[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) 4

Now you are reading [นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) Chapter 4 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

「……อืมมมมมมมม?」

 

 

 

 

 

 

เมื่อชั้นลืมตาตื่นขึ้น เพดานที่ไม่คุ้นเคยก็เข้ามาในทิวทัศน์

 

 

ชั้นจ้องมองไปยังเพดานที่ว่างเปล่า และเมื่อได้สติก็มองไปรอบๆ

 

 

เฟอร์นิเจอร์อื่นๆเรียบง่ายมาก มีเพียงชั้นวาง 1 ชั้น โต๊ะ 1 ตัว และ เก้าอี้ 1 ตัว  

 

 

เห็นได้ชัดว่าถูกบังคับให้นอนในห้องสีขาวแห่งนี้

 

 

และจำสถานที่นี้ไม่ได้เลย

 

 

เมื่อชั้นค่อยๆนั่งลง ความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่างกาย

 

 

 

 

 

 

「อูยยยยยยยยย…อะ……?」

 

 

『รู้สึกตัวแล้วเรอะ』

 

 

「!」

 

 

 

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดนั่นชั้นก็เผลอตอบสนองโดยอัตโนมัติ และหันไปมองต้นทางเสียง

 

 

จากนั้นก็มีตาแก่(คนแคระ)ตัวเขียวยืนอยู่ตรงนั้น ลอยตัวอยู่

 

 

 

 

 

 

「อะ แกกกกกกกกก ! นั่นหมายความว่าไม่ใช่ความฝันงั้นเหรอ……!?」

 

 

『ส่วนข้าก็หวังให้มันเป็นแค่ความฝัน……』

 

 

 

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่ตกตะลึงของชั้น ตาแก่นั่นก็ถอนหายใจออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

 

 ……เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์นั้นคือเรื่องจริง

 

 

ดังนั้นชายลึกลับและคนหัวหมูได้เข้ามาโจมตีจริงๆ และความจริงที่ว่าสามารถนอนที่นี่ได้โดยไม่โดนคุมตัว ก็คือสามารถรอดมาได้

 

 

อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าหนีมาได้ยังไงและไม่รู้ด้วยว่าที่นี่คือที่ไหน

 

 

อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ที่สามารถหนีออกมาได้ ที่นี่อาจเป็นรังของศัตรู

 

 

ขณะที่มองไปรอบๆและคิดถึงเรื่องนั้น ตาแก่ก็ถอนหายใจ

 

 

 

 

 

 

『น่าเสียดายจริงๆ…ถ้าเจ้ามีพลังเวทย์มากกว่านี้ ข้าก็คงจะทำอะไรได้มากกว่านี้…ทำไมถึงได้ทำพันธสัญญาวิญญาณกับข้ากันนะ……』

 

 

「กำลังพูดเรื่องอะไร….ตาแก่ทำไมร่างกายถึงโปร่งใสแบบนั้น……?」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่มองไปทางตาแก่ที่พูดอะไรบางอย่าง ชั้นก็ยังคงไม่เข้าใจ แต่สังเกตเห็นได้ว่า ตาแก่รูปลักษณ์เปลี่ยนไป

 

 

เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น ตาแก่ก็ตะโกนใส่ชั้น

 

 

 

 

 

 

『คิดว่าเป็นความผิดของใครฟะ ! เนื่องจากพลังเวทย์เจ้ามันห่วยแตกไม่เอาอ่าวแบบนี้ แม้แต่พลังเวทย์ที่ใช้ในการคงร่างของข้ายังไม่มีเลย!?』

 

 

「พล่ามบ้าอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ! แล้วแกเป็นตัวอะไรกันแน่!」

 

 

 

 

 

 

ตอนแรกก็โดนโจมตีเพราะเหตุผลอะไรไม่รู้

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นยังเห็นคนแคระบินได้นี่ด้วย ? นี่ประสาทหลอนเพราะทำงานหนักเกินไปเหรอ

 

 

 

 

 

 

『อืม ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องราวกับเขาเลยสินะ ย่อมได้ข้าจะเล่าให้ฟัง……』

 

 

 

 

 

 

เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้น ตาแก่เลยตัดสินใจเล่าเรื่องราว

 

 

 

 

 

 

『――――ข้าคือแมมมอน จอมมารแห่งความโลภ!』

 

 

 

 

 

 

จากนั้นก็หันมาทางชั้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

 

เมื่อได้ยินชื่อนั้น ชั้นก็อดหัวเราะไม่ได้

 

 

 

 

 

 

「จอมมารแห่งความโลภ? โอ้ย จะรั่ว ! เนี่ยนะจอมมารแห่งความโลภผู้ยิ่งใหญ่ ! ตัวเล็กเหมือนโนมไม่มีผิด」

 

 

『ว่าไงนะ !? เจ้าเป็นใครถึงกล้าพูดแบบนั้น!』

 

 

「โยคุโนมะ คาเนะฮิโตะ」

 

 

『คาเนะฮิโตะ ? อืมเป็นชื่อที่หรูหราดูไม่เหมาะกับเจ้าเลยนะ……』

 

 

「แกนั่นแหละโว้ย!」

 

 

『หะ จะเอาเหรอวะ ไอ้หนุ่ม!』

 

 

「『หนอยยยยยยยยยยยยยยย……』」

 

 

 

 

 

 

พวกเราต่างชนหน้ากันด้วยความโกรธ แต่ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจออกมาทั้งคู่

 

 

จากนั้นแมมมอนที่คิดอะไรอยู่ ก็พูดออกมา

 

 

 

 

 

 

『โยคุโนมะ….แกเกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ……?』

 

 

「หะ?」

 

 

『……เปล่า ไม่มีอะไร』

 

 

 

 

 

 

 นี่มันอะไรกันเนี่ย……。

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเจ้านี่เป็นจอมมารแห่งความโลภจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ชั้นถูกโจมตี

 

 

 

 

 

 

「แกเป็นอะไรกันแน่!? แล้วทำไมถึงไปอยู่ในเหรียญของแม่ชั้นได้……」

 

 

『ถ้าเจ้าว่ามาเช่นนั้น แม้แต่ข้า ข้าเองก็ไม่มีทางเลือกถูกบังคับทำสัญญากับพวกยาจนเช่นเจ้า……』

 

 

 

 

 

 

รู้สึกโกรธสุดๆแต่ก็เถียงกลับไปไม่ได้เช่นกัน

 

 

ปลดปล่อยความโกรธ ให้ความอยากรู้มาแทนที่

 

 

 

 

 

 

「……ชั้นไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง ไม่อยากจะเชื่อด้วยว่ามีตัวตนแบบแกอยู่ และเกี่ยวกับพันธสัญญาวิญญาณมันคืออะไร……」

 

 

『เฮ้อ…นี่เจ้าไม่รู้สิ่งใดจริงๆรึเนี่ย ในกรณีนี้ข้าจะเล่าให้ฟังก็ได้ เดิมทีแกต้องจ่ายให้ข้าด้วยนะ?』

 

 

 

 

 

 

แมมมอนเริ่มอธิบายด้วยสีหน้าหงุดหงิด

 

 

 

 

 

 

『อย่างที่เจ้าเห็น ข้าเป็นปีศาจ』

 

 

「……งั้นเหรอ?」

 

 

『เออสิวะ!』

 

 

 

 

 

 

 ไม่ แม้ว่าจะพูดแบบนั้นก็เหอะ……。

 

 

บอกตามตรงก็ไม่เคยเห็นอะไรตัวกระจิ๋วแบบนี้หรอกนะ แต่ว่าปีศาจเรอะ มีอยู่จริงๆเร้อ

 

 

เมื่อพูดถึงรูปปั้นปีศาจ มันดูเหมือนพวกที่มีปีกค้างคาวและตัวเป็นสีดำ ไม่คิดว่าไอ้ตัวเขียวๆตรงหน้าจะเป็นปีศาจหรอกนะ

 

 

 

 

 

 

「ก่อนอื่น ปีศาจมีอยู่จริงงั้นเหรอ……?」

 

 

『มันก็อยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอไง』

 

 

「เอ่อ ก็ถูกแหะ……」

 

 

『……นี่เจ้าใช้ชีวิตโดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของพวกข้าเลยงั้นรึ』

 

 

 

 

 

 

แมมมอนถอนหายใจขณะทำหน้าจริงจัง

 

 

 

 

 

 

『จะไหวไหมเนี่ย ? มนุษย์ไม่ใช่ชนเผ่าเดียวที่อยู่ในโลกนี้นะ มีสิ่งมีชีวิตหลายประเภท ตั้งแต่ปีศาจระดับสูงและพวกสัตว์ประหลาด เทพธิดา แม้กระทั่งพระเจ้าด้วยนะ』

 

 

「หะ พระเจ้า เอาจริงดิ?」

 

 

 

 

 

 

ณ จุดนี้ ยอมรับได้เลยว่าปีศาจและสัตว์ประหลาดมีอยู่จริง

 

 

อันที่จริงแมมมอนตรงหน้าก็คือเครื่องพิสูจน์ และก็ถูกมนุษย์หัวหมูโจมตีด้วย แต่ถ้าบอกว่าเป็นสัตว์ประหลาดก็พอเข้าใจได้

 

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงพระเจ้ามันคนละโยชน์เลยนะ

 

 

หากมีพระเจ้าอยู่จริง ทุกสิ่งที่จะนำพาหายนะมาจะอะไรก็เป็นไปได้หมดแล้ว

 

 

นั่นคือสิ่งที่สร้างโลกและนำมนุษย์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

 

 

ท้ายที่สุดแล้ว เทพกับปีศาจก็ทะเลาะกันอยู่แล้ว และแนวคิดเรื่องปีศาจก็ไม่มีทางลบออกไปได้

 

 

จากนั้น แมมมอนที่ดูจะเห็นชั้นครุ่นคิดก็พูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

『ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ พระเจ้าไม่ได้รอบรู้และมีอำนาจเหนือใครหรอกนะ』

 

 

「งั้นเหรอ?」

 

 

『แค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? หากมีสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์เพรียบพร้อมขนาดนั้น ต้องลงทุนสร้างโลกและสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ขึ้นมาบนโลกด้วยเหรอไง ถ้าพระเจ้าสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างก็ต้องเป็นเหมือนกัน ไม่งั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะมีความแตกต่างไปทำไม นั่นเป็นสิ่งที่มนุษย์จินตนาการไปเองว่าพระเจ้าทำได้ทุกอย่าง….แต่ถ้าพูดในแง่ของพลังมันก็ใช่』

 

 

「อืม เข้าใจแล้ว……」

 

 

『ไม่ว่ายังไง เจ้าจะคิดแบบไหน โลกใบนี้ก็มีตัวตนแบบข้าอยู่ และพันธสัญญาวิญญาณก็คือสัญญาประเภทหนึ่งที่มนุษย์สามารถทำกับพวกข้าได้』

 

 

「แต่ชั้นจำไม่ได้เลยนะว่าเคยทำสัญญากับแก?」

 

 

 

 

 

 

เป็นความจริงที่ว่าในเวลานั้นชั้นพยายามจะเอาชีวิตรอดและแมมมอนก็ปรากฏตัว แถมยังให้ชั้นจ่ายเงินอีก แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร พันธสัญญาวิญญาณก็เสร็จสิ้นไปแล้ว

 

 

จากนั้น แมมมอนก็บ่นด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

 

 

 

『แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ไม่รู้เรอะ !! ข้าเองก็โดนทำพันธสัญญาโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ทั้งๆที่ข้าไม่อยากทำด้วยซ้ำ!』

 

 

「……ชั้นเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละ แต่พันธสัญญานี่ไม่ว่ายังไงแกก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบนี่?」

 

 

『หะ!? ก็ใช่อะดิ!?』

 

 

 

 

 

 

ดูเหมือนคำถามของชั้นจะกวนใจเขา เขาเลยหันหน้ามาหาชั้น

 

 

 

 

 

 

『เพราะพันธสัญญาวิญญาณทำให้ข้าต้องปกป้องเจ้า ถ้าเจ้าตาย ข้าก็ตาย เพราะงั้นข้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเจ้าเข้าใจรึเปล่า !? รู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง !? มันก็เหมือนบอกเป็นนัยๆให้ข้าทำงานให้เจ้าฟรีๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ข้าเกลียดที่สุด งานที่ไม่ได้เงิน จะทำไปทำไมฟะ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นข้าที่มีแต่เสียกับเสีย!』

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ก่อนที่จะหมดสติไป ชีวิตของชั้นกับแมมมอนนั้นเชื่อมต่อกัน

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากชั้นตายแมมมอนก็ตายตาม ดังนั้นเลยช่วยชั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

 

 

 

 

『ทำไมข้า จอมมารแห่งความโลภ ถึงมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้……!』

 

 

「ทางนี้ต่างหากที่ต้องบ่น ก่อนอื่นแกเป็นจอมมารแห่งความโลภเพราะงั้นชั้นก็เลยโดนหมายหัวไปด้วยเลยไม่ใช่รึไง !? แล้วทำไมต้องเป็นชั้นด้วยฟะ? ชั้นไปทำเวรทำกรรมอะไรรึไง」

 

 

 

 

 

 

เมื่อชั้นถามออกไปแบบนั้น แมมมอนก็แสดงสีหน้าขมขื่น

 

 

 

 

 

 

『……ข้าทำอะไรไม่ได้ใช่ไหม』

 

 

「หา พูดให้เคลียร์หน่อย」

 

 

『เนื่องจากข้าเป็นจอมมาร จึงมีคนที่แสวงหาพลังและความสามารถนั่น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม คนที่ผนึกจอมมารเอาไว้ ดูเหมือนเหยื่ออันโอชะ』

 

 

「ฮะ จะมีสักกี่คนฟะที่อยากได้จอมมารเนี่ย?」

 

 

『……เข้าใจแล้ว………ต้องอธิบายตั้งแต่ บาป 7 ประการเลยสินะ เจ้ารู้จักรึเปล่า?』

 

 

「อ่า ก็เคยได้ยินมาบ้าง……」

 

 

『บาปทั้ง 7 ประการ ได้แก่ อัตตา(傲慢) โทสะ(憤怒) ริษยา(嫉妬) ตะกละ(暴食) ราคะ(色欲) เกียจคร้าน(怠惰)และ โลภะ(強欲) และมารที่คุมบาปมหันต์แต่ละประการจะถูกเรียกว่าจอมมาร ในหม่พวกนั้น ข้ามีหน้าที่ควบคุมความโลภ』

 

 

 

 

 

 

แมมมอนที่ดูละโมบโลภมาก แต่ตอนนี้อยู่ในสภาพสิ้นหัวง

 

 

 

 

 

 

『จอมมารคนอื่นๆ ต่างต่อสู้เพื่อย่งชิงอำนาจและอาณาเขต ดังนั้นพวกนั้นจึงต้องการพลังในการต่อสู้ ในทางกลับกัน แม้ว่าข้าจะเป็นจอมมาร แต่ข้าไม่สนในอำนาจและดินแดน นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าพวกนั้นถึงหมายหัวตามหาพลังของข้ากับให้ควักไงล่ะ』

 

 

「ความรำคาญอะเหรอ……」

 

 

『ใช่ก็บ้าละเห้ย』

 

 

 

 

 

 

 กล่าวอีกนัยหนึ่งหมอนี่ถูกหมายหัวเพราะความแข็งแกร่ง……。

 

 

ไม่อยากจะพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่เนื่องจากเป็นของดูต่างหน้า ทำไมถึงได้ให้อะไรชั้นแบบนี้

 

 

ชั้นไม่เข้าใจ อยู่ดีๆจู่ๆก็มีคนเรียกตัวเองว่าจอมมารหรือพระเจ้า จะให้ชั้นทำยังไง……。

 

 

ขณะที่เอามือกุมหัว ประตูห้องก็เปิดออกมา

 

 

 

 

 

 

「――――ตื่นแล้วเหรอ?」

 

 

「!?」

 

 

 

 

 

 

 ชั้นรีบหันไปมองหาเจ้าของเสียงด้วยความระมัดระวัง……。

 

 

 

 

 

 

「เอ่อ รุ่นพี่คามิยะชิกิ……?」

 

 

 

 

 

 

ที่นั่น รองประธานโรงเรียนของชั้น คามิยะชิกิ เรกะ ยืนอยู่หน้าห้อง

 

 

ป.ล.ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ล่วงหน้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด