Monarch of Time 16 – ในวังหลวง

Now you are reading Monarch of Time Chapter 16 – ในวังหลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภาพเมืองหลวงค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นในมุมมองของรถม้าที่แล่นเข้าใกล้

 

จากนั้นอีก 3 ชั่วโมง พวกเขาได้มาถึงหน้าประตูเมือง ชุนหลงเห็นประตูและกำแพงเมืองที่สูงยิ่งกว่ากำแพงเมืองป่าคราม

 

มีทหารยืนหน้าประตูเพื่อเก็บค่าเข้าเมืองจากทุกคน

 

แต่ละคนจะต้องจ่าย 1 เหรียญทอง ขณะที่รถม้าจะต้องจ่ายเพิ่ม 10 เหรียญทอง

 

1 เหรียญทองนั้นเลี้ยงครอบครัว 3 คนได้ถึงครึ่งปีในเมืองหลวง แต่มันคือราคาเล็กน้อยสำหรับปรมาจารย์ค่ายกลอย่างชุนฟาง

 

คนขับรถม้าจ่ายเหรียญทองให้กับทหารและเมื่อชุนหลงได้เข้าเมืองหลวง ชุนหลงกับชุนฟางจึงลงจากรถม้า

 

“ไปจองห้องใหญ่ 2 ห้องใน ‘โรงเตี๊ยมหลวง’ 2 คืน”

 

ชุนฟางสั่งคนขับรถม้าที่โค้งคำนับก่อนจะไปยังโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมือง

 

‘โรงเตี๊ยมหลวง’ นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของราชวงศ์ ราคาเข้าพักสูงกว่าโรงเตี๊ยมอื่นในอาณาจักรชะตาฟ้ามากกว่า 10 เท่าตัว แต่บริการและห้องพักนั้นถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรแล้ว

 

ถึงอย่างนั้นก็มิใช่ว่าใครก็ได้จะได้เข้าโรงเตี๊ยม มีเพียงคนที่มีตำแหน่งอย่างชุนฟางและครอบครัวเท่านั้นที่จะได้พักค้างแรมที่นี่

 

ชุนหลงกับชุนฟางใช้เวลา 2 วันในการท่องเที่ยวในเมืองหลวงเพราะนี่คือครั้งแรกในเมืองหลวงของชุนหลง พวกเขาชิมอาหารชั้นเยี่ยมและสุราชั้นยอดในเวลากลางวัน ชุนหลงใช้เวลาบ่มเพาะพลังในยามกลางคืน

 

เขาจดจ่อกับการเพิ่มพลังบอลปราณที่เขาสร้างมาอยู่แล้วให้มีคุณภาพเท่ากับบอลปราณลูกที่ 55 มันเป็นขั้นตอนที่ต้องแลกมาด้วยความพยายามและหยาดเหงื่อ แต่ใน 2 คืนนี้ ชุนหลงได้เพิ่มพลังบอลปราณไปแล้ว 6 ลูก ขั้นพลังของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่พลังโดยรวมของเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

 

ชุนหลงประเมินว่าเมื่อเขาเปลี่ยนบอลปราณทั้งหมดและเป็นระดับรวมปราณขั้น 7 เมื่อใด เขาอาจจะเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังระดับรวมปราณขั้น 9 ได้

 

ยามเช้ามาถึง ดวงอาทิตย์ขึ้นจากตะวันออกเผยให้เห็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่เช้าตรู่

 

เหล่าทหารต่างระวังตัวอยู่ในรอบนอกวัง

 

สามัญชนและชุนนางต้องรอข้างนอกในวันนี้เพราะแขกพิเศษจากนิกายชื่อดังจะมาทดสอบคัดเลือกศิษย์นอกเข้าวังหลวงในวันนี้

 

ชุนฟางกับชุนหลงมาถึงหน้าทางเข้าวังหลวง ทหารหยุดพวกเขาเอาไว้

 

“ผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการคัดเลือกห้ามเข้าวังหลวง!”

 

ดูเหมือนว่าเขาจะพูดแบบนี้มาเกิน 100 ครั้งแล้ว

 

 

ชุนหลงเมินทหารและหันไปมองชุนฟาง

 

“ท่านพ่อ ข้าไปล่ะ”

 

ชุนฟางมองลูกชายด้วยความภูมิใจ ตาเขาแดงขึ้นมา

 

“รออะไรของเจ้า? ไปซะ!”

 

เขาพูดรบเร้าเพราะพยายามปิดบังความเขินอาย

 

ชุนหลงยิ้มพร้อมกับหันกลับ เขาเดินไปหาทหารเฝ้าประตู

 

เขาเผยพลังรวมปราณขั้น 6 ชั้นกลาง เขาสั่ง

 

“ข้ามาเพื่อรับคัดเลือกนิกายเมฆาทะยาน นำทางข้าไป”

 

ทหารอึ้งและแอบโมโหเมื่อถูกเด็กหนุ่มกล้าหยาบคายกับตนที่เป็นทหารหลวง โดยเฉพาะกับเด็กที่มีพลังต่ำกว่าเขาซึ่งอยู่ในระดับรวมปราณขั้น 9 …แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้

 

คำสั่งที่เขาได้รับคือใครก็ตามที่ปรารถนาจะเข้าร่วมการคัดเลือกและมีคุณสมบัติตามที่นิกายเมฆาทะยานต้องการจะต้องถูกพาไปที่โถงวัง

 

เขาพาชุนหลงเข้าไปในวัง พวกเขาเดินผ่านทางเดินซับซ้อนมากมายและตรงไปที่โถงวัง

 

ชุนหลงเห็นทหารคนอื่นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น

 

และยังมีทหารระดับปฐพีอีกหลายคนที่ประจำตำแหน่งอยู่เมื่อเขาเข้าไปในวังที่ลึกขึ้น

 

ชุนหลงกับทหารเดินมาถึงสุดทางเดิน ทหารพูดอย่างใจร้อน

 

“ถึงแล้ว ข้ามาได้แค่สุดทางเดินโถงวัง ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ข้ากลับก่อน”

 

ชุนหลงเมินทหารอีกเป็นครั้งที่สองของวัน

 

‘ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้น่าเกลียดนัก?’

 

เขาคิดขณะเดินกลับหน้าประตูวัง

 

ชุนหลงมาถึงสุดทางเดินและผลักประตูบานใหญ่ข้างหน้า

 

หนุ่มสาว 21 คนอยู่ในห้องที่ชุนหลงเห็น

 

ห้องนี้ถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณีและหินอันสวยงาม โต๊ะทองคำ แล้วยังมีเก้าอี้หรูหราพร้อมกับที่นั่งอันแสนสบาย

 

เมื่อชุนหลงมาถึง เหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหมดที่อยู่ในห้องอยู่แล้วหันมามองเขา

 

ส่วนใหญ่คนที่นี่ดูอายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ก็มีบางคนที่แก่กว่า

 

ชุนหลงได้ยินเสียงอันคุ้นเคยพูดกับเขา

 

“ว้าว น้องชายชุน ข้าไม่คิดว่าเราจะได้มาพบกันที่นี่”

 

ชายหนุ่มชุดขาวเดินยิ้มมาหาชุนหลง

 

ชุดสีน้ำเงินและใบหน้าหล่อเหลาของชุนหลงกับชายหนุ่มในชุดขาวได้ทำให้เกิดภาพอันงดงามที่ทำให้เหล่าหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ

 

ชุนหลงหันไปยิ้มให้ลู่เหวิน

 

ลู่เหวินเดินมาตบบ่าชุนหลงและพูด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใครจะเชื่อเล่าว่าเพียงเวลาอันเล็กน้อย เจ้าจะก้าวหน้าได้ถึงเพียงนี้ นี่มันเหลือเชื่อไปเลย”

 

เขากระซิบถาม

 

“เป็นเพราะโอสถที่ยอดฝีมือคนนั้นให้เจ้ารึ?”

 

ลู่เหวินรู้ว่าแม้เขาจะสัมผัสพลังของชุนหลงไม่ได้ ชุนหลงจะต้องอยู่ในระดับรวมปราณขั้น 6 อย่างแน่นอนในการเข้ามาในวังหลวง

 

ที่จริงลู่เหวินเป็นคนที่ถือตัวอยู่ภายใน แต่เมื่อเขาได้ประโยชน์จากหม้อที่ชุนฟางให้เขาในตำหนักชุน เขาจึงมองตระกูลชุนในทางที่ดีเป็นพิเศษ

 

ความคิดของลู่เหวินนั้นเรียบง่าย

 

‘ถ้าเจ้าช่วยข้า ข้าจะนับเจ้าเป็นสหาย แต่ถ้าไม่ อย่าคิดว่าข้าจะไว้หน้าเจ้า เพราะข้าคือนักปรุงยาขั้น 2 มากพรสวรรค์’

 

นั่นคือเหตุผลที่เขาดูอบอุ่นกับชุนหลงในครั้งนี้

 

ชุนหลงพยักหน้าให้ลู่เหวินและพากันไปหาที่นั่ง เสียงชายที่ไม่คุ้นและดูชิงชังดังตามหลังพวกเขา

 

“เจ้าคือชุนหลงอย่างนั้นสินะ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด