ให้ผู้คนธรรมดาเห็นเช่นเดียวกัน』

 

「นั่นหมายความว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวใช่ไหม?」

 

『ใช่แล้ว』

 

 

 

ตามกฏแล้วการจะจัดการพวกแฟนตาซีนั้นต้องไม่ให้คนทั่วไปรับรู้

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มานะปฏิบัติตามกฏนั่นอย่างเคร่งครัด

 

 

 

「เอ่อก็ได้อ่านเกี่ยวกับเวทย์สกัดกั้นมาก่อนแต่ไม่เห็นอะไรอย่างม่านพลังเวทย์……」

 

『กรณีที่เป็นแบบนั้น อาจเป็นเพราะเวทมนตร์เฉพาะตัวของแม่สาวน้อยนั่นแหละ』

 

 

 

ตอนที่ชั้นกำลังคุยกับแมมมอน มานะที่สังเกตเห็นชั้นก็ขมวดคิ้ว

 

 

 

「มองหาอะไรมิทราบยะ」

 

「ไม่หรอกก็แค่คิดว่าสุดยอดมาก……」

 

「……ก็ไม่รู้หรอกนะว่าคิดอะไร แต่จะให้นายทำงานคนเดียวมันก็คงจะไม่ไหวละนะ?」

 

「อืม」

 

 

 

ใช่ ชั้นทำคนเดียวไม่ไหวแหงๆ

 

เมื่อมองไปที่อิมป์ด้วยความตื่นตระหนก ก็เห็นว่าพวกมันสับสนกับบาเรียที่ถูกสร้างขึ้น พอมันสงบสติได้ก็เข้ามาโจมตีชั้น

 

 

 

「ชั้นอีกแล้วเรอะ !? ทำไมถึงไม่ไปหามานะละเฟ้ย!」

 

『อาจเป็นเพราะเธอเพิ่งใช้เวทย์ปัดรังควาน(魔除)ไล่มาทางนี้』

 

「เหหหหหหหหห!?」

 

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คือโดนล็อคเป้ามาทางชั้นแบบ 300%

 

ชั้นอยากจะบ่นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆนานา แต่มานะเป็นคนเตรียมการทั้งหมดเลย

 

ถ้าเป็นแบบนี้ไหนบอกว่าทำงานร่วมกัน ชั้นก็รับศึกหนักคนเดียวอะดิ……!

 

เมื่อชั้นเผชิญหน้ากับอิมป์ ชั้นก็เอามือตบพวกมันราวกับตบยุง

 

ในขณะนั้น รู้สึกว่ามีบางอย่างกระแทกเข้ากับมือชั้นอย่างแรง

 

 

 

「คิซ่าซ่าซ่า!?」

 

「ตะตะตะตะตะตตเจ็บโว้ยยยยยยยยยยยย!?」

 

 

 

อย่างไรก็ตามตบตายเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น

 

ฝูงอิมป์ที่เหลือก็เข้าชนที่หน้าชั้นด้วยพลังอันมหาศาล

 

มันไม่ได้เจ็บมากเป็นพิเศษ แต่ความรู้สึกเหมือนจักรยานล้มขณะที่ปั่นเต็มแรง

 

 

 

「หนอยยยยยยย !! คอนโนยาโรรรรรรรรรรร่……」

 

 

 

อิมป์มันกำลังดูถูกชั้นอยู่ แต่เนื่องจากชั้นต้องกำจัดพวกมัน พวกมันนี่เหมือนกับแมลงวันไม่มีผิด

 

เมื่ออิมป์แยกตัวกันเป็นกลุ่มๆ ชั้นก็มองไปที่มือตัวเองเพื่อตรวจสอบความรู้สึกก่อนหน้านี้ และพบว่าเต็มไปด้วยของเหลวสีเขียว

 

 

 

「นี่มันอะไร!?」

 

『ก็เลือดพวกมันไง』

 

「โว้ยยยยย…….ขยะแขยงสุดๆ!」

 

『ช่างมันเหอะ รอบต่อไปจะมาแล้วนะ』

 

「จ๊ากกกกกกกก!?」

 

 

 

ในขณะที่กำลังสะบัดเลือดออกจากมือ ฝูงอิมป์ก็เข้ามาโจมตีอีกครั้ง

 

 

 

「นี่ต้องวนลูปแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหรอ?」

 

『แล้วเวทย์เสริมพลังกายที่เจ้าเรียนมาจะไม่ใช้เรอะ?』

 

「มันไม่มีประโยชน์ที่จะใช้กับศัตรูตัวแค่นี้หรอก」

 

 

 

มันไม่สำคัญว่าศัตรูจะใหญ่หรือมาทีละตัว แต่สิ่งที่กำลังใกล้เข้ามาคือฝูงมอนสเตอร์ขนาดหัวแม่มือ

 

แม้ว่าจะต้องโจมตีมันเป็นกลุ่มในขณะที่ใช้เวทย์เสริมพลังกาย แต่สุดท้ายก็จับมันได้แค่ไม่กี่ตัว

 

 

 

『อย่าลืมไปสิฟะมันคือเวทย์เสริมพลังกายไม่ใช่เหรอไง!? ลองนึกภาพว่าเจ้าปล่อยคลื่น “ฮาโดเค้น” ออกมาจากหมัดตัวเองสิเฟ้ย ทำไม่ได้เรอะ?』

 

「อย่าพูดอะไรไร้สาระแบบนั้นสิ!」

 

 

 

ในท้ายที่สุดชั้นเองก็ยังไม่ได้ยืนยันเลยว่าเวทย์นั่นทำอะไรได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่าชั้นจะไม่สามารถทำตามแมมมอนพูดได้

 

อาจเป็นไปได้ที่จะต่อยเหล็กจนบุบได้ แต่การปล่อยคลื่นพลังจากหมัดเนี่ยนะ เหนือสิ่งอื่งใดการจะทำแบบนั้นได้ต้องเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจเสียง เพื่อสร้างคลื่นพลัง

 

 

 

「เออลองดูก็ได้ฟะ เพื่อเงินเดือนและหน้าที่การงาน จะลุยละเฟ้ย!」

 

 

 

แม้ว่าจะสิ้นหวังขนาดไหน แต่ชั้นก็ไล่ตบอิมป์อีกครั้ง

 

 

 

「ฮะ ฮะ ฮิ โย๊ซ ฮ่าาาาาาาาา!」

 

『หยุดตะโกนโง่ๆแบบนั้นไม่ได้เหรอไงฟ้า อายเขา』

 

「มันดูโง่ตรงไหนฟะ นี่คือการเบ่งพลังเลยนะเฟ้ย!」

 

 

 

ชั้นเอาจริงนะ

 

ถึงจะโบกมือไปมาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เนื่องจากมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง มันก็ต้องมีซาวน์เอฟเฟคประกอบไหม

 

อีกอย่างพูดได้ว่าสภาพมือตอนนี้นี่เหนียวสุดๆ

 

ขณะที่ต่อสู้กับอิมป์ไปเรื่อยๆ มานะก็เรียกชั้น

 

 

 

「นี่」

 

「ว่าไง!?」

 

 

 

ในขณะที่ไล่จัดการอิมป์อย่างสิ้นหวัง มานะก็ยิงคำถามใส่ชั้น แต่ว่าชั้นไม่ได้ยิน

 

อย่างไรก็ตามมานะไม่สนใจและพูดต่อ

 

 

 

「ทำไมถึงได้ทำพันธสัญญากับจอมมารงั้นเหรอ?」

 

「ทำไมงั้นเหรอ……….ชั้นเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นแต่โดนบังคับ!」

 

『ตรูเองก็เหมือนกันแหละ!』

 

 

 

สิ่งเดียวที่ต้องการคือการหาเงินให้พวกสึกิโกะและโยจิใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

แล้วก็ต้องมาพัวพันกับอะไรแบบนี้ คิดย้อนกลับไปก็โกรธสุดๆ

 

 

 

「จู่ๆก็โดนคนแปลกหน้าไล่โจมตี ไร้หตุผลสิ้นดี ! จากนั้นก็พล่ามอะไรไม่รู้โดยที่ชั้นไม่เข้าใจเลยสักนิด เช่น ส่งจอมมารมาให้พวกข้าซะ! แต่ว่าชั้นไม่รู้หรอกว่าเหรียญที่เป็นของดูต่างหน้าจากแม่ชั้นผนึกแมมมอนเอาไว้……!」

 

 

 

จากนั้นก็ระเบิดความแค้นส่วนตัวใส่อิมป์

 

 

 

「ชั้นเองก็ไม่ได้เต็มใจจะเข้าสู่โลกเบื้องหลังนี่หรอกนะ แต่สุดท้ายก็เป็นเจ้านายของจอมมารเสียแล้ว! เพราะงั้นไม่มีทางเลือกชั้นเลยก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินให้พวกน้องๆ!」

 

 

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของชั้น ชั้นเองก็ไม่รู้

 

ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะมีอยู่จริง แต่ถ้ามีพระเจ้าที่ให้ชะตากรรมเช่นนี้กับชั้น ก็อยากจะไปซัดหน้าแม่มสักที

 

 

 

「……นายสูญเสียแม่ไปงั้นเหรอ? แล้วพ่อนายล่ะ?」

 

「อะไร !? เธอกล้าดียังไงมาถามเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้หะ」

 

 

 

ปกติจะไม่มีใครกล้าถามอะไรแบบนี้

 

แต่ว่าช่างมันเถอะ ชั้นไม่สนใจหรอก

 

 

 

「ชั้นเสียแม่ไปเมื่อตอนที่ชั้นยังเด็ก พ่อของชั้นๆไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง」

 

「!」

 

 

 

มานะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเรื่องราวของชั้นย

 

 

 

「นั่นเป็นเหตุผลที่ชั้นต้องคอยเลี้ยงดูสึกิโกะกับโยจิ พี่น้องฝาแฝดของชั้น」

 

「นั่นสินะ……」

 

 

 

หมายความว่ายังไง

 

หากมีเวลามาตั้งคำถามอะไรแบบนี้ มาช่วยกันดีกว่าไหม

 

ยังไงก็ตามหลังจากที่เธอถามแบบนั้น เธอก็เงียบไป

 

 ――――ในขณะที่พูดคุย ก็จัดการอิมป์ไปหลายตัว คิดว่าน่าจะจัดการได้กว่า 100 ตัวแล้ว

 

 

 

「เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆๆ!」

 

「อะไรฟะ!?」

 

 

 

ทันใดนั้นพวกอิมป์ก็หัวเราะและเริ่มถอยห่างจากชั้น

 

ขณะที่ตกใจกับพฤติกรรมแปลกๆ บางอย่างที่เหมือนออร่าสีแดงก็ปกคลุมอิมป์

 

 

 

「เกิดอะไรขึ้น……」

 

『มันกำลังโกรธสุดๆไงล่ะ』

 

「หมายความว่าไง?」

 

『หมายความว่าพวกมอนสเตอร์จะเข้าสู่สถานะคลั่ง หากเกิดความเสียเปรียบแก่ตนเอง การโจมตีจะหนักหน่วงกว่าเดิม』

 

 

 

หลังจากได้ยินคำอธิบายของแมมมอนก็เข้าใจเรื่องราว

 

 

 

「แม้ว่าจะบอกว่าการโจมตีรุนแรงขึ้น แต่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่」

 

 

 

ตอนนี้ชั้นเองยังไม่ได้รับดาเมจรุนแรงอะไร

 

ชั้นเองก็โดนมันโจมตีอยู่หลายครั้ง แต่ว่าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแต่มีความรู้สึกแปลกๆ

 

ขณะที่ชั้นกำลังเช็ดคราบเลือดของอิมป์ พวกมันก็เข้าโจมตีทันที

 

พวกอิมป์พุ่งเข้ามาเร็วกว่าเมื่อก่อน แต่ชั้นจะจัดการพวกมันไม่ว่ากี่ครั้งก็ตาม!

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกก!?」

 

 

 

อย่างไรก็ตามการโจมตีของชั้นไม่ได้ผล

 

อิมป์ที่อยู่ด้านหน้าแม้จะโดนชั้นตบไป แต่มือของชั้นก็โดนดีดกลับแทน

 

ขณะที่ตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า พวกมันก็เข้าโจมตีใส่หน้าชั้น

 

 

 

「อั่ก!?」

 

 

 

ฝูงอิมป์ที่ผ่านไปราวกับแมลงวันจนถึงตอนนี้ รู้สึกว่ามันจะโจมตีกันเป็นกลุ่มขึ้น

 

ตัวชั้นที่โดนโจมตีจังๆเป็นครั้งแรก ก็กำลังตกใจและมันก็ฉวยโอกาสพุ่งเข้าใส่ท้องชั้น

 

 

 

「ฮะฮะฮะ……….โอ้ววววววว!?」

 

 

 

ร่างกายของชั้นปลิวด้วยเแรงอันมหาศาลของพวกอิมป์

 

โชคดีที่ใช้เวทย์เสริมพลังกาย ดังนั้นเลยไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

 

 

 

「เกิดบ้าอะไรขึ้น!?」

 

『นี่แหละเป็นเวลาที่พวกมอนสเตอร์คลั่ง จะสามารถโจมตีด้วยความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน』

 

「เอ่อแสดงว่าเป็นความผิดของชั้นเองสินะที่ปล่อยให้มันคลั่งแบบนี้」

 

 

 

สักพักก็เกือบจะบ่นแมมมอน แต่พอมาคิดดูแล้วมันก็คือความผิดของชั้นเอง

 

ไม่ว่าจะมองยังไงพวกมันก็แข็งแกร่งขึ้นผิดปกติ แต่ชั้นก็ดันคิดโง่ๆเผชิญหน้าโดยไม่ได้รับความเสียหายก็ตาม

 

 

 

「การโจมตีที่ทำมาถึงตอนนี้ไม่ได้ผลแล้ว ชั้นควรจะทำยังไงดี?」

 

『ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องใช้เวทย์เสริมพลังกายขั้นสุดแล้ว』

 

「อ่า นั่นสินะ จะมาออมมืออีกไม่ได้แล้ว ตอนนี้สภาพมันเหมือนกับคนตัวใหญ่ๆคนหนึ่ง เราอาจจะจัดการมันได้……」

 

 

 

เฮ้อ…ก็ได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องเวทย์และกฏปฏิบัติมามากมาย แต่ชั้นก็ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมอนสเตอร์และปีศาจอย่างท่องแท้ ถ้าชั้นอ่านให้มันเยอะกว่านี้ก็คงไม่เจอแบบนี้

 

ด้วยเหตุนี้ ชั้นจึงพยายามใช้เวทย์เสริมพลังกาย

 

 

 

「เฮ้อ…..นานเกินไปแล้ว」

 

 

 

มานะที่เฝ้าดูอย่างเงียบๆ จนถึงตอนนี้ จู่ๆก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

 

 

「คิดจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนในการจัดการฝูงปลาสิวปลาสร้อยแบบนี้? นายเป็นเจ้านายของจอมมารจริงๆเหรอ? เหนือสิ่งอื่นใด จอมมารแมมมอนเองก็อ่อนแอไม่แพ้กัน」

 

『อะไรของยัยนี่เนี่ย!』

 

 

 

จนถึงตอนนี้มานะล้อเลียนชั้น แต่ตอนนี้เธอเล่นกับแมมมอนด้วย

 

น่าเสียดายที่แมมมอนอยู่ในร่างชั้น ก็กำลังโกรธเช่นกัน

 

โดยไม่สนใจแมมมอนที่โกรธจัด มานะมองไปที่กลุ่มอิมป์

 

 

 

「――――『วายุลมกรด(風刃旋)』」

 

 

 

มานะลดคำร่ายและปล่อยเวทย์ออกไป

 

ครู่ต่อมาพายุทอร์นาโดก็ปรากฏขึ้นปกคลุมกลุ่มอิมป์

 

 และ……。

 

 

 

「เกี๊ยกกกกกกกกกกกกกกกกก!?」

 

 

 

มันไม่ใช่ทอร์นาโดธรรมดา แต่เป็นทอร์นาโดที่เต็มไปด้วยคมดาบวายุ

 

คมดาบวายุโจมตีอิมป์จากทุกทิศทาง

 

ผลก็คือพวกมันถูกตัดเป็นชิ้นๆ และของเหลวสีเขียวก็พุ่งออกมาจนทอร์นาโดกลายเป็นสีเขียว

 

ขณะที่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ในที่สุดเวทย์ก็ยกระดับขึ้น

 

ในเวลาเดียวกัน เนื้อของพวกอิมป์ก็ถูกบดละเอียด

 

ขณะที่จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ มานะก็อ้าปากด้วยความตกใจเช่นกัน

 

 

 

「ได้ยินว่าอยากขึ้นเงินเดือนสินะคะ แต่ถ้าใช้เวลามากขนาดนี้ในการจัดการพวกปลาซิวปลาสร้อย ชาติหน้าเงินเดือนก็ไม่อัพหรอกค่ะ」

 

「หนอยยยยยยยยยยยย!?」

 

 

 

ก็รู้ตัวอยู่แหละ แต่มาซ้ำเติมกันอีกแล้ว

 

 เพราะงั้น……。

 

 

 

「……ก็นะแต่ว่านายก็ทำได้ดีในฐานะคนที่ไร้พลังเวทย์ ดังนั้นดิฉันจะช่วยสักหน่อยก็ได้ค่ะ」

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ คำพูดของเธอดูรุนแรงน้อยกว่าเดิม

 

ชั้นที่ตกใจกับท่าทีของมานะที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มานะก็มองมาที่ชั้น

 

 

 

「อะไรกัน มีเรื่องจะบ่นหรือไง?」

 

「ไม่มีอะไรหรอก ขอบใจนะที่ช่วย……」

 

「เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ อย่างไรก็ตาม ก็ทำคำขอเสร็จแล้วเพราะงั้นดิฉันจะกลับบ้านแล้วค่ะ」

 

 

 

อะไรกันล่ะเนี่ย เฮะ……。

 

ก็ยังดีกว่าโดนเมินไปตลอดแหละ

 

นั่นคือตอนที่พวกเราจัดการอิมป์และกำลังจะออกจากที่เกิดเหตุ

 

 

 

「――――เจอตัวสักที」

 

「!」

 

 

 

ชายที่ดูคุ้นเคยยืนอยู่บนชั้นสองของโรงงานร้าง

 

ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่ๆไม่มีใครเลย

 

พวกเราต่างระวังตัว และรอยยิ้มของชายคนนั้นก็ดูโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น

 

หมอนี่เป็นใคร ? หมายถึงมันมาจากไหน

 

 ด้วยเครื่องหมายคำถามที่เต็มหัว ชายคนนั้นขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย……。

 

 

 

「เอาล่ะ……ถึงเวลาเก็บวัตถุดิบ」

 

 

 

 ……ครู่ต่อมาโรงงานร้างก็ถูกปกคลุมด้วยกำแพงเพลิง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด