เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 8 อันธพาลทั้งสาม

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 8 อันธพาลทั้งสาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 08 อันธพาลหนุ่มทั้งสาม

 

แววตาชายหนุ่มออกอาการหวั่นไหวขั้นสุด

 

ด้วยเหตุการณ์เหนือธรรมชาติยากจะหาสิ่งใดมาอธิบายเพิ่มเติมสุดท้ายปลายทาง เวลานอนที่ควรนอนพักผ่อนร่างกายตามกิจวัตรประจำวันก็ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

 

ใช้งานเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์สถานการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของเขาล้วนจบลงที่ความล้มเหลว นอกจากหาอะไรเพิ่มเติมไม่ได้เลยแม้แต่น้อยยังเสียเวลานอนเกือบทั้งหมดไปกับสิ่งเปล่าประโยชน์จับต้องไม่ได้อีก

 

แต่แล้วคำตอบที่เขาพยายามตามหามาตลอดกับโผล่ออกมาเร็วกว่าที่คิด

 

เมื่อช่วงเช้าวันใหม่มาเยือน

 

[ ขาย ]

 

“…” ทราเวียร์เหลือบมองประตูห้องติดข้างเคียง

 

ก่อนก้าวเท้าเดินผ่านโดยไม่คิดเหลือบมองอีกเป็นครั้งที่สอง

 

แน่นอนว่าห้วงอารมณ์ห้วงความรู้สึกทั้งหมดล้วนถูกนำไปใช้ครุ่นคิดเหตุการณ์เมื่อคืนมากกว่า มากกว่าเอามาใช้กับเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งยังเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่างหาก

 

แต่ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งมืดแปดด้าน

 

“ฝันแปลกประหลาด”

 

ขณะทราเวียร์กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังโรงเรียนตามเดิม

 

ข้ามผ่านพ้นพื้นที่สวนสาธารณะ หลงเหลืออีกเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนจะเข้าสู่พื้นที่เขตการค้าสถานที่อัดแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนมากมายหากแต่ก่อนจะได้ก้าวเท้าไปถึง

 

ดันมีเหตุการณ์บางอย่างบางประการโผล่เข้ามาสวัสดีเสียก่อน

 

“นิ ดูโน้นสิ?”

 

“เด็กผู้หญิง?”

 

“เหมือนจะเกิดเรื่องนะ” 

 

ปลายนิ้วชี้นำสายตาหลายต่อหลายคู่ให้จ้องมอง

 

ทันทีที่ปลายสายตามากมายมองตามนิ้ว มองไปยังกลุ่มผู้คนที่อยู่ไม่ห่างไกลมากนัก เหล่าผู้คนทั้งหลายก็เริ่มเปิดปากวิพากษ์วิจารณ์สนุกปาก

 

ความคิดเห็นล้วนไปในทิศทางเดียวกันหมด

 

“…” มุ่งไปยังกลุ่มชายวัยรุ่นสามคนโดยตรง

 

“อันธพาลสารเลวพวกนั้นมันเอาอีกแล้ว”

 

“แถมครั้งนี้ยังเป็นเด็กสาวอีก”

 

“กระทั่งเด็กมัธยมยังไม่เว้น” 

 

สิ้นเสียงคำบอกกล่าวของใครสักคนในระแวงแถวนั้น

 

ทราเวียร์รีบหันหน้าไปมองทันที หากเป็นเพียงเหตุการณ์ปรกติธรรมดาเขาอาจปล่อยผ่านหลงลืมไปในระยะเวลาอันสั้นแต่เนื้อหารายละเอียดของเหตุการณ์ครั้งนี้

 

มันดันทำให้เขาสนใจอย่างแรง

 

…‘เด็กสาวกับพวกอันธพาล?’

 

“…”

 

“ไม่น่าใช่หรอกมั้ง?”

 

“ต้องไม่ใช่สิ” 

 

แม้ปากบอกไม่ใช่

 

แต่ฝีเท้ากับกระทำตรงกันข้าม

 

เริ่มขยับสาวเท้าก้าวเข้าไปใกล้โดยไม่มีห้วงความคิดอื่นเลยอยู่ในหัวสมอง

 

และทุกครั้งที่เขาขยับสาวเท้าเข้าไปใกล้ หัวใจดวงน้อยภายในทรวงอกยิ่งเต้นสัมผัสแรงไปอีกหลายเท่าตัว แรงจนเขาครุ่นคิดว่ามันอาจระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดไปในที่สุด

 

ต่อให้มันระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด เขาก็ยังไม่ละพยายามยังก้าวเท้าไปตามเดิมหวังยืนยันข้อสงสัยบางประกายขอเพียงยืนยันได้ทุกสิ่งอย่างล้วนกระทำได้หมด

 

และทันทีที่เขาก้าวเท้าไปถึงจุดหมายปลายทาง ก้าวเท้าเข้ามาพบเห็นเข้ามาพบเจอฉากภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเต็มสองตา ชายหนุ่มสวมแว่นถึงกับร้องเสียงหลงออกมา

 

พร้อมก้าวเท้าถอยหลังไปหลายต่อหลายก้าว

 

…‘เป็นไปไม่ได้’

 

“…” 

 

แววตาชายหนุ่มสวมแว่นเบิกกว้างตื่นตระหนกตกใจขั้นสุด

 

เรียกได้ว่าอาการตื่นตระหนกตกใจถูกแสดงออกมาให้เห็นโดยไม่มีกักเก็บเลยแม้แต่น้อย จะไม่ให้เขาตื่นตระหนกตกใจได้ยังไง ในเมื่อฉากเบื้องหน้าที่เขากำลังพบเห็นเขาเคยพบเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว 

 

ฉากที่หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขากำลังยืนประจันหน้ากับเหล่าอันธพาลน่าตายทั้งหลาย พวกมันต่างคงสันดานเสื่อมเสียไม่มีแปรเปลี่ยนพร้อมเปิดเผยรอยยิ้มหื่นกระหายไม่มีกักเก็บ

 

ขณะหญิงสาวผู้งดงามปานเทพธิดาเพียงนิ่งเงียบจดจ้องมองด้วยแววตาราบเรียบตามเดิมคล้ายฉากภาพเบื้องหน้าเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กน้อยด้อยค่า

 

ไม่คู่ควรเหลือบตามองด้วยซ้ำ

 

…‘ระ เราเคยเห็นมาก่อน’

 

“…” ทราเวียร์มั่นใจเต็มเปี่ยม

 

มั่นใจว่าภาพนี้เขาเคยเห็นมาก่อน

 

“เหมือนที่เห็นในภาพ”

 

“นิ มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”

 

ทราเวียร์นิ่งชะงักแข็งค้างไปในเรียบร้อย

 

สุดปลายสายตาที่เขากำลังพบเห็นในตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไปแล้ว แน่นอนว่าฉากภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไป ไม่ได้เป็นเหตุการณ์จริงเหมือนฉากภาพเบื้องหน้า

 

แต่เป็นกระบวนการแปลกประหลาดเป็นกระบวนการที่พิเศษเหลือล้ำเกินกว่ามนุษย์ปรกติธรรมดาจะนึกถึงหรือว่าทำความเข้าใจ หากจะให้กล่าวอุกอาจมากกว่านี้กล่าวให้ชัดเจนแจ่มแจ้งตรงประเด็นเขาครุ่นคิดได้เพียงประการเดียวเท่านั้น

 

มันคือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

…‘แปลกประหลาด’

 

“…”

 

“นี่มันออกจะแปลกประหลาดเกินไป”

 

“หรือว่าเรื่องเมื่อคืน—”

 

“มาแล้ว!”

 

“…” 

 

แววตาอันธพาลหนุ่มเผยร่องรอยชื่นมื่นขั้นสุด

 

ก่อนจะร้องเสียงหลงทันทีที่พบเห็นหญิงสาว

 

“พระเจ้าช่วย!”

 

“สวยมาก”

 

“สวยมากจริง ๆ”

 

“เป็นแค่เด็กแท้ ๆ แต่หน้าตาดันสวยเกินหน้าเกินตา”

 

“เป็นไงละ บอกแล้วว่าต้องเป็นของดี”

 

“ของดีแบบนี้เกิดปล่อยผ่านคงเสียดายแย่”

 

กล่าวจบพวกมันต่างเลือกกระชับวงปิดล้อมทันที

 

ชายหนุ่มอันธพาลเปิดเผยรอยยิ้มน่ารังเกียจก่อนเลียริมฝีปาก

 

ทั้งยังใช้สายตาหยาบโลนหื่นกระหายจดจ้องมองไปทั่วทั้งร่างกายอีกฝ่าย เป็นสายตาที่ไม่ว่าจดจ้องมองหญิงสาวคนไหนเป็นต้องตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดหวั่น

 

แต่ถึงอย่างนั้นเมญ่าก็ยังนิ่งเงียบตามเดิมทำเหมือนสายตาหื่นกระหายที่จดจ้องมองมาเป็นเพียงสายตาปรกติธรรมดาไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นสายตาด้อยค่าด้อยปัญญา

 

ไม่มีค่าพอให้เหลือบมองด้วยซ้ำ

 

“…” เมญ่าก้มหัวให้เล็กน้อยพอเป็นพิธี

 

“ดิฉันขอตัวค่ะ”

 

“ไม่เอาน่า”

 

“อุตส่าห์พบเจอหน้ากันทั้งที”

 

“อย่าพึ่งรีบไปสิ” 

 

อันธพาลหนุ่มก้าวเท้ายืนดักหน้า

 

ด้วยท่วงท่าลักษณะดังกล่าวที่พวกมันแสดงออกมาให้เห็น ล้วนบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาแท้จริงของพวกมันสกปรกน่าขยะแขยงขนาดไหน

 

หากยังปล่อยผ่านปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปเกรงว่าสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับหญิงสาวคนหนึ่งคงไม่พ้นต้องเกิดขึ้น แม้จะรู้แบบนั้นแต่ทุกคนก็ยังคงนิ่งเงียบ

 

ปล่อยให้หญิงสาวประสบพานพบชะตากรรมแต่เพียงผู้เดียว ท่ามกลางสายตามากมายที่กำลังจับจ้องมองไปที่หญิงสาวงดงามปานเทพธิดา

 

ยังมีอีกหนึ่งสายตาที่แปลกแยกยิ่งกว่า

 

…‘ช่วยหรือไม่ช่วย’

 

“…” หลากหลายความเป็นไปได้กำลังไหลแล่นเข้ามาในหัวสมอง

 

อีกทั้งความหลากหลายที่ว่ายังรวมไปถึงเส้นทางย่ำแย่ที่สุดอีกด้วย ซึ่งเส้นทางที่ว่านั่นอาจจะหมายถึงตัวหล่อนไม่มีใครคนอื่นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ กลายเป็นว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่ช่วยเหลือได้และเพราะมีเขาคนเดียวที่ช่วยเหลือได้

 

ใครสักคนหรืออะไรสักอย่างเลยส่งภาพอนาคตมาให้เขาตัดสินใจก่อน ซึ่งความเป็นไปได้เฉกเช่นนั้นใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้เสียทีเดียว หลังจากไตร่ตรองครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง

 

ในที่สุดบทสรุปอย่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น

 

…‘ยุ่งวุ่นวายเป็นบ้า’

 

“…” ทราเวียร์ลอบกำหมัดแน่นสบถออกมา

 

“เวรกรรม”

 

“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ” หลังจากกล่าวจบสิ้น

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงก้มตัวพร้อมหยิบของบางอย่างขึ้นมาบนฝ่ามือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์เบื้องหน้า ขณะเดียวกันเมญ่าหญิงสาวผู้งดงามยังคงเลือกเผชิญหน้าต่อ

 

ไม่มีท่วงท่ายินยอมโอนอ่อนง่ายดายปรากฎให้เห็น

 

“…” แน่นอนว่าพวกมันเองก็ไม่มีท่วงท่าคิดปล่อยผ่านเหมือนกัน

 

“ไปกับพวกเราเถอะ”

 

“พี่ชายมีสถานที่อยากจะแนะนำ”

 

“รับรองว่าเป็นของดี”

 

“ไปกับพวกพี่ชาย—”

 

“ดิฉันจะกล่าวอีกเพียงครั้งเดียวค่ะ”

 

“กรุณาถอยเปิดทางกับดิฉัน”

 

“ก่อนดิฉันจะโทรเรียกตำรวจ” 

 

เมญ่ากล่าวเสียงเรียบ

 

และแล้วสถานการณ์ที่ประคับประคองมาจนตอนนี้ก็ถึงคราวระเบิดออกมา เนื่องจากเศษเดนเศษสวะทั้งสามไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว

 

สุดท้ายปลายทางพวกมันสามคนเลยตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ในเมื่อใช้คำพูดคำกล่าวปรกติธรรมดาไม่ได้ผลก็ต้องหันเปลี่ยนมาใช้กำลังแทน อีกทั้งด้วยระยะเวลาบวกกับผู้คนกำลังจับจ้องมองเพิ่มขึ้นหากไม่ทำอะไรสักอย่างแผนการครั้งนี้คงไม่พ้นต้องล้มเหลว

 

หนึ่งตัวเปิดเดินหน้าเข้าหาเมญ่า

 

…‘หึ เธอเลือกเองนะ’

 

“…”

 

“โทรเรียกตำรวจ?”

 

“เข้าใจพูดดีนิ”

 

“ดูเหมือนน้องสาวจะไม่ให้ความร่วมมือกับพวกเราสินะ”

 

ในเมื่อขอความร่วมมือปรกติธรรมดาไม่ได้ผล งั้นคงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเปลี่ยนจากวิธีการสันติวิธีหันไปใช้วิธีการหยาบโลนตามวิถีธรรมชาติตามต้องการ

 

เงื้อมือเตรียมยื่นเข้าหาหญิงสาว

 

“วิธีการนุ่มนวลมีไม่ชอบก็ต้องอาศัยกำลังเข้าว่า”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ 8 อันธพาลทั้งสาม

Now you are reading เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ Chapter 8 อันธพาลทั้งสาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 08 อันธพาลหนุ่มทั้งสาม

 

แววตาชายหนุ่มออกอาการหวั่นไหวขั้นสุด

 

ด้วยเหตุการณ์เหนือธรรมชาติยากจะหาสิ่งใดมาอธิบายเพิ่มเติมสุดท้ายปลายทาง เวลานอนที่ควรนอนพักผ่อนร่างกายตามกิจวัตรประจำวันก็ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

 

ใช้งานเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์สถานการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของเขาล้วนจบลงที่ความล้มเหลว นอกจากหาอะไรเพิ่มเติมไม่ได้เลยแม้แต่น้อยยังเสียเวลานอนเกือบทั้งหมดไปกับสิ่งเปล่าประโยชน์จับต้องไม่ได้อีก

 

แต่แล้วคำตอบที่เขาพยายามตามหามาตลอดกับโผล่ออกมาเร็วกว่าที่คิด

 

เมื่อช่วงเช้าวันใหม่มาเยือน

 

[ ขาย ]

 

“…” ทราเวียร์เหลือบมองประตูห้องติดข้างเคียง

 

ก่อนก้าวเท้าเดินผ่านโดยไม่คิดเหลือบมองอีกเป็นครั้งที่สอง

 

แน่นอนว่าห้วงอารมณ์ห้วงความรู้สึกทั้งหมดล้วนถูกนำไปใช้ครุ่นคิดเหตุการณ์เมื่อคืนมากกว่า มากกว่าเอามาใช้กับเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งยังเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่างหาก

 

แต่ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งมืดแปดด้าน

 

“ฝันแปลกประหลาด”

 

ขณะทราเวียร์กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังโรงเรียนตามเดิม

 

ข้ามผ่านพ้นพื้นที่สวนสาธารณะ หลงเหลืออีกเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนจะเข้าสู่พื้นที่เขตการค้าสถานที่อัดแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนมากมายหากแต่ก่อนจะได้ก้าวเท้าไปถึง

 

ดันมีเหตุการณ์บางอย่างบางประการโผล่เข้ามาสวัสดีเสียก่อน

 

“นิ ดูโน้นสิ?”

 

“เด็กผู้หญิง?”

 

“เหมือนจะเกิดเรื่องนะ” 

 

ปลายนิ้วชี้นำสายตาหลายต่อหลายคู่ให้จ้องมอง

 

ทันทีที่ปลายสายตามากมายมองตามนิ้ว มองไปยังกลุ่มผู้คนที่อยู่ไม่ห่างไกลมากนัก เหล่าผู้คนทั้งหลายก็เริ่มเปิดปากวิพากษ์วิจารณ์สนุกปาก

 

ความคิดเห็นล้วนไปในทิศทางเดียวกันหมด

 

“…” มุ่งไปยังกลุ่มชายวัยรุ่นสามคนโดยตรง

 

“อันธพาลสารเลวพวกนั้นมันเอาอีกแล้ว”

 

“แถมครั้งนี้ยังเป็นเด็กสาวอีก”

 

“กระทั่งเด็กมัธยมยังไม่เว้น” 

 

สิ้นเสียงคำบอกกล่าวของใครสักคนในระแวงแถวนั้น

 

ทราเวียร์รีบหันหน้าไปมองทันที หากเป็นเพียงเหตุการณ์ปรกติธรรมดาเขาอาจปล่อยผ่านหลงลืมไปในระยะเวลาอันสั้นแต่เนื้อหารายละเอียดของเหตุการณ์ครั้งนี้

 

มันดันทำให้เขาสนใจอย่างแรง

 

…‘เด็กสาวกับพวกอันธพาล?’

 

“…”

 

“ไม่น่าใช่หรอกมั้ง?”

 

“ต้องไม่ใช่สิ” 

 

แม้ปากบอกไม่ใช่

 

แต่ฝีเท้ากับกระทำตรงกันข้าม

 

เริ่มขยับสาวเท้าก้าวเข้าไปใกล้โดยไม่มีห้วงความคิดอื่นเลยอยู่ในหัวสมอง

 

และทุกครั้งที่เขาขยับสาวเท้าเข้าไปใกล้ หัวใจดวงน้อยภายในทรวงอกยิ่งเต้นสัมผัสแรงไปอีกหลายเท่าตัว แรงจนเขาครุ่นคิดว่ามันอาจระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดไปในที่สุด

 

ต่อให้มันระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด เขาก็ยังไม่ละพยายามยังก้าวเท้าไปตามเดิมหวังยืนยันข้อสงสัยบางประกายขอเพียงยืนยันได้ทุกสิ่งอย่างล้วนกระทำได้หมด

 

และทันทีที่เขาก้าวเท้าไปถึงจุดหมายปลายทาง ก้าวเท้าเข้ามาพบเห็นเข้ามาพบเจอฉากภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเต็มสองตา ชายหนุ่มสวมแว่นถึงกับร้องเสียงหลงออกมา

 

พร้อมก้าวเท้าถอยหลังไปหลายต่อหลายก้าว

 

…‘เป็นไปไม่ได้’

 

“…” 

 

แววตาชายหนุ่มสวมแว่นเบิกกว้างตื่นตระหนกตกใจขั้นสุด

 

เรียกได้ว่าอาการตื่นตระหนกตกใจถูกแสดงออกมาให้เห็นโดยไม่มีกักเก็บเลยแม้แต่น้อย จะไม่ให้เขาตื่นตระหนกตกใจได้ยังไง ในเมื่อฉากเบื้องหน้าที่เขากำลังพบเห็นเขาเคยพบเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว 

 

ฉากที่หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขากำลังยืนประจันหน้ากับเหล่าอันธพาลน่าตายทั้งหลาย พวกมันต่างคงสันดานเสื่อมเสียไม่มีแปรเปลี่ยนพร้อมเปิดเผยรอยยิ้มหื่นกระหายไม่มีกักเก็บ

 

ขณะหญิงสาวผู้งดงามปานเทพธิดาเพียงนิ่งเงียบจดจ้องมองด้วยแววตาราบเรียบตามเดิมคล้ายฉากภาพเบื้องหน้าเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กน้อยด้อยค่า

 

ไม่คู่ควรเหลือบตามองด้วยซ้ำ

 

…‘ระ เราเคยเห็นมาก่อน’

 

“…” ทราเวียร์มั่นใจเต็มเปี่ยม

 

มั่นใจว่าภาพนี้เขาเคยเห็นมาก่อน

 

“เหมือนที่เห็นในภาพ”

 

“นิ มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”

 

ทราเวียร์นิ่งชะงักแข็งค้างไปในเรียบร้อย

 

สุดปลายสายตาที่เขากำลังพบเห็นในตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไปแล้ว แน่นอนว่าฉากภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไป ไม่ได้เป็นเหตุการณ์จริงเหมือนฉากภาพเบื้องหน้า

 

แต่เป็นกระบวนการแปลกประหลาดเป็นกระบวนการที่พิเศษเหลือล้ำเกินกว่ามนุษย์ปรกติธรรมดาจะนึกถึงหรือว่าทำความเข้าใจ หากจะให้กล่าวอุกอาจมากกว่านี้กล่าวให้ชัดเจนแจ่มแจ้งตรงประเด็นเขาครุ่นคิดได้เพียงประการเดียวเท่านั้น

 

มันคือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

…‘แปลกประหลาด’

 

“…”

 

“นี่มันออกจะแปลกประหลาดเกินไป”

 

“หรือว่าเรื่องเมื่อคืน—”

 

“มาแล้ว!”

 

“…” 

 

แววตาอันธพาลหนุ่มเผยร่องรอยชื่นมื่นขั้นสุด

 

ก่อนจะร้องเสียงหลงทันทีที่พบเห็นหญิงสาว

 

“พระเจ้าช่วย!”

 

“สวยมาก”

 

“สวยมากจริง ๆ”

 

“เป็นแค่เด็กแท้ ๆ แต่หน้าตาดันสวยเกินหน้าเกินตา”

 

“เป็นไงละ บอกแล้วว่าต้องเป็นของดี”

 

“ของดีแบบนี้เกิดปล่อยผ่านคงเสียดายแย่”

 

กล่าวจบพวกมันต่างเลือกกระชับวงปิดล้อมทันที

 

ชายหนุ่มอันธพาลเปิดเผยรอยยิ้มน่ารังเกียจก่อนเลียริมฝีปาก

 

ทั้งยังใช้สายตาหยาบโลนหื่นกระหายจดจ้องมองไปทั่วทั้งร่างกายอีกฝ่าย เป็นสายตาที่ไม่ว่าจดจ้องมองหญิงสาวคนไหนเป็นต้องตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดหวั่น

 

แต่ถึงอย่างนั้นเมญ่าก็ยังนิ่งเงียบตามเดิมทำเหมือนสายตาหื่นกระหายที่จดจ้องมองมาเป็นเพียงสายตาปรกติธรรมดาไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นสายตาด้อยค่าด้อยปัญญา

 

ไม่มีค่าพอให้เหลือบมองด้วยซ้ำ

 

“…” เมญ่าก้มหัวให้เล็กน้อยพอเป็นพิธี

 

“ดิฉันขอตัวค่ะ”

 

“ไม่เอาน่า”

 

“อุตส่าห์พบเจอหน้ากันทั้งที”

 

“อย่าพึ่งรีบไปสิ” 

 

อันธพาลหนุ่มก้าวเท้ายืนดักหน้า

 

ด้วยท่วงท่าลักษณะดังกล่าวที่พวกมันแสดงออกมาให้เห็น ล้วนบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาแท้จริงของพวกมันสกปรกน่าขยะแขยงขนาดไหน

 

หากยังปล่อยผ่านปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปเกรงว่าสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับหญิงสาวคนหนึ่งคงไม่พ้นต้องเกิดขึ้น แม้จะรู้แบบนั้นแต่ทุกคนก็ยังคงนิ่งเงียบ

 

ปล่อยให้หญิงสาวประสบพานพบชะตากรรมแต่เพียงผู้เดียว ท่ามกลางสายตามากมายที่กำลังจับจ้องมองไปที่หญิงสาวงดงามปานเทพธิดา

 

ยังมีอีกหนึ่งสายตาที่แปลกแยกยิ่งกว่า

 

…‘ช่วยหรือไม่ช่วย’

 

“…” หลากหลายความเป็นไปได้กำลังไหลแล่นเข้ามาในหัวสมอง

 

อีกทั้งความหลากหลายที่ว่ายังรวมไปถึงเส้นทางย่ำแย่ที่สุดอีกด้วย ซึ่งเส้นทางที่ว่านั่นอาจจะหมายถึงตัวหล่อนไม่มีใครคนอื่นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ กลายเป็นว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่ช่วยเหลือได้และเพราะมีเขาคนเดียวที่ช่วยเหลือได้

 

ใครสักคนหรืออะไรสักอย่างเลยส่งภาพอนาคตมาให้เขาตัดสินใจก่อน ซึ่งความเป็นไปได้เฉกเช่นนั้นใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้เสียทีเดียว หลังจากไตร่ตรองครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง

 

ในที่สุดบทสรุปอย่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น

 

…‘ยุ่งวุ่นวายเป็นบ้า’

 

“…” ทราเวียร์ลอบกำหมัดแน่นสบถออกมา

 

“เวรกรรม”

 

“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ” หลังจากกล่าวจบสิ้น

 

ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงก้มตัวพร้อมหยิบของบางอย่างขึ้นมาบนฝ่ามือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์เบื้องหน้า ขณะเดียวกันเมญ่าหญิงสาวผู้งดงามยังคงเลือกเผชิญหน้าต่อ

 

ไม่มีท่วงท่ายินยอมโอนอ่อนง่ายดายปรากฎให้เห็น

 

“…” แน่นอนว่าพวกมันเองก็ไม่มีท่วงท่าคิดปล่อยผ่านเหมือนกัน

 

“ไปกับพวกเราเถอะ”

 

“พี่ชายมีสถานที่อยากจะแนะนำ”

 

“รับรองว่าเป็นของดี”

 

“ไปกับพวกพี่ชาย—”

 

“ดิฉันจะกล่าวอีกเพียงครั้งเดียวค่ะ”

 

“กรุณาถอยเปิดทางกับดิฉัน”

 

“ก่อนดิฉันจะโทรเรียกตำรวจ” 

 

เมญ่ากล่าวเสียงเรียบ

 

และแล้วสถานการณ์ที่ประคับประคองมาจนตอนนี้ก็ถึงคราวระเบิดออกมา เนื่องจากเศษเดนเศษสวะทั้งสามไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว

 

สุดท้ายปลายทางพวกมันสามคนเลยตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ในเมื่อใช้คำพูดคำกล่าวปรกติธรรมดาไม่ได้ผลก็ต้องหันเปลี่ยนมาใช้กำลังแทน อีกทั้งด้วยระยะเวลาบวกกับผู้คนกำลังจับจ้องมองเพิ่มขึ้นหากไม่ทำอะไรสักอย่างแผนการครั้งนี้คงไม่พ้นต้องล้มเหลว

 

หนึ่งตัวเปิดเดินหน้าเข้าหาเมญ่า

 

…‘หึ เธอเลือกเองนะ’

 

“…”

 

“โทรเรียกตำรวจ?”

 

“เข้าใจพูดดีนิ”

 

“ดูเหมือนน้องสาวจะไม่ให้ความร่วมมือกับพวกเราสินะ”

 

ในเมื่อขอความร่วมมือปรกติธรรมดาไม่ได้ผล งั้นคงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเปลี่ยนจากวิธีการสันติวิธีหันไปใช้วิธีการหยาบโลนตามวิถีธรรมชาติตามต้องการ

 

เงื้อมือเตรียมยื่นเข้าหาหญิงสาว

 

“วิธีการนุ่มนวลมีไม่ชอบก็ต้องอาศัยกำลังเข้าว่า”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+