เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 7 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 7 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 07 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

 

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตกหล่นเรียบร้อย เปลี่ยนถ่ายจากช่วงเวลาแสงอาทิตย์สอดส่องเข้าสู่ช่วงราตรียาวนานรอคอยเข้าสู่วันใหม่

 

ณ ห้องคอนโดราคาหรูหรางดงามจับใจ

 

สายน้ำขาวใสไหลผ่านจากก๊อกน้ำลงฝ่ามือของเขา

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงนิ่งเงียบปล่อยผ่านปล่อยให้น้ำไหลผ่านฝ่ามือไปทั้งแบบนั้น สายตาเขาคล้ายกำลังจมจ่อมอยู่ในห้วงความคิดยากจะมีใครคาดเดา

 

ก่อนฝ่ามือจะวักน้ำมาล้างหน้าล้างตาตัวเองหลายต่อหลายครั้ง หลังจากล้างเสร็จสิ้นล้างทั้งกายและใจเขาเลือกเงยหน้ามองกระจก

 

ก่อนทอดถอนหายใจเบาบาง

 

…‘ให้ตายสิ’

 

“…”

 

“หน้าตาดูไม่ได้”

 

ทุกสิ่งอย่างล้วนต้องโทษใบเฟิร์น

 

ถ้าหากหมอสาวประจำโรงเรียนไม่หยิบยกข้อเสนอมัดมือชกขึ้นมาพูดคุย เรื่องราวมากมายในอดีตคงไม่ถูกขุดคุ้ยจนโผล่เข้ามาสวัสดีทักทายเขาถึงที่ 

 

หลังจากจมจ่อมอยู่กับตัวเองคิดทบทวนหลายต่อหลายครั้ง คิดจนมาถึงตอนนี้เขาก็ยังครุ่นคิดไม่ออกอยู่ดีว่าอะไรเป็นเหตุผลแรงจูงใจที่ทำให้หล่อนกล่าวหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา

 

ยิ่งคิด ยิ่งมึนงง ยิ่งสับสนไม่เข้าใจ

 

“…” 

 

“ไม่เข้าใจ”

 

“เรื่องอื่นมีเยอะแยะให้เลือกกับไม่เลือก”

 

“ดันเลือกเรื่องเปล่าประโยชน์พวกนี้เข้ามาแทน”

 

“อยากแกล้งกันเหรอ?”

 

“หรือว่ามีเหตุผลอื่นแอบแฝง?” 

 

“…” 

 

“ไม่สิ”

 

“บางที”

 

กล่าวจบแววตาก็เริ่มแปรเปลี่ยน

 

เริ่มออกอาการหวาดหวั่นหวั่นไหว

 

มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งผุดเข้ามาในสมองของเขา เพียงแต่เขาไม่อยากจะยอมรับมันก็เท่านั้น สุดท้ายปลายทางแม้ไม่อยากยอมรับยังไงก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี

 

ทราเวียร์ถอนหายใจจนปัญญาขั้นสุด

 

…‘เราอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้’

 

“…”

 

“แค่ไม่อยากคิด”

 

”ไม่อยากพูดถึงมัน”

 

“…”

 

“บัดซบ!”

 

“ไม่ชอบเลยแบบนี้”

 

เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลกไม่เลิกรา

 

พึ่งกล่าวถึงไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แถมคนที่โทรมาหายังไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหมอสาวประจำโรงเรียนคนเดิมเพิ่มเติมคือโทรเข้ามาหาได้ถูกจังหวะเวลาเหลือเกิน

 

ทราเวียร์จ้องมองรายชื่อบนโทรศัพท์

 

…‘อาจารย์?’

 

“…” 

 

ก่อนเขาจะหรี่ตามอง

 

ลองได้โทรมาหาช่วงเวลาดึกดื่นแบบนี้ย่อมไม่ใช่ธุระปรกติธรรมดา ชายหนุ่มสวมแว่นนิ่งเงียบไตร่ตรองอยู่กับตัวเองก่อนตัดสินใจเด็ดขาดไม่รีรอ

 

ใช้นิ้วมือเลื่อนกดรับสายและทันทีที่รับสาย

 

เสียงหวานหมอสาวก็ดังโต้ตอบกลับมาทันที

 

“ทำอะไรอยู่?” 

 

“…” 

 

“ได้ยินรึเปล่า?”

 

“…”

 

“ยืนมองกระจกครับ”

 

“มองกระจก?” 

 

น้ำเสียงหล่อนดูสูงขึ้นหลายระดับ

 

มองกระจก? อะไรคือมองกระจก? เดาได้เลยว่าหมอสาวปลายสายน่าจะขมวดคิ้วอย่างหนักในตอนนี้ ทราเวียร์เพียงยิ้มหัวเราะเล็กน้อย

 

ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก

 

“ครับ”

 

“…”

 

“โทรมาหาผมทำไม?”

 

“มีธุระอื่นที่ยังไม่ได้บอก”

 

“หรือว่าว่างเกินจนไม่มีอะไรทำ”

 

“…”

 

“กับครูบาอาจารย์พูดให้มันสุภาพหน่อย”

 

“จิกกัดทำตัวเป็นอันธพาลน้อยไปได้”

 

“นอกเวลาไม่นับครับ”

 

“อีกอย่างหลังจากเรื่องเมื่อตอนเย็น”

 

“คุณยังคิดว่าผมจะพูดดีด้วยเหรอ?” 

 

ทราเวียร์ตอบกลับเสียงเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์

 

หากไม่ติดว่ามีหนี้บุญคุณมากมายติดประดับแปะตามตัว เขาคงเลือกทำเมินไม่คิดเปิดปากพูดคุยประเด็นน่าเบื่อหน่ายพวกนั้นด้วยซ้ำ

 

ใบเฟิร์นเองก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายครุ่นคิดยังไง

 

เลยไม่อยากเจาะลึกให้เสียอารมณ์

 

“ปากร้ายจังนะ~”

 

“ที่ฉันโทรมาก็เพื่อจะมาบอกเธอ”

 

“เกี่ยวกับกำหนดการพรุ่งนี้”

 

“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

“กี่โมงครับ?”

 

“ประมาณ 5 โมงเย็น”

 

“ไม่ช้าไม่เร็วไปกว่านั่น”

 

“ได้ครับ”

 

“ห้ามหนีเด็ดขาด”

 

“หนีมีตามตัวถึงบ้านแน่นอน”

 

“…”

 

“อย่าพึ่งวางสาย”

 

“นอกจากกำหนดการยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกเธอ”

 

“เป็นเรื่องสิ่งนั้นที่เธอกำลังตามหา”

 

“…”

 

“ฟังอยู่ครับ”

 

สีหน้าชายหนุ่มแปรเปลี่ยนกับมาจริงจังอีกครั้ง

 

เมื่อไม่กี่วันก่อน ก่อนที่เขาจะต้องมาแบกรับบาดแผลที่ไม่ควรมาอยู่บนร่างกายของเขา ชายหนุ่มสวมแว่นได้วานให้อาจารย์สาวพยาบาลค้นหาบางสิ่งอย่างให้

 

เป็นบางสิ่งอย่างที่สำคัญมากถึงมากที่สุด

 

“หาเจอหรือไม่เจอ?”

 

“ขอโทษ”

 

“ไม่เจอสินะ”

 

“ใช่”

 

“มันยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น”

 

“…”

 

“จะถอดใจหรือว่าเดินหน้าต่อ”

 

“เวียร์?”

 

“เดินหน้าต่อครับ”

 

“เราจะเดินหน้าต่อ”

 

เอาเถอะใช่ว่าผลลัพธ์แบบนี้มันจะเหนือความคาดหมาย

 

เอาเข้าจริงหากหล่อนค้นหาพบเจอมันขึ้นมานั่นแหละถึงจะเรียกว่าเหนือความคาดหมายอย่างแท้จริงทราเวียร์เผยรอยยิ้มเบาบาง

 

ก่อนกล่าวเสียงสบายกลับไปพยายามไม่ให้หล่อนต้องรู้สึกผิด

 

“…” ซึ่งมันก็ได้ผลเลยทีเดียว

 

“ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่าลืมแจ้งผม”

 

“ผมจะรอคอยข่าวสารจากคุณเสมอ”

 

“หวังว่าเธอจะคิดถูกนะ”

 

กล่าวเสร็จใบเฟิร์นตัดสายทิ้งทันที

 

ปล่อยให้ทราเวียร์ขมวดคิ้วมึนงงอยู่คนเดียว ฟังจากน้ำเสียงของหล่อนแล้วหากเขาเลือกผิดคำมั่นสัญญาไม่ยินยอมไปตามที่ตกลงเอาไว้มีโอกาสสูงมากที่จะโดนตามถึงตัว

 

ทราเวียร์ถอนหายใจขณะก้มหน้ามองโทรศัพท์

 

…‘ถ้าหนีมีตามตัวถึงบ้าน’

 

“…”

 

“เป็นแม่ฉันเหรอ?” 

 

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ก่อนร่างชายหนุ่มสวมแว่นจะก้าวเท้าเดินมุ่งหน้ากลับเตียงนอนของตน แต่ก้าวเท้าไปได้ไม่เท่าไหร่ ขาของเขาก็เตะเข้ากับบางสิ่งอย่าง

 

มันคือหนังสือสีขาวด้านขาวหมดจดไม่มีสีสันอื่นประดับแต่งเติม

 

“…” ทราเวียร์กะพริบตาจ้องมอง

 

พร้อมหยิบหนังสือแปลกประหลาดขึ้นมา

 

“หนังสือ?”

 

“…”

 

“ไม่ใช่หนังสือที่เคยซื้อเอาไว้”

 

“งั้นเป็นของใคร?”

 

“มาที่นี่ได้ไง?” 

 

หัวคิ้วขมวดยกสูง

 

ขณะกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตน

 

บางสิ่งอย่างก็ไหลหล่นออกมาจากหนังสือสีขาวด้าน มันคือรูปภาพถ่ายใบหนึ่งเป็นรูปวิวทิวทัศน์ปรกติธรรมดาไม่มีอะไรเพิ่มเติม รูปลอยเหนือกลางอากาศก่อนหล่นลงพื้น

 

ทราเวียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนก้มหยิบจับ

 

“หรือว่ามีใครคนอื่นแอบเข้ามาในห้อง”

 

…‘ไม่ใช่แค่หนังสืออย่างเดียว’

 

“…”

 

“รูปถ่าย?”

 

“…” 

 

แม้จะเป็นเพียงรูปภาพปรกติธรรมดา

 

แต่บรรยากาศและห้วงความรู้สึกที่มันปลดปล่อยออกมา

 

มันช่างแปลกประหลาดแปลกแยกเหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าภาพปรกติธรรมดาเบื้องหน้ามันไม่ใช่ภาพปรกติธรรมดาอย่างที่ควรเป็น

 

ทราเวียร์มองจ้องเขม็ง

 

…‘เดี๋ยวก่อนนะ’

 

“…”

 

“ต้นไม้ในภาพมันขยับ!”

 

“เห้ย!”

 

เขารีบโยนภาพทิ้งทันที

 

ตัวภาพลอยค้างกลางอากาศก่อนเหตุการณ์แปลกประหลาดเหนือธรรมชาติจะเกิดขึ้น เมื่อภาพที่ควรจะเป็นเพียงรูปภาพปรกติธรรมดาเริ่มปลดปล่อยพลังงานปริศนาสีดำ

 

ก่อนสติทั้งหมดจะถูกดึงกระชากจนดับวูบ

 

…‘อึก!’

 

“…” 

 

ฉากภาพทุกสิ่งอย่างล้อมรอบกายล้วนแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

เปลี่ยนจากห้องปรกติธรรมดาใช้นอนใช้พักผ่อน กลายเป็นพื้นที่เส้นทางพื้นถนนประดับไปด้วยผู้คนมากมาย กลุ่มผู้คนทั้งหลายต่างจดจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกันทั้งหมด

 

มองไปยังหญิงสาวร่างเล็กกับเหล่าอันธพาลร่างสูง

 

…‘เมญ่า เอมเมอริซ’

 

“…” 

 

ชายหนุ่มสวมแว่นหรี่ตามองนิ่งแข็งค้าง

 

หญิงสาวผู้ที่กำลังมีปัญหาคือ เมญ่า เอมเมอริซ อิสตรีผู้ครอบครองความงามยอดเยี่ยม เส้นผมยาวเงางาม ดวงตาสีฟ้าครามสดใส มาพร้อมเรือนผมสีขาวนวลยาวสลวยตั้งแต่ต้นจนจบ

 

คำถามที่โผล่เข้ามาในหัวสมองของชายหนุ่มสวมแว่น ฉากภาพตรงหน้ามันคืออะไร? เขากำลังอยู่ในสถานที่แห่งไหน? และที่สำคัญและสำคัญเป็นที่สุดเลยคือ ทำไมต้องเมญ่า?

 

น่าเสียดายที่คำถามของเขาไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย

 

“…” เมญ่ามองสู้สายตาเหล่าอันธพาลหนุ่ม

 

มองโดยไม่คิดยินยอมโอนอ่อนง่ายดาย

 

“ดิฉันขอตัวค่ะ”

 

“ไม่เอาน่า”

 

“อุตส่าห์พบเจอหน้ากันทั้งที”

 

“อย่าพึ่งรีบไปสิ”

 

อันธพาลหนุ่มยิ้มหื่นกระหายยืนดักหน้า

 

ด้วยท่วงท่าลักษณะดังกล่าวที่พวกมันแสดงออกมาให้เห็น

 

ล้วนบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาแท้จริงของพวกมันสารเลวสกปรกน่าขยะแขยงขนาดไหน

 

ผู้คนล้อมรอบกายที่ได้ยินต่างพากันแสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไป แต่ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดหาทางออกหรือทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม 

 

หลายสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นก็พากันหยุดนิ่งเงียบ คล้ายใครสักคนกดหยุดคลิปวิดีโอก่อนฉากภาพทั้งหมดจะจางหายไม่มีหลงเหลือ 

 

ตามด้วยห้วงสติความรู้สึกอารมณ์ถูกดึงกระชากหวนคืนกลับสู่โลกความเป็นจริง ไม่มีภาพคุณหนูสาวไม่มีภาพเหล่าอันธพาลหนุ่มไม่มีอะไรเลยทั้งสิ้น

 

แววตาชายหนุ่มสวมแว่นเบิกกว้างขั้นสุดก่อนร่างกายทุกสัดส่วนจะเริ่มหวั่นไหวไม่อาจประคับประคองเอาไว้ได้

 

ทราเวียร์หอบหายใจกุมหน้าอกแน่น

 

“เห้ย?!”

 

“…”

 

“ภะ ภาพเมื่อกี้มันอะไร?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 7 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 7 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 07 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

 

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตกหล่นเรียบร้อย เปลี่ยนถ่ายจากช่วงเวลาแสงอาทิตย์สอดส่องเข้าสู่ช่วงราตรียาวนานรอคอยเข้าสู่วันใหม่

 

ณ ห้องคอนโดราคาหรูหรางดงามจับใจ

 

สายน้ำขาวใสไหลผ่านจากก๊อกน้ำลงฝ่ามือของเขา

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงนิ่งเงียบปล่อยผ่านปล่อยให้น้ำไหลผ่านฝ่ามือไปทั้งแบบนั้น สายตาเขาคล้ายกำลังจมจ่อมอยู่ในห้วงความคิดยากจะมีใครคาดเดา

 

ก่อนฝ่ามือจะวักน้ำมาล้างหน้าล้างตาตัวเองหลายต่อหลายครั้ง หลังจากล้างเสร็จสิ้นล้างทั้งกายและใจเขาเลือกเงยหน้ามองกระจก

 

ก่อนทอดถอนหายใจเบาบาง

 

…‘ให้ตายสิ’

 

“…”

 

“หน้าตาดูไม่ได้”

 

ทุกสิ่งอย่างล้วนต้องโทษใบเฟิร์น

 

ถ้าหากหมอสาวประจำโรงเรียนไม่หยิบยกข้อเสนอมัดมือชกขึ้นมาพูดคุย เรื่องราวมากมายในอดีตคงไม่ถูกขุดคุ้ยจนโผล่เข้ามาสวัสดีทักทายเขาถึงที่ 

 

หลังจากจมจ่อมอยู่กับตัวเองคิดทบทวนหลายต่อหลายครั้ง คิดจนมาถึงตอนนี้เขาก็ยังครุ่นคิดไม่ออกอยู่ดีว่าอะไรเป็นเหตุผลแรงจูงใจที่ทำให้หล่อนกล่าวหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา

 

ยิ่งคิด ยิ่งมึนงง ยิ่งสับสนไม่เข้าใจ

 

“…” 

 

“ไม่เข้าใจ”

 

“เรื่องอื่นมีเยอะแยะให้เลือกกับไม่เลือก”

 

“ดันเลือกเรื่องเปล่าประโยชน์พวกนี้เข้ามาแทน”

 

“อยากแกล้งกันเหรอ?”

 

“หรือว่ามีเหตุผลอื่นแอบแฝง?” 

 

“…” 

 

“ไม่สิ”

 

“บางที”

 

กล่าวจบแววตาก็เริ่มแปรเปลี่ยน

 

เริ่มออกอาการหวาดหวั่นหวั่นไหว

 

มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งผุดเข้ามาในสมองของเขา เพียงแต่เขาไม่อยากจะยอมรับมันก็เท่านั้น สุดท้ายปลายทางแม้ไม่อยากยอมรับยังไงก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี

 

ทราเวียร์ถอนหายใจจนปัญญาขั้นสุด

 

…‘เราอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้’

 

“…”

 

“แค่ไม่อยากคิด”

 

”ไม่อยากพูดถึงมัน”

 

“…”

 

“บัดซบ!”

 

“ไม่ชอบเลยแบบนี้”

 

เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลกไม่เลิกรา

 

พึ่งกล่าวถึงไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แถมคนที่โทรมาหายังไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหมอสาวประจำโรงเรียนคนเดิมเพิ่มเติมคือโทรเข้ามาหาได้ถูกจังหวะเวลาเหลือเกิน

 

ทราเวียร์จ้องมองรายชื่อบนโทรศัพท์

 

…‘อาจารย์?’

 

“…” 

 

ก่อนเขาจะหรี่ตามอง

 

ลองได้โทรมาหาช่วงเวลาดึกดื่นแบบนี้ย่อมไม่ใช่ธุระปรกติธรรมดา ชายหนุ่มสวมแว่นนิ่งเงียบไตร่ตรองอยู่กับตัวเองก่อนตัดสินใจเด็ดขาดไม่รีรอ

 

ใช้นิ้วมือเลื่อนกดรับสายและทันทีที่รับสาย

 

เสียงหวานหมอสาวก็ดังโต้ตอบกลับมาทันที

 

“ทำอะไรอยู่?” 

 

“…” 

 

“ได้ยินรึเปล่า?”

 

“…”

 

“ยืนมองกระจกครับ”

 

“มองกระจก?” 

 

น้ำเสียงหล่อนดูสูงขึ้นหลายระดับ

 

มองกระจก? อะไรคือมองกระจก? เดาได้เลยว่าหมอสาวปลายสายน่าจะขมวดคิ้วอย่างหนักในตอนนี้ ทราเวียร์เพียงยิ้มหัวเราะเล็กน้อย

 

ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก

 

“ครับ”

 

“…”

 

“โทรมาหาผมทำไม?”

 

“มีธุระอื่นที่ยังไม่ได้บอก”

 

“หรือว่าว่างเกินจนไม่มีอะไรทำ”

 

“…”

 

“กับครูบาอาจารย์พูดให้มันสุภาพหน่อย”

 

“จิกกัดทำตัวเป็นอันธพาลน้อยไปได้”

 

“นอกเวลาไม่นับครับ”

 

“อีกอย่างหลังจากเรื่องเมื่อตอนเย็น”

 

“คุณยังคิดว่าผมจะพูดดีด้วยเหรอ?” 

 

ทราเวียร์ตอบกลับเสียงเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์

 

หากไม่ติดว่ามีหนี้บุญคุณมากมายติดประดับแปะตามตัว เขาคงเลือกทำเมินไม่คิดเปิดปากพูดคุยประเด็นน่าเบื่อหน่ายพวกนั้นด้วยซ้ำ

 

ใบเฟิร์นเองก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายครุ่นคิดยังไง

 

เลยไม่อยากเจาะลึกให้เสียอารมณ์

 

“ปากร้ายจังนะ~”

 

“ที่ฉันโทรมาก็เพื่อจะมาบอกเธอ”

 

“เกี่ยวกับกำหนดการพรุ่งนี้”

 

“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

“กี่โมงครับ?”

 

“ประมาณ 5 โมงเย็น”

 

“ไม่ช้าไม่เร็วไปกว่านั่น”

 

“ได้ครับ”

 

“ห้ามหนีเด็ดขาด”

 

“หนีมีตามตัวถึงบ้านแน่นอน”

 

“…”

 

“อย่าพึ่งวางสาย”

 

“นอกจากกำหนดการยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกเธอ”

 

“เป็นเรื่องสิ่งนั้นที่เธอกำลังตามหา”

 

“…”

 

“ฟังอยู่ครับ”

 

สีหน้าชายหนุ่มแปรเปลี่ยนกับมาจริงจังอีกครั้ง

 

เมื่อไม่กี่วันก่อน ก่อนที่เขาจะต้องมาแบกรับบาดแผลที่ไม่ควรมาอยู่บนร่างกายของเขา ชายหนุ่มสวมแว่นได้วานให้อาจารย์สาวพยาบาลค้นหาบางสิ่งอย่างให้

 

เป็นบางสิ่งอย่างที่สำคัญมากถึงมากที่สุด

 

“หาเจอหรือไม่เจอ?”

 

“ขอโทษ”

 

“ไม่เจอสินะ”

 

“ใช่”

 

“มันยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น”

 

“…”

 

“จะถอดใจหรือว่าเดินหน้าต่อ”

 

“เวียร์?”

 

“เดินหน้าต่อครับ”

 

“เราจะเดินหน้าต่อ”

 

เอาเถอะใช่ว่าผลลัพธ์แบบนี้มันจะเหนือความคาดหมาย

 

เอาเข้าจริงหากหล่อนค้นหาพบเจอมันขึ้นมานั่นแหละถึงจะเรียกว่าเหนือความคาดหมายอย่างแท้จริงทราเวียร์เผยรอยยิ้มเบาบาง

 

ก่อนกล่าวเสียงสบายกลับไปพยายามไม่ให้หล่อนต้องรู้สึกผิด

 

“…” ซึ่งมันก็ได้ผลเลยทีเดียว

 

“ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่าลืมแจ้งผม”

 

“ผมจะรอคอยข่าวสารจากคุณเสมอ”

 

“หวังว่าเธอจะคิดถูกนะ”

 

กล่าวเสร็จใบเฟิร์นตัดสายทิ้งทันที

 

ปล่อยให้ทราเวียร์ขมวดคิ้วมึนงงอยู่คนเดียว ฟังจากน้ำเสียงของหล่อนแล้วหากเขาเลือกผิดคำมั่นสัญญาไม่ยินยอมไปตามที่ตกลงเอาไว้มีโอกาสสูงมากที่จะโดนตามถึงตัว

 

ทราเวียร์ถอนหายใจขณะก้มหน้ามองโทรศัพท์

 

…‘ถ้าหนีมีตามตัวถึงบ้าน’

 

“…”

 

“เป็นแม่ฉันเหรอ?” 

 

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ก่อนร่างชายหนุ่มสวมแว่นจะก้าวเท้าเดินมุ่งหน้ากลับเตียงนอนของตน แต่ก้าวเท้าไปได้ไม่เท่าไหร่ ขาของเขาก็เตะเข้ากับบางสิ่งอย่าง

 

มันคือหนังสือสีขาวด้านขาวหมดจดไม่มีสีสันอื่นประดับแต่งเติม

 

“…” ทราเวียร์กะพริบตาจ้องมอง

 

พร้อมหยิบหนังสือแปลกประหลาดขึ้นมา

 

“หนังสือ?”

 

“…”

 

“ไม่ใช่หนังสือที่เคยซื้อเอาไว้”

 

“งั้นเป็นของใคร?”

 

“มาที่นี่ได้ไง?” 

 

หัวคิ้วขมวดยกสูง

 

ขณะกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตน

 

บางสิ่งอย่างก็ไหลหล่นออกมาจากหนังสือสีขาวด้าน มันคือรูปภาพถ่ายใบหนึ่งเป็นรูปวิวทิวทัศน์ปรกติธรรมดาไม่มีอะไรเพิ่มเติม รูปลอยเหนือกลางอากาศก่อนหล่นลงพื้น

 

ทราเวียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนก้มหยิบจับ

 

“หรือว่ามีใครคนอื่นแอบเข้ามาในห้อง”

 

…‘ไม่ใช่แค่หนังสืออย่างเดียว’

 

“…”

 

“รูปถ่าย?”

 

“…” 

 

แม้จะเป็นเพียงรูปภาพปรกติธรรมดา

 

แต่บรรยากาศและห้วงความรู้สึกที่มันปลดปล่อยออกมา

 

มันช่างแปลกประหลาดแปลกแยกเหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าภาพปรกติธรรมดาเบื้องหน้ามันไม่ใช่ภาพปรกติธรรมดาอย่างที่ควรเป็น

 

ทราเวียร์มองจ้องเขม็ง

 

…‘เดี๋ยวก่อนนะ’

 

“…”

 

“ต้นไม้ในภาพมันขยับ!”

 

“เห้ย!”

 

เขารีบโยนภาพทิ้งทันที

 

ตัวภาพลอยค้างกลางอากาศก่อนเหตุการณ์แปลกประหลาดเหนือธรรมชาติจะเกิดขึ้น เมื่อภาพที่ควรจะเป็นเพียงรูปภาพปรกติธรรมดาเริ่มปลดปล่อยพลังงานปริศนาสีดำ

 

ก่อนสติทั้งหมดจะถูกดึงกระชากจนดับวูบ

 

…‘อึก!’

 

“…” 

 

ฉากภาพทุกสิ่งอย่างล้อมรอบกายล้วนแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

เปลี่ยนจากห้องปรกติธรรมดาใช้นอนใช้พักผ่อน กลายเป็นพื้นที่เส้นทางพื้นถนนประดับไปด้วยผู้คนมากมาย กลุ่มผู้คนทั้งหลายต่างจดจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกันทั้งหมด

 

มองไปยังหญิงสาวร่างเล็กกับเหล่าอันธพาลร่างสูง

 

…‘เมญ่า เอมเมอริซ’

 

“…” 

 

ชายหนุ่มสวมแว่นหรี่ตามองนิ่งแข็งค้าง

 

หญิงสาวผู้ที่กำลังมีปัญหาคือ เมญ่า เอมเมอริซ อิสตรีผู้ครอบครองความงามยอดเยี่ยม เส้นผมยาวเงางาม ดวงตาสีฟ้าครามสดใส มาพร้อมเรือนผมสีขาวนวลยาวสลวยตั้งแต่ต้นจนจบ

 

คำถามที่โผล่เข้ามาในหัวสมองของชายหนุ่มสวมแว่น ฉากภาพตรงหน้ามันคืออะไร? เขากำลังอยู่ในสถานที่แห่งไหน? และที่สำคัญและสำคัญเป็นที่สุดเลยคือ ทำไมต้องเมญ่า?

 

น่าเสียดายที่คำถามของเขาไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย

 

“…” เมญ่ามองสู้สายตาเหล่าอันธพาลหนุ่ม

 

มองโดยไม่คิดยินยอมโอนอ่อนง่ายดาย

 

“ดิฉันขอตัวค่ะ”

 

“ไม่เอาน่า”

 

“อุตส่าห์พบเจอหน้ากันทั้งที”

 

“อย่าพึ่งรีบไปสิ”

 

อันธพาลหนุ่มยิ้มหื่นกระหายยืนดักหน้า

 

ด้วยท่วงท่าลักษณะดังกล่าวที่พวกมันแสดงออกมาให้เห็น

 

ล้วนบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาแท้จริงของพวกมันสารเลวสกปรกน่าขยะแขยงขนาดไหน

 

ผู้คนล้อมรอบกายที่ได้ยินต่างพากันแสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไป แต่ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดหาทางออกหรือทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม 

 

หลายสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นก็พากันหยุดนิ่งเงียบ คล้ายใครสักคนกดหยุดคลิปวิดีโอก่อนฉากภาพทั้งหมดจะจางหายไม่มีหลงเหลือ 

 

ตามด้วยห้วงสติความรู้สึกอารมณ์ถูกดึงกระชากหวนคืนกลับสู่โลกความเป็นจริง ไม่มีภาพคุณหนูสาวไม่มีภาพเหล่าอันธพาลหนุ่มไม่มีอะไรเลยทั้งสิ้น

 

แววตาชายหนุ่มสวมแว่นเบิกกว้างขั้นสุดก่อนร่างกายทุกสัดส่วนจะเริ่มหวั่นไหวไม่อาจประคับประคองเอาไว้ได้

 

ทราเวียร์หอบหายใจกุมหน้าอกแน่น

 

“เห้ย?!”

 

“…”

 

“ภะ ภาพเมื่อกี้มันอะไร?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+