Monarch of Time 17 – วาจาระคายหู

Now you are reading Monarch of Time Chapter 17 – วาจาระคายหู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชุนหลงและลู่เหวินหันไปมองชายหนุ่มชุดแดงหน้าตาดีที่กำลังเดินมาทางพวกเขา

 

ชายคนนี้สายตาเยือกเย็นเมื่อมองชุนหลงอย่างคุกคาม ราวกับว่าสายตาอย่างเดียวจะสังหารชุนหลงได้ราวสองครั้ง

 

หญิงสาวในชุดบุพผาเดินข้างกายชายหนุ่มคนนี้

 

แม้ว่านางจะหน้าตาน่ารัก แต่อกแบนอันเป็นเอกลักษณ์ของนางนั้นไม่เหมือนใครในห้องนี้เลย

 

“คารวะอาจารย์ลู่”

 

ชายหนุ่มพูดและประสานมือให้ลู่เหวิน

 

“วันนี้ข้ามีเรื่องส่วนตัวจะสะสางกับชายผู้นี้ หวังว่าอาจารย์ลู่จะไม่เข้าแทรก ตำหนักขุนนางของข้าจะไม่ลืมเรื่องครั้งนี้”

 

ลู่เหวินเมินเสี่ยวฉีโถว บุตรคนที่สองของขุนนางเสี่ยวและหันมาถามชุนหลง

 

“น้องชายอยากให้ข้าช่วยหรือไม่?”

 

เสี่ยวฉีโถวโกรธแค้นที่ลู่เหวินไม่สนใจเขาในขณะที่เขาสุภาพกับลู่เหวิน เขาเริ่มกัดฟันด้วยความแค้นแต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าบิดาของเขาจะเป็นขุนนาง เขาก็มิอาจทำอะไรต่อนักปรุงยาที่มีพรสวรรค์อย่างลู่เหวิน โดยเฉพาะเมื่อเป็นเวลาที่เขากำลังจะออกจากอาณาจักรชะตาฟ้าไปยังนิกายเมฆาทะยาน

 

ชุนหลงโบกมือให้ลู่เหวิน เป็นการบอกว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร

 

นี่มันเรื่องตลกหรือ? เหตุและเวลาใดเล่าที่เขาต้องให้คนอื่นมาจัดการเรื่องของเขาให้กับเขา?

 

แน่นอนว่าชุนหลงรู้จักหญิงสาวข้างกายชายหนุ่ม นางคือหลินอู๋ คงไม่มีสตรีใดอีกแล้วที่มีอกแบนราบเหมือนกับนาง

 

ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายนางคือบุตรชายคนที่สองของขุนนางเสี่ยวแห่งอาณาจักรชะตาฟ้า เสี่ยวฉีโถว แม้ชุนหลงจะไม่เคยเจอชายคนนี้มาก่อน เขาก็ได้ยินว่าคนผู้นี้คือหนึ่งใน 2 ยอดฝีมือจากตำหนักเสี่ยว

 

‘อาา ถ้าเจ้าหาเรื่องเจ็บตัวเองก็คงว่าอะไรข้าไม่ได้นะ’

 

ชุนหลงคิด เขาเลียนแบบน้ำเสียงของเสี่ยวฉีโถวและท่าทางอวดดีของหลินอู๋ เขามองหลินอู๋ก่อน

 

“นี่เจ้าอกแฟบ ข้าเกือบจะคิดว่าเจ้าเป็นผู้ชายอยู่แล้ว เจ้ามาร่วมทดสอบอย่างที่พูดจริง ๆ แต่ข้าได้ยินว่านิกายเมฆาทะยานไม่รับคนที่ต่ำกว่าขั้น 6 นะ”

 

ชุนหลงพูดด้วยความสับสน เขาหยุดพูดราวกับกำลังคิดและทำหน้าตกใจ เขาชี้หลิงอู๋ด้วยมือที่สั่นเทิ้มและถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

 

“นะ…นี่เจ้า…อย่าบอกนะว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อสมัครเป็นสุนัขตัวเมียในนิกายเมฆาทะยาน…นังบ้า…นั่นมันมากเกินไปแล้ว”

 

*โขลก*

 

ลู่เหวินสำลักเหล้าที่เพิ่งจะเข้าปาก

 

คนอื่นที่ได้ยินมิอาจปั้นหน้านิ่งได้ พวกเขารีบหยุดหัวเราะจนกลายเป็นเสียงสำลักแทน หลายคนที่นี่รู้จักเสี่ยวฉีโถวอยู่แล้วและไม่อยากจะหาเรื่องเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันตลกเกินกว่าพวกเขาจะกลั้นไหว

 

“ไอ้บัดซบชุนหลง!! ข้าเป็นขั้น 6 แล้ว เจ้านั่นแหละสุนัขตัวเมีย”

 

หลินอู๋แผดเสียงใส่ชุนหลง

 

แน่นอนว่าชุนหลงรู้อยู่แก่ใจว่าหลินอู๋อยู่ในระดับรวมปราณขั้น 6 ชั้นต้นแล้ว นางเพิ่มพลังจากขั้น 5 ชั้นต้นในเวลาเพียงเดือนเดียว ตระกูลหลินเล็ก ๆ ของนางไม่มีอำนาจมากพอที่จะช่วยนางในเรื่องเช่นนี้ได้ นางจะต้องรับประทานโอสถระดับสูงมาอย่างแน่นอน และดูจากที่นางเดินเคียงข้างเสี่ยวฉีโถวมานั้น ไม่ยากที่จะบอกว่าผู้ใดที่เป็นคนช่วยนาง

 

ทันทีที่เสี่ยวฉีโถวชี้หน้าชุนหลงและกำลังจะด่าทอ ชุนหลงหันไปมองเขาทันควันและพูด

 

“ข้าควรจะทำอะไรกับเจ้าดีล่ะ เจ้าตัวกินของเหลือ?!”

 

ชุนหลงส่ายหน้ามองเสี่ยวฉีโถวด้วยความเวทนาและพูดต่อ

 

“เจ้าเป็นลูกขุนนางแท้ ๆ แต่กลับไล่กินของเหลือที่ข้าทิ้งเอาไว้เสียได้…เฮ้อ น่าสงสารนัก”

 

“เจ้าไม่รู้รึว่านายน้อยคนนี้ทิ้งแค่ของเสียน่ะ? เหตุใดข้าจะต้องทิ้งของที่มีดีอยู่เล่า? จุ๊ จุ๊ จุ๊”

 

ชุนหลงเดาะลิ้นส่ายหน้ามองเสี่ยวฉีโถวราวกับกำลังมองขอทาน

 

แม้กระทั่งคนส่วนใหญ่ในอาณาจักรชะตาฟ้ายังรู้เรื่องชุนหลงขอถอนหมั้นหลินอู๋อย่างไร้ยางอายก่อนจะแต่งงาน การพูดว่าเสี่ยวฉีโถวไล่ตามของเหลือที่เขากินไปแล้วแต่ไม่ชอบจนต้องทิ้งขว้างนั้นเป็นการดูถูกทั้งเสี่ยวฉีโถวและหลินอู๋ในประโยคเดียว

 

คนอื่น ๆ พยายามกลั้นหัวเราะอีกครั้งแต่ครั้งนี้พวกเขาหัวเราะหนักกว่าเดิม มันเหมือนกับถูกตบหน้าซ้ำสอง

 

“ชุนหลง หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าไปซะ!! ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่มีอะไรเกินเลยระหว่างเจ้ากับหลินอู๋”

 

เสี่ยวฉีโถวกับหลินอู๋ตาแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจากความละอายใจหรือโกรธแค้น

 

เสี่ยวฉีโถวถอยกลับไม่ได้แล้ว เขาตะโกน

 

“วันนี้เจ้าจะต้องคุกเข่าขอโทษหลินอู๋ต่อหน้าทุกคนที่นี่และยอมรับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเจ้าสองคน ไม่อย่างนั้นข้าจะหักแขนหักขาเจ้าให้หมดก่อนส่งเจ้าคลานกลับบ้าน…เลือกมาซะ ก่อนที่ข้าจะเลือกแทนเจ้า…เจ้าต้องไม่ชอบแน่”

 

เสี่ยวฉีโถวปลดปล่อยพลังรวมปราณขั้น 6 ชั้นสูงออกมา

 

“โอ้?”

 

ชุนหลงแววตาเย็นชาในทันที

 

เขาไม่เคยรับคำขู่จากคนเช่นนี้

 

คำสาบานของเขาคือการแข็งแกร่งพอเพื่อที่จะไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เหตุใดเขาจะต้องกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อมีคนกล้ามาคุกคามเขาเล่า?

 

ชุนหลงไปยังที่โล่งกลางโถง

 

ดวงตาเยือกเย็นของเขามองตรงไปที่เสี่ยวฉีโถว ชุนหลงพูดด้วยความเวทนาจนทำให้คนขนลุกซู่

 

“มาสิ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะหักแขนหักขาข้าอย่างไร”

 

เขาปล่อยพลังรวมปราณขั้น 6 ชั้นกลางออกมา ผู้คนในห้องเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกจากแรงกดดันของพลัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด