[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) 6

Now you are reading [นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) Chapter 6 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 6

 

 

ชั้นเบิกตากว้างเมื่อเห็นประธานนักเรียนยิ้มอย่างสดชื่น

 

 

ตอนแรกก็แปลกใจกับรุ่นพี่คามิยะชิกิ แต่ไม่นึกว่าประธานนักเรียนก็เอากับเขาด้วย

 

 

 

 

 

 

「เอาล่ะ มานั่งคุยกันเถอะ นั่งตรงนั้นสิ」

 

 

「คะ ครับ……」

 

 

 

 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชั้นก็นั่งลงบนโซฟา แมมมอนเองก็มานั่งด้วยท่าทีที่ไม่สุภาพนัก

 

 

ประธานนักเรียนแปลกใจกับท่าทีของเรา แต่เขาก็ยิ้มทันทีและนั่งลงหันหน้าเข้าหาเรา ประธานจะเห็นแมมมอนด้วยรึเปล่านะ

 

 

 

 

 

 

「โอ้ว…เอ่อ…คือ…ที่นี่คือที่ไหน ทำไมชั้นถึงมาอยู่นี่ได้……」

 

 

「ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอกครับ เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังเอง เรกะ เสิร์ฟชาที」

 

 

「เข้าใจแล้วค่ะ」

 

 

 

 

 

 

รุ่นพี่คามิยะชิกิเตรียมชาและวางไว้ตรงหน้าชั้น แมมมอนและประธานสภานักเรียน

 

 

หลังจากดื่มชาและพักหายใจแล้ว รุ่นพี่มิยาบิก็เริ่มเล่า

 

 

 

 

 

 

「ก็อย่างที่รู้จักกันดี แต่ก็ขอต้องแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผม มิยาบิ เอ็นโนมิยะ เป็นเช่นเดียวกับนายศึกษาที่ 【โรงเรียนเก็นโร(幻朧学園)】ผมเป็นประธานนักเรียน และคนที่นำทางพวกเธอมาที่นี่ก็คือ คามิยะชิกิ เรกะ รองประธานนักเรียน」

 

 

「……」

 

 

 

 

 

 

รุ่นพี่คามิยะชิกิที่อยู่ด้านหลังก็ทักทายอย่างเงียบๆ

 

 

 

 

 

 

「ดังนั้น ที่แห่งนี้คือสาขาที่ห้าขององค์กรต่อต้านมายา」

 

 

「เอะ องค์กรต่อต้านมายา(幻想対策部)?」

 

 

 

 

 

 

รุ่นพี่มิยาบิบอกชั้น ขณะที่ชั้นกำลังงงกับสิ่งที่ได้ยินเป็นครั้งแรก

 

 

 

 

 

 

「ถ้าใช้ชีวิตตามปกติก็คงไม่ได้ยินหรอกครับ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราเป็นหน่วยงานที่ทำงานกับพวกแฟนตาซี เช่น ปีศาจกับเทพเจ้า ครับ พวกเขาต่างหยิบยืมพลังของเทพเจ้าหรือปีศาจ พวกเราคือกลุ่มที่ผนึกพวกนั้น และปิดเรื่องนี้ต่อสาธารณะชน」

 

 

「เฮ้อ……」

 

 

 

 

 

 

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าองค์กรลับงั้นเหรอ

 

 

ชั้นรู้สึกตกใจกับการมีอยู่ของพวกปีศาจ แต่เหตุผลที่ไม่เคยเห็นพวกนั้นก็เพราะมีพวกเขาเหล่านี้อยู่

 

 

 

 

 

 

「คนที่ไล่โจมตีพวกนายก็ต่างเป็นพวกหยิบยืมพลังของโลกแฟนตาซีมาเช่นกัน และพวกนั้นต่างก็มุ่งหวังในอำนาจและฐานะ ตามจริงพวกเราเองก็จับตานายอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่านายจะโดนกองกำลังอื่นหมายหัวด้วย ดังนั้นเมื่อเห็นบาเรียกางขึ้นก็เลยกังวลเอามากๆ」

 

 

「หะหมายความว่าไง! พวกเราเองก็โดนหมายหัวงั้นเหรอ?」

 

 

 

 

 

 

ด้วยความตกใจก็เลยเผลอพูดไปแบบนั้น และรุ่นพี่มิยาบิก็ทำสีหน้าจริงจัง

 

 

 

 

 

 

「ก็อาจจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แต่นายได้ครอบครองจอมมารแห่งความโลภที่ถูกผนึกไว้ ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้หมายหัวหรอก แต่แค่ติดตามไว้เฉยๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะมาไกลขนาดนี้」

 

 

「รู้ด้วยเหรอครับว่าผมมีจอมมารแห่งความโลภอยู่..? ถึงแม้ผมจะเพิ่งรู้เรื่องวันนี้เนี่ยนะ……」

 

 

「การเคลื่อนไหวของพวกจอมมารน่ะถูกจับตาเป็นพิเศษเลยในหน่วยต่อต้านมายา ผมเองก็ติดตามมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็พบเมื่อไม่กี่ปีก่อน」

 

 

 

 

 

 

 สมองของชั้นกำลังจะระเบิดเพราะเริ่มตามเนื้อเรื่องไม่ทันละ แต่แล้วก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้。

 

 

 

 

 

 

「แล้วทำไมถึงได้เข้ามาทักทายตอนนี้ล่ะ? หากรู้ว่าตัวชั้นมีเจ้าสิ่งนี้อยู่ในความครอบครองของพวกคุณ เรื่องมันก็น่าจะจบง่ายกว่านี้……」

 

 

 

 

 

 

ถ้าทำแบบนั้น ก็ไม่ต้องมาทำอะไรที่มันวุ่นวายอย่างทำสัญญากับแมมมอน และเหนือสิ่งอื่นใด ก็ไม่ต้องมาเผชิญกับเรื่องบ้าบอแบบนี้ แน่นอนว่าน่าจะได้เงินบ้างก็ได้  

 

 

อย่างไรก็ตาม รุ่นพี่มิยาบิส่ายหัวเงียบๆ

 

 

 

 

 

 

「ก่อนอื่นนายอาจจะไม่รู้ แต่นายได้ทำพันธสัญญากับจอมมารแห่งความโลภก่อนที่จะปลุกให้ตื่นเสียอีก」

 

 

「เอ๊ะ!?」

 

 

「นอกจากนี้ การปรากฏตัวของจอมมารก็ถูกตรวจพบอีกครั้ง แต่ไม่ทราบที่อยู่ที่แน่นอน ในเวลานั้น นายก็ถูกกล่าวถึงในสถานผู้สมัครที่จะเป็นเจ้าของจอมมาร แต่ก็ยังมีผู้เข้าสมัครคนอื่นๆด้วยเช่นกัน อย่างที่เห็น เหรียญนั่นถูกร่ายเวทย์เอาไว้ซึ่งปิดกั้นพลังอันล้มเหลือของจอมมารไม่ให้ตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เวลาผ่านไปมันก็อ่อนแอลงเรื่อยๆจนถูกตรวจจับได้」

 

 

「……」

 

 

 

 

 

 

ไม่รู้เลยว่ามีการทำอะไรแบบนั้นในเหรียญเก่าๆนี่

 

 

 

 

 

 

「แต่ว่าศัตรูดันพบตัวนายก่อนที่พวกเราจะเจอตัวเสียอีก นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้」

 

 

「ศัตรูคือใคร?」

 

 

「――――【จอมมารแห่งความตะกละ(暴食の魔王)】หรือถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งคือเบลเซบับจากกลุ่ม【ฟรีท์(饗宴)】」

 

 

『ไอ้หมอนั่น……』

 

 

 

 

 

 

แมมมอนที่ฟังอย่างเงียบๆจนถึงตอนนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

 

 

 

 

 

 

「จอมมารแห่งความตะกละ……」

 

 

「ก็นั่นแหละ พวกคนที่โจมตีพวกนาย ก็คือกลุ่ม【ฟรีท์】เป็นแก๊งของพวกหัวหมูแและยังเป็นหัวหน้ากลุ่มอีก」

 

 

『เข้าใจแล้ว ถ้าอธิบายง่ายๆเจ้าหัวหมูพวกนั้นเป็นสาวกของพวกแมลงวันสินะ』

 

 

「แมลงวัน?」

 

 

「ก็คือตัวเบลเซบับนั่นแหละ ไม่ว่ายังไงพวกกลุ่ม  ก็สัมผัสถึงตัวตอนของแมมมอนแล้วและจะถูกไล่ล่านับจากนี้ไป พวกผมเองก็พยายามช่วย แต่บาเรียนั้นแข็งแกร่งมากจนพวกเราไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้ จากนั้นจู่ๆบาเรียก็หายไป พร้อมกับพวกนายที่กำลังบาดเจ็บสาหัส เกิดอะไรขึ้นในบาเรียกันแน่?」

 

 

「หายไปงั้นเหรอ? ลองคิดดูสิ ดูเมือนว่าแมมมอนกำลังทำอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะหมดสติไป……?」

 

 

 

 

 

 

เมื่อชั้นมองไปที่แมมมอน แมมอนก็บ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

 

 

 

『ฮึ่ม ด้วยเหตุนี้ชั้นจึงไม่สามารถคงสภาพร่างกายของชั้นได้อีกต่อไป!』

 

 

「จะไม่บอกสินะว่าทำอะไรลงไป?」

 

 

 

 

 

 

เมื่อรุ่นพี่มิยาบิคาดคั้น แมมมอนก็หัวเราะอย่างมีเลศนัย

 

 

 

 

 

 

『แล้วทำไมข้าต้องทำอะไรแบบนั้น เหตุใดข้าต้องบอกพวกเจ้า ข้าไม่โง่พอที่จะเปิดเผยไผ่ในมือของข้าหรอกนะ』

 

 

 

 

 

 

เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาปฏิบัติกับชั้นอย่างเป็นมิตรจนถึงตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่ารุ่นพี่มิยาบิจะอยู่ข้างชั้นรึเปล่า

 

 

น่าเสียดายที่กลุ่ม【ฟรีท์】 พวกมันรู้และเข้ามาโจมตีชั้นก่อน แต่บางทีหน่วยต่อต้านมายา อาจค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างแมมมอนกับชั้นก่อนแล้วจึงเข้ามาโจมตีชั้น

 

 

ดูเหมือนก็จะไม่ได้บังคับกันจนเกินไป จึงได้แต่ยักไหล่

 

 

 

 

 

 

「เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พวกเราก็ได้ตัวพวกนายมาจากพวกยุ่งยากแล้ว แล้วทีนี้จะเอายังไง คิดว่าจะรอดไปได้ง่ายๆ มั่นใจขนาดนั้นเชียวเหรอครับ?」

 

 

「เอ่อ นั่นก็จริงครับ……」

 

 

 

 

 

 

ยังมีหลายอย่างที่น่าสงสัย เช่นพวกชายลึกลับ แต่ว่าก็ไม่เข้าใจทำไมถึงถูกพามาที่นี่

 

 

 

 

 

 

「เพราะฉะนั้นแล้ว ! นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องการนาย……」

 

 

 

 

 

 

ขณะที่พูดอย่างนั้น รุ่นพี่มิยาบิ ก็มองตรงมาที่ชั้น――――。

 

 

 

 

 

 

「――――มาเข้าหน่วยต่อต้านมายาไหม?」

 

 

 

 

 

 

 ――――อืม อย่างที่คิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด