[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) 23

Now you are reading [นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) Chapter 23 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 23

「กัดฟันไว้แน่นๆ นะไอ้เวร……!」

 

 

「อย่ามาดูถูกกันไอ้มนุษย์……!」

 

 

 

 

 

 

ชั้นรวมพลังทั้งหมดไว้ที่หมัดและซัดไปทางเอมี่

 

 

เอมี่เองก็ตอบสนองด้วยการสร้างหอกเพลิงขึ้นมาและยิงใส่ชั้น

 

 

 แต่……。

 

 

 

 

 

 

「「ย๊ากกกกกกกกห์!」」

 

 

「กะฮะฮะฮะ!?」

 

 

 

 

 

 

การโจมตีของชั้นถูกหยุดด้วยหอกเพลิง แต่ว่าชั้นมีร่างโคลนอยู่

 

 

ร่างโคลนทั้งสองพุ่งเข้าหาเอมี่ในขณะที่ชั้นรับมือกับหอกเพลิง และทั้งสองก็กระแทกหมัดเข้าที่ลำตัวของเอมี่

 

 

ชั้นมองไปที่เอมี่ที่โดนซัดปลิวว่อนและออกคำสั่งกับร่างโคลนที่เหลือ

 

 

 

 

 

 

「พามานะหนีไปซะ!」

 

 

「ไอโย่!」

 

 

 

 

 

 

ทันทีที่พูดเช่นนั้น ร่างโคลนตัวสุดท้ายก็พามานะหนีไป

 

 

ร่างโคลนนี่มีประโยชน์จริงๆ

 

 

แม้ว่าจะไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ก็ทำตามคำสั่งชั้นเป็นอย่างดี

 

 

ในความเป็นจริง สามารถออกคำสั่งได้โดยไม่ต้องพูดออกมาด้วยซ้ำ  

 

 

เพียงแค่ส่งเสียงในสมองก็เข้าใจกันแล้ว นี่นะเหรอก็อบลิน

 

 

ก็อบลินนั้นน่าจะอ่อนแอตามที่แมมมอนบอก แต่ชั้นคิดว่าดูยังไงเจ้านี่ก็แข็งแกร่งเกิน

 

 

น่าเสียดายที่พลังเวทย์ของชั้นนั้นอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเลยแสดงศักยภาพเต็มที่ไม่ได้

 

 

จากนั้นเอมี่ที่โดนซัดปลิวว่อนละติดอยู่ในซากปรักหักพังก็กระโดดออกมาพร้อมกับวังวนแหง่เพลิง

 

 

 

 

 

 

「หน่อยไอ้แมลงน่ารำคาญ…จะแสดงให้เห็นเองว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันเป็นเช่นไร!」

 

 

「!」

 

 

 

 

 

 

จากนั้นเอมี่ก็กางแขนออกและเปลวไฟก็ล้อมรอบตัวเธอ

 

 

เปลวไฟที่กระจายไปทั่วทุกสถานที่เปลี่ยนรูปลักษณ์กลายเป็นปีศาจ

 

 

อย่างไรก็ตามปีศาจตรงหน้าไม่เหมือนอิมป์ ตรงที่มีขนาดพอๆกับผู้ใหญ่

 

 

ขณะที่รู้สึกประหลาดใจกับการมีอยู่ของปีศาจด้านหน้า แมมมอนก็อธิบายอย่างใจเย็น

 

 

 

 

 

 

『นั่นคือปีศาจ』

 

 

「ปีศาจ?」

 

 

『อ่า ต่างจากปีศาจมีชื่อ เป็นทหารไร้นามนั่นแหละ』

 

 

 

 

 

 

ชั้นยังไม่รู้เกี่ยวกับปีศาจมากนัก แต่คนมีชื่อนั้นแข็งแกร่งกว่าทั่วไป

 

 

ชั้นหมายถึงโลกที่ถูกแบ่งออกด้วยบาเรียนี่ ดังนั้นก็เลยทำทุกอย่างที่ต้องการได้ แต่ถ้าเป็นในโลกแห่งความจริงคงจะวุ่นวายน่าดู

 

 

ขณะที่คิดถึงความหายนะ ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นก็เข้ามาโจมตีชั้น

 

 

 

 

 

 

「เกี๊ยกกกกกก!」

 

 

「ก็แค่ลูกกระจ๊อกน่า!」

 

 

 

 

 

 

โชคดีที่พวกนี้ไม่มีสติปัญญามากนัก และเช่นเดียวกับอิมป์ มันแค่รวมตัวกันเป็นกลุ่มโจมตีด้วยกรงเล็บและเขี้ยวของมัน

 

 

ถ้าพวกนี้ดุดันกว่านี้ อาจจะใช้พลังเวทย์ แต่นั่นคงจะลำบาก

 

 

 

 

 

 

「แมมมอน ! ไอ้พวกนี้โผล่มาไม่หยุดเลย!?」

 

 

『ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แม้ว่าจะเป็นปีศาจจากนรกที่ชักนำโดยเอมี่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกกองทัพขนาดใหญ่ออกมาเพราะงั้นสังเกตจาก การบุกแล้วน่าจะมีขีดจำกัด?』

 

 

 

 

 

 

ดังที่แมมมอนพูด หลังจากที่ตัวชั้นทั้งสามคนจัดการพวกปีศาจไปได้ประมาณสิบตัว ก็สังเกตเห็นว่าพวกมันกำลังลดลง

 

 

 

 

 

 

「……เป็นจอมมารช่างจ้อเสียจริง」

 

 

『หะ! ข้าก็แค่พูดความจริง?』

 

 

 

 

 

 

เอมี่หงุดหงิด แต่แมมมอนก็ยั่วยุใส่

 

 

 

 

 

 

「แม้ว่าจะมีขีดจำกัดก็ตาม แต่ความพ่ายแพ้ของแกมันถูกกำหนดไว้แล้ว ! เลบอย!」

 

 

「ไฮโย่!」

 

 

 

 

 

 

ในขณะนั้น เมื่อเอมี่ตะโกนเรียกเลบอย เลบอยก็ยื่นแขนขวาไปหาเอมี่

 

 

จากนั้น บางอย่างเช่นพลังงานโปร่งแสงก็ไหลเข้าสู่ตัวเอมี่

 

 

 

 

 

 

「หุหุหุหุหุ ! พวกเราน่ะมีพลังเวทย์เยอะกว่าที่คิด……!」

 

 

「พวกข้ากำลังสู้กับจอมมารเลยนะเพราะงั้นก็ต้องเตรียมการมาเป็นธรรมดา……!」

 

 

 

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าพลังเวทย์ถูกส่งให้เอมี่โดยตรง และเลบอยที่เสียพลังเวทย์ไปเป็นจำนวนมากก็ล้มลง

 

 

ในเวลาเดียวกันร่างกายของเอมี่ก็ขยายใหญ่

 

 

นอกจากนี้ เมื่อส่วนต่างๆของร่างกายระเบิด เปลวไฟสีน้ำก็ปะทุออกมาจากพวกนั้น

 

 

และในที่สุดปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น

 

 

 

 

 

 

「ตอนนี้ก็พร้อมแล้ว มาเตรียมวัตถุดิบอย่างจอมมารแห่งความโลภไปเสิร์ฟให้นายท่านกันดีกว่า!」

 

 

『เรียกใครว่าวัตถุดิบฟะ ! นี่ คาเนะฮิโตะ จัดการมันเลย!』

 

 

「นี่แกสั่งชั้นเรอะ!」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่สาปแช่งกับคำพูดของแมมมอนชั้นก็รีบเข้าโจมตี

 

 

 

 

 

 

「โอ้ ชิท!」

 

 

「ไอ้โง่ ตายไปด้วยไฟนรกของชั้นซะเถอะ!」

 

 

 

 

 

 

จากนั้นเอมี่ก็หันฝ่ามือใหญ่ๆมาทางชั้น และปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงินออกมา

 

 

พลังและความแข็งแกร่งเทียบกับก่อนหน้านี้ไม่ติด และชั้นพยายามจะจัดการเหมือนเดิมด้วยการต่อยสวนแต่ก็ปลิวซะเอง

 

 

 

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

「หมัดของแกมันไม่ได้ผลอีกแล้ว !  วัตถุดิบน่ะก็ควรอยู่เฉยๆให้ถูกล่าดีกว่านะ」

 

 

「!」

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้เปลวไฟยังปะทุมาล้อมรอบตัวชั้น และอย่างที่หมอนั่นพูด ร่างของชั้นกำลังถูกย่าง

 

 

 

 

 

 

「อะจ๊ากกกกกกกกก!」

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามอยู่เฉยไม่ได้แล้ว

 

 

ชั้นออกคำสั่งกับร่างโคลนและทั้งสองก็เข้าหาเอมี่ด้วยความเร็วสูงสุด

 

 

 

 

 

 

「「ย๊ากกกกกกกกกกห๋!」」

 

 

「หึ่ม ลูกไม้ตื้นๆ!」

 

 

 

 

 

 

ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยม่านเพลิง เอมี่สะบัดมือของเธอและร่างโคลนของชั้นก็ปลิวหายไปด้วยแรงนั้น

 

 

โชคดีที่การโจมตีนั้นไม่ได้ทำลายร่างโคลนของชั้น แต่ความเสียหายก็หนักเอาเรื่อง

 

 

 

 

 

 

「ไอ้เวรเอ้ย……!」

 

 

 

 

 

 

หากทำแบบนี้ต่อไป ชั้นคงโดนย่างเกรียมแน่ๆ คิดเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปรอบๆก่อนที่มันจะเผาร่างชั้น

 

 

เมื่อสามารถหนีออกมาจากที่นั่นได้ ก็ดับไฟด้วยการกลิ้งไปรอบๆ

 

 

 

 

 

 

「ฮึ่ม กลิ่นกำลังดีใช้ได้เลย……แต่ว่าความสดใหม่นั้นคงอยู่ได้ไม่นาน?」

 

 

「แฮ่ก…แฮ่ก……」

 

 

 

 

 

 

อย่างที่เอมี่บอก ชั้นได้รับบาดเจ็บแล้ว

 

 

 ……ไพ่ใบเดียวของชั้นคือร่างโคลนที่มีอยู่กับเวทย์เสริมพลังกาย

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นพลังกายที่ได้รับการเสริมพลังจากการแปลงร่างก็ยังไม่เพียงพอ

 

 

ไพ่ในมือตอนนี้หมดสิ้นแล้ว

 

 

ตรงกันข้ามกับชั้นที่ไพ่หมดมือ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปชั้นได้แพ้แน่ๆ

 

 

 ……มีทางเดียวที่จะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้

 

 

นั่นคือการเพิ่มตัวเสริมพลังกายให้มากยิ่งขึ้น

 

 

เวทย์เสริมพลังกายแบบดั้งเดิมช่วยเพิ่มความสามารถมากกว่าปกติโดยการหมุนเวียนพลังเวทย์ด้วยความเร็วสูง

 

 

และยิ่งไหลเวียนได้เร็วมากเท่าไรพลังก็จะยิ่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะชั้นไม่ได้ลองใช้อย่างจริงๆจังๆ

 

 

อัตราการเสริมพลังมากที่สุดตอนนี้คือสองเท่า แต่ชั้นสามารถทำได้เร็วกว่านั้นอีกไหม…

 

 

 ขณะนั้น――――。

 

 

 

 

 

 

「มันไม่เกี่ยวว่าจะทำได้ไหม ถ้าทำไมได้ก็นอนจมกองเลือดตรงนี้ละโว้ย!」

 

 

 

 

ถ้าทำไม่ได้ก็คือจบ

 

 

ชั้นยังมีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ!

 

 

 

 

 

 

「ถ้าคิดได้แบบนั้นก็ดี…….ชั้นไม่ฆ่าแกที่นี่หรอก หลังจากที่ย่างจนหอมสุกแล้วจะเอาไปให้นายท่านของชั้น」

 

 

「ฝันไปเหอะวะ…….ใครจะไปยอมกันฟะ!」

 

 

「หะ」

 

 

 

 

 

 

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ชั้นยกเศษซากจากกองที่ทำให้อาคารรอบๆแตกกระจายเป็นชิ้นๆขึ้นมาและโยนไปสุดกำลัง

 

 

ชั้นเองก็สั่งร่างโคลนตัวอื่นๆให้ทำแบบเดียวกัน โยนไปพร้อมกัน

 

 

 

 

 

 

「เลียนแบบกันงั้นเรอะ……!?」

 

 

 

 

 

 

ราวกับปัดแมลงวันออกไป เอมี่เผาซากปรักหักพังด้วยเปลวเพลิงสีน้ำเงินอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันพวกเราทั้งสามก็ซ่อนตัวอยู่ในซากเหล่านั้น

 

 

 ……แม้ว่าจะโจมตีด้วยพลังสูงสุดในตอนนี้ ก็ต้องเข้าใกล้ไปในระยะโจมตีก่อน

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องซ่อนตัว

 

 

ดังนั้นจึงเตรียมการอีกครั้งหลังจากซ่อนตัวได้สำเร็จ

 

 

 

 

 

 

「หนีไป หนีมา อย่างกับพวกหนูในท่อเลยนะ จอมมารมีฤทธิ์แค่นี้เองเรอะ!?」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่เอมี่กางแขนออก พายุแห่งเปลวเพลิงสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพัดเอาเศษหินรอบๆไปขณะที่เคลื่อนตัวไปด้านหน้า

 

 

 

 

 

 

「อยากซ่อนก็ซ่อนให้สมใจยาก สิ่งที่ชั้นต้องทำก็คือระเบิดมันให้เป็นจุล!」

 

 

 

 

 

 

ถ้าเป็นแบบนี้ชั้นก็คงแพ้แน่ๆ

 

 

แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นโอกาสด้วย

 

 

ต้องขอบคุณพายุไฟขนาดมหึมาและเศษซากที่ปลิวไปทำในทัศนวิสัยแย่ลง

 

 

และ――――。

 

 

 

 

 

 

「ถึงเวลาเอาคืนล้าาาาาาา!」

 

 

 

 

 

 

เมื่อเขาย่องไปด้านหลังเอมี่ได้ก็ใส่สุดแรงเกิน

 

 

 แต่……。

 

 

 

 

 

 

「คิดว่าการโจมตีอ่อนหัดแบบนั้นจะเอาชนะชั้นได้งั้นเรอะ?」

 

 

「หาาา!?」

 

 

 

 

 

 

ชั้นถูกโจมตีอย่างแรงด้วยหอกในมือขวาและขณะที่ปลิว ตัวชั้นก็หายไป

 

 

 

 

 

 

「หะ หายตัวงั้นเหรอ!」

 

 

「――――อยู่ทางนี้ต่างหากโว้ย!」

 

 

 

 

 

 

ร่างโคลนของชั้นหายไป และคราวนี้ชั้นก็โจมตีจากอีกด้านหนึ่ง

 

 

ทันทีที่เอมี่หันมาทางนี้ ตัวชั้นอีกคนหนึ่งก็กระโดดออกมาจากอีกด้านหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

「หะ!?」

 

 

 

 

 

 

ชั้นเข้าโจมตีจากด้านหน้าและหลังพร้อมกัน

 

 

 

 

 

 

「อย่ามาล้อกันเล่นนะ」

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเอมี่จะดูสั่นกลัวไปชั่วขณะ แต่ก็กลับมาสงบสติได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อจะจัดการกับตัวชั้นที่เข้ามาจากด้านหน้า เธอจึงแทงหอกในมือขวาลงพื้นและมีบางอย่างเหมือนโซ่แห่งเปลวเพลิงปรากฏจากพื้นดิน สิ่งนั้นปรากฏตัวขึ้นและรั้งขาของชั้นไว้

 

 

 

 

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกก!」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ชั้นกำลังเข้าจากด้านหลัง ก็โดนปีกเพลิงขนาดมหึมาซัดปลิวและชนกับอาคารใกล้เคียง

 

 

 

 

 

 

「หา? นี่ก็ร่างแยกอีกงั้นเหรอ」

 

 

 

 

 

 

จากนั้นเนื่องจากโดนโซ่แห้งเพลิงคุมตัวไว้ แขนขาจึงถูกเผาขณะเข้าโจมตีที่ด้านหน้า และในที่สุดร่างโคลนของชั้นก็หายไป

 

 

เอมี่ที่เห็นภาพตรงหน้าก็คว้าตัวชั้นที่ปลิวกระเด็นทางด้านหลังและพยุงชั้นที่ลุกไม่ได้ขึ้นมา

 

 

 

 

 

 

「อึก……」

 

 

「จบแล้วสินะ」

 

 

 

 

 

 

ชั้นพยายามดิ้นรนจากโซ่ตรวนที่เผาร่าง แต่เปลวไฟก็กัดกินร่างไปเรื่อยๆ

 

 

เอมี่ยิ้มอย่างทารุณเมื่อเห็นชั้นดิ้นรนอย่างยากลำบาก

 

 

 

 

 

 

「ฮะฮะฮะ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวแบบนั้น เยี่ยมมาก ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งดูน่าอร่อยเข้าไปอีก?」

 

 

 

 

 

 

ดูเหมือนว่าชั้นเองก็เป็นวัตถุดิบเช่นกัน

 

 

ขณะที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ที่ข้อเท้า เลบอยก็เข้ามาใกล้ๆ

 

 

 

 

 

 

「อ่า ในที่สุดก็จบแล้วเหรอ」

 

 

「อืม ตอนนี้ หากพาเจ้านี่ไปก็จะได้แพ็คคู่เลยล่ะ」

 

 

「หนอย……!」

 

 

 

 

 

 

รอยยิ้มของเอมี่นั้นโหดเหี้ยมขณะที่ชั้นยังไม่ยอมแพ้

 

 

 

 

 

 

「แหม สายตาสิ้นหวังแบบนั้น คิดจะทำอะไร? จอมมารแห่งความโลภและแกจะต้องตาย แม้จะเป็นจอมมารแต่จุดจบกลับเรียบง่ายเหลือเกินนะ……」

 

 

 

 

 

 

เอมี่ยั่วแมมมอนด้วยสีหน้าดีใจ

 

 

อย่างไรก็ตามแมมมอนนิ่งเฉย

 

 

นั่นทำให้เอมี่โกรธ

 

 

 

 

 

 

「……ยังพยายามทำตัวเข้มแข็งอีกเรอะ? ข่างโง่เขลา――――」

 

 

「――――แกนั่นแหละที่โง่」

 

 

「หะ?」

 

 

「หมายความว่าไง!?」

 

 

 

 

 

 

ตัวชั้นอีกคนหนึ่งใช้โอกาสที่เอมี่พูดเหน็บแหนมเข้าไปด้านหลังเลบอย

 

 

จริงๆแล้ว ตอนที่เอมี่จัดชุดใหญ่ ทำให้ชั้นนึกถึงตัวชั้นอีกคนที่อยู่กับมานะ

 

 

พูดตามตรงมันเสี่ยงมากที่ทิ้งมานะไว้ด้านหลัง แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รอดแน่

 

 

เพราะแบบนั้นหลังจากพามานะไปที่ปลอดภัย ก็เรียกให้กลับมาสบทบและตั้งเป้ารอช่วงเวลานี้

 

 

หากตัวชั้นคนอื่นๆโดนจัดการไปจนหมด ก็น่าจะหลอกได้ว่าไม่เหลือตัวชั้นอีกคนแล้ว

 

 

มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่เหลือตัวชั้นอีกคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย

 

 

 และ――――。

 

 

 

 

 

 

「เฮ้ย…..กัดฟันไว้แน่นๆละไอ้เวร!」

 

 

「เฮ้ย หยุดนะ――――」

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกก!」

 

 

「หึหึหึหึหึหึหึ!?」

 

 

 

 

 

 

เมื่อหมัดของชั้นซัดเข้าไปที่หน้าของเลบอย ตัวหมอนั่นก็บินไปด้วยแรงอันมหาศาลจนควงสว่านทะลุไปหลายหลัง

 

 

ใช่แล้วเป้าหมายของชั้นคือเลบอย

 

 

เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะเอมี่

 

 

อย่างไรก็ตาม แมมมอนบอกชั้นว่า ถ้าเจ้านายถูกจัดการ ข้ารับใช้เองก็ถูกจัดการไปด้วย

 

 

 

 

 

 

「ฮึก งี่เง่าน่า ห๊ะ!? พลังของชั้น……!」

 

 

 

 

 

 

จริงๆแล้วรูปลักษณ์ของเอมี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก อาจเนื่องจากความเสียหายที่เลบอยได้รับ

 

 

โหมดปีศาจสีน้ำเงินที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ ก็กลับสู่ร่างปกติ

 

 

แต่ว่ายังจัดการไม่ได้……!

 

 

 

 

 

 

「อึ…….อ๊ากกกกก……」

 

 

 

 

 

 

เลบอยส่งเสียงครวญคราง แต่ว่ายังได้สติอยู่

 

 

 ถ้างั้นจะทำให้จบเดี๋ยวนี้!

 

 

ตัวชั้นอีกคนหนึ่งพยายามเข้าไปซัดเลบอยอย่างเต็มที่

 

 

 

 

 

 

「ม่ายยยยยยยยยยยยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

 

 

 

จากนั้นเอมี่ก็ทิ้งชั้นไว้และไล่ตามตัวชั้นอีกคนไปด้วยพลังมหาศาล

 

 

เอมี่ใจร้อนเกินไปจนปล่อยพันธนาการออกจากชั้น แต่ชั้นเองก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป

 

 

เมื่อเอมี่ไล่ตามตัวชั้นอีกคน เธอก็ทำลายมันทิ้ง แต่ชั้นเองก็เข้าใกล้เลบอยได้แล้ว

 

 

 

 

 

 

「หะ !!! ยังขยับได้อีกงั้นเรอะ!?」

 

 

 

 

 

 

เอมี่ที่เห็นชั้นก็รีบเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว แต่ชั้นยังไม่ยอมแพ้ที่จะกำจัดเลบอย

 

 

ใครจะชนะ มันเป็นเกมที่ตัดสินว่าใครจะไปถึงตัวเลบอยก่อน

 

 

ผู้ชนะก็คือ ชั้นคนนี้

 

 

เมื่อเอมี่ตามมาถึงเลบอย แต่ก็ไม่ทันชั้นที่ง้างกำปั้นไว้ซะเต็มที่

 

 

 

 

 

 

「เฮ้ยรอ……!」

 

 

「จะจบแล้วววววววววววววววววววววววว!」

 

 

 

 

 

 

ชั้นซัดหมัดขณะที่ใช้เวทย์เสริมพลังกาย

 

 

แต่――――。

 

 

 

 

 

 

「เอ๊ะ――――」

 

 

 

 

 

 

ทันใดนั้นตัวชั้นก็หมดแรง

 

 

ก่อนที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าการแปลงร่างของชั้นถูกยกเลิก

 

 

ในเวลาเดียวกันที่เคลื่อนไหวได้จนถึงตอนนี้เพราะแปลงร่างอยู่ แต่ชั้นดันกลับร่างเดิม หรืออีกนัยหนึ่งคือสภาพยับเยิน

 

 

 

 

 

 

『เฮ้ย เฮ้ย คาเนะฮิโตะ!?』

 

 

「เอาจริงเหรอวะเนี่ย……」

 

 

 

 

 

 

ตอนแรกที่สู้มาได้ถึงขณะนี้เพราะแปลงร่างอยู่ แต่ตอนนี้พึ่งรู้ตัวว่าการแปลงร่างไม่ได้ช่วยรักษาบาดแผลให้ชั้น  

 

 

นอกจากนี้ ชั้นยังเข้าใจด้วยว่าทำไมการแปลงร่างจึงถูกยกเลิกกะทันหัน

 

 

 

 

 

 

「――――!」

 

 

 

 

 

 

รู้สึกเหมือนกระดูกทั่วทั้งร่างกำลังแหลกสลาย

 

 

นี่คือ ข้อเสียที่เกิดจากเวทย์เสริมพลังกาย

 

 

เดิมทีมันเป็นไปได้แค่ในทางทฤษฏีเท่านั้น ไม่มีใครใช้งานได้

 

 

ชั้นไม่รู้หรอกว่าทำไมชั้นถึงใช้ได้ แต่เนื่องจากไม่มีเอกสารอ้างอิง เลยไม่รู้ผลเสียที่ตามมา

 

 

อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงตามหลักวิชาการวัสดุที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งมากเกินไป จะรับภาระหนักเป็นพิเศษ

 

 

และร่างกายของชั้นรับมันไม่ไหวเพราะใช้การเสริมพลังกายที่ไม่สมเหตุสมผลในการต่อสู้จริง

 

 

ชั้นไม่สามารถคุมตัวเองได้และล้มฟุบไปกับพื้น

 

 

จากนั้นเลบอยที่อยู่ตรงนั้นก็ยิ้มออกมา

 

 

 

 

 

 

「ฮะ.ฮะ ฮะ น่าเสียดายจริงๆ!?」

 

 

「อึก……」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ชั้นจ้องมอง เลบอยก็ลุกขึ้นยืนด้วยฝีเท้าที่สั่นเทาและเตะเข้าที่ท้องของชั้น

 

 

 

 

 

 

「อั่กกกกก……!」

 

 

「แกบังอาจทำให้ข้ากลัว……..!」

 

 

「……ดูเหมือนว่าจะหมดแรงแล้วสินะ」

 

 

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันเอมี่ก็เข้ามาหาชั้นอย่างสบายๆและมองมาด้วยแววตาเย็นชา

 

 

 

 

 

 

「ก็อยากจะสลักตราบาปที่บังอาจทำให้ชั้นต้องทรมานแบบนี้ แต่ชั้นจะไม่ฆ่าแกหรอก」

 

 

「เฮ้อ…ไงก็เหอะการจับกุมจอมมารเสร็จสิ้น」

 

 

『เฮ้ย คาเนะฮิโตะ ! เฮ้ย พยายามหนีเร็วเข้า!』

 

 

 

 

 

 

 พูดอะไรไร้สาระน่า……。

 

 

ชั้นเองก็อยากจะหนีไปเหมือนกัน แต่ขยับไม่ได้เลย

 

 

 

 

 

 

「เอาล่ะ ในที่สุดก็จะนำไปเสิร์ฟให้นายท่านเสียที」

 

 

『คาเนะฮิโตะ! คาเนะฮิโตะ ตั้งสติไว้!』

 

 

 

 

 

 

เสียงของแมมมอนดังก้องในหัวของชั้น

 

 

 ……จนถึงตอนนี้……。

 

 

ไม่มีอะไรที่ชั้นทำได้และกำลังจะยอมแพ้

 

 

 

 

 

 

「!」

 

 

「อะไรวะ!?」

 

 

 

 

 

 

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนกระจกแตกดังก้องไปทั่ว

 

 

 

 

 

 

「――――จะช้าเกินไปแล้วไหม」

 

 

 

 

 

 

จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

 

 

ชั้นพยายามหันไปมองเพื่อดูว่าใครคือต้นตอของเสียงและที่น่าแปลกใจคือประธานนักเรียน รุ่นพี่มิยาบิ เอ็นโนมิยะกำลังยืนอยู่บนท้องฟ้า

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด