ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น

รายได้สูงสุดที่ร้านค้าทั้งสองร้านของน้องสามหลินทำได้คือ 4,000 หยวนขึ้นไป

ในยุคสมัยที่เงินเดือน 200 หยวนถือว่าล้ำค่าและหายากมาก การได้เงินเดือนละ 4,000 หยวนขึ้นไปนั้นเป็นแนวคิดแบบไหนกัน?

แต่ดูจากสภาพของน้องสามหลินแล้ว ดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนมีเงิน

เขาแต่งตัวธรรมดามาก เนื้อตัวคล้ำและผอม ดูแล้วเหมือนคนชนบทที่ไม่ค่อยมีเงินนัก

“เก็บเงินไว้ที่บ้านไปก็เท่านั้น ถ้ามีบ้านหรือหน้าร้านที่ไม่เลว ซื้อเอาไว้ก็ดี ตอนนี้มีรถกระบะแล้ว อย่างมากก็แค่จ้างคนไปช่วยดูแล” หลินชิงเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ถ้ามีที่ใช้ได้ซื้อแน่นอนครับ” น้องสามหลินพยักหน้า ด้วยรู้สึกว่าเชื่อฟังคำพูดพี่สาวแล้วก็ไม่เสียหายอะไร

หลินชิงเหอหยิบเสื้อผ้าให้เขาและไล่เขาให้ไปอาบน้ำ ก่อนจะพูดกับโจวชิงไป๋ “อนาคตน้องฉันได้รวยแน่”

โจวชิงไป๋หัวเราะ “เพราะเขายอมฟังคุณนั่นล่ะ”

ภรรยาเขารักน้องชายคนนี้มากจริง ๆ เขาเองก็ยอมเชื่อฟังพี่สาว ทำตามที่บอกไปเรื่อย ๆ ต่อให้ไม่มาอยู่เมืองใหญ่ แต่อยู่ที่อำเภอบ้านเกิด ชีวิตหลังจากนี้ก็คงไม่แย่เท่าไหร่

งานแต่งงานของเจ้าใหญ่โจวข่ายถูกจัดในวันรุ่งขึ้น

ทั้งหมดรวมตัวกันที่เรือนสี่ประสาน ต่อให้เป็นสวี่เชิ่งเฉียงก็ยังยอมปิดร้านเกี๊ยวก่อนหนึ่งวัน แล้วมาร่วมกินเลี้ยงงานมงคล

บรรยากาศภายในงานนับว่าครึกครื้นสุด ๆ งานเลี้ยงถูกจัดตั้งแต่เช้ายันบ่าย แล้วพิธีแต่งงานของเจ้าใหญ่และเวิงเหม่ยเจี่ยถึงเป็นอันสิ้นสุดลง

พวกเขาช่วยกันเก็บของและส่งคนอื่น ๆ กลับบ้าน หลังจากนั้นโจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ยสองสามีภรรยาถึงได้รู้สึกปลอดโปร่ง

แต่หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็เข้าใจจัดกิจกรรม ทั้งคู่ได้เชิญแขกทั้งหมดไปแช่น้ำพุร้อน

ดังนั้นที่บ้านจึงเหลือเพียงสองสามีภรรยาโจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ย ซึ่งเวิงเหม่ยเจี่ยก็โดนโจวข่ายอุ้มเข้าห้อง เขาอดกลั้นมานานหลายปี บัดนี้ได้แต่งงานกับภรรยาและพาหล่อนเข้าบ้านอย่างถูกต้องแล้ว ยังมีอะไรต้องเกรงใจกันอีก?

เวิงเหม่ยเจี่ยหน้าแดงก่ำ แต่ก็คาดหวังเช่นกัน

พักจากการกล่าวถึงสองสามีภรรยาที่เข้าห้องหอแล้วเอ่ยถึงทางนี้บ้าง หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋พาแขกไปแช่น้ำพุร้อนและออกเงินให้ ก่อนจะพาไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกแล้วจึงกลับมา

เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้ยินจากอาอี๋จ้าวกับอาเตียว่าคนทั้งคู่นอนกันแล้วจึงไม่ได้ไปรบกวน และพากันดูทีวีที่ห้องโถง

แล้วน้องสามหลินก็บอกว่าอยากกลับพรุ่งนี้เลย

“เร็วขนาดนี้เลยหรอครับ?” เจ้าสามโจวกุยหลายเอ่ย “น้าเล็ก น้าอุตส่าห์มาทั้งที ตอนนี้ก็สิ้นปีแล้ว ต่อให้ผมไม่กล้าขอให้น้าอยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกัน แต่ก็น่าจะอยู่สัก 3-4 วันนะครับ ยังไม่ได้พาน้าเล็กออกไปเที่ยวเล่นเลย”

เขาถึงเมื่อวานตอนบ่าย วันนี้ก็จัดงานแต่งงาน ยังไม่ทันได้พาเขาออกไปเที่ยวเล่นเลย

“พรุ่งนี้อยู่ต่ออีกวันเถอะนะ ถ้ามะรืนนายอยากกลับก็ค่อยกลับ พวกพี่สะใภ้ใหญ่จะอยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่ อาซิ่วก็อยู่ ถึงตอนนั้นค่อยกลับไปพร้อมพวกพี่สะใภ้ใหญ่ฉันเถอะ” หลินชิงเหอกล่าว

เรื่องนี้น้องสามหลินไม่มีปัญหา

สะใภ้สามโจวจึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมน้องสามหลิน เพราะโจวอู่นีก็ต้องกลับไปฉลองปีใหม่ที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกัน

สองแม่ลูกเข้าไปคุยกันในห้อง โดยมีประเด็นหลักเกี่ยวกับชีวิตของโจวอู่นีที่บ้านสามี

โจวอู่นีบอกให้หล่อนสบายใจได้ แม้แม่สามีจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ก็ไม่ได้มาสร้างความวุ่นวาย ชีวิตคู่ของหล่อนกับเจียงเหิงก็ถือว่าไม่เลว

วันรุ่งขึ้น โจวกุยหลายขับรถพาพวกน้าเล็กไปตะลุยรอบ ๆ เมือง พอถึงวันที่สาม น้องสามหลิน ป้ารองโจว และสะใภ้สามโจวก็นั่งรถกลับไปด้วยกัน

หลินชิงเหอเตรียมของให้เอากลับไปด้วยไม่น้อย เป็นของจากร้านอาหารทะเลแห้ง ให้พวกเขาเอากลับไปบำรุงร่างกาย ซึ่งได้กันทุกบ้าน

ส่วนคนที่เหลือต่างอยู่ที่นี่ทั้งหมด พวกเขาตั้งใจจะฉลองปีใหม่ที่นี่แล้วค่อยกลับ

แน่นอนว่าปีใหม่ปีนี้ก็ฉลองกันอย่างครึกครื้น

แต่มีอีกเรื่องที่น่าหยิบมาพูดเช่นกัน ซึ่งหลินชิงเหอได้ลากเวิงเหม่ยเจี่ยมาคุยเป็นการส่วนตัว บอกหล่อนว่าอย่าตามใจเจ้าใหญ่มากเกินไป

จริง ๆ เลย นี่เพิ่งจะแต่งงานกันได้กี่วันเอง แต่ดวงตาของเหม่ยเจี่ยกลับดูเหนื่อยล้าตลอด ดูก็รู้ว่านอนไม่พอ

เวิงเหม่ยเจี่ยเขินมาก

แต่หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้ สามีของหล่อนหมั้นกับตนมา 3 ปีโดยไม่แตะต้องหล่อนเลย ปีนี้ได้แต่งงานแล้ว เขาจึงไม่เกรงใจแต่อย่างใด

ถึงแม้หล่อนเองจะชอบมากก็เถอะ……

หลังแต่งงานกันได้ 3 วัน ทั้งคู่ก็พากันกลับบ้านฝ่ายหญิง

ไม่ต้องพูดเลยว่าคุณแม่เวิงมองคู่สมรสใหม่คู่นี้แล้วจะปลื้มใจขนาดไหน บรรยากาศช่างเป็นมงคลเหลือเกิน พอได้ทีก็จูงลูกสาวเข้าห้องไปคุยกันส่วนตัว

หล่อนเองก็มาเร่งให้มีลูกเหมือนกัน บอกว่าพวกเขาควรรีบมีลูกได้แล้ว นี่ก็คบกันมาตั้งหลายปี ถือโอกาสที่ยังหนุ่มยังสาวรีบมี ๆ ให้จบเรื่องไป

เวิงเหม่ยเจี่ยนึกถึงโจวข่ายที่พยายามสู้เพื่อเรื่องนี้ทุกวันแล้วหน้าแดง

คุณแม่เวิงเห็นแล้วจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าหล่อนผ่านมาแล้ว ดีใจก็ดีใจแหละ แต่หล่อนก็ไม่ได้พูดอะไร

หลังจัดงานแต่งของเจ้าใหญ่โจวข่ายไปแล้ว หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ก็เอาของฝากมาเยือนบ้านเหอ

พร้อมกันนั้นก็มาตกลงเรื่องของเจ้ารองและเหอเหมียนเหมียน ซึ่งได้ความว่าทั้งคู่น่าจะหมั้นหม้ายได้แล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นรอไปก่อนก็ได้

ฝั่งบ้านเหอก็รออยู่นานแล้ว ในตอนนี้เองทั้งสองบ้านถึงได้มีความสุขกันทั้งคู่

หลังเลือกฤกษ์งามยามดีได้แล้วก็ไม่มีเรื่องจุกจิกอะไรอีก สรุปก็คือหมั้นหมายไว้ว่าเป็นปีนี้

พอเป็นแบบนี้ โจวเฉวี่ยนก็ถือว่าเป็นว่าที่ลูกเขยของบ้านเหอแล้ว หมั้นกับไม่หมั้นนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลังจากหมั้นกันแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองบ้านจึงใกล้ชิดมากขึ้นอีก

งานหมั้นไม่ได้จัดที่บ้าน แต่พวกเขาจัดที่โรงแรมข้างนอกนั่นเลย ซึ่งทางบ้านเหอก็ชวนญาติสนิทมิตรสหายจำนวนหนึ่งมาร่วมงาน ส่วนฝั่งบ้านโจวก็ไปกันหมด

พี่ชายคนโตที่เพิ่งแต่งงานไปอย่างโจวข่ายนั้น เหอเหมียนเหมียนเคยพูดถึงอยู่เมื่อตอนกลับบ้าน

คุณแม่เหอเคยชมเป็นการส่วนตัวกับคุณพ่อเหอด้วยว่าเขาช่างเป็นเด็กหนุ่มที่พรั่งพร้อมทั้งรูปร่างและความสามารถ อนาคตไม่แย่นักหรอก

คุณพ่อเหอที่เคยเจอโจวข่ายในงานหมั้นก็ไม่เถียง ในใจคิดเช่นกันว่าการเกี่ยวดองครั้งนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ

ตอนแรกที่ลูกสาวไปชอบโจวเฉวี่ยน คุณพ่อเหอก็ถูกใจกับความสามารถของโจวเฉวี่ยนเหมือนกัน แต่ไม่คาดหวังอะไรมากมายกับบ้านโจว

อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้คาดหวัง พอตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นทวีคูณ เขาจึงรู้สึกจากใจจริงว่าเรื่องนี้ไม่เลวเลย

เขาเคยไปบ้านใหญ่หลังนั้น ซึ่งดีกว่าบ้านเขานิดหน่อย สมบัติที่บ้านอาจจะไม่น้อยกว่าที่บ้านเขาด้วย แถมลูกชายก็เอาการเอางานขนาดนี้ อีกหน่อยบ้านโจวคงมีชื่อเสียงในปักกิ่งสักวัน

หลังจากหมั้นแล้วทั้งสองบ้านก็พึงพอใจในตัวทั้งคู่ แต่โจวเฉวี่ยนนั้นทุกข์ใจอยู่นิดหน่อย

เพราะหลังจากหมั้นแล้วว่าที่ภรรยาสุดสวยของเขาก็ยิ่งทวีความร้ายกาจขึ้น ส่วนเขาเองก็ตบะแตกชั่ววูบ จึง….ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเจ้าหล่อนไปก่อนล่วงหน้า

โจวเฉวี่ยนเซ็งกับเรื่องนี้มาก แต่เหอเหมียนเหมียนกลับดีใจสุด ๆ

คุณหนูคนนี้เป็นคนละประเภทกับเวิงเหม่ยเจี่ย ตรงที่เมื่อมีใจรักจึงเกิดความใคร่ บัดนี้หล่อนและโจวเฉวี่ยนได้เป็นว่าที่สามีภรรยากันแล้ว กับแค่เข้าห้องหอกันก่อนแต่งงานจะเป็นอะไรไปเล่า

นี่มันสมัยใหม่แล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนหรอก

แน่นอนว่าคนอื่นไม่รู้เรื่องของสองคนนี้ หากรู้เข้า ไม่ว่าจะเป็นเหอเหมียนเหมียนหรือโจวเฉวี่ยน ต่างต้องโดนคุณแม่เหอและหลินชิงเหอบ่นชุดใหญ่แน่ ๆ

โจวเฉวี่ยนก็คือโจวเฉวี่ยน ต่อให้ตอนนี้แค่หมั้นกันเท่านั้น แต่ในเมื่อหล่อนเป็นของเขาแล้ว เขาจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 677 เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองหมั้น

รายได้สูงสุดที่ร้านค้าทั้งสองร้านของน้องสามหลินทำได้คือ 4,000 หยวนขึ้นไป

ในยุคสมัยที่เงินเดือน 200 หยวนถือว่าล้ำค่าและหายากมาก การได้เงินเดือนละ 4,000 หยวนขึ้นไปนั้นเป็นแนวคิดแบบไหนกัน?

แต่ดูจากสภาพของน้องสามหลินแล้ว ดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนมีเงิน

เขาแต่งตัวธรรมดามาก เนื้อตัวคล้ำและผอม ดูแล้วเหมือนคนชนบทที่ไม่ค่อยมีเงินนัก

“เก็บเงินไว้ที่บ้านไปก็เท่านั้น ถ้ามีบ้านหรือหน้าร้านที่ไม่เลว ซื้อเอาไว้ก็ดี ตอนนี้มีรถกระบะแล้ว อย่างมากก็แค่จ้างคนไปช่วยดูแล” หลินชิงเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ถ้ามีที่ใช้ได้ซื้อแน่นอนครับ” น้องสามหลินพยักหน้า ด้วยรู้สึกว่าเชื่อฟังคำพูดพี่สาวแล้วก็ไม่เสียหายอะไร

หลินชิงเหอหยิบเสื้อผ้าให้เขาและไล่เขาให้ไปอาบน้ำ ก่อนจะพูดกับโจวชิงไป๋ “อนาคตน้องฉันได้รวยแน่”

โจวชิงไป๋หัวเราะ “เพราะเขายอมฟังคุณนั่นล่ะ”

ภรรยาเขารักน้องชายคนนี้มากจริง ๆ เขาเองก็ยอมเชื่อฟังพี่สาว ทำตามที่บอกไปเรื่อย ๆ ต่อให้ไม่มาอยู่เมืองใหญ่ แต่อยู่ที่อำเภอบ้านเกิด ชีวิตหลังจากนี้ก็คงไม่แย่เท่าไหร่

งานแต่งงานของเจ้าใหญ่โจวข่ายถูกจัดในวันรุ่งขึ้น

ทั้งหมดรวมตัวกันที่เรือนสี่ประสาน ต่อให้เป็นสวี่เชิ่งเฉียงก็ยังยอมปิดร้านเกี๊ยวก่อนหนึ่งวัน แล้วมาร่วมกินเลี้ยงงานมงคล

บรรยากาศภายในงานนับว่าครึกครื้นสุด ๆ งานเลี้ยงถูกจัดตั้งแต่เช้ายันบ่าย แล้วพิธีแต่งงานของเจ้าใหญ่และเวิงเหม่ยเจี่ยถึงเป็นอันสิ้นสุดลง

พวกเขาช่วยกันเก็บของและส่งคนอื่น ๆ กลับบ้าน หลังจากนั้นโจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ยสองสามีภรรยาถึงได้รู้สึกปลอดโปร่ง

แต่หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็เข้าใจจัดกิจกรรม ทั้งคู่ได้เชิญแขกทั้งหมดไปแช่น้ำพุร้อน

ดังนั้นที่บ้านจึงเหลือเพียงสองสามีภรรยาโจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ย ซึ่งเวิงเหม่ยเจี่ยก็โดนโจวข่ายอุ้มเข้าห้อง เขาอดกลั้นมานานหลายปี บัดนี้ได้แต่งงานกับภรรยาและพาหล่อนเข้าบ้านอย่างถูกต้องแล้ว ยังมีอะไรต้องเกรงใจกันอีก?

เวิงเหม่ยเจี่ยหน้าแดงก่ำ แต่ก็คาดหวังเช่นกัน

พักจากการกล่าวถึงสองสามีภรรยาที่เข้าห้องหอแล้วเอ่ยถึงทางนี้บ้าง หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋พาแขกไปแช่น้ำพุร้อนและออกเงินให้ ก่อนจะพาไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกแล้วจึงกลับมา

เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้ยินจากอาอี๋จ้าวกับอาเตียว่าคนทั้งคู่นอนกันแล้วจึงไม่ได้ไปรบกวน และพากันดูทีวีที่ห้องโถง

แล้วน้องสามหลินก็บอกว่าอยากกลับพรุ่งนี้เลย

“เร็วขนาดนี้เลยหรอครับ?” เจ้าสามโจวกุยหลายเอ่ย “น้าเล็ก น้าอุตส่าห์มาทั้งที ตอนนี้ก็สิ้นปีแล้ว ต่อให้ผมไม่กล้าขอให้น้าอยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกัน แต่ก็น่าจะอยู่สัก 3-4 วันนะครับ ยังไม่ได้พาน้าเล็กออกไปเที่ยวเล่นเลย”

เขาถึงเมื่อวานตอนบ่าย วันนี้ก็จัดงานแต่งงาน ยังไม่ทันได้พาเขาออกไปเที่ยวเล่นเลย

“พรุ่งนี้อยู่ต่ออีกวันเถอะนะ ถ้ามะรืนนายอยากกลับก็ค่อยกลับ พวกพี่สะใภ้ใหญ่จะอยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่ อาซิ่วก็อยู่ ถึงตอนนั้นค่อยกลับไปพร้อมพวกพี่สะใภ้ใหญ่ฉันเถอะ” หลินชิงเหอกล่าว

เรื่องนี้น้องสามหลินไม่มีปัญหา

สะใภ้สามโจวจึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมน้องสามหลิน เพราะโจวอู่นีก็ต้องกลับไปฉลองปีใหม่ที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกัน

สองแม่ลูกเข้าไปคุยกันในห้อง โดยมีประเด็นหลักเกี่ยวกับชีวิตของโจวอู่นีที่บ้านสามี

โจวอู่นีบอกให้หล่อนสบายใจได้ แม้แม่สามีจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ก็ไม่ได้มาสร้างความวุ่นวาย ชีวิตคู่ของหล่อนกับเจียงเหิงก็ถือว่าไม่เลว

วันรุ่งขึ้น โจวกุยหลายขับรถพาพวกน้าเล็กไปตะลุยรอบ ๆ เมือง พอถึงวันที่สาม น้องสามหลิน ป้ารองโจว และสะใภ้สามโจวก็นั่งรถกลับไปด้วยกัน

หลินชิงเหอเตรียมของให้เอากลับไปด้วยไม่น้อย เป็นของจากร้านอาหารทะเลแห้ง ให้พวกเขาเอากลับไปบำรุงร่างกาย ซึ่งได้กันทุกบ้าน

ส่วนคนที่เหลือต่างอยู่ที่นี่ทั้งหมด พวกเขาตั้งใจจะฉลองปีใหม่ที่นี่แล้วค่อยกลับ

แน่นอนว่าปีใหม่ปีนี้ก็ฉลองกันอย่างครึกครื้น

แต่มีอีกเรื่องที่น่าหยิบมาพูดเช่นกัน ซึ่งหลินชิงเหอได้ลากเวิงเหม่ยเจี่ยมาคุยเป็นการส่วนตัว บอกหล่อนว่าอย่าตามใจเจ้าใหญ่มากเกินไป

จริง ๆ เลย นี่เพิ่งจะแต่งงานกันได้กี่วันเอง แต่ดวงตาของเหม่ยเจี่ยกลับดูเหนื่อยล้าตลอด ดูก็รู้ว่านอนไม่พอ

เวิงเหม่ยเจี่ยเขินมาก

แต่หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้ สามีของหล่อนหมั้นกับตนมา 3 ปีโดยไม่แตะต้องหล่อนเลย ปีนี้ได้แต่งงานแล้ว เขาจึงไม่เกรงใจแต่อย่างใด

ถึงแม้หล่อนเองจะชอบมากก็เถอะ……

หลังแต่งงานกันได้ 3 วัน ทั้งคู่ก็พากันกลับบ้านฝ่ายหญิง

ไม่ต้องพูดเลยว่าคุณแม่เวิงมองคู่สมรสใหม่คู่นี้แล้วจะปลื้มใจขนาดไหน บรรยากาศช่างเป็นมงคลเหลือเกิน พอได้ทีก็จูงลูกสาวเข้าห้องไปคุยกันส่วนตัว

หล่อนเองก็มาเร่งให้มีลูกเหมือนกัน บอกว่าพวกเขาควรรีบมีลูกได้แล้ว นี่ก็คบกันมาตั้งหลายปี ถือโอกาสที่ยังหนุ่มยังสาวรีบมี ๆ ให้จบเรื่องไป

เวิงเหม่ยเจี่ยนึกถึงโจวข่ายที่พยายามสู้เพื่อเรื่องนี้ทุกวันแล้วหน้าแดง

คุณแม่เวิงเห็นแล้วจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าหล่อนผ่านมาแล้ว ดีใจก็ดีใจแหละ แต่หล่อนก็ไม่ได้พูดอะไร

หลังจัดงานแต่งของเจ้าใหญ่โจวข่ายไปแล้ว หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ก็เอาของฝากมาเยือนบ้านเหอ

พร้อมกันนั้นก็มาตกลงเรื่องของเจ้ารองและเหอเหมียนเหมียน ซึ่งได้ความว่าทั้งคู่น่าจะหมั้นหม้ายได้แล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นรอไปก่อนก็ได้

ฝั่งบ้านเหอก็รออยู่นานแล้ว ในตอนนี้เองทั้งสองบ้านถึงได้มีความสุขกันทั้งคู่

หลังเลือกฤกษ์งามยามดีได้แล้วก็ไม่มีเรื่องจุกจิกอะไรอีก สรุปก็คือหมั้นหมายไว้ว่าเป็นปีนี้

พอเป็นแบบนี้ โจวเฉวี่ยนก็ถือว่าเป็นว่าที่ลูกเขยของบ้านเหอแล้ว หมั้นกับไม่หมั้นนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลังจากหมั้นกันแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองบ้านจึงใกล้ชิดมากขึ้นอีก

งานหมั้นไม่ได้จัดที่บ้าน แต่พวกเขาจัดที่โรงแรมข้างนอกนั่นเลย ซึ่งทางบ้านเหอก็ชวนญาติสนิทมิตรสหายจำนวนหนึ่งมาร่วมงาน ส่วนฝั่งบ้านโจวก็ไปกันหมด

พี่ชายคนโตที่เพิ่งแต่งงานไปอย่างโจวข่ายนั้น เหอเหมียนเหมียนเคยพูดถึงอยู่เมื่อตอนกลับบ้าน

คุณแม่เหอเคยชมเป็นการส่วนตัวกับคุณพ่อเหอด้วยว่าเขาช่างเป็นเด็กหนุ่มที่พรั่งพร้อมทั้งรูปร่างและความสามารถ อนาคตไม่แย่นักหรอก

คุณพ่อเหอที่เคยเจอโจวข่ายในงานหมั้นก็ไม่เถียง ในใจคิดเช่นกันว่าการเกี่ยวดองครั้งนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ

ตอนแรกที่ลูกสาวไปชอบโจวเฉวี่ยน คุณพ่อเหอก็ถูกใจกับความสามารถของโจวเฉวี่ยนเหมือนกัน แต่ไม่คาดหวังอะไรมากมายกับบ้านโจว

อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้คาดหวัง พอตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นทวีคูณ เขาจึงรู้สึกจากใจจริงว่าเรื่องนี้ไม่เลวเลย

เขาเคยไปบ้านใหญ่หลังนั้น ซึ่งดีกว่าบ้านเขานิดหน่อย สมบัติที่บ้านอาจจะไม่น้อยกว่าที่บ้านเขาด้วย แถมลูกชายก็เอาการเอางานขนาดนี้ อีกหน่อยบ้านโจวคงมีชื่อเสียงในปักกิ่งสักวัน

หลังจากหมั้นแล้วทั้งสองบ้านก็พึงพอใจในตัวทั้งคู่ แต่โจวเฉวี่ยนนั้นทุกข์ใจอยู่นิดหน่อย

เพราะหลังจากหมั้นแล้วว่าที่ภรรยาสุดสวยของเขาก็ยิ่งทวีความร้ายกาจขึ้น ส่วนเขาเองก็ตบะแตกชั่ววูบ จึง….ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเจ้าหล่อนไปก่อนล่วงหน้า

โจวเฉวี่ยนเซ็งกับเรื่องนี้มาก แต่เหอเหมียนเหมียนกลับดีใจสุด ๆ

คุณหนูคนนี้เป็นคนละประเภทกับเวิงเหม่ยเจี่ย ตรงที่เมื่อมีใจรักจึงเกิดความใคร่ บัดนี้หล่อนและโจวเฉวี่ยนได้เป็นว่าที่สามีภรรยากันแล้ว กับแค่เข้าห้องหอกันก่อนแต่งงานจะเป็นอะไรไปเล่า

นี่มันสมัยใหม่แล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนหรอก

แน่นอนว่าคนอื่นไม่รู้เรื่องของสองคนนี้ หากรู้เข้า ไม่ว่าจะเป็นเหอเหมียนเหมียนหรือโจวเฉวี่ยน ต่างต้องโดนคุณแม่เหอและหลินชิงเหอบ่นชุดใหญ่แน่ ๆ

โจวเฉวี่ยนก็คือโจวเฉวี่ยน ต่อให้ตอนนี้แค่หมั้นกันเท่านั้น แต่ในเมื่อหล่อนเป็นของเขาแล้ว เขาจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+