ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 602 ประกอบกิจการ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 602 ประกอบกิจการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 602 ประกอบกิจการ

หลังพวกโจวเฉวี่ยนออกไปเรียนได้ไม่นาน คุณป้าหม่าก็มาเยี่ยม วันนี้นางไม่ได้ไปเปิดร้านเกี๊ยวเพราะต้องการเปลี่ยนมือคืนร้านให้กับโจวชิงไป๋

โจวชิงไป๋ก็รับเอาไว้เช่นกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้บอกกันไว้แล้วว่าเพียงให้นางดูแลร้านให้ชั่วคราว

“ปีนี้กิจการเป็นอย่างไรบางคะ?” หลินชิงเหอถามป้าหม่าด้วยรอยยิ้ม

“ดีเหมือนเดิมจ้ะ” ป้าหม่าพูดพร้อมกับระบายยิ้มเต็มใบหน้า

กิจการร้านเกี๊ยวต่อให้ไม่พูดหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

นอกจากได้รับหน้าที่ดูแลร้านเกี๊ยวเกือบ 1 ปี คุณป้าหม่าก็ยังได้รับเงินจากลูกสะใภ้หวงเสี่ยวหลิ่วด้วยส่วนหนึ่ง แต่ละเดือนมีรายได้ 200-300 ร้อยหยวนอยู่แล้ว

“งั้นก็ดีค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

แต่เพราะได้สัมผัสถึงความหอมหวานของการทำธุรกิจ คุณป้าหม่าจึงมีความคิดอยากจะให้สะใภ้ของตัวเองออกไปเปิดร้านสักแห่งขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ยังรู้สึกเกรงใจอยู่

รอจนนางพูดจบแล้ว หลินชิงเหอก็พูดอย่างสบาย ๆ “ป้าหม่าอยากเปิดร้านก็ไปเปิดเถอะค่ะ เรื่องนี้ไม่เป็นไรหรอก”

พอเห็นกำไรจากการทำธุรกิจแล้วมีใครบ้างที่ไม่ใจเต้น ถ้าคุณป้าหม่าไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง ทางนี้ก็คงต้องเปิดรับสมัครคนล้างจานสักคน ซึ่งก็หาได้ง่าย ๆ เช่นกัน

“งั้นก็ได้จ้ะ ป้าจะไปเปิดไกลจากที่นี่อย่างแน่นอน” คุณป้าหม่าพยักหน้าพูด

หลินชิงเหอไม่ได้พูดอะไร

คุณป้าหม่าพาหวงเสี่ยวหลิ่วกลับไปแล้ว หลินชิงเหอก็พูดขึ้น “ไม่รู้ว่าหม่าเฉิงหมินจะอยากลาออกไปทำกิจการเองบ้างเหมือนกันหรือเปล่านะคะ”

โจวชิงไป๋พูด “เรียกเขามาลองถามดูเถอะครับ”

หลินชิงเหอจึงเรียกหม่าเฉิงหมินมา แต่หม่าเฉิงหมินกลับส่ายหน้า “ถ้าไม่ไล่ผมออก ผมก็คิดว่าจะทำแบบนี้ตลอดไปครับ”

เขาชอบชีวิตที่มั่นคง ไม่ชอบชีวิตที่มีความเสี่ยงและไม่มั่นคงอย่างนั้น

หลินชิงเหอให้เงินเดือนเขาสูงมาก เงินเดือนนี้เพียงพอให้ครอบครับของเขามีกินมีใช้ ทั้งยังมีเงินเก็บด้วย

หม่าเฉิงหมินก็อายุเท่านี้แล้ว เขาเพียงอยากได้ความมั่นคงก็เท่านั้น

เรื่องที่แม่ของเขาอยากเอาภรรยาเขาไปเปิดร้านนั้น หม่าเฉิงหมินไม่ได้ขัด แต่เพียงให้ภรรยาและแม่ไปประกอบกิจการกันเองก็พอ ส่วนเขาขอรักษาเงินเดือนที่มั่นคงนี้ไว้ เช่นนี้ไม่ว่าครอบครัวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะได้ไม่รู้สึกกังวลใจ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ ปีหน้าเงินเดือนคุณจะขึ้นเป็น 100 หยวนแล้ว ตั้งใจทำงานนะ” หลินชิงเหอพูด

หม่าเฉิงหมินยิ้มรับ สำหรับเงินเดือนของคนอื่น ๆ หลินชิงเหอไม่คิดจะขึ้นให้แล้ว รอปีต่อไปค่อยว่ากัน

2 ปีขึ้นเงินเดือน 1 ครั้ง

หลังจากหม่าเฉิงหมินจากไป หลินชิงเหอก็เริ่มตรวจสอบบัญชีของปีนี้ แต่ทำไปได้ครึ่งเดียวลูกสาวของเธอก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อน โจวชิงไป๋จึงไปเปลี่ยนผ้าอ้อมและล้างก้นให้ แต่พอล้างจนสะอาดแล้วลูกสาวเธอกลับส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความหิว เขาจึงเดินมาหาเธอ

หลินชิงเหอจำต้องอุ้มหล่อนเดินเข้าห้องไปให้นมอีกรอบ

โจวชิงไป๋เริ่มดูสมุดบัญชีปีนี้ด้วยตัวเองต่อ เขาตรวจดูแต่ละใบ ๆ อย่างละเอียด แม้ว่าปกติแล้วลูกชายเขาจะไม่ทำพลาดก็ตาม

หลินชิงเหอให้นมเสร็จจึงอุ้มลูกสาวเดินออกมา นำหล่อนวางลงข้างโจวชิงไป๋ให้นอนอยู่อย่างนั้น

“ฉันจะไปมหาวิทยาลัยสักหน่อยนะคะ” หลินชิงเหอพูด

“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้า เขาอยู่ในบ้านดูสมุดบัญชีต่อพร้อมกับเลี้ยงลูกไปด้วย

สำหรับร้านเกี๊ยววันนี้ก็ปิดกิจการไปก่อนช่วงระยะสั้น ๆ เขาจะปิดไปจนกว่าชีวิตที่นี่จะเข้าที่เข้าทาง แล้วค่อยเปิดกิจการอีกครั้ง

เพราะในบ้านยังมีลูกสาวอยู่อีกคน หลินชิงเหอจึงไม่ได้ออกไปนานนัก ไปและกลับเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ตอนกลับมาก็หอบหนังสือมาด้วยไม่น้อย ทั้งหมดเป็นหนังสือที่เธอต้องแปลทั้งสิ้น

“เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ?” โจวชิงไป๋ที่ทำบัญชีเกือบจะเสร็จ มองเห็นกองหนังสือก็อดที่จะพูดขึ้นไม่ได้

“จะได้ไม่ต้องไปบ่อยไงคะ เอาหนังสือพวกนี้กลับมา ฉันจะได้ออกไปเดือนละครั้งพอ” หลินชิงเหอพูด “ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป คุณก็ไปเปิดร้านเกี๊ยวเถอะค่ะ”

“ได้ครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้า เขากลับไปเอาป้ายร้านออกมา เขียนเวลาเปิดกิจการ

ตั้งแต่ตอนเช้าในเวลา 6:30 น. ถึง 09:00 น. และค่อยเปิดจาก 11:30 น. ไปจนถึง 14:00 น. จากนั้นก็เป็นตอนเย็น 16:30 น. เปิดไปจนถึง 19:30 น.

นับแล้ววันหนึ่งเขาจะเปิดร้าน 8 ชั่วโมง

หลินชิงเหอมองแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร วันหนึ่งเปิด 8 ชั่วโมงไม่ถือว่าสั้นเกินไป จากนั้นก็พูดขึ้น “เรื่องหาพนักงานล้างจานชั่วคราวฉันว่าไปถามคนนั้นดูไหมคะ ดูว่าเธอตั้งใจทำงานและก็รักงานนี้ไหมด้วย”

โจวชิงไป๋พูด “ภรรยาครับ คุณดูมี่มี่ให้หน่อยนะ ผมจะออกไปลองพูดกับหล่อนดู”

หลินชิงเหอไม่ปฏิเสธ แต่เพราะเวลาเปิดร้านสั้นถึงขนาดนี้แล้ว เงินเดือนจึงไม่สูงเท่ากับก่อนหน้านี้แล้ว คิดแล้วเป็นเงิน 50 หยวน

เนื่องจากคุณป้าหม่าทำงานมาหลายปีจึงได้เงินเดือนถึงขนาดนั้น

เงินเดือนนี้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่เงิน 50 หยวนไม่ถือว่าน้อย ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นปี 85 เป็นปีที่เงินเดือนมีการเปลี่ยนแปลง แต่ด้านนอกเงินเดือน 20-30 หยวนก็ยังคงมีอยู่เสียส่วนมากเช่นกัน

กลับกันแล้วเงิน 50 หยวนไม่ถือว่าน้อยเลยด้วยซ้ำ

โจวชิงไป๋ไปพูดมาแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อคุณหูก็ตอบตกลงภายในเวลาอันสั้น ต่อให้ได้เงินเดือน 50 หยวนหล่อนก็จะทำเช่นกัน!

เดิมทีฐานะทางบ้านของหล่อนนั้นปานกลางไปจนถึงต่ำ คู่ชีวิตของหล่อนก็ไม่มีงานทำ และเป็นที่รังเกียจไม่น้อยของสะใภ้ทั้งสองคนที่อยู่ด้วยกัน!

“ผมจะเปิดร้านหกโมงครึ่ง แต่คุณหูไปเจ็ดโมงเช้าก็ได้ครับ ” โจวชิงไป๋พูด

“ค่ะ ๆ พวกนี้ฉันเข้าใจดี” คุณหูพูดอย่างดีใจ แล้วส่งเขากลับไป

โจวชิงไป๋ไปโทรศัพท์หาร้านขายเนื้อแกะและเนื้อหมูที่เป็นคู่ค้าเพื่อถามราคา และได้ยินว่าปลายปีนี้ราคาขึ้นอีกแล้ว 1 เหมา

แต่โจวชิงไป๋ก็สั่งสินค้าไม่น้อย มีทั้งอากาศเย็นในตอนนี้และตู้เย็น หากวางไว้สักระยะหนึ่งก็ไม่มีปัญหาสักนิด

โจวชิงไป๋ที่กลับมาทำงานหน้าที่เดิมด้วยอารมณ์ไม่เลวเลย แม้ว่าครอบครัวจะไม่คิดอะไรกับรายได้ของร้านเกี๊ยว แต่คนก็ต้องมีความหวังและอุดมการณ์จึงจะใช้ได้

เขาไม่รีบร้อนกลับบ้าน แต่ขับรถไปดูร้านค้าทั้งหมดรอบหนึ่ง

เขาขับมาถึงร้านขายอาหารทะเลแห้ง ทั้งยังเอากระเพาะปลาชั้นดีและปลิงทะเลกลับไปด้วย 1 กิโล ทั้งหมดนี้เขาจะเก็บไว้ให้ภรรยากิน

“อาสี่คะ อาสะใภ้สี่ชอบกินมันหวาน หนูเพิ่งไปซื้อกลับมาจากตลาดเช้า ทั้งหอมทั้งหวาน อาสะใภ้สี่ต้องชอบแน่ค่ะ คุณอาเอากลับไปด้วยนะคะ” โจวซานนีพูดพลางหิ้วถุงมันหวานมาหนึ่งถุง

“ได้สิ” โจวชิงไป๋เองก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจหลานสาวตัวเองเช่นกัน เขารับมาแล้วถาม “อาเพิ่งจะไปดูร้านค้าอื่น ๆ มา ระหว่างทางมาเห็นว่าร้านของเธอกับหลี่อ้ายกั๋วปล่อยให้เช่าแล้วเหรอ?”

“ให้เช่าไปแล้วค่ะ ตอนนี้พวกหนูยังไม่อยากทำธุรกิจ จึงหยุดพักเอาไว้ก่อนน่ะค่ะ” โจวซานนีพูด

โจวชิงไป๋พยักหน้า อย่างไรก็ซื้อร้านเอาไว้แล้ว เปิดกิจการช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร

เขากลับมาลูกสาวของเขาก็ยังไม่ตื่น ส่วนหลินชิงเหอก็ได้เริ่มทำงานแปลของตัวเองแล้ว

“ภรรยาครับ อยากออกไปเดินเล่นหน่อยไหม?” โจวชิงไป๋ถาม

“ต้องอยากสิคะ” หลินชิงเหอยิ้มมองค้อนเขานิด ๆ กลับมาแล้วนึกอะไรถึงอยากออกไปเดินอีกก็ไม่รู้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไปไม่ได้ ต้องรอให้สาวน้อยมี่มี่ตื่นก่อน ค่อยให้นมแล้วจึงจะออกไปได้ แบบนี้จึงจะได้สบายใจและไม่ต้องกังวล

“ธุระเสร็จหมดแล้วเหรอคะ?” หลินชิงเหอถาม

“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้า อีกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากด้วยเช่นกัน

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เรื่องกิจการนี่ว่าพ่อไม่ได้นะคะ พ่อรับเหมางานทุกอย่างแทนแม่ไปหมดแล้ว

พอป้าหม่าไม่ได้ล้างชามที่ร้านเกี๊ยวแล้วก็รู้สึกเหงา ๆ หน่อยนะคะ แต่อย่างว่าแหละค่ะ สรรพสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 602 ประกอบกิจการ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 602 ประกอบกิจการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 602 ประกอบกิจการ

หลังพวกโจวเฉวี่ยนออกไปเรียนได้ไม่นาน คุณป้าหม่าก็มาเยี่ยม วันนี้นางไม่ได้ไปเปิดร้านเกี๊ยวเพราะต้องการเปลี่ยนมือคืนร้านให้กับโจวชิงไป๋

โจวชิงไป๋ก็รับเอาไว้เช่นกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้บอกกันไว้แล้วว่าเพียงให้นางดูแลร้านให้ชั่วคราว

“ปีนี้กิจการเป็นอย่างไรบางคะ?” หลินชิงเหอถามป้าหม่าด้วยรอยยิ้ม

“ดีเหมือนเดิมจ้ะ” ป้าหม่าพูดพร้อมกับระบายยิ้มเต็มใบหน้า

กิจการร้านเกี๊ยวต่อให้ไม่พูดหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

นอกจากได้รับหน้าที่ดูแลร้านเกี๊ยวเกือบ 1 ปี คุณป้าหม่าก็ยังได้รับเงินจากลูกสะใภ้หวงเสี่ยวหลิ่วด้วยส่วนหนึ่ง แต่ละเดือนมีรายได้ 200-300 ร้อยหยวนอยู่แล้ว

“งั้นก็ดีค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

แต่เพราะได้สัมผัสถึงความหอมหวานของการทำธุรกิจ คุณป้าหม่าจึงมีความคิดอยากจะให้สะใภ้ของตัวเองออกไปเปิดร้านสักแห่งขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ยังรู้สึกเกรงใจอยู่

รอจนนางพูดจบแล้ว หลินชิงเหอก็พูดอย่างสบาย ๆ “ป้าหม่าอยากเปิดร้านก็ไปเปิดเถอะค่ะ เรื่องนี้ไม่เป็นไรหรอก”

พอเห็นกำไรจากการทำธุรกิจแล้วมีใครบ้างที่ไม่ใจเต้น ถ้าคุณป้าหม่าไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง ทางนี้ก็คงต้องเปิดรับสมัครคนล้างจานสักคน ซึ่งก็หาได้ง่าย ๆ เช่นกัน

“งั้นก็ได้จ้ะ ป้าจะไปเปิดไกลจากที่นี่อย่างแน่นอน” คุณป้าหม่าพยักหน้าพูด

หลินชิงเหอไม่ได้พูดอะไร

คุณป้าหม่าพาหวงเสี่ยวหลิ่วกลับไปแล้ว หลินชิงเหอก็พูดขึ้น “ไม่รู้ว่าหม่าเฉิงหมินจะอยากลาออกไปทำกิจการเองบ้างเหมือนกันหรือเปล่านะคะ”

โจวชิงไป๋พูด “เรียกเขามาลองถามดูเถอะครับ”

หลินชิงเหอจึงเรียกหม่าเฉิงหมินมา แต่หม่าเฉิงหมินกลับส่ายหน้า “ถ้าไม่ไล่ผมออก ผมก็คิดว่าจะทำแบบนี้ตลอดไปครับ”

เขาชอบชีวิตที่มั่นคง ไม่ชอบชีวิตที่มีความเสี่ยงและไม่มั่นคงอย่างนั้น

หลินชิงเหอให้เงินเดือนเขาสูงมาก เงินเดือนนี้เพียงพอให้ครอบครับของเขามีกินมีใช้ ทั้งยังมีเงินเก็บด้วย

หม่าเฉิงหมินก็อายุเท่านี้แล้ว เขาเพียงอยากได้ความมั่นคงก็เท่านั้น

เรื่องที่แม่ของเขาอยากเอาภรรยาเขาไปเปิดร้านนั้น หม่าเฉิงหมินไม่ได้ขัด แต่เพียงให้ภรรยาและแม่ไปประกอบกิจการกันเองก็พอ ส่วนเขาขอรักษาเงินเดือนที่มั่นคงนี้ไว้ เช่นนี้ไม่ว่าครอบครัวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะได้ไม่รู้สึกกังวลใจ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ ปีหน้าเงินเดือนคุณจะขึ้นเป็น 100 หยวนแล้ว ตั้งใจทำงานนะ” หลินชิงเหอพูด

หม่าเฉิงหมินยิ้มรับ สำหรับเงินเดือนของคนอื่น ๆ หลินชิงเหอไม่คิดจะขึ้นให้แล้ว รอปีต่อไปค่อยว่ากัน

2 ปีขึ้นเงินเดือน 1 ครั้ง

หลังจากหม่าเฉิงหมินจากไป หลินชิงเหอก็เริ่มตรวจสอบบัญชีของปีนี้ แต่ทำไปได้ครึ่งเดียวลูกสาวของเธอก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อน โจวชิงไป๋จึงไปเปลี่ยนผ้าอ้อมและล้างก้นให้ แต่พอล้างจนสะอาดแล้วลูกสาวเธอกลับส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความหิว เขาจึงเดินมาหาเธอ

หลินชิงเหอจำต้องอุ้มหล่อนเดินเข้าห้องไปให้นมอีกรอบ

โจวชิงไป๋เริ่มดูสมุดบัญชีปีนี้ด้วยตัวเองต่อ เขาตรวจดูแต่ละใบ ๆ อย่างละเอียด แม้ว่าปกติแล้วลูกชายเขาจะไม่ทำพลาดก็ตาม

หลินชิงเหอให้นมเสร็จจึงอุ้มลูกสาวเดินออกมา นำหล่อนวางลงข้างโจวชิงไป๋ให้นอนอยู่อย่างนั้น

“ฉันจะไปมหาวิทยาลัยสักหน่อยนะคะ” หลินชิงเหอพูด

“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้า เขาอยู่ในบ้านดูสมุดบัญชีต่อพร้อมกับเลี้ยงลูกไปด้วย

สำหรับร้านเกี๊ยววันนี้ก็ปิดกิจการไปก่อนช่วงระยะสั้น ๆ เขาจะปิดไปจนกว่าชีวิตที่นี่จะเข้าที่เข้าทาง แล้วค่อยเปิดกิจการอีกครั้ง

เพราะในบ้านยังมีลูกสาวอยู่อีกคน หลินชิงเหอจึงไม่ได้ออกไปนานนัก ไปและกลับเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ตอนกลับมาก็หอบหนังสือมาด้วยไม่น้อย ทั้งหมดเป็นหนังสือที่เธอต้องแปลทั้งสิ้น

“เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ?” โจวชิงไป๋ที่ทำบัญชีเกือบจะเสร็จ มองเห็นกองหนังสือก็อดที่จะพูดขึ้นไม่ได้

“จะได้ไม่ต้องไปบ่อยไงคะ เอาหนังสือพวกนี้กลับมา ฉันจะได้ออกไปเดือนละครั้งพอ” หลินชิงเหอพูด “ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป คุณก็ไปเปิดร้านเกี๊ยวเถอะค่ะ”

“ได้ครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้า เขากลับไปเอาป้ายร้านออกมา เขียนเวลาเปิดกิจการ

ตั้งแต่ตอนเช้าในเวลา 6:30 น. ถึง 09:00 น. และค่อยเปิดจาก 11:30 น. ไปจนถึง 14:00 น. จากนั้นก็เป็นตอนเย็น 16:30 น. เปิดไปจนถึง 19:30 น.

นับแล้ววันหนึ่งเขาจะเปิดร้าน 8 ชั่วโมง

หลินชิงเหอมองแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร วันหนึ่งเปิด 8 ชั่วโมงไม่ถือว่าสั้นเกินไป จากนั้นก็พูดขึ้น “เรื่องหาพนักงานล้างจานชั่วคราวฉันว่าไปถามคนนั้นดูไหมคะ ดูว่าเธอตั้งใจทำงานและก็รักงานนี้ไหมด้วย”

โจวชิงไป๋พูด “ภรรยาครับ คุณดูมี่มี่ให้หน่อยนะ ผมจะออกไปลองพูดกับหล่อนดู”

หลินชิงเหอไม่ปฏิเสธ แต่เพราะเวลาเปิดร้านสั้นถึงขนาดนี้แล้ว เงินเดือนจึงไม่สูงเท่ากับก่อนหน้านี้แล้ว คิดแล้วเป็นเงิน 50 หยวน

เนื่องจากคุณป้าหม่าทำงานมาหลายปีจึงได้เงินเดือนถึงขนาดนั้น

เงินเดือนนี้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่เงิน 50 หยวนไม่ถือว่าน้อย ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นปี 85 เป็นปีที่เงินเดือนมีการเปลี่ยนแปลง แต่ด้านนอกเงินเดือน 20-30 หยวนก็ยังคงมีอยู่เสียส่วนมากเช่นกัน

กลับกันแล้วเงิน 50 หยวนไม่ถือว่าน้อยเลยด้วยซ้ำ

โจวชิงไป๋ไปพูดมาแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อคุณหูก็ตอบตกลงภายในเวลาอันสั้น ต่อให้ได้เงินเดือน 50 หยวนหล่อนก็จะทำเช่นกัน!

เดิมทีฐานะทางบ้านของหล่อนนั้นปานกลางไปจนถึงต่ำ คู่ชีวิตของหล่อนก็ไม่มีงานทำ และเป็นที่รังเกียจไม่น้อยของสะใภ้ทั้งสองคนที่อยู่ด้วยกัน!

“ผมจะเปิดร้านหกโมงครึ่ง แต่คุณหูไปเจ็ดโมงเช้าก็ได้ครับ ” โจวชิงไป๋พูด

“ค่ะ ๆ พวกนี้ฉันเข้าใจดี” คุณหูพูดอย่างดีใจ แล้วส่งเขากลับไป

โจวชิงไป๋ไปโทรศัพท์หาร้านขายเนื้อแกะและเนื้อหมูที่เป็นคู่ค้าเพื่อถามราคา และได้ยินว่าปลายปีนี้ราคาขึ้นอีกแล้ว 1 เหมา

แต่โจวชิงไป๋ก็สั่งสินค้าไม่น้อย มีทั้งอากาศเย็นในตอนนี้และตู้เย็น หากวางไว้สักระยะหนึ่งก็ไม่มีปัญหาสักนิด

โจวชิงไป๋ที่กลับมาทำงานหน้าที่เดิมด้วยอารมณ์ไม่เลวเลย แม้ว่าครอบครัวจะไม่คิดอะไรกับรายได้ของร้านเกี๊ยว แต่คนก็ต้องมีความหวังและอุดมการณ์จึงจะใช้ได้

เขาไม่รีบร้อนกลับบ้าน แต่ขับรถไปดูร้านค้าทั้งหมดรอบหนึ่ง

เขาขับมาถึงร้านขายอาหารทะเลแห้ง ทั้งยังเอากระเพาะปลาชั้นดีและปลิงทะเลกลับไปด้วย 1 กิโล ทั้งหมดนี้เขาจะเก็บไว้ให้ภรรยากิน

“อาสี่คะ อาสะใภ้สี่ชอบกินมันหวาน หนูเพิ่งไปซื้อกลับมาจากตลาดเช้า ทั้งหอมทั้งหวาน อาสะใภ้สี่ต้องชอบแน่ค่ะ คุณอาเอากลับไปด้วยนะคะ” โจวซานนีพูดพลางหิ้วถุงมันหวานมาหนึ่งถุง

“ได้สิ” โจวชิงไป๋เองก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจหลานสาวตัวเองเช่นกัน เขารับมาแล้วถาม “อาเพิ่งจะไปดูร้านค้าอื่น ๆ มา ระหว่างทางมาเห็นว่าร้านของเธอกับหลี่อ้ายกั๋วปล่อยให้เช่าแล้วเหรอ?”

“ให้เช่าไปแล้วค่ะ ตอนนี้พวกหนูยังไม่อยากทำธุรกิจ จึงหยุดพักเอาไว้ก่อนน่ะค่ะ” โจวซานนีพูด

โจวชิงไป๋พยักหน้า อย่างไรก็ซื้อร้านเอาไว้แล้ว เปิดกิจการช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร

เขากลับมาลูกสาวของเขาก็ยังไม่ตื่น ส่วนหลินชิงเหอก็ได้เริ่มทำงานแปลของตัวเองแล้ว

“ภรรยาครับ อยากออกไปเดินเล่นหน่อยไหม?” โจวชิงไป๋ถาม

“ต้องอยากสิคะ” หลินชิงเหอยิ้มมองค้อนเขานิด ๆ กลับมาแล้วนึกอะไรถึงอยากออกไปเดินอีกก็ไม่รู้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไปไม่ได้ ต้องรอให้สาวน้อยมี่มี่ตื่นก่อน ค่อยให้นมแล้วจึงจะออกไปได้ แบบนี้จึงจะได้สบายใจและไม่ต้องกังวล

“ธุระเสร็จหมดแล้วเหรอคะ?” หลินชิงเหอถาม

“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้า อีกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากด้วยเช่นกัน

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เรื่องกิจการนี่ว่าพ่อไม่ได้นะคะ พ่อรับเหมางานทุกอย่างแทนแม่ไปหมดแล้ว

พอป้าหม่าไม่ได้ล้างชามที่ร้านเกี๊ยวแล้วก็รู้สึกเหงา ๆ หน่อยนะคะ แต่อย่างว่าแหละค่ะ สรรพสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+