เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 5 โดนบุกถึงตัว

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 5 โดนบุกถึงตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 05 โดนบุกถึงตัว

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วสูง

 

ก่อนเผยรอยยิ้มมุมปาก

 

แม้จะโดนหมอสาวกล่าวหาว่าเป็นคนกะล่อน แต่มันก็ไม่ทำให้เขาโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เอาเข้าจริงเขาออกจะชอบด้วยซ้า

 

ทราเวียร์เพียงถามกลับไปด้วยน้ำเสียงใสไร้เดียงสา

 

“…” คล้ายไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไรออกมา

 

“คนกะล่อน?”

 

“ตรงไหนครับที่กะล่อน?”

 

“ทั้งหมดนั่นแหละ”

 

“กะล่อน”

 

“กะล่อน”

 

“กะล่อน”

 

“หึ” ใบเฟิร์นแค่นเสียงส่งท้าย

 

หลังจากกล่าวหยอกล้อไปตามอารมณ์เสร็จสิ้น

 

ทั้งสองต่างนิ่งเงียบไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่มเติม เอาแต่จดจ้องมองท้องฟ้าทำราวกับมาพักผ่อนกินลมชมวิว

 

ก่อนเป็นฝ่ายใบเฟิร์นที่กล่าวขึ้นมากะทันหัน

 

“ตอนหล่อนมาถามฉัน”

 

“มาถามเกี่ยวกับเรื่องของเธอ”

 

“หล่อนเตรียมการมาดีมากเลยนะ”

 

“…”

 

“มีตั้งแต่ภาพจากกล้องวงจรปิด”

 

“คลิปเสียงตอนพูดคุยในห้องพยาบาล”

 

“รวมถึงพยานแวดล้อมเพื่อนร่วมโรงเรียนของเธอ”

 

“…”

 

“หล่อนมีมันทั้งหมด”

 

“แม้จะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเธอก็ตามทีเถอะ”

 

แน่นอนว่ายังมีรายละเอียดยิบย่อยหลากหลายประเด็นให้หยิบจับนำมาพูดคุย ติดที่หล่อนดันไม่อยากพูดคุยนี่สิ

 

เอาเข้าจริงต่อให้เปิดปากพูดคุยอธิบายออกไป อีกฝ่ายคงไม่พ้นต้องเหลือบมองด้วยหางตาทำเมินทุกสิ่งอย่างตามเดิมหรือไม่ก็ร้องบอกคำเดียวว่า “งั้นเหรอ” แล้วก็ปล่อยผ่าน

 

ในเมื่ออธิบายก็เหนื่อยเปล่าจะอธิบายเพิ่มเติมไปทำไม

 

“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

“เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงถือว่าเร็วมาก”

 

“ใช่” 

 

“เร็วมาก”

 

“เร็วจนน่าขนลุกเลยล่ะ”

 

“…” 

 

“ก็เป็นถึงคุณหนูสาวนิครับ”

 

“การรวบรวมข้อมูลของใครคนอื่นล้วนทำได้ง่ายดายอยู่แล้ว”

 

“หากทำไม่ได้นี่สิถึงจะแปลก”

 

“ก็จริงอย่างที่เธอว่า”

 

“…” ใบเฟิร์นกล่าวถามเสียงเบาต่อ

 

“ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงกับสามารถทำได้ขนาดนี้”

 

“เกรงว่าคงปิดตัวตนได้อีกไม่นาน”

 

“เธอเตรียมพร้อมรึยัง?”

 

“…”

 

“ที่เรียกผมมาก็เพื่อมาเตือนผม?”

 

“สำหรับเธอที่เกลียดเรื่องยุ่งยาก”

 

“คงไม่ชอบใจใช่ไหมล่ะที่โดนตามติดไล่หลังตลอด”

 

“…”

 

“เป็นฉันเอง”

 

“ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน”

 

“ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ”

 

“ที่สำคัญ”

 

เหมือนจะยังไม่หมดสิ้น

 

ยังมีเรื่องราวที่ต้องกล่าวออกไป

 

แต่หล่อนเลือกนิ่งชะงักคล้ายต้องการทบทวนหลายต่อหลายสิ่งอย่างก่อนจะกล่าวบอกออกไป หลังจากใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นาน

 

ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจพูดในที่สิ่งที่ต้องการจะพูด

 

“ที่สำคัญเลย”

 

“ครับ?”

 

“…”

 

“ข้างกายของคุณหนูสาวมีเมดอยู่”

 

“จะทำอะไรก็ระวังด้วย”

 

“อันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

ลองให้หมอสาวกล้ากล่าวแบบนี้ออกมา

 

แสดงว่าต้องไม่ใช่บุคคลปรกติธรรมดารับมือง่ายดาย หมอสาวพยักหน้าตอบกลับถ้าหากเป็นไปได้หล่อนอยากให้หลีก

 

ส่วนเหตุผลความจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหล่อนไม่คิดบอก

 

“…” ทราเวียร์เองก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ

 

“แนะนำให้หลีกเลี่ยงสินะ”

 

“ถ้าเป็นไปได้ล่ะนะ”

 

“ครับ”

 

“…”

 

“แค่นี้เหรอ?”

 

ใบเฟิร์นถามกลับด้วยความสงสัย

 

ทั้งที่เขาควรถามเหตุผลควรถามว่าทำไมถึงได้หักห้ามไม่ต้องการให้ปะทะแต่เขากับนิ่งเงียบแม้มันจะดีต่อหล่อนที่ไม่ต้องตอบคำถาม

 

แต่ในด้านความรู้สึกมันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

 

“…” ทราเวียร์ตอบเสียงเรียบ

 

“แค่นี้ครับ”

 

“เย็นชาจังนะ”

 

“…”

 

“ฉันพูดจริงนะ”

 

“ตัวตนของเธอเป็นอะไรที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”

 

“เกรงว่าคงไม่ใช่คนปรกติธรรมดาทั่วไป”

 

“ฉะนั้นหลีกได้สมควรหลีกอย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเธอ”

 

“…”

 

“หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย”

 

“เกรงว่าผมคงไม่มีโอกาสได้พบเจอหล่อน”

 

“…”

 

“ให้มันจริงเถอะ”

 

หล่อนมั่นใจว่าโชคชะตามันต้องเล่นตลกแน่นอน

 

ต่อให้เขามีใจจริงต่อให้เขาพยายามหลบเลี่ยงยังไงมันก็ใช่ว่าจะหลบเลี่ยงได้ทั้งหมดยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงคุณหนูสาวตระกูลใหญ่แล้วด้วย

 

ทราเวียร์เองใช่ว่าจะหัวสมองโง่เขลาเบาปัญญาจนครุ่นคิดอะไรไม่ออก เขารู้ทุกสิ่งอย่างมันขึ้นอยู่กับเวลาจะเป็นฝ่ายหล่อนเตรียมตัวเสร็จก่อนหรือจะเป็นฝ่ายเขาที่หาทางหลบเลี่ยงได้ก่อน

 

มันล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับเวลาทั้งนั้น

 

“…”

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว”

 

“งั้นผมขอตัว—”

 

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค

 

ยิ่งยังไม่ทันก้าวเท้าออกเดินไปไหน ข้อมือของเขาก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้จับด้วยเรี่ยวแรงหนักหน่วงหนักแน่นกันไม่ให้ไปไหน

 

ซึ่งต้นสายกำเนิดก็คือหมอสาวใบเฟิร์นนั้นเอง

 

หมับ!

 

“…”

 

“อยู่ก่อน”

 

“ครับ?”

 

“อยู่เป็นเพื่อนฉัน”

 

“…”

 

“ทำไม?”

 

ปราศจากคำตอบตอบกลับมา

 

นอกจากไม่มีคำตอบตอบกลับมาอิสตรีสาวยังเมินเฉยต่อทุกสิ่งอย่าง หล่อนเพียงนิ่งเงียบปล่อยกายปล่อยใจปล่อยให้กาลเวลาผ่านพ้นไป

 

คงมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้หล่อนต้องครุ่นคิดจริงจัง ชายหนุ่มสวมแว่นเลือกทอดถอนหายใจยินยอมโอนอ่อนไปในที่สุด

 

เขาหันหน้าออกไปมองท้องฟ้าอยู่เป็นเพื่อนหมอสาว

 

“แค่แปปเดียวนะ”

 

“อือ~” หล่อนหันมามองทราเวียร์

 

ก่อนใบเฟิร์นจะกะพริบน่ารักตอบกลับ

 

พฤติกรรมการแสดงที่หล่อนปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นถึงกับมึนงงสับสนไปชั่วขณะ

 

ก่อนเจ้าตัวจะลอบหันหน้าไปอีกทาง

 

พยายามปกปิดริ้วแดงบนใบหน้า

 

…‘น่ารักชิบ’

 

“…”

 

ผ่านพ้นไปเกือบสิบนาที

 

จากที่เคยนิ่งเงียบมาตลอด ในที่สุดใบเฟิร์นหมอสาวก็เป็นฝ่ายกล่าวเปิดประเด็นขึ้นมาหล่อนร้องขอบอกให้เขากลับไป

 

พยายามไล่เขาและปล่อยให้หล่อนอยู่ต่อ

 

“พอแล้วล่ะ”

 

“…”

 

“เธอกลับไปเถอะ”

 

“แล้วคุณล่ะ?”

 

“ฉันจะอยู่ต่ออีกหน่อย”

 

“…”

 

“กลับไปเถอะ”

 

“นิ—”

 

“อาการเย็นสบายครับ”

 

“อยู่ต่ออีกหน่อยก็ดีเหมือนกัน”

 

“…” ใบเฟิร์นหรี่ตามอง 

 

ก่อนแววตาคุณหมอสาวทรงเสน่ห์จะเริ่มฉายแววประกายซุกซน

 

ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นที่ได้ยินถึงกับขมวดคิ้วแน่นทันที เนื่องจากประสบการณ์นานนับปีกำลังร้องบอกเตือนเขา

 

เตือนให้เขารับรู้ว่าสถานการณ์แปลกประหลาดกำลังจะเกิดขึ้น ทั้งยังไม่ใช่เหตุการณ์ปรกติธรรมดาทั่วไปรับมือง่ายดายแต่เป็นเหตุการณ์รับมือยากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว

 

และแล้วสิ่งที่ครุ่นคิดเอาไว้มันก็เกิดขึ้นจริง

 

“หึหึหึ” 

 

“หัวเราะทำไม?”

 

“…” 

 

“เปล่านะแค่”

 

“เธอน่ะเป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน”

 

“เป็นจำพวกเย็นแค่เปลือกอย่างเดียวเท่านั้น”

 

“ทั้งที่แท้จริงก็เป็นได้แค่ไก่อ่อน”

 

อาจเพราะล่วงรู้ว่าหล่อนกำลังอ่อนไหว

 

เลยไม่คิดทิ้งให้อยู่คนเดียง ทั้งที่ปรกติเป็นคนแข็งกระด้างไม่เห็นหัวใครคนอื่นแต่ตอนนี้กับยินยอมทิ้งเวลาส่วนตัวเพื่อมาปลอบโยนเธอ

 

ช่างเป็นเด็กน้อยที่เอาใจใส่เสียจริง

 

…‘คนขี้โกง’

 

“…”

 

“ดันมาทำให้ฉันหวั่นไหวซะได้”

 

“เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ”

 

“…” รอยยิ้มใบเฟิร์นฉีกกว้าง

 

ก่อนเรือนร่างงดงามยอดเยี่ยมจะเริ่มขยับอวดทรวงทรง

 

ตามมาด้วยฝีเท้าขยับสาวเข้ามาใกล้ ใกล้จนเกือบแนบชิดติดร่างกาย ชายหนุ่มสวมแว่นที่พบเห็นจำต้องรีบร้องเตือนห้ามปรามทันที กันไม่ให้สถานการณ์มันยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้

 

เหงื่อเย็นไหลอาบเต็มโครงหน้า

 

…‘ยะ ยัยนี่คิดจะทำอะไรอีกเนี่ย?!’

 

“…”

 

“ขยับเข้ามาใกล้ทำไม?”

 

“…”

 

“ถอยออกไปเลย”

 

“…”

 

“นิ บอกให้ถอย”

 

“…”

 

“ยะ หยุดก่อนคิดจะทำอะไรน่ะ?!” 

 

ขณะหัวสมองชายหนุ่มกำลังร้อนวูบครุ่นคิดอะไรไม่ออก

 

อาจารย์พยาบาลก็เลือกแทรกแซงเข้ามาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกระตุ้นราคะชายหนุ่ม แน่นอนทราเวียร์ผู้แข็งกร้าวย่อมไม่ตกเป็นเหยื่อของอีกฝ่าย

 

แต่มันก็ทำให้เขาหวาดหวั่นหวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“…” แววตาหล่อนเปล่งประกายดุจอัญมณี

 

“แค่อยากจะบอก”

 

“บอกอะไร?”

 

“ว่าทุกอย่างที่เธอให้ฉันทำ”

 

“มันไม่ฟรีนะ”

 

แววตาหล่อนแอบแฝงไปด้วยห้วงอารมณ์ขี้เล่นขั้นสุด

 

หลังจากกล่าวเสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนความ ใบเฟิร์นก็เริ่มขยับเท้าก้าวเข้าหาทราเวียร์อีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงก้าวเท้าปรกติธรรมดาแต่เป็นย่างก้าวไล่บี้ชายหนุ่มอย่างโหดเหี้ยม

 

ไล่จนอีกฝ่ายถึงกับต้องร้องเสียงหลง

 

…‘หยุดสิ?!’

 

“…”

 

“รู้แล้ว!”

 

“ก็บอกว่ารู้แล้วไง?!”

 

“ดะ เดี๋ยว คิดจะทำอะไร?!” 

 

ไม่ได้ผลหล่อนไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย

 

ในเมื่อไม่ยอมหยุด ไม่ยอมปล่อยให้พักหายใจ 

 

ทราเวียร์จำต้องก้าวเท้าถอยหลัง ถอยไปให้ห่าง ถอยไปให้ไกลเท่าที่จะเป็นไปได้ กันไม่ให้เกิดสถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงเกินจำเป็น

 

เรียกได้ว่าช่วงจังหวะเวลานี้ต่างฝ่ายต่างเล่นเกมรับรุกอย่างดุเดือด

 

จนกระทั่งทราเวียร์ก้าวเท้าถอยหลังติดกำแพง

 

…‘กำแพง?’

 

“…”

 

“หยุด—” ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค

 

เป็นฝ่ามือขาวเรียวอัดกระแทกข้างใบหูปิดกั้นทุกเส้นทางหลบหนี

 

ด้วยใบหน้าสวยเด่นสง่าเป็นทุนเดิมบวกกับทรวงทรงองค์เอวยอดเยี่ยมไม่ว่าใครหน้าไหนเห็นเป็นต้องเหลือบหันมอง

 

ด้วยวิธีการลงมือรวดเร็วของหมอสาว ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นผู้โดนกระทำนิ่งแข็งค้างไปในทันที ใบเฟิร์นเอียงคอเล็กน้อยพร้อมจดจ้องมองอีกฝ่ายเหมือนกำลังมองของเล่นชิ้นโปรด

 

ก่อนกล่าวตอบเสียงหวาน

 

ตึง!

 

“…”

 

“นักเรียนผู้น่ารักของฉัน~”

 

“อย่างที่ฉันบอกไป”

 

“ของทุกอย่างมันไม่ฟรี”

 

“และจะไม่มีวันเป็นของฟรีเด็ดขาด”

 

“เพราะฉะนั้น”

 

“ถึงเวลาที่เธอจะต้องจ่ายฉันคืนบ้างแล้วล่ะนะ~”

 

“…” รอยยิ้มหวานเร้าร้อนปรากฎบนใบหน้า

 

นี่ไม่ใช่การหยอกล้อเหมือนครั้งก่อนหน้า ยิ่งไม่ใช่บทละครแปลกประหลาดหวังแกล้งอีกฝ่ายให้ตายใจแต่เป็นความต้องการของหล่อน

 

ทั้งยังเป็นความต้องการแท้จริงอีกต่างหาก

 

“…” ทราเวียร์ถึงกับยิ้มแห้ง

 

ก่อนกล่าวตอบเสียงเบา

 

“เราเจรจากันได้ไหม?”

 

“ไม่~”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 5 โดนบุกถึงตัว

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 5 โดนบุกถึงตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 05 โดนบุกถึงตัว

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วสูง

 

ก่อนเผยรอยยิ้มมุมปาก

 

แม้จะโดนหมอสาวกล่าวหาว่าเป็นคนกะล่อน แต่มันก็ไม่ทำให้เขาโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เอาเข้าจริงเขาออกจะชอบด้วยซ้า

 

ทราเวียร์เพียงถามกลับไปด้วยน้ำเสียงใสไร้เดียงสา

 

“…” คล้ายไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไรออกมา

 

“คนกะล่อน?”

 

“ตรงไหนครับที่กะล่อน?”

 

“ทั้งหมดนั่นแหละ”

 

“กะล่อน”

 

“กะล่อน”

 

“กะล่อน”

 

“หึ” ใบเฟิร์นแค่นเสียงส่งท้าย

 

หลังจากกล่าวหยอกล้อไปตามอารมณ์เสร็จสิ้น

 

ทั้งสองต่างนิ่งเงียบไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่มเติม เอาแต่จดจ้องมองท้องฟ้าทำราวกับมาพักผ่อนกินลมชมวิว

 

ก่อนเป็นฝ่ายใบเฟิร์นที่กล่าวขึ้นมากะทันหัน

 

“ตอนหล่อนมาถามฉัน”

 

“มาถามเกี่ยวกับเรื่องของเธอ”

 

“หล่อนเตรียมการมาดีมากเลยนะ”

 

“…”

 

“มีตั้งแต่ภาพจากกล้องวงจรปิด”

 

“คลิปเสียงตอนพูดคุยในห้องพยาบาล”

 

“รวมถึงพยานแวดล้อมเพื่อนร่วมโรงเรียนของเธอ”

 

“…”

 

“หล่อนมีมันทั้งหมด”

 

“แม้จะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเธอก็ตามทีเถอะ”

 

แน่นอนว่ายังมีรายละเอียดยิบย่อยหลากหลายประเด็นให้หยิบจับนำมาพูดคุย ติดที่หล่อนดันไม่อยากพูดคุยนี่สิ

 

เอาเข้าจริงต่อให้เปิดปากพูดคุยอธิบายออกไป อีกฝ่ายคงไม่พ้นต้องเหลือบมองด้วยหางตาทำเมินทุกสิ่งอย่างตามเดิมหรือไม่ก็ร้องบอกคำเดียวว่า “งั้นเหรอ” แล้วก็ปล่อยผ่าน

 

ในเมื่ออธิบายก็เหนื่อยเปล่าจะอธิบายเพิ่มเติมไปทำไม

 

“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

“เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงถือว่าเร็วมาก”

 

“ใช่” 

 

“เร็วมาก”

 

“เร็วจนน่าขนลุกเลยล่ะ”

 

“…” 

 

“ก็เป็นถึงคุณหนูสาวนิครับ”

 

“การรวบรวมข้อมูลของใครคนอื่นล้วนทำได้ง่ายดายอยู่แล้ว”

 

“หากทำไม่ได้นี่สิถึงจะแปลก”

 

“ก็จริงอย่างที่เธอว่า”

 

“…” ใบเฟิร์นกล่าวถามเสียงเบาต่อ

 

“ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงกับสามารถทำได้ขนาดนี้”

 

“เกรงว่าคงปิดตัวตนได้อีกไม่นาน”

 

“เธอเตรียมพร้อมรึยัง?”

 

“…”

 

“ที่เรียกผมมาก็เพื่อมาเตือนผม?”

 

“สำหรับเธอที่เกลียดเรื่องยุ่งยาก”

 

“คงไม่ชอบใจใช่ไหมล่ะที่โดนตามติดไล่หลังตลอด”

 

“…”

 

“เป็นฉันเอง”

 

“ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน”

 

“ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ”

 

“ที่สำคัญ”

 

เหมือนจะยังไม่หมดสิ้น

 

ยังมีเรื่องราวที่ต้องกล่าวออกไป

 

แต่หล่อนเลือกนิ่งชะงักคล้ายต้องการทบทวนหลายต่อหลายสิ่งอย่างก่อนจะกล่าวบอกออกไป หลังจากใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นาน

 

ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจพูดในที่สิ่งที่ต้องการจะพูด

 

“ที่สำคัญเลย”

 

“ครับ?”

 

“…”

 

“ข้างกายของคุณหนูสาวมีเมดอยู่”

 

“จะทำอะไรก็ระวังด้วย”

 

“อันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

ลองให้หมอสาวกล้ากล่าวแบบนี้ออกมา

 

แสดงว่าต้องไม่ใช่บุคคลปรกติธรรมดารับมือง่ายดาย หมอสาวพยักหน้าตอบกลับถ้าหากเป็นไปได้หล่อนอยากให้หลีก

 

ส่วนเหตุผลความจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหล่อนไม่คิดบอก

 

“…” ทราเวียร์เองก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ

 

“แนะนำให้หลีกเลี่ยงสินะ”

 

“ถ้าเป็นไปได้ล่ะนะ”

 

“ครับ”

 

“…”

 

“แค่นี้เหรอ?”

 

ใบเฟิร์นถามกลับด้วยความสงสัย

 

ทั้งที่เขาควรถามเหตุผลควรถามว่าทำไมถึงได้หักห้ามไม่ต้องการให้ปะทะแต่เขากับนิ่งเงียบแม้มันจะดีต่อหล่อนที่ไม่ต้องตอบคำถาม

 

แต่ในด้านความรู้สึกมันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

 

“…” ทราเวียร์ตอบเสียงเรียบ

 

“แค่นี้ครับ”

 

“เย็นชาจังนะ”

 

“…”

 

“ฉันพูดจริงนะ”

 

“ตัวตนของเธอเป็นอะไรที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”

 

“เกรงว่าคงไม่ใช่คนปรกติธรรมดาทั่วไป”

 

“ฉะนั้นหลีกได้สมควรหลีกอย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเธอ”

 

“…”

 

“หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย”

 

“เกรงว่าผมคงไม่มีโอกาสได้พบเจอหล่อน”

 

“…”

 

“ให้มันจริงเถอะ”

 

หล่อนมั่นใจว่าโชคชะตามันต้องเล่นตลกแน่นอน

 

ต่อให้เขามีใจจริงต่อให้เขาพยายามหลบเลี่ยงยังไงมันก็ใช่ว่าจะหลบเลี่ยงได้ทั้งหมดยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงคุณหนูสาวตระกูลใหญ่แล้วด้วย

 

ทราเวียร์เองใช่ว่าจะหัวสมองโง่เขลาเบาปัญญาจนครุ่นคิดอะไรไม่ออก เขารู้ทุกสิ่งอย่างมันขึ้นอยู่กับเวลาจะเป็นฝ่ายหล่อนเตรียมตัวเสร็จก่อนหรือจะเป็นฝ่ายเขาที่หาทางหลบเลี่ยงได้ก่อน

 

มันล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับเวลาทั้งนั้น

 

“…”

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว”

 

“งั้นผมขอตัว—”

 

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค

 

ยิ่งยังไม่ทันก้าวเท้าออกเดินไปไหน ข้อมือของเขาก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้จับด้วยเรี่ยวแรงหนักหน่วงหนักแน่นกันไม่ให้ไปไหน

 

ซึ่งต้นสายกำเนิดก็คือหมอสาวใบเฟิร์นนั้นเอง

 

หมับ!

 

“…”

 

“อยู่ก่อน”

 

“ครับ?”

 

“อยู่เป็นเพื่อนฉัน”

 

“…”

 

“ทำไม?”

 

ปราศจากคำตอบตอบกลับมา

 

นอกจากไม่มีคำตอบตอบกลับมาอิสตรีสาวยังเมินเฉยต่อทุกสิ่งอย่าง หล่อนเพียงนิ่งเงียบปล่อยกายปล่อยใจปล่อยให้กาลเวลาผ่านพ้นไป

 

คงมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้หล่อนต้องครุ่นคิดจริงจัง ชายหนุ่มสวมแว่นเลือกทอดถอนหายใจยินยอมโอนอ่อนไปในที่สุด

 

เขาหันหน้าออกไปมองท้องฟ้าอยู่เป็นเพื่อนหมอสาว

 

“แค่แปปเดียวนะ”

 

“อือ~” หล่อนหันมามองทราเวียร์

 

ก่อนใบเฟิร์นจะกะพริบน่ารักตอบกลับ

 

พฤติกรรมการแสดงที่หล่อนปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นถึงกับมึนงงสับสนไปชั่วขณะ

 

ก่อนเจ้าตัวจะลอบหันหน้าไปอีกทาง

 

พยายามปกปิดริ้วแดงบนใบหน้า

 

…‘น่ารักชิบ’

 

“…”

 

ผ่านพ้นไปเกือบสิบนาที

 

จากที่เคยนิ่งเงียบมาตลอด ในที่สุดใบเฟิร์นหมอสาวก็เป็นฝ่ายกล่าวเปิดประเด็นขึ้นมาหล่อนร้องขอบอกให้เขากลับไป

 

พยายามไล่เขาและปล่อยให้หล่อนอยู่ต่อ

 

“พอแล้วล่ะ”

 

“…”

 

“เธอกลับไปเถอะ”

 

“แล้วคุณล่ะ?”

 

“ฉันจะอยู่ต่ออีกหน่อย”

 

“…”

 

“กลับไปเถอะ”

 

“นิ—”

 

“อาการเย็นสบายครับ”

 

“อยู่ต่ออีกหน่อยก็ดีเหมือนกัน”

 

“…” ใบเฟิร์นหรี่ตามอง 

 

ก่อนแววตาคุณหมอสาวทรงเสน่ห์จะเริ่มฉายแววประกายซุกซน

 

ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นที่ได้ยินถึงกับขมวดคิ้วแน่นทันที เนื่องจากประสบการณ์นานนับปีกำลังร้องบอกเตือนเขา

 

เตือนให้เขารับรู้ว่าสถานการณ์แปลกประหลาดกำลังจะเกิดขึ้น ทั้งยังไม่ใช่เหตุการณ์ปรกติธรรมดาทั่วไปรับมือง่ายดายแต่เป็นเหตุการณ์รับมือยากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว

 

และแล้วสิ่งที่ครุ่นคิดเอาไว้มันก็เกิดขึ้นจริง

 

“หึหึหึ” 

 

“หัวเราะทำไม?”

 

“…” 

 

“เปล่านะแค่”

 

“เธอน่ะเป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน”

 

“เป็นจำพวกเย็นแค่เปลือกอย่างเดียวเท่านั้น”

 

“ทั้งที่แท้จริงก็เป็นได้แค่ไก่อ่อน”

 

อาจเพราะล่วงรู้ว่าหล่อนกำลังอ่อนไหว

 

เลยไม่คิดทิ้งให้อยู่คนเดียง ทั้งที่ปรกติเป็นคนแข็งกระด้างไม่เห็นหัวใครคนอื่นแต่ตอนนี้กับยินยอมทิ้งเวลาส่วนตัวเพื่อมาปลอบโยนเธอ

 

ช่างเป็นเด็กน้อยที่เอาใจใส่เสียจริง

 

…‘คนขี้โกง’

 

“…”

 

“ดันมาทำให้ฉันหวั่นไหวซะได้”

 

“เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ”

 

“…” รอยยิ้มใบเฟิร์นฉีกกว้าง

 

ก่อนเรือนร่างงดงามยอดเยี่ยมจะเริ่มขยับอวดทรวงทรง

 

ตามมาด้วยฝีเท้าขยับสาวเข้ามาใกล้ ใกล้จนเกือบแนบชิดติดร่างกาย ชายหนุ่มสวมแว่นที่พบเห็นจำต้องรีบร้องเตือนห้ามปรามทันที กันไม่ให้สถานการณ์มันยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้

 

เหงื่อเย็นไหลอาบเต็มโครงหน้า

 

…‘ยะ ยัยนี่คิดจะทำอะไรอีกเนี่ย?!’

 

“…”

 

“ขยับเข้ามาใกล้ทำไม?”

 

“…”

 

“ถอยออกไปเลย”

 

“…”

 

“นิ บอกให้ถอย”

 

“…”

 

“ยะ หยุดก่อนคิดจะทำอะไรน่ะ?!” 

 

ขณะหัวสมองชายหนุ่มกำลังร้อนวูบครุ่นคิดอะไรไม่ออก

 

อาจารย์พยาบาลก็เลือกแทรกแซงเข้ามาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกระตุ้นราคะชายหนุ่ม แน่นอนทราเวียร์ผู้แข็งกร้าวย่อมไม่ตกเป็นเหยื่อของอีกฝ่าย

 

แต่มันก็ทำให้เขาหวาดหวั่นหวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“…” แววตาหล่อนเปล่งประกายดุจอัญมณี

 

“แค่อยากจะบอก”

 

“บอกอะไร?”

 

“ว่าทุกอย่างที่เธอให้ฉันทำ”

 

“มันไม่ฟรีนะ”

 

แววตาหล่อนแอบแฝงไปด้วยห้วงอารมณ์ขี้เล่นขั้นสุด

 

หลังจากกล่าวเสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนความ ใบเฟิร์นก็เริ่มขยับเท้าก้าวเข้าหาทราเวียร์อีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงก้าวเท้าปรกติธรรมดาแต่เป็นย่างก้าวไล่บี้ชายหนุ่มอย่างโหดเหี้ยม

 

ไล่จนอีกฝ่ายถึงกับต้องร้องเสียงหลง

 

…‘หยุดสิ?!’

 

“…”

 

“รู้แล้ว!”

 

“ก็บอกว่ารู้แล้วไง?!”

 

“ดะ เดี๋ยว คิดจะทำอะไร?!” 

 

ไม่ได้ผลหล่อนไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย

 

ในเมื่อไม่ยอมหยุด ไม่ยอมปล่อยให้พักหายใจ 

 

ทราเวียร์จำต้องก้าวเท้าถอยหลัง ถอยไปให้ห่าง ถอยไปให้ไกลเท่าที่จะเป็นไปได้ กันไม่ให้เกิดสถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงเกินจำเป็น

 

เรียกได้ว่าช่วงจังหวะเวลานี้ต่างฝ่ายต่างเล่นเกมรับรุกอย่างดุเดือด

 

จนกระทั่งทราเวียร์ก้าวเท้าถอยหลังติดกำแพง

 

…‘กำแพง?’

 

“…”

 

“หยุด—” ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค

 

เป็นฝ่ามือขาวเรียวอัดกระแทกข้างใบหูปิดกั้นทุกเส้นทางหลบหนี

 

ด้วยใบหน้าสวยเด่นสง่าเป็นทุนเดิมบวกกับทรวงทรงองค์เอวยอดเยี่ยมไม่ว่าใครหน้าไหนเห็นเป็นต้องเหลือบหันมอง

 

ด้วยวิธีการลงมือรวดเร็วของหมอสาว ทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นผู้โดนกระทำนิ่งแข็งค้างไปในทันที ใบเฟิร์นเอียงคอเล็กน้อยพร้อมจดจ้องมองอีกฝ่ายเหมือนกำลังมองของเล่นชิ้นโปรด

 

ก่อนกล่าวตอบเสียงหวาน

 

ตึง!

 

“…”

 

“นักเรียนผู้น่ารักของฉัน~”

 

“อย่างที่ฉันบอกไป”

 

“ของทุกอย่างมันไม่ฟรี”

 

“และจะไม่มีวันเป็นของฟรีเด็ดขาด”

 

“เพราะฉะนั้น”

 

“ถึงเวลาที่เธอจะต้องจ่ายฉันคืนบ้างแล้วล่ะนะ~”

 

“…” รอยยิ้มหวานเร้าร้อนปรากฎบนใบหน้า

 

นี่ไม่ใช่การหยอกล้อเหมือนครั้งก่อนหน้า ยิ่งไม่ใช่บทละครแปลกประหลาดหวังแกล้งอีกฝ่ายให้ตายใจแต่เป็นความต้องการของหล่อน

 

ทั้งยังเป็นความต้องการแท้จริงอีกต่างหาก

 

“…” ทราเวียร์ถึงกับยิ้มแห้ง

 

ก่อนกล่าวตอบเสียงเบา

 

“เราเจรจากันได้ไหม?”

 

“ไม่~”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+