เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา 48

Now you are reading เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา Chapter 48 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Demon Prince goes to the Academy

ตอนที่ 48

 

สิ่งต่าง ๆ ต่างไปจากที่ฉันคาดเอาไว้ ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะชนะการดวลนี้ตั้งแต่แรก แต่ฉันก็ไม่เคยคาดคิดว่าปีสามจะปรากฏตัว พวกคุณไม่ต้องการยุ่งกับเราตอนที่เจ้าชายอยู่ใกล้ ๆ แต่ตอนนี้คุณพยายามรังแกรุ่นน้องของคุณแบบนี้งั้นเหรอ?

 

โอกาสในการชนะซึ่งเคยมีน้อยอยู่แล้ว บัดนี้กลับน้อยกว่าเดิมอีก แม้ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นที่อยู่ตรงหน้าฉันมายาร์ตันยังคงจ้องมองมาที่ฉันราวกับว่าเขากำลังคิดหาวิธีที่จะสั่งสอนฉันอยู่

 

เพื่อนร่วมชั้นของฉันเองก็ประหลาดใจพอๆ กันกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของแชมป์เปี้ยนปีสามคนนี้

 

ถ้าฉันให้เอลเลนเป็นแชมเปี้ยนของฉัน เธอคงเต็มใจที่จะขึ้นมา แต่ไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน เธอจะสามารถเอาชนะเด็กปีสามได้เหรอ เขาอยู่ที่วิหารมานานกว่าเธอตั้งสองปี

 

บางทีเธออาจจะชนะ ฉันไม่รู้ว่ามายาร์ตันเป็นอย่างไร แต่เธอน่าจะมากเกินพอที่จะชนะ ถ้าใครอยากเอาชนะเอลเลน คนนั้นต้องเป็นยอดมนุษย์หรือคนที่ถึงขีดจำกัดความสามารถของมนุษย์ไปแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะเป็นคนพวกนั้น คนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นหาได้ยากในวิหาร ดังนั้นพวกเขาคงจะไม่ทำเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้หรอก

 

บางทีอาจเป็นเพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ มีคนอีกคนหนึ่งที่มีอารมณ์เปลี่ยนไปเล็กน้อยนอกจากเอลเลน

 

มันคือเอเดรียน่า

 

เธอดูเหมือนโกรธเกินกว่าจะสงบลงที่ได้เผชิญกับสถานการณ์นี้ รุ่นพี่ที่ใจเย็นคนนั้นกำลังมองมาที่ฉันอย่างเงียบๆ แค่มองตาเธอก็บอกได้

 

แววตาของเธอเหมือนจะบอกว่าเธอจะสู้เพื่อฉัน

 

เดิมทีเอเดรียน่าเกลียดประเพณีที่ไร้สาระนี้อยู่แล้ว เธอยังบอกฉันว่าเธอไม่ค่อยชอบรุ่นพี่ของเธอมากเท่าไหร่

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีปีสามยืนอยู่ต่อหน้าฉัน เมื่อเห็นชายคนนั้นในการดวลกับนักเรียนปีหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ได้อีกต่อไป

 

เอเดรียน่าพูดกับฉันด้วยสายตาของเธอ ‘ให้ฉันเป็นแชมป์ของนายสิ’

 

ฉันคิดว่าฉันใช้ชีวิตในวิหารค่อนข้างวุ่นวาย แต่จริงๆ แล้วมีคนสองคนเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อฉันด้วย ฉันทำได้ดีจริงๆสินะ?

 

“หากไม่มีการคัดค้าน การประลองจะเริ่มขึ้นทันที หากผลลัพธ์ชัดเจนหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมจำนน การดวลก็จะจบลง”

 

“อาจารย์ฉันมีอะไรอยากจะแนะนำ”

 

มายาร์ตันมองไปที่คุณเอพินเฮาเซอร์และพูดว่า:

 

“เราแค่ตั้งกฎว่าการต่อสู้จะจบลงถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ไม่ได้เหรอ?”

 

“แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรล่ะ”

 

“ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันต้องการสอนมารยาทบางอย่างให้กับรุ่นน้องคนนี้ที่นี่”

 

ถ้าฉันไม่บอกอย่างชัดเจนว่าฉันยอมจำนน การดวลจะไม่จบลงงั้นเหรอ? เขาจะต้องชนะตามกฎปกติ แต่เขาไม่ต้องการให้การต่อสู้จบลงทันทีที่ดาบของเขาแตะต้องฉัน

 

จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อเอาชนะฉัน แต่เพื่อทำลายฉัน

 

“ไรน์ฮาร์ท คุณยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่”

 

ฉันหวังไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว ไอ้เวรเอ้ย

 

“แน่นอน แต่ฉันมีเงื่อนไข”

 

“เงื่อนไขแบบไหน”

 

เอลเลนและเอเดรียน่าต่างก็เต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อฉัน สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และฉันถูกจับจ้องโดยไอ้สารเลวที่ยิ่งกว่าอาร์ท อาร์ทคงอยากต่อยผมพอสมควรเลย

 

อย่างไรก็ตามชายคนนั้นคงปฏิบัติกับฉันแย่กว่าเขามากแน่ๆ

 

สถานการณ์เปลี่ยนไปและการตัดสินของฉันก็เช่นกัน

 

“มายาร์ตันอยู่ปีสาม ส่วนฉันก็แค่ปีแรก มีความสามารถที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนไม่ใช่แค่ด้านเดียว”

 

คุณเอพินเฮาเซอร์พยักหน้าราวกับเห็นด้วยกับฉัน

 

“ฉันต้องการใช้สิทธิ์ของฉันในฐานะผู้ดวลและ…”

 

ฉันควรจะเลือกใคร

 

“ขอแต้มต่อจากคู่ต่อสู้”

 

ฉันไม่ได้เรียกใครมาช่วยหรอกนะ

 

* * *

 

เมื่อเอลเลนคุยกับฉันเมื่อวันก่อน เธอหมายความว่าถ้าใครคิดว่าการต่อสู้แบบนี้คืออะไร คนๆ หนึ่งก็จะนึกถึงการเลือกแชมป์เปี้ยน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่ออาร์ทเสนอชื่อแชมป์ฉันก็คิดอย่างอื่นได้

 

แต้มต่อ

 

หากความแข็งแกร่งระหว่างคุณกับคู่ต่อสู้ต่างกันมากเกินไป คุณสามารถให้แต้มต่อแก่คู่ต่อสู้ได้ นั่นคือสถานการณ์ที่ฉันอยู่ในตอนนี้

 

ดูเหมือนว่าทั้งเอลเลนและเอเดรียน่าจะไม่คาดคิดว่าฉันจะใช้การขอแต้มต่อแทนการเสนอชื่อแชมป์เปี้ยน ใช่ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่คิดจะใช้แต้มต่อเหมือนกัน ถ้าจู่ๆ แชมป์เปี้ยนคนนี้ไม่ปรากฏตัวขึ้นมา

 

มายาร์ตันระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน

 

“นี่รุ่นน้องแกคิดว่าจะทำร้ายฉันได้จริงๆเหรอ?”

 

เขายิ้ม แต่ดูเหมือนว่าจะโกรธล่ะนะ มันเหมือนกับว่าเขาคิดว่าฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถเอาชนะเขาได้หากฉันได้แต้มต่อจากเขา คุณเอพินเฮาเซอร์ผู้สังเกตการณ์การต่อสู้พยักหน้า

 

“ดีระหว่างการดวลมายาร์ตันจะถูกห้ามไม่ให้ใช้มือซ้าย”

 

มายาร์ตันซ่อนแขนซ้ายไว้ด้านหลังราวกับว่าการอ่อนข้อนั้นไม่สำคัญเลย

 

ก่อนหน้านี้ฉันไม่คิดว่านั่นจะเป็นอุปสรรคใหญ่เหมือนกัน แต่ฉันได้เรียนรู้ว่ามือที่ไม่ได้ถือดาบมีบทบาทสำคัญอย่างไรในขณะที่ต่อสู้กับเอลเลน การปิดแขนข้างหนึ่งไว้เป็นอุปสรรคอย่างมาก

 

แน่นอนว่ามันไม่น่าเป็นไปได้มากสำหรับฉันที่มีความแตกต่างของพลังขนาดนี้

 

จากนั้น ต่อหน้าต่อตาทุกคนคุณเอพินเฮาเซอร์ได้ประกาศว่า: “เริ่มการต่อสู้”

 

มายาร์ตันไม่รีบเร่งมาที่ฉัน เขาถือดาบฝึกหัดไว้ในมือขวา แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันพร้อมแขนซ้ายที่ซ่อนไว้ด้านหลัง ฉันไม่ได้มีกลยุทธ์เดียวในใจของฉัน ทักษะมากมายนับไม่ถ้วนที่ฉันเรียนรู้จาก เอลเลนจะใช้ได้ผลกับคนอย่างเขาจริงๆ มั้ยนะ? ถ้าฉันมีทักษะที่ดี ฉันอาจจะสามารถเอาชนะช่องว่างนี้ได้ แต่ฉันเรียนรู้แค่บางอย่างจากการซ้อมเท่านั้น

 

ฉันยังไม่รู้จักวิชาดาบที่เหมาะสมด้วยซ้ำ มันคงมากเกินไปหากคิดว่าฉันเรียนรู้อย่างถูกต้องแล้วในเมื่อฉันเรียนรู้เทคนิคมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาฉันราวกับว่าเขาแค่ออกไปเดินเล่น เขาไม่ได้รู้สึกระวังตัวฉันเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับชี้ดาบไปข้างหน้าและพยายามเข้ามาในระยะของฉัน ฉันดันดาบของเขาไปด้านข้างและพยายามดันดาบเข้าไป

 

“อึก!”

 

อย่างไรก็ตาม ราวกับว่าเขาเห็นผ่านทุกการเคลื่อนไหวของฉัน เขาฟันดาบที่ฉันถือด้วยมือทั้งสองอย่างทรงพลัง ในขณะที่เขาถือดาบด้วยมือข้างเดียว

 

ความตกใจนั้นทำให้ฉันต้องถอยหลังไปสองสามก้าว แม้ว่าฉันจะถือดาบด้วยสองมือ แต่ก็รู้สึกเหมือนฝ่ามือของฉันกำลังจะฉีกออกจากกัน

 

“แกนี่มันกระจอกชะมัด”

 

มายาร์ตันจ้องมาที่ฉันที่ถอยหลังไปสองสามก้าว

 

ฉันมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถจัดการฉันได้ในตอนนี้ แต่เขาก็พยายามจะเล่นกับฉัน เขาพยายามเหยียบย่ำฉันและทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีค่าอะไรต่อหน้าเขาเลย มายาร์ตันเอนร่างของเขาแล้ววิ่งตรงมาที่ฉัน

 

จากนั้นเขาก็เริ่มโจมตีฉัน

 

“กึก!”

 

เขาโจมตีดาบที่ฉันถืออยู่

 

โดยตั้งใจ

 

“อั๊ว!”

 

ทันทีที่ฉันปล่อยดาบ เขาก็เตะฉันเข้าที่ท้อง

 

“แคก!”

 

ฉันรู้อะไรบางอย่างทันทีที่ฉันทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับดาบของฉัน จนกว่าฉันจะยอมจำนน จนกว่าฉันจะลดทิฐิมานะและยอมจำนน

 

ชายคนนั้นจะทำแบบนี้ต่อไป

 

“นี่แกทำอะไรน่ะ? ปล่อยดาบของแกไปแบบนั้นทำไม”

 

เขาเตะดาบที่ฉันปล่อยมาทางฉัน

 

“หยิบมันขึ้นมาสิ”

 

ทันทีที่ฉันหยิบดาบขึ้นมามายาร์ตันก็พุ่งเข้ามาหาฉันและฟาดไปที่ด้านข้างของดาบฝึกหัดของฉันอีกครั้ง

 

ดาบหลุดออกจากมือของฉันและกลิ้งไปที่พื้นอีกครั้ง

 

มายาร์ตันยิ้มให้ฉัน

 

“หยิบมันขึ้นมา”

 

ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเอลเลนจึงฝึกให้ฉันจับดาบอย่างถูกต้องและไม่ปล่อยให้หลุดมือ

 

เธอรู้ว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้กับฉัน

 

* * *

 

พลังในการจับของฉันค่อยๆหมดลง

 

“ไม่เข้าใจจริงๆ”

 

“อัก!”

 

ทุกครั้งที่ฉันปล่อยดาบเขาจะตีฉันด้วยศอก เตะฉันและเข่าใส่ฉันราวกับว่าฉันถูกลงโทษเพราะทำดาบนั้นตก

 

“คนอย่างแกที่ไม่มีทักษะหรือความน่าเชื่อถือ”

 

“คึก!”

 

“ทำไมแกถึงตัดสินใจต่อต้านเรากันฮะ”

 

เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาชนะฉัน เขาเห็นฉันอยู่บนพื้นและเตะดาบฝึกมาทางฉัน

 

เขาฟาดดาบของฉันทิ้งและเฝ้าดูฉันหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยความยินดี

 

ความอัปยศอดสูจากการถูกทำให้ดาบออกจากมือและถูกบังคับให้หยิบมันขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่เรื่องตลก

 

ฉันรู้สึกเป็นทุกข์และละอายใจที่คิดว่าฉันเป็นเพียงของเล่นของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น แม้ว่าเขาจะเป็นแค่เศษขยะที่มีความสุขที่ได้เอาชนะรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเขาสองปี

 

ฉันรู้ว่าฉันจะแพ้ และฉันรู้ว่าฉันจะขายหน้าแบบนี้ นอกจากความอัปยศอดสูที่ฉันรู้สึกแล้ว ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของฉันก็รุนแรงมาก เพราะสิ่งที่เขายัดเยียดให้ฉันเป็นเหมือนการลงโทษทางร่างกายมากกว่าการต่อสู้จริง

 

ฉันจับดาบอีกครั้ง และมันก็หลุดออกจากมือฉันอีกครั้ง

 

ฝ่ามือของฉันฉีกขาดและมีเลือดไหล

 

นี่ไม่ใช่การต่อสู้อีกต่อไป มันไม่ใช่การต่อสู้ตั้งแต่แรกแล้ว

 

เขาแค่เดินเข้ามาหาฉันอย่างไม่ตั้งใจ เหวี่ยงดาบของเขาเบา ๆ และทำให้ดาบของฉันกระเด็นออกไป จากนั้นเขาก็เตะและตบฉันเมื่อไม่มีดาบ ทำกับฉันเหมือนเป็นเรื่องตลก

 

เขามองลงมาที่ฉันราวกับว่าฉันน่าสมเพช ในขณะที่ฉันล้มลงและลุกขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“แกทำอะไรไม่ได่หรอกเมื่ออยู่ต่อหน้าซอร์ดมาสเตอร์อย่างฉัน”

 

“เอิ๊ก”

 

“อยู่นิ่งๆ สิไอ้เด็กเวร”

 

“ฮึ!”

 

“จะดีกว่านี้นะถ้าแกยอมทำตัวดีๆ”

 

“อุ้บ!”

 

“ยอมแพ้สิ มาบอกว่าแกยอมแพ้ มันดีกว่าสำหรับแกใช่มั้ยล่ะ”

 

“หึ!”

 

“พูดสิวะ”

 

“เอิ๊ก….”

 

“แกจะไม่ยอมสินะ?”

 

“อืม ตามใจ”

 

เขายังคงดูถูกฉัน ไม่แสดงอาการสงสารแม้แต่น้อย ขณะที่ฉันพยายามลุกขึ้น

 

ฉันเป็นคนสกปรก แต่ผู้ชายคนนั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แค่สกปรก แต่เขายังโหดร้าย

 

ในขณะที่ฉันพยายามปกปิดความสามารถของตัวเองด้วยการทำตัวสกปรก ผู้ชายคนนั้นทำมันด้วยการทำตัวโหดร้าย

 

และเห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าฉันอย่างเทียบไม่ได้

 

ยิ่งฉันลุกขึ้นและพยายามขัดขืน เขาก็ยิ่งดูพอใจมากและชื่นชมในความอดทนของฉัน ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะรู้สึกยินดีกับการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ของเหยื่อของเขา

 

ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวขณะที่ฉันคว้าดาบฝึกหัดอีกครั้ง

 

สีหน้าและแววตาของคุณเอพินเฮาเซอร์ไม่มีอารมณ์ใดๆ

 

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ผิดเพี้ยนไป

 

ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มแพ้อย่างน่าสังเวช ก็จะมีบางคนที่เริ่มเชียร์ฝั่งนั้นโดยไม่เจตนา

 

พวกเขาไม่ต้องการให้อีกทีมถูกบดขยี้อย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้พวกเขาทำได้ดีกว่านี้เล็กน้อย

 

ตอนนี้ฉันเป็นฝ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช

 

แฮเรียต เดอ แซงต์-โอวัน ผู้ซึ่งแสดงความยินดีในตอนแรกที่ฉันได้รับการสั่งสอนเองก็เช่นกัน ผิวของเธอขาวซีดหมดจด เธอมองมาระหว่างฉันกับคุณเอพินเฮาเซอร์ ราวกับว่าเธอกำลังถามด้วยสายตาว่าทำไมเขาถึงไม่หยุดการต่อสู้นี้ ทั้งๆ ที่ชัดเจนว่าใครคือผู้ชนะ

 

เธอเคยจินตนาการถึงมันแต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้

 

ฉันเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะลงเอยแบบนี้เช่นกัน

 

บางคนก็ใจเย็น

 

เอลเลนยังคงมองมาที่ฉัน และชาร์ลอตต์ก็เช่นกัน

 

คนที่เกลียดฉันกลับเป็นคนที่ดูกลัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าฉันจะต้องตายแน่ๆ

 

แม้ว่าการดวลกันที่วิหารจะเรียกได้ว่าเป็นการเล่นของเด็กเมื่อเทียบกับการดวลกันจริง แต่มันก็ยังเป็นการดวลอยู่ดี

 

มันไม่ได้อยู่ในระดับของการแข่งง่ายๆ

 

การดวลจะไม่จบลงเว้นแต่จะมีคนยอมแพ้ แม้แต่คุณเอพินเฮาเซอร์ก็เข้าแทรกแซงไม่ได้ เว้นแต่ว่าชีวิตของฉันจะตกอยู่ในความเสี่ยง

 

ฉันเองก็ไม่ได้ต้องการการแทรกแซงแบบนั้นด้วย ฉันคลานกลับขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเด็กคนอื่นๆ บิดเบี้ยว แต่ไม่ใช่ของมายาร์ตัน

 

ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้ฉันยอมแพ้ไปซะ

 

ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้ ฉันมองดูมายาร์ตันด้วยความยุ่งเหยิงทั้งตัวและมือของฉัน

 

ฉันคงไม่สามารถชนะได้

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าลมจะแรงขึ้น

 

แม้ว่าฉันจะไม่สามารถชนะได้

 

ไอ้สารเลวเอ้ย

 

“สักทีเถอะ”

 

“อะไรของแกฟะ?”

 

แม้ว่าฉันจะถูกบดขยี้และกระทืบ ฉันก็อยากจะให้เขาโดนแม้หมัดเดียวก็ยังดี

 

“ฉันจะต่อยแกให้ได้สักครั้ง ไอ้สารเลวเอ้ย!”

 

อย่างน้อยฉันจะได้สักทีหนึ่ง

 

ความเป็นจริงของความพ่ายแพ้ที่กำลังจะเกิดขึ้นของฉันหรือแผนการใดๆ ที่ฉันมีเกี่ยวกับการพัฒนาพลังเหนือธรรมชาติโดยการทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพจิตใจกดดัน ทั้งหมดนี้ถูกลืมด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่าน

 

ฉันโดนโจมตีหลายครั้งเกินไป

 

ฉันถูกกระแทกอย่างแรงจนความร้อนพุ่งตรงไปที่หัวของฉัน

 

ถ้าฉันไม่ได้โจมตีโดนไอ้สารเลวนั่นแม้แต่ทีเดียว ฉันคงนอนไม่หลับไปถึงเดือนหน้าแน่ๆ

 

ฉันพุ่งเข้าไปหาเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ฉันยังมีเหลืออยู่ และเตรียมที่จะใช้บางอย่าง ถ้าฉันลังเล เขาจะเตะฉันหรือไม่ก็ตีฉันด้วยดาบของเขา

 

ฉันไม่เคยวางแผนที่จะใช้สิ่งนี้เพื่ออะไรแบบนั้น

 

แต่ฉันรู้สึกรำคาญมากที่ฉันไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป

 

[ใช้ฟังก์ชั่น ‘แก้ไข’]

 

[ต้องใช้คะแนนความสำเร็จ 20 คะแนนเพื่อเริ่มกิจกรรมนี้]

 

ฉันฟาดดาบที่ขวางตาของฉันและทำให้ ‘บางสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น’ เกิดขึ้นในขณะนั้น

 

ดาบของเขา

 

มันแตกสลายทันทีที่ดาบของฉันโดนมัน

 

ดาบที่ขวางหน้าฉันแตก ทำให้มายาร์ตันเกิดสีหน้าประหลาดใจ

 

“อัก!”

 

ในเวลาเดียวกับที่ดาบฝึกหัดของฉันฟาดเข้าที่หัวของเขา ฉันก็กระแทกเข่าเข้าไปที่ ‘จุดจุดนั้น’ จุดที่เริ่มต้นการต่อสู้ทั้งหมดนี้ขึ้น

เพจผู้แปล Lemon FT 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา 48

Now you are reading เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา Chapter 48 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Demon Prince goes to the Academy

ตอนที่ 48

 

สิ่งต่าง ๆ ต่างไปจากที่ฉันคาดเอาไว้ ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะชนะการดวลนี้ตั้งแต่แรก แต่ฉันก็ไม่เคยคาดคิดว่าปีสามจะปรากฏตัว พวกคุณไม่ต้องการยุ่งกับเราตอนที่เจ้าชายอยู่ใกล้ ๆ แต่ตอนนี้คุณพยายามรังแกรุ่นน้องของคุณแบบนี้งั้นเหรอ?

 

โอกาสในการชนะซึ่งเคยมีน้อยอยู่แล้ว บัดนี้กลับน้อยกว่าเดิมอีก แม้ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นที่อยู่ตรงหน้าฉันมายาร์ตันยังคงจ้องมองมาที่ฉันราวกับว่าเขากำลังคิดหาวิธีที่จะสั่งสอนฉันอยู่

 

เพื่อนร่วมชั้นของฉันเองก็ประหลาดใจพอๆ กันกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของแชมป์เปี้ยนปีสามคนนี้

 

ถ้าฉันให้เอลเลนเป็นแชมเปี้ยนของฉัน เธอคงเต็มใจที่จะขึ้นมา แต่ไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน เธอจะสามารถเอาชนะเด็กปีสามได้เหรอ เขาอยู่ที่วิหารมานานกว่าเธอตั้งสองปี

 

บางทีเธออาจจะชนะ ฉันไม่รู้ว่ามายาร์ตันเป็นอย่างไร แต่เธอน่าจะมากเกินพอที่จะชนะ ถ้าใครอยากเอาชนะเอลเลน คนนั้นต้องเป็นยอดมนุษย์หรือคนที่ถึงขีดจำกัดความสามารถของมนุษย์ไปแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะเป็นคนพวกนั้น คนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นหาได้ยากในวิหาร ดังนั้นพวกเขาคงจะไม่ทำเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้หรอก

 

บางทีอาจเป็นเพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ มีคนอีกคนหนึ่งที่มีอารมณ์เปลี่ยนไปเล็กน้อยนอกจากเอลเลน

 

มันคือเอเดรียน่า

 

เธอดูเหมือนโกรธเกินกว่าจะสงบลงที่ได้เผชิญกับสถานการณ์นี้ รุ่นพี่ที่ใจเย็นคนนั้นกำลังมองมาที่ฉันอย่างเงียบๆ แค่มองตาเธอก็บอกได้

 

แววตาของเธอเหมือนจะบอกว่าเธอจะสู้เพื่อฉัน

 

เดิมทีเอเดรียน่าเกลียดประเพณีที่ไร้สาระนี้อยู่แล้ว เธอยังบอกฉันว่าเธอไม่ค่อยชอบรุ่นพี่ของเธอมากเท่าไหร่

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีปีสามยืนอยู่ต่อหน้าฉัน เมื่อเห็นชายคนนั้นในการดวลกับนักเรียนปีหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ได้อีกต่อไป

 

เอเดรียน่าพูดกับฉันด้วยสายตาของเธอ ‘ให้ฉันเป็นแชมป์ของนายสิ’

 

ฉันคิดว่าฉันใช้ชีวิตในวิหารค่อนข้างวุ่นวาย แต่จริงๆ แล้วมีคนสองคนเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อฉันด้วย ฉันทำได้ดีจริงๆสินะ?

 

“หากไม่มีการคัดค้าน การประลองจะเริ่มขึ้นทันที หากผลลัพธ์ชัดเจนหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมจำนน การดวลก็จะจบลง”

 

“อาจารย์ฉันมีอะไรอยากจะแนะนำ”

 

มายาร์ตันมองไปที่คุณเอพินเฮาเซอร์และพูดว่า:

 

“เราแค่ตั้งกฎว่าการต่อสู้จะจบลงถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ไม่ได้เหรอ?”

 

“แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรล่ะ”

 

“ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันต้องการสอนมารยาทบางอย่างให้กับรุ่นน้องคนนี้ที่นี่”

 

ถ้าฉันไม่บอกอย่างชัดเจนว่าฉันยอมจำนน การดวลจะไม่จบลงงั้นเหรอ? เขาจะต้องชนะตามกฎปกติ แต่เขาไม่ต้องการให้การต่อสู้จบลงทันทีที่ดาบของเขาแตะต้องฉัน

 

จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อเอาชนะฉัน แต่เพื่อทำลายฉัน

 

“ไรน์ฮาร์ท คุณยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่”

 

ฉันหวังไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว ไอ้เวรเอ้ย

 

“แน่นอน แต่ฉันมีเงื่อนไข”

 

“เงื่อนไขแบบไหน”

 

เอลเลนและเอเดรียน่าต่างก็เต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อฉัน สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และฉันถูกจับจ้องโดยไอ้สารเลวที่ยิ่งกว่าอาร์ท อาร์ทคงอยากต่อยผมพอสมควรเลย

 

อย่างไรก็ตามชายคนนั้นคงปฏิบัติกับฉันแย่กว่าเขามากแน่ๆ

 

สถานการณ์เปลี่ยนไปและการตัดสินของฉันก็เช่นกัน

 

“มายาร์ตันอยู่ปีสาม ส่วนฉันก็แค่ปีแรก มีความสามารถที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนไม่ใช่แค่ด้านเดียว”

 

คุณเอพินเฮาเซอร์พยักหน้าราวกับเห็นด้วยกับฉัน

 

“ฉันต้องการใช้สิทธิ์ของฉันในฐานะผู้ดวลและ…”

 

ฉันควรจะเลือกใคร

 

“ขอแต้มต่อจากคู่ต่อสู้”

 

ฉันไม่ได้เรียกใครมาช่วยหรอกนะ

 

* * *

 

เมื่อเอลเลนคุยกับฉันเมื่อวันก่อน เธอหมายความว่าถ้าใครคิดว่าการต่อสู้แบบนี้คืออะไร คนๆ หนึ่งก็จะนึกถึงการเลือกแชมป์เปี้ยน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่ออาร์ทเสนอชื่อแชมป์ฉันก็คิดอย่างอื่นได้

 

แต้มต่อ

 

หากความแข็งแกร่งระหว่างคุณกับคู่ต่อสู้ต่างกันมากเกินไป คุณสามารถให้แต้มต่อแก่คู่ต่อสู้ได้ นั่นคือสถานการณ์ที่ฉันอยู่ในตอนนี้

 

ดูเหมือนว่าทั้งเอลเลนและเอเดรียน่าจะไม่คาดคิดว่าฉันจะใช้การขอแต้มต่อแทนการเสนอชื่อแชมป์เปี้ยน ใช่ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่คิดจะใช้แต้มต่อเหมือนกัน ถ้าจู่ๆ แชมป์เปี้ยนคนนี้ไม่ปรากฏตัวขึ้นมา

 

มายาร์ตันระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน

 

“นี่รุ่นน้องแกคิดว่าจะทำร้ายฉันได้จริงๆเหรอ?”

 

เขายิ้ม แต่ดูเหมือนว่าจะโกรธล่ะนะ มันเหมือนกับว่าเขาคิดว่าฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถเอาชนะเขาได้หากฉันได้แต้มต่อจากเขา คุณเอพินเฮาเซอร์ผู้สังเกตการณ์การต่อสู้พยักหน้า

 

“ดีระหว่างการดวลมายาร์ตันจะถูกห้ามไม่ให้ใช้มือซ้าย”

 

มายาร์ตันซ่อนแขนซ้ายไว้ด้านหลังราวกับว่าการอ่อนข้อนั้นไม่สำคัญเลย

 

ก่อนหน้านี้ฉันไม่คิดว่านั่นจะเป็นอุปสรรคใหญ่เหมือนกัน แต่ฉันได้เรียนรู้ว่ามือที่ไม่ได้ถือดาบมีบทบาทสำคัญอย่างไรในขณะที่ต่อสู้กับเอลเลน การปิดแขนข้างหนึ่งไว้เป็นอุปสรรคอย่างมาก

 

แน่นอนว่ามันไม่น่าเป็นไปได้มากสำหรับฉันที่มีความแตกต่างของพลังขนาดนี้

 

จากนั้น ต่อหน้าต่อตาทุกคนคุณเอพินเฮาเซอร์ได้ประกาศว่า: “เริ่มการต่อสู้”

 

มายาร์ตันไม่รีบเร่งมาที่ฉัน เขาถือดาบฝึกหัดไว้ในมือขวา แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันพร้อมแขนซ้ายที่ซ่อนไว้ด้านหลัง ฉันไม่ได้มีกลยุทธ์เดียวในใจของฉัน ทักษะมากมายนับไม่ถ้วนที่ฉันเรียนรู้จาก เอลเลนจะใช้ได้ผลกับคนอย่างเขาจริงๆ มั้ยนะ? ถ้าฉันมีทักษะที่ดี ฉันอาจจะสามารถเอาชนะช่องว่างนี้ได้ แต่ฉันเรียนรู้แค่บางอย่างจากการซ้อมเท่านั้น

 

ฉันยังไม่รู้จักวิชาดาบที่เหมาะสมด้วยซ้ำ มันคงมากเกินไปหากคิดว่าฉันเรียนรู้อย่างถูกต้องแล้วในเมื่อฉันเรียนรู้เทคนิคมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาฉันราวกับว่าเขาแค่ออกไปเดินเล่น เขาไม่ได้รู้สึกระวังตัวฉันเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับชี้ดาบไปข้างหน้าและพยายามเข้ามาในระยะของฉัน ฉันดันดาบของเขาไปด้านข้างและพยายามดันดาบเข้าไป

 

“อึก!”

 

อย่างไรก็ตาม ราวกับว่าเขาเห็นผ่านทุกการเคลื่อนไหวของฉัน เขาฟันดาบที่ฉันถือด้วยมือทั้งสองอย่างทรงพลัง ในขณะที่เขาถือดาบด้วยมือข้างเดียว

 

ความตกใจนั้นทำให้ฉันต้องถอยหลังไปสองสามก้าว แม้ว่าฉันจะถือดาบด้วยสองมือ แต่ก็รู้สึกเหมือนฝ่ามือของฉันกำลังจะฉีกออกจากกัน

 

“แกนี่มันกระจอกชะมัด”

 

มายาร์ตันจ้องมาที่ฉันที่ถอยหลังไปสองสามก้าว

 

ฉันมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถจัดการฉันได้ในตอนนี้ แต่เขาก็พยายามจะเล่นกับฉัน เขาพยายามเหยียบย่ำฉันและทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีค่าอะไรต่อหน้าเขาเลย มายาร์ตันเอนร่างของเขาแล้ววิ่งตรงมาที่ฉัน

 

จากนั้นเขาก็เริ่มโจมตีฉัน

 

“กึก!”

 

เขาโจมตีดาบที่ฉันถืออยู่

 

โดยตั้งใจ

 

“อั๊ว!”

 

ทันทีที่ฉันปล่อยดาบ เขาก็เตะฉันเข้าที่ท้อง

 

“แคก!”

 

ฉันรู้อะไรบางอย่างทันทีที่ฉันทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับดาบของฉัน จนกว่าฉันจะยอมจำนน จนกว่าฉันจะลดทิฐิมานะและยอมจำนน

 

ชายคนนั้นจะทำแบบนี้ต่อไป

 

“นี่แกทำอะไรน่ะ? ปล่อยดาบของแกไปแบบนั้นทำไม”

 

เขาเตะดาบที่ฉันปล่อยมาทางฉัน

 

“หยิบมันขึ้นมาสิ”

 

ทันทีที่ฉันหยิบดาบขึ้นมามายาร์ตันก็พุ่งเข้ามาหาฉันและฟาดไปที่ด้านข้างของดาบฝึกหัดของฉันอีกครั้ง

 

ดาบหลุดออกจากมือของฉันและกลิ้งไปที่พื้นอีกครั้ง

 

มายาร์ตันยิ้มให้ฉัน

 

“หยิบมันขึ้นมา”

 

ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเอลเลนจึงฝึกให้ฉันจับดาบอย่างถูกต้องและไม่ปล่อยให้หลุดมือ

 

เธอรู้ว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้กับฉัน

 

* * *

 

พลังในการจับของฉันค่อยๆหมดลง

 

“ไม่เข้าใจจริงๆ”

 

“อัก!”

 

ทุกครั้งที่ฉันปล่อยดาบเขาจะตีฉันด้วยศอก เตะฉันและเข่าใส่ฉันราวกับว่าฉันถูกลงโทษเพราะทำดาบนั้นตก

 

“คนอย่างแกที่ไม่มีทักษะหรือความน่าเชื่อถือ”

 

“คึก!”

 

“ทำไมแกถึงตัดสินใจต่อต้านเรากันฮะ”

 

เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาชนะฉัน เขาเห็นฉันอยู่บนพื้นและเตะดาบฝึกมาทางฉัน

 

เขาฟาดดาบของฉันทิ้งและเฝ้าดูฉันหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยความยินดี

 

ความอัปยศอดสูจากการถูกทำให้ดาบออกจากมือและถูกบังคับให้หยิบมันขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่เรื่องตลก

 

ฉันรู้สึกเป็นทุกข์และละอายใจที่คิดว่าฉันเป็นเพียงของเล่นของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น แม้ว่าเขาจะเป็นแค่เศษขยะที่มีความสุขที่ได้เอาชนะรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเขาสองปี

 

ฉันรู้ว่าฉันจะแพ้ และฉันรู้ว่าฉันจะขายหน้าแบบนี้ นอกจากความอัปยศอดสูที่ฉันรู้สึกแล้ว ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของฉันก็รุนแรงมาก เพราะสิ่งที่เขายัดเยียดให้ฉันเป็นเหมือนการลงโทษทางร่างกายมากกว่าการต่อสู้จริง

 

ฉันจับดาบอีกครั้ง และมันก็หลุดออกจากมือฉันอีกครั้ง

 

ฝ่ามือของฉันฉีกขาดและมีเลือดไหล

 

นี่ไม่ใช่การต่อสู้อีกต่อไป มันไม่ใช่การต่อสู้ตั้งแต่แรกแล้ว

 

เขาแค่เดินเข้ามาหาฉันอย่างไม่ตั้งใจ เหวี่ยงดาบของเขาเบา ๆ และทำให้ดาบของฉันกระเด็นออกไป จากนั้นเขาก็เตะและตบฉันเมื่อไม่มีดาบ ทำกับฉันเหมือนเป็นเรื่องตลก

 

เขามองลงมาที่ฉันราวกับว่าฉันน่าสมเพช ในขณะที่ฉันล้มลงและลุกขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“แกทำอะไรไม่ได่หรอกเมื่ออยู่ต่อหน้าซอร์ดมาสเตอร์อย่างฉัน”

 

“เอิ๊ก”

 

“อยู่นิ่งๆ สิไอ้เด็กเวร”

 

“ฮึ!”

 

“จะดีกว่านี้นะถ้าแกยอมทำตัวดีๆ”

 

“อุ้บ!”

 

“ยอมแพ้สิ มาบอกว่าแกยอมแพ้ มันดีกว่าสำหรับแกใช่มั้ยล่ะ”

 

“หึ!”

 

“พูดสิวะ”

 

“เอิ๊ก….”

 

“แกจะไม่ยอมสินะ?”

 

“อืม ตามใจ”

 

เขายังคงดูถูกฉัน ไม่แสดงอาการสงสารแม้แต่น้อย ขณะที่ฉันพยายามลุกขึ้น

 

ฉันเป็นคนสกปรก แต่ผู้ชายคนนั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แค่สกปรก แต่เขายังโหดร้าย

 

ในขณะที่ฉันพยายามปกปิดความสามารถของตัวเองด้วยการทำตัวสกปรก ผู้ชายคนนั้นทำมันด้วยการทำตัวโหดร้าย

 

และเห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าฉันอย่างเทียบไม่ได้

 

ยิ่งฉันลุกขึ้นและพยายามขัดขืน เขาก็ยิ่งดูพอใจมากและชื่นชมในความอดทนของฉัน ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะรู้สึกยินดีกับการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ของเหยื่อของเขา

 

ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวขณะที่ฉันคว้าดาบฝึกหัดอีกครั้ง

 

สีหน้าและแววตาของคุณเอพินเฮาเซอร์ไม่มีอารมณ์ใดๆ

 

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ผิดเพี้ยนไป

 

ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มแพ้อย่างน่าสังเวช ก็จะมีบางคนที่เริ่มเชียร์ฝั่งนั้นโดยไม่เจตนา

 

พวกเขาไม่ต้องการให้อีกทีมถูกบดขยี้อย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้พวกเขาทำได้ดีกว่านี้เล็กน้อย

 

ตอนนี้ฉันเป็นฝ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช

 

แฮเรียต เดอ แซงต์-โอวัน ผู้ซึ่งแสดงความยินดีในตอนแรกที่ฉันได้รับการสั่งสอนเองก็เช่นกัน ผิวของเธอขาวซีดหมดจด เธอมองมาระหว่างฉันกับคุณเอพินเฮาเซอร์ ราวกับว่าเธอกำลังถามด้วยสายตาว่าทำไมเขาถึงไม่หยุดการต่อสู้นี้ ทั้งๆ ที่ชัดเจนว่าใครคือผู้ชนะ

 

เธอเคยจินตนาการถึงมันแต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้

 

ฉันเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะลงเอยแบบนี้เช่นกัน

 

บางคนก็ใจเย็น

 

เอลเลนยังคงมองมาที่ฉัน และชาร์ลอตต์ก็เช่นกัน

 

คนที่เกลียดฉันกลับเป็นคนที่ดูกลัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าฉันจะต้องตายแน่ๆ

 

แม้ว่าการดวลกันที่วิหารจะเรียกได้ว่าเป็นการเล่นของเด็กเมื่อเทียบกับการดวลกันจริง แต่มันก็ยังเป็นการดวลอยู่ดี

 

มันไม่ได้อยู่ในระดับของการแข่งง่ายๆ

 

การดวลจะไม่จบลงเว้นแต่จะมีคนยอมแพ้ แม้แต่คุณเอพินเฮาเซอร์ก็เข้าแทรกแซงไม่ได้ เว้นแต่ว่าชีวิตของฉันจะตกอยู่ในความเสี่ยง

 

ฉันเองก็ไม่ได้ต้องการการแทรกแซงแบบนั้นด้วย ฉันคลานกลับขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเด็กคนอื่นๆ บิดเบี้ยว แต่ไม่ใช่ของมายาร์ตัน

 

ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้ฉันยอมแพ้ไปซะ

 

ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้ ฉันมองดูมายาร์ตันด้วยความยุ่งเหยิงทั้งตัวและมือของฉัน

 

ฉันคงไม่สามารถชนะได้

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าลมจะแรงขึ้น

 

แม้ว่าฉันจะไม่สามารถชนะได้

 

ไอ้สารเลวเอ้ย

 

“สักทีเถอะ”

 

“อะไรของแกฟะ?”

 

แม้ว่าฉันจะถูกบดขยี้และกระทืบ ฉันก็อยากจะให้เขาโดนแม้หมัดเดียวก็ยังดี

 

“ฉันจะต่อยแกให้ได้สักครั้ง ไอ้สารเลวเอ้ย!”

 

อย่างน้อยฉันจะได้สักทีหนึ่ง

 

ความเป็นจริงของความพ่ายแพ้ที่กำลังจะเกิดขึ้นของฉันหรือแผนการใดๆ ที่ฉันมีเกี่ยวกับการพัฒนาพลังเหนือธรรมชาติโดยการทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพจิตใจกดดัน ทั้งหมดนี้ถูกลืมด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่าน

 

ฉันโดนโจมตีหลายครั้งเกินไป

 

ฉันถูกกระแทกอย่างแรงจนความร้อนพุ่งตรงไปที่หัวของฉัน

 

ถ้าฉันไม่ได้โจมตีโดนไอ้สารเลวนั่นแม้แต่ทีเดียว ฉันคงนอนไม่หลับไปถึงเดือนหน้าแน่ๆ

 

ฉันพุ่งเข้าไปหาเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ฉันยังมีเหลืออยู่ และเตรียมที่จะใช้บางอย่าง ถ้าฉันลังเล เขาจะเตะฉันหรือไม่ก็ตีฉันด้วยดาบของเขา

 

ฉันไม่เคยวางแผนที่จะใช้สิ่งนี้เพื่ออะไรแบบนั้น

 

แต่ฉันรู้สึกรำคาญมากที่ฉันไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป

 

[ใช้ฟังก์ชั่น ‘แก้ไข’]

 

[ต้องใช้คะแนนความสำเร็จ 20 คะแนนเพื่อเริ่มกิจกรรมนี้]

 

ฉันฟาดดาบที่ขวางตาของฉันและทำให้ ‘บางสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น’ เกิดขึ้นในขณะนั้น

 

ดาบของเขา

 

มันแตกสลายทันทีที่ดาบของฉันโดนมัน

 

ดาบที่ขวางหน้าฉันแตก ทำให้มายาร์ตันเกิดสีหน้าประหลาดใจ

 

“อัก!”

 

ในเวลาเดียวกับที่ดาบฝึกหัดของฉันฟาดเข้าที่หัวของเขา ฉันก็กระแทกเข่าเข้าไปที่ ‘จุดจุดนั้น’ จุดที่เริ่มต้นการต่อสู้ทั้งหมดนี้ขึ้น

เพจผู้แปล Lemon FT 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+