Carefree Path of Dreams 39

Now you are reading Carefree Path of Dreams Chapter 39 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Carefree Path of Dreams

 

“ตายซะ ตาแกโง่เง่า!”

 

ฟางหยวนคํารามและกล้ามเนื้อหลังของเขาก็ขยับคล้ายนกกําลังจะสยายปีกของมันออก

 

พลังขุมใหญ่ก่อเกิดที่แผ่นหลังของเขาก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนมาที่แขน ข้อมือ ฝ่ามือ และสุดที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง

 

“กร๊อบ กร๊อบ!”

 

ข้อต่อตามร่างของเขาระเบิดพลังออกมา ข้อต่อเหล่านั้นในร่ายทําหน้าที่คล้ายคานงัด พลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากข้อต่อแต่ละข้อ

 

“กรงเล็บอินทรี!”

 

หลินเหลยเยวตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่พลิกผันไปตรงหน้านาง

 

นางเคยเห็นกระบวนท่านี้จากอวี้ชิวเหลิ่ง ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากเคล็ดกรงเล็บอินทรี นอกจากความจริงที่ว่าอวี้ชิวเหลิ่งนั้นมีวิทยายุทธ์สูงกว่าฟางหยวน ชายหนุ่มตรงหน้านี้ก็ได้เปรียบในด้านพลังชีวิตและพลังวิญญาณ

 

“นั่นยังใช่พี่ฟางผู้นั้นอยู่เหรอ?”

 

เสี่ยวฉิงรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้จะคิดเป็นอื่นได้อย่างไร 

 

“เขาช่าง… ช่าง…”

 

นางอ้าปากค้างและภาพพจน์ของคุณหนูที่สุภาพนุ่มนวลก็กระเด็นหายไป

 

นางคิดได้เพียงแค่อย่างเดียว “ถ้าตอนนั้นเขาใช้พลังเต็มที่ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ไปแล้ว!”

 

อันที่จริง นางประเมินฟางหยวนสูงเกินไป

 

ฟางหยวนตอนนั้นไม่ได้ชานาญเคล็ดกรงเล็บอินทรีเท่ากับตอนนี้ ถ้าเขาได้ฝึกอย่างเป็นระบบ วิทยายุทธ์ของเขาคงจะรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว

 

อาจจะพูดได้ว่าเขาเก่งขึ้นมาอีกระดับหลังจากไม่เจอแค่ไม่กี่วันวิทยายุทธ์ของเขาก็รุดหน้าไปอีกก้าวใหญ่

 

“ฮู่วว!”

 

กรงเล็บนั้นแทบจะฉีกทิ้งอวัยวะได้ กระแสลมที่เกิดจากกรงเล็บก็แทบจะเฉือนเนื้อหนังก่อนที่กรงเล็บจะไปถึงเป้าหมายเสียด้วยซ้ำ

 

“เด็กดี!”

 

ซ่งจงหอบ ใบหน้าแดงก่ำ เขาโบกมือไปมาในอากาศเกิดเป็นสัญลักษณ์ “ฝ่ามือวายุปิศาจ!”

 

“ตู้ม!”

 

กรงเล็บและฝ่ามือกระทบกันเกิดเสียงดังลั่นให้ได้ยิน

 

“ฝุบ!”

 

ฝุ่นบนพื้นฟังขึ้น ฟางหยวนปลิวและกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เลือดสายหนึ่งไหลออกจากมุมปากของเขา

 

“เหตุใดพลังภายในและพลังกายของเจ้าถึงสูงเช่นนี้?”

 

ซ่งจงยืนหยัดอยู่กับที่ใบหน้าแสดงความสงสัย เขาปล่อยเสียงหัวเราะ “น่าอายนัก ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าก็ไม่สามารถข้ามผ่านช่องว่างนั่นได้ แค่ก แค่ก…”

 

เลือดสีม่วงดําเริ่มกระเซ็นออกมาขณะที่เขากําลังพูด

 

“ถ้าเจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 6 ทั่ว ๆ ไป ข้าคงจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่เจ้ามันก็แค่สุนัขแก่ ๆ ร่างกายของเจ้าจะทนอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน?”

 

ฟางหยวนบิดข้อนิ้วมือไปมาเกิดเสียงกรอบแกรบ

 

เขาได้ยินมาว่ายาเม็ดคืนวิญญาณนั้นเพียงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ครั้งเดียว และฟื้นฟูให้ผู้ฝึกยุทธ์อยู่ในสภาพดีที่สุดของตนเอง มันให้ผลฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่อาจารย์หลี่ลงมือไว้ก่อนที่จะถูกจู่โจมโดยหลินเหลยเยวและผู้อื่น ๆ 

 

“สุนัข…สุนัขแก่?!”

 

ซ่งจงตะลึงงัน แม้แต่หลินเหลยเยว่ก็ตกตะลึงไปด้วย

 

“เจ้า เจ้าเด็กเปรต แกตายแน่!”

 

ซ่งจงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยถูกเยาะหยันเช่นนี้มาก่อนเพราะเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 7

 

แม้เมื่อถูกขับไล่ออกจากสํานัก การขัดแย้งเล็กน้อยกลับนํามาซึ่งการนองเลือดนี้

 

แล้วเจ้าเด็กเวรนี่ยังกล้าดูถูกเขาต่อหน้า?

 

หลินเหลยเยวพบว่ามันยากที่จะเชื่อและรู้สึกอย่างงงงวยว่าโลกได้พลิกกลับเสียแล้ว

 

“ฮ่าฮ่า สุนัขเฒ่า ยังบอกไม่ได้เสียหน่อยว่าใครจะอยู่และใครจะตาย!”

 

ฟางหยวนหัวเราะและลงมือ ไม่เปิดโอกาสให้ซ่งจงได้ตอบ “ดูกระบวนท่าของข้า!”

 

ซ่งจงนั้นอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว แต่ว่า เขามีพื้นฐานวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครในที่นี้สามารถรับมือพลังภายในของเขาได้ถ้าเขามีเวลาฟื้นฟูมากพอ

 

ดังนั้น กลยุทธ์เดียวก็คือลงมืออย่างไร้ปรานี

 

ฟางหยวนมั่นใจในจุดนี้

 

อย่างไรเขาก็มีพลังกายสูงกว่าคนทั่วไปเกือบสองเท่า นั่นหมายความว่าเขามีความอึดและความสามารถในการฟื้นฟูที่เหนือธรรมดา

 

เขาสามารถลดระยะห่างของระดับพลังภายในได้โดยการใช้ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5) และเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กร่วมกัน

 

“ชี่”

 

กระแสลมจากกรงเล็บอินทรีตัดผ่านอากาศ

 

“เป็นไปไม่ได้ ทําไมเจ้าจึงฟื้นฟูได้เร็วเช่นนี้”

 

ซ่งจงตกตะลึง กัดฟันถาม “เจ้าพยายามทําให้ข้าหมดแรงงั้นรึ?”

 

ใบหน้าของเขาที่เดิมก็เป็นสีแดง แดงขึ้นอีกราวกับเลือดจะหยดออกจากรูขุมขนได้ “เผาไหม้จิตวิญญาณปลดปล่อยปีศาจโลหิต!”

 

นี่คือไม้ตายที่ทําให้เขาสามารถกดข่มอาการบาดเจ็บและเร่งกําลังครั้งสุดท้าย ก่อนนี้เขาใช้เพื่อสังหารผู้อาวุโสหลี่ ผลการจากใช้มันอีกเป็นครั้งที่สองทําลายร่างกายของเขา

 

“ตายซะ! ฝ่ามือวายุปีศาจ – ฝ่ามือโลหิต!”

 

ซ่งจงถลันมาข้างหน้า เลือดสด ๆ หยดออกจากมือข้างขวาและหุ้มอยู่รอบฝ่ามือของเขา ฝ่ามือนั้นกระแทกเข้ากับกรงเล็บอินทรี

 

“ตู้ม!”

 

เกิดเป็นเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้งขณะที่ฟางหยวนปลิวถอยไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาก็กระอักเลือดออกมากองโต “นั่นให้ความรู้สึกดีมาก!”

 

ดวงตาของเขาเข้มแสงขึ้นและเขาก็ลุกกลับมายืน “อีกครั้ง!”

 

“เจ้าเด็กนี้ มันบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?!”

 

ซงจงรู้สึกหวาดกลัววิธีการต่อสู้ที่ฟางหยวนแสดงออกมาฟางหยวนดูไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยแม้สักนิด

 

“ฝุบ!”

 

เสียงจากด้านนอกนั้นดังมาให้ได้ยิน จากที่ได้ยิน อาจจะพูดได้ว่ามีผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงกําลังออกตามล่าซ่งจงอย่างสุดกําลัง

 

ซ่งจงหน้าซีดเผือด ทันใดนั้นก็หันหลังและพุ่งหนีไปในปารกชัฏ

 

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะสังหาร “คู่รัก” นั่นได้ ทางเดียวที่มีก็คือซ่อนตัวและรอโอกาสมาถึงใหม่ 

 

เขายังมีโอกาสมากมายภายในเจ็ดวันนี้ แล้วเด็กตรงหน้าเขาฟางหยวนนั้นก็รับมือได้ยากและหากไม่ได้พักสักนิด ซ่งจงก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับเขาได้

 

“เจ้าจะไปไหน?”

 

ฟางหยวนคํารามขณะไล่ตามมา

 

เขาจะปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้อย่างไร?

 

แม้เขาจะรู้คุณสมบัติของยาเม็ดคืนวิญญาณ มันก็ยังเป็นไปได้ที่ในโลกอันกว้างใหญ่ ซ่งจงอาจจะประสบเข้ากับปาฏิหาริย์และมีชีวิตรอด ฟางหยวนจะไม่รู้สึกสบายใจอย่างแท้จริงจนกว่าจะเห็นซ่งจงตายตกไปต่อหน้าต่อตา

 

แล้วโอกาสที่ดีกว่านี้จะมาถึงเมื่อใดกัน?

 

กําลังของศัตรูผู้ถูกผลาญไปจนหมด นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะกําจัดซ่งจงแม้กับผู้ที่มีระดับพลังยุทธ์เดียวกันกับมัน

 

อาจจะไม่มีโอกาสอื่นแล้วถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป

 

“ฝุบ!”

 

ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปในปาลึก ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว

 

“ตาแก่โง่เง่านี่อึดชะมัด ข้าคิดว่าคงจะเป็นผลจากยาเม็ดแล้ว”

 

ฟางหยวนเห็นระยะห่างระหว่างทั้งสองนั้นไม่ได้ลดลงเลย เขามองรอบ ๆ ก่อนจะตะโกนออกมา “สุนัขเฒ่า เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าลูกชายสุดที่รักของเจ้าตายอย่างไร?”

 

“อะไรนะ?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งจงหยุดวิ่งและหันกลับมา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ฟางหยวน “เจ้ารู้อะไรมา? พูด!”

 

ยังมีระยะห่างเล็กน้อยระหว่างซ่งจงกับกองกําลังด้านนอกต่อให้เขาช้าลงสักนิด เขาก็ยังมีเวลามากพอที่จะหนี เขาสนใจความจริงนั่นมากกว่าและตัดสินใจหยุด

 

“คนที่สังหารสุนัขนั่น… ฮ่าฮ่า…”

 

ฟางหยวนไม่ได้หยุด เขาพุ่งไปข้างหน้า มือทั้งคู่กางขึ้นเป็นกรงเล็บอินทรีและจู่โจมใส่ซ่งจง “ไปถามลูกชายของเจ้าเอาสิ!”

 

“เจ้าเด็กชั่ว!”

 

สีหน้าของซงจงเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าฆ่าเจ้าไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?”

 

เขายกฝามือทั้งสองชูขึ้นฟ้า รู้สึกได้ถึงพลังจากฝ่ามือทั้งสอง

 

“ปัง!”

 

กําปั้นและกรงเล็บกระทบกัน สีหน้าของซงจงเปลี่ยนไป “ไม่จริง…เจ้า…”

 

เขาผงะถอยและมองที่ฝ่ามือตัวเอง เห็นเพียงแค่รูโหว่บนฝ่ามือของเขาที่มีเลือดสีดําไหลออกมา

 

“เจ้าใช้พิษ ไม่ นี่เป็นฝ่ามือทรายดํา… เป็นเจ้า!”

 

ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขากระโจนไปข้างหน้าเพียงเพื่อจะกระแทกลงกับพื้น

 

“ข้าเกลียดเจ้านัก! เกลียดเจ้า!”

 

ซ่งจงคํารามขณะมองที่ฝ่ามือตัวเอง เขามองฟางหยวนด้วยสายตาราวกับจะฆ่าฟางหยวนให้ตายตก

 

ถ้าเขารู้ว่าฆาตกรฆ่าบุตรชายยืนอยู่ตรงหน้า เขาคงจะใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้เพื่อสังหารฟางหยวน แม้จะต้องสละชีวิตตนเองก็ตาม

 

แต่ว่าเขาถูกหลอก และเขาไม่สามารถหาทางตอบโต้ได้แล้ว

 

“เจ้าใช้ยาเม็ดคืนวิญญาณและใช้วิชาลับไปหลายครั้ง พลังของเจ้าหมดแล้วและเจ้าก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว หลังจากถูกฝ่ามือทรายดําของข้า ก็ไม่มีทางที่เจ้าจะมีชีวิตรอด วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้าแล้ว!”

 

สีหน้าของฟางหยวนเย็นชา เขาหยิบบัญชาพญายมออกมากลืนลงไป

 

ซ่งจงนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 3 ประตูวิกฤตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาถูกจู่โจมด้วยฝ่ามือทรายดําและได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถรับมือกับการจู่โจมของศัตรูด้วยพลังภายในของตน นี่เป็นเหตุให้พิษงูจูเหว่ยส่วนหนึ่งนั้นย้อนกลับมาทําร้ายฟางหยวนด้วยเหมือนกัน

 

แต่ฟางหยวนมีบัญชาพญายมซึ่งสามารถแก้พิษได้

 

ซ่งจงไม่ได้โชคดีเช่นนี้

 

“ไปตามทางของเจ้าเถอะ!”

 

ฟางหยวนก้าวมาข้างหน้าและมองซ่งจงที่ไม่สามารถพูดจาได้แล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ซ่งอวี้เจว๋เอาแต่ส่งคนมารบกวนข้าซ้ำ ๆ เจ้าคิดว่าข้าจะต้องตายและไม่สามารถตอบโต้ได้งั้นหรือ?”

 

“สําหรับเจ้า เจ้าก็ยังเป็นตัวก่อปัญหาเช่นกัน ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไปอีกแม้แต่วันเดียว!”

 

แม้ยาเม็ดคืนวิญญาณนั้นมีฤทธิ์ราวปาฏิหาริย์ ผลของมันก็ไร้ประโยชน์ มียาเม็ดระดับเวทย์มนตร์ในตํานานอีกหลายอย่างที่สามารถช่วยชีวิตซ่งจงได้

 

ฟางหยวนไม่อยากสร้างปัญหาอื่นเพิ่มอีกถ้าไม่จําเป็น

 

“ไปตามทางของเจ้า จําไว้ว่าชาติหน้าที่อย่ามาวุ่นวายกับข้าอีก!”

 

ฟางหยวนพยักหน้า ยกมือขวาขึ้นก่อนจะสะบัดลงอย่างเฉียบขาด

 

“ตูม!”

 

เลือดสาดกระจายออกมา

 

ที่ด้านนอกป่า มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาให้ได้ยิน

 

“รอยเท้า ตรงนั้น!”

 

“ซ่งจงเพิ่งหนีมา เขาคงยังไปไม่ไกล!”

 

กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์เข้าล้อมรอบบริเวณ ที่ด้านหน้ากลุ่มเป็นหลินเหลยเยว่และผู้คุ้มกันจากสํานักกุยหลิงสองคน

 

“เหลยเยว่ เพื่อนของเจ้าไล่ตามซ่งจงไปผู้เดียวงั้นหรือ?”

 

ผู้คุ้มกันส่ายหน้า “เด็กเอย เจ้าโจรเฒ่านั่นมีวิทยายุทธ์สูงส่งและเหี้ยมโหดนัก เพื่อนของเจ้าคงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของมันไปแล้ว”

 

“ฟางหยวน… เขาจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก!”

 

คุณหนูฉิงพูดมาจากด้านข้าง ผู้ที่เห็นซ่งจงและฟางหยวนประมือกันย่อมมีความมั่นใจในตัวเขา

 

“หืม… ซ่งจงนั้นครอบครองกําลังภายในระดับสูง ผู้ที่มีแค่พลังภายในย่อมไม่สามารถรับมือเขาได้ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็คงจะตายตก…”

 

ผู้อื่นพูดคุยกันแต่กลับต้องหยุดเมื่อหลินเหลยเยว่มองมา

 

“หืม? มีคนอยู่ตรงนั้น!”

 

ผู้คนที่ด้านหน้าหยุดเมื่อพวกมันเห็นเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากป่าทึบ

 

“พี่ฟาง!”

 

คุณหนูฉิงรู้สึกยินดีอย่างประหลาด “เจ้าคนทรยศซ่งจงนั่นไปไหนแล้ว?”

 

“นี่!”

 

ฟางหยวนยกมือขวาของตนขึ้นและศีรษะชุมเลือดของซ่งจงก็ปรากฏขึ้น นี่ทําให้คนอื่น ๆ ในที่นั้นรู้สึกประหลาดใจและไม่แน่ใจ

 

“เจ้าแก่ทรยศนั่นได้รับผลกรรมแล้ว?”

 

ผู้คุ้มกันทั้งสองไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Carefree Path of Dreams 39

Now you are reading Carefree Path of Dreams Chapter 39 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Carefree Path of Dreams

 

“ตายซะ ตาแกโง่เง่า!”

 

ฟางหยวนคํารามและกล้ามเนื้อหลังของเขาก็ขยับคล้ายนกกําลังจะสยายปีกของมันออก

 

พลังขุมใหญ่ก่อเกิดที่แผ่นหลังของเขาก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนมาที่แขน ข้อมือ ฝ่ามือ และสุดที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง

 

“กร๊อบ กร๊อบ!”

 

ข้อต่อตามร่างของเขาระเบิดพลังออกมา ข้อต่อเหล่านั้นในร่ายทําหน้าที่คล้ายคานงัด พลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากข้อต่อแต่ละข้อ

 

“กรงเล็บอินทรี!”

 

หลินเหลยเยวตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่พลิกผันไปตรงหน้านาง

 

นางเคยเห็นกระบวนท่านี้จากอวี้ชิวเหลิ่ง ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากเคล็ดกรงเล็บอินทรี นอกจากความจริงที่ว่าอวี้ชิวเหลิ่งนั้นมีวิทยายุทธ์สูงกว่าฟางหยวน ชายหนุ่มตรงหน้านี้ก็ได้เปรียบในด้านพลังชีวิตและพลังวิญญาณ

 

“นั่นยังใช่พี่ฟางผู้นั้นอยู่เหรอ?”

 

เสี่ยวฉิงรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้จะคิดเป็นอื่นได้อย่างไร 

 

“เขาช่าง… ช่าง…”

 

นางอ้าปากค้างและภาพพจน์ของคุณหนูที่สุภาพนุ่มนวลก็กระเด็นหายไป

 

นางคิดได้เพียงแค่อย่างเดียว “ถ้าตอนนั้นเขาใช้พลังเต็มที่ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ไปแล้ว!”

 

อันที่จริง นางประเมินฟางหยวนสูงเกินไป

 

ฟางหยวนตอนนั้นไม่ได้ชานาญเคล็ดกรงเล็บอินทรีเท่ากับตอนนี้ ถ้าเขาได้ฝึกอย่างเป็นระบบ วิทยายุทธ์ของเขาคงจะรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว

 

อาจจะพูดได้ว่าเขาเก่งขึ้นมาอีกระดับหลังจากไม่เจอแค่ไม่กี่วันวิทยายุทธ์ของเขาก็รุดหน้าไปอีกก้าวใหญ่

 

“ฮู่วว!”

 

กรงเล็บนั้นแทบจะฉีกทิ้งอวัยวะได้ กระแสลมที่เกิดจากกรงเล็บก็แทบจะเฉือนเนื้อหนังก่อนที่กรงเล็บจะไปถึงเป้าหมายเสียด้วยซ้ำ

 

“เด็กดี!”

 

ซ่งจงหอบ ใบหน้าแดงก่ำ เขาโบกมือไปมาในอากาศเกิดเป็นสัญลักษณ์ “ฝ่ามือวายุปิศาจ!”

 

“ตู้ม!”

 

กรงเล็บและฝ่ามือกระทบกันเกิดเสียงดังลั่นให้ได้ยิน

 

“ฝุบ!”

 

ฝุ่นบนพื้นฟังขึ้น ฟางหยวนปลิวและกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เลือดสายหนึ่งไหลออกจากมุมปากของเขา

 

“เหตุใดพลังภายในและพลังกายของเจ้าถึงสูงเช่นนี้?”

 

ซ่งจงยืนหยัดอยู่กับที่ใบหน้าแสดงความสงสัย เขาปล่อยเสียงหัวเราะ “น่าอายนัก ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าก็ไม่สามารถข้ามผ่านช่องว่างนั่นได้ แค่ก แค่ก…”

 

เลือดสีม่วงดําเริ่มกระเซ็นออกมาขณะที่เขากําลังพูด

 

“ถ้าเจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 6 ทั่ว ๆ ไป ข้าคงจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่เจ้ามันก็แค่สุนัขแก่ ๆ ร่างกายของเจ้าจะทนอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน?”

 

ฟางหยวนบิดข้อนิ้วมือไปมาเกิดเสียงกรอบแกรบ

 

เขาได้ยินมาว่ายาเม็ดคืนวิญญาณนั้นเพียงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ครั้งเดียว และฟื้นฟูให้ผู้ฝึกยุทธ์อยู่ในสภาพดีที่สุดของตนเอง มันให้ผลฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่อาจารย์หลี่ลงมือไว้ก่อนที่จะถูกจู่โจมโดยหลินเหลยเยวและผู้อื่น ๆ 

 

“สุนัข…สุนัขแก่?!”

 

ซ่งจงตะลึงงัน แม้แต่หลินเหลยเยว่ก็ตกตะลึงไปด้วย

 

“เจ้า เจ้าเด็กเปรต แกตายแน่!”

 

ซ่งจงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยถูกเยาะหยันเช่นนี้มาก่อนเพราะเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 7

 

แม้เมื่อถูกขับไล่ออกจากสํานัก การขัดแย้งเล็กน้อยกลับนํามาซึ่งการนองเลือดนี้

 

แล้วเจ้าเด็กเวรนี่ยังกล้าดูถูกเขาต่อหน้า?

 

หลินเหลยเยวพบว่ามันยากที่จะเชื่อและรู้สึกอย่างงงงวยว่าโลกได้พลิกกลับเสียแล้ว

 

“ฮ่าฮ่า สุนัขเฒ่า ยังบอกไม่ได้เสียหน่อยว่าใครจะอยู่และใครจะตาย!”

 

ฟางหยวนหัวเราะและลงมือ ไม่เปิดโอกาสให้ซ่งจงได้ตอบ “ดูกระบวนท่าของข้า!”

 

ซ่งจงนั้นอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว แต่ว่า เขามีพื้นฐานวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครในที่นี้สามารถรับมือพลังภายในของเขาได้ถ้าเขามีเวลาฟื้นฟูมากพอ

 

ดังนั้น กลยุทธ์เดียวก็คือลงมืออย่างไร้ปรานี

 

ฟางหยวนมั่นใจในจุดนี้

 

อย่างไรเขาก็มีพลังกายสูงกว่าคนทั่วไปเกือบสองเท่า นั่นหมายความว่าเขามีความอึดและความสามารถในการฟื้นฟูที่เหนือธรรมดา

 

เขาสามารถลดระยะห่างของระดับพลังภายในได้โดยการใช้ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5) และเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กร่วมกัน

 

“ชี่”

 

กระแสลมจากกรงเล็บอินทรีตัดผ่านอากาศ

 

“เป็นไปไม่ได้ ทําไมเจ้าจึงฟื้นฟูได้เร็วเช่นนี้”

 

ซ่งจงตกตะลึง กัดฟันถาม “เจ้าพยายามทําให้ข้าหมดแรงงั้นรึ?”

 

ใบหน้าของเขาที่เดิมก็เป็นสีแดง แดงขึ้นอีกราวกับเลือดจะหยดออกจากรูขุมขนได้ “เผาไหม้จิตวิญญาณปลดปล่อยปีศาจโลหิต!”

 

นี่คือไม้ตายที่ทําให้เขาสามารถกดข่มอาการบาดเจ็บและเร่งกําลังครั้งสุดท้าย ก่อนนี้เขาใช้เพื่อสังหารผู้อาวุโสหลี่ ผลการจากใช้มันอีกเป็นครั้งที่สองทําลายร่างกายของเขา

 

“ตายซะ! ฝ่ามือวายุปีศาจ – ฝ่ามือโลหิต!”

 

ซ่งจงถลันมาข้างหน้า เลือดสด ๆ หยดออกจากมือข้างขวาและหุ้มอยู่รอบฝ่ามือของเขา ฝ่ามือนั้นกระแทกเข้ากับกรงเล็บอินทรี

 

“ตู้ม!”

 

เกิดเป็นเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้งขณะที่ฟางหยวนปลิวถอยไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาก็กระอักเลือดออกมากองโต “นั่นให้ความรู้สึกดีมาก!”

 

ดวงตาของเขาเข้มแสงขึ้นและเขาก็ลุกกลับมายืน “อีกครั้ง!”

 

“เจ้าเด็กนี้ มันบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?!”

 

ซงจงรู้สึกหวาดกลัววิธีการต่อสู้ที่ฟางหยวนแสดงออกมาฟางหยวนดูไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยแม้สักนิด

 

“ฝุบ!”

 

เสียงจากด้านนอกนั้นดังมาให้ได้ยิน จากที่ได้ยิน อาจจะพูดได้ว่ามีผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงกําลังออกตามล่าซ่งจงอย่างสุดกําลัง

 

ซ่งจงหน้าซีดเผือด ทันใดนั้นก็หันหลังและพุ่งหนีไปในปารกชัฏ

 

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะสังหาร “คู่รัก” นั่นได้ ทางเดียวที่มีก็คือซ่อนตัวและรอโอกาสมาถึงใหม่ 

 

เขายังมีโอกาสมากมายภายในเจ็ดวันนี้ แล้วเด็กตรงหน้าเขาฟางหยวนนั้นก็รับมือได้ยากและหากไม่ได้พักสักนิด ซ่งจงก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับเขาได้

 

“เจ้าจะไปไหน?”

 

ฟางหยวนคํารามขณะไล่ตามมา

 

เขาจะปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้อย่างไร?

 

แม้เขาจะรู้คุณสมบัติของยาเม็ดคืนวิญญาณ มันก็ยังเป็นไปได้ที่ในโลกอันกว้างใหญ่ ซ่งจงอาจจะประสบเข้ากับปาฏิหาริย์และมีชีวิตรอด ฟางหยวนจะไม่รู้สึกสบายใจอย่างแท้จริงจนกว่าจะเห็นซ่งจงตายตกไปต่อหน้าต่อตา

 

แล้วโอกาสที่ดีกว่านี้จะมาถึงเมื่อใดกัน?

 

กําลังของศัตรูผู้ถูกผลาญไปจนหมด นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะกําจัดซ่งจงแม้กับผู้ที่มีระดับพลังยุทธ์เดียวกันกับมัน

 

อาจจะไม่มีโอกาสอื่นแล้วถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป

 

“ฝุบ!”

 

ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปในปาลึก ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว

 

“ตาแก่โง่เง่านี่อึดชะมัด ข้าคิดว่าคงจะเป็นผลจากยาเม็ดแล้ว”

 

ฟางหยวนเห็นระยะห่างระหว่างทั้งสองนั้นไม่ได้ลดลงเลย เขามองรอบ ๆ ก่อนจะตะโกนออกมา “สุนัขเฒ่า เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าลูกชายสุดที่รักของเจ้าตายอย่างไร?”

 

“อะไรนะ?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งจงหยุดวิ่งและหันกลับมา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ฟางหยวน “เจ้ารู้อะไรมา? พูด!”

 

ยังมีระยะห่างเล็กน้อยระหว่างซ่งจงกับกองกําลังด้านนอกต่อให้เขาช้าลงสักนิด เขาก็ยังมีเวลามากพอที่จะหนี เขาสนใจความจริงนั่นมากกว่าและตัดสินใจหยุด

 

“คนที่สังหารสุนัขนั่น… ฮ่าฮ่า…”

 

ฟางหยวนไม่ได้หยุด เขาพุ่งไปข้างหน้า มือทั้งคู่กางขึ้นเป็นกรงเล็บอินทรีและจู่โจมใส่ซ่งจง “ไปถามลูกชายของเจ้าเอาสิ!”

 

“เจ้าเด็กชั่ว!”

 

สีหน้าของซงจงเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าฆ่าเจ้าไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?”

 

เขายกฝามือทั้งสองชูขึ้นฟ้า รู้สึกได้ถึงพลังจากฝ่ามือทั้งสอง

 

“ปัง!”

 

กําปั้นและกรงเล็บกระทบกัน สีหน้าของซงจงเปลี่ยนไป “ไม่จริง…เจ้า…”

 

เขาผงะถอยและมองที่ฝ่ามือตัวเอง เห็นเพียงแค่รูโหว่บนฝ่ามือของเขาที่มีเลือดสีดําไหลออกมา

 

“เจ้าใช้พิษ ไม่ นี่เป็นฝ่ามือทรายดํา… เป็นเจ้า!”

 

ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขากระโจนไปข้างหน้าเพียงเพื่อจะกระแทกลงกับพื้น

 

“ข้าเกลียดเจ้านัก! เกลียดเจ้า!”

 

ซ่งจงคํารามขณะมองที่ฝ่ามือตัวเอง เขามองฟางหยวนด้วยสายตาราวกับจะฆ่าฟางหยวนให้ตายตก

 

ถ้าเขารู้ว่าฆาตกรฆ่าบุตรชายยืนอยู่ตรงหน้า เขาคงจะใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้เพื่อสังหารฟางหยวน แม้จะต้องสละชีวิตตนเองก็ตาม

 

แต่ว่าเขาถูกหลอก และเขาไม่สามารถหาทางตอบโต้ได้แล้ว

 

“เจ้าใช้ยาเม็ดคืนวิญญาณและใช้วิชาลับไปหลายครั้ง พลังของเจ้าหมดแล้วและเจ้าก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว หลังจากถูกฝ่ามือทรายดําของข้า ก็ไม่มีทางที่เจ้าจะมีชีวิตรอด วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้าแล้ว!”

 

สีหน้าของฟางหยวนเย็นชา เขาหยิบบัญชาพญายมออกมากลืนลงไป

 

ซ่งจงนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 3 ประตูวิกฤตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาถูกจู่โจมด้วยฝ่ามือทรายดําและได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถรับมือกับการจู่โจมของศัตรูด้วยพลังภายในของตน นี่เป็นเหตุให้พิษงูจูเหว่ยส่วนหนึ่งนั้นย้อนกลับมาทําร้ายฟางหยวนด้วยเหมือนกัน

 

แต่ฟางหยวนมีบัญชาพญายมซึ่งสามารถแก้พิษได้

 

ซ่งจงไม่ได้โชคดีเช่นนี้

 

“ไปตามทางของเจ้าเถอะ!”

 

ฟางหยวนก้าวมาข้างหน้าและมองซ่งจงที่ไม่สามารถพูดจาได้แล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ซ่งอวี้เจว๋เอาแต่ส่งคนมารบกวนข้าซ้ำ ๆ เจ้าคิดว่าข้าจะต้องตายและไม่สามารถตอบโต้ได้งั้นหรือ?”

 

“สําหรับเจ้า เจ้าก็ยังเป็นตัวก่อปัญหาเช่นกัน ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไปอีกแม้แต่วันเดียว!”

 

แม้ยาเม็ดคืนวิญญาณนั้นมีฤทธิ์ราวปาฏิหาริย์ ผลของมันก็ไร้ประโยชน์ มียาเม็ดระดับเวทย์มนตร์ในตํานานอีกหลายอย่างที่สามารถช่วยชีวิตซ่งจงได้

 

ฟางหยวนไม่อยากสร้างปัญหาอื่นเพิ่มอีกถ้าไม่จําเป็น

 

“ไปตามทางของเจ้า จําไว้ว่าชาติหน้าที่อย่ามาวุ่นวายกับข้าอีก!”

 

ฟางหยวนพยักหน้า ยกมือขวาขึ้นก่อนจะสะบัดลงอย่างเฉียบขาด

 

“ตูม!”

 

เลือดสาดกระจายออกมา

 

ที่ด้านนอกป่า มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาให้ได้ยิน

 

“รอยเท้า ตรงนั้น!”

 

“ซ่งจงเพิ่งหนีมา เขาคงยังไปไม่ไกล!”

 

กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์เข้าล้อมรอบบริเวณ ที่ด้านหน้ากลุ่มเป็นหลินเหลยเยว่และผู้คุ้มกันจากสํานักกุยหลิงสองคน

 

“เหลยเยว่ เพื่อนของเจ้าไล่ตามซ่งจงไปผู้เดียวงั้นหรือ?”

 

ผู้คุ้มกันส่ายหน้า “เด็กเอย เจ้าโจรเฒ่านั่นมีวิทยายุทธ์สูงส่งและเหี้ยมโหดนัก เพื่อนของเจ้าคงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของมันไปแล้ว”

 

“ฟางหยวน… เขาจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก!”

 

คุณหนูฉิงพูดมาจากด้านข้าง ผู้ที่เห็นซ่งจงและฟางหยวนประมือกันย่อมมีความมั่นใจในตัวเขา

 

“หืม… ซ่งจงนั้นครอบครองกําลังภายในระดับสูง ผู้ที่มีแค่พลังภายในย่อมไม่สามารถรับมือเขาได้ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็คงจะตายตก…”

 

ผู้อื่นพูดคุยกันแต่กลับต้องหยุดเมื่อหลินเหลยเยว่มองมา

 

“หืม? มีคนอยู่ตรงนั้น!”

 

ผู้คนที่ด้านหน้าหยุดเมื่อพวกมันเห็นเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากป่าทึบ

 

“พี่ฟาง!”

 

คุณหนูฉิงรู้สึกยินดีอย่างประหลาด “เจ้าคนทรยศซ่งจงนั่นไปไหนแล้ว?”

 

“นี่!”

 

ฟางหยวนยกมือขวาของตนขึ้นและศีรษะชุมเลือดของซ่งจงก็ปรากฏขึ้น นี่ทําให้คนอื่น ๆ ในที่นั้นรู้สึกประหลาดใจและไม่แน่ใจ

 

“เจ้าแก่ทรยศนั่นได้รับผลกรรมแล้ว?”

 

ผู้คุ้มกันทั้งสองไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+