ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 606 ด่าเสียให้เข็ด

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 606 ด่าเสียให้เข็ด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 606 ด่าเสียให้เข็ด

โจวข่ายยังไม่ทันได้พูดอะไรเพิ่ม พ่อของเขาก็วางสายไปแล้ว

โจวชิงไป๋กำลังยุ่งอยู่ จึงไม่มีเวลาว่างคุยกับลูกชายมากกว่านี้ได้ มีคนไม่น้อยเข้ามาสั่งเกี๊ยวแล้ว เป็นแบบห่อกลับบ้านทั้งหมดที่พอถึงเวลาแล้วพวกเขาก็จะมารับของ

โจวข่ายลูบปรายจมูก เขายังมีเรื่องจะพูดกับแม่ของเขาอีกนะ กับแม่ของเขา เขาสามารถพูดได้เป็นชั่วโมง นี่พูดไปไม่กี่ประโยคก็วางสายเสียแล้ว

เขายังอยากถามเรื่องน้องสาวของเขาอีกสักหน่อยด้วย

โจวชิงไป๋ยุ่งมากจึงไม่ว่างคุยกับเขาเรื่องนี้ ถ้ากลับมาดูก็จะรู้เองแหละ

โจวชิงไป๋งานยุ่งไปจนถึงเที่ยง เขาห่อข้าวกลับให้ภรรยาก่อนหนึ่งชุดในขณะที่ลูก ๆ มากินอาหารกันที่นี่

“เราควรเอารถของครอบครัวออกมาได้แล้วนะคะ” หลินชิงเหอพูด

“ตอนบ่ายเจ้าสามมีเรียนหนึ่งคาบ ให้เขากลับมาดูแล้วกันครับ” โจวชิงไป๋พูด

เขากับภรรยาต้องออกไปนอกชานเมืองด้วยกันจึงจะดีที่สุด ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาจึงจะสามารถจัดการได้ทันเวลา

หลินชิงเหอพยักหน้า

พอถึงบ่ายสาม โจวกุยหลายก็กลับมาดูน้องสาวของเขาแล้ว ส่วนพ่อกับแม่ของเขาไปไหนกันนั้นเขาไม่ได้ถาม เพราะเขาเองก็อยากเลี้ยงน้องสาวเหมือนกัน

แต่เขาไม่ได้เลี้ยงอะไรหล่อนเลย ปล่อยให้เด็กน้อยนอนอยู่อย่างนั้นและตัวเขาก็ทำเพียงเฝ้าหล่อนไว้

หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋นั่งรถสาธารณะออกมาถึงชานเมืองแล้ว เมื่อหาสถานที่ห่างไกลความเจริญไม่มีใครมองเห็นได้แล้วจึงนำรถออกมา จากนั้นสองสามีภรรยาก็ขับรถกลับ

ทั้งหมดใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น พวกเขาก็นำรถยนต์กลับมาได้โดยสวัสดิภาพ

หลังจากโจวกุยหลายรู้ เขาก็นิ่งอึ้งไป “ไม่ใช่ว่าขายไปแล้วเหรอครับ?”

เขายังนึกว่าถ้าพวกเขาไม่เอากลับมาก็น่าจะขายไปแล้วเสียอีก

“ไม่ขายจ้ะ พ่อของลูกมีคนที่รู้จักขับรถบรรทุกรถมาส่งให้น่ะ เห็นว่าต้องขนรถไม่กี่คันก็เลยบรรทุกมาพร้อมกันน่ะจ้ะ” หลินชิงเหอพูด

โจวกุยหลายไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ที่เขาสนใจคือบ้านของเขาจะมีรถยนต์แล้ว!

เขาวิ่งลงมาจากตึกมาดูรถด้วยอาการตื่นเต้นจนแทบจะไม่ไหว ตอนนี้เขาขับรถเป็นแล้ว เพียงยังไม่ได้สอบใบขับขี่เท่านั้น

เมื่อเจ้ารองโจวเฉวี่ยนกลับมาถึง เขาก็มองเห็นรถแล้วเช่นเดียวกัน หลังจากนิ่งอึ้งไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “ขับรถกลับกันมาตอนไหนครับเนี่ย?”

“สหายร่วมรบของพ่อช่วยขับมาให้น่ะ พี่รองไปกันเถอะ พาผมขับวนรอบหนึ่งหน่อย ไปอวดคุณปู่คุณย่ากัน” โจวกุยหลายพูดอย่างดีใจ

“ฉันขึ้นไปเอากุญแจกับพ่อก่อน” โจวเฉวี่ยนพูด เขาเองก็อยากจะขับรถเล่นเหมือนกัน

โจวชิงไป๋เองก็ไม่ได้ห้ามเช่นกัน จึงมอบกุญแจให้เขาไป

สองพี่น้องขับรถวนเล่นรอบหนึ่งแล้วจึงขับมาบ้านคุณปู่คุณย่าพวกเขา

ท่านพ่อท่านแม่โจวก็เพิ่งเคยเห็นรถยนต์เช่นกัน พวกเขานิ่งอึ้งไปสักพักแล้วก็พูด “ไม่ใช่รถพี่เขยรองของพวกหลานเหรอ รถคันนี้มาจากไหนกัน?”

“พ่อของผมซื้อครับ ซื้อมาจากเซี่ยงไฮ้น่ะครับ ผมก็นึกว่าพวกเขาขายไปแล้วด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าจะให้คนขับรถกลับมาให้แบบนี้” โจวกุยหลายยิ้มกว้างแล้วพูด “คุณปู่ พรุ่งนี้ผมพาปู่บุญธรรมไปแช่บ่อน้ำพุร้อน ไปด้วยกันกับพวกเรานะครับ”

ท่านพ่อโจวใบหน้าเรียบนิ่ง พูดขึ้นว่า “รถคันนี้คันละเท่าไหร่?”

“สองสามหมื่นมั้งครับ!” โจวกุยหลายพูด รถคันนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ดีมาก ต้องสองหรือสามหมื่นอยู่แล้ว

ท่านแม่โจวอดรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้และพูดขึ้น “นี่ก็แพงเกินไปแล้ว ต้องใช้เงินมากขนาดนี้ อีกอย่างซื้อมาแล้วมันมีประโยชน์อะไร พวกเรายังมีรถบรรทุกอยู่นะ”

“จะเอารถยนต์ไปเทียบกับรถบรรทุกได้ยังไงครับ รถบรรทุกไว้บรรทุกของแต่ไม่สะดวกให้คนนั่ง รถยนต์ดีกว่าครับทั้งคุณภาพและก็ความสะดวกสบาย” โจวกุยหลายพูด

“เงินตั้งหลายหมื่น” ท่านแม่โจวพูด

“เงินน่ะเก็บได้ก็หาใหม่ได้ครับ แต่เพราะซื้อรถคันนี้ พ่อของผมต้องใช้เงินก้นถุงของที่บ้านจนเกือบหมดเลย” โจวกุยหลายพูด

“ย่าก็บอกแล้วว่ามันเปลือง เงินมากขนาดนี้เอาไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมต้องซื้อรถแพงขนาดนี้ด้วย” ท่านแม่โจวพูด

“คุณย่าไม่ต้องสนใจอะไรมากหรอกครับ ยังไงก็ไม่ใช่เงินคุณย่า” โจวกุยหลายพูดรัวหัวเราะ

ท่านแม่โจวสะอึก

“เอาล่ะครับ ๆ ลูกชายกับสะใภ้ของคุณปู่คุณย่าซื้อรถคันนี้มาแล้ว พวกคุณย่าก็ดีใจกับพวกเขาเถอะนะครับ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ ทีนี้เจ้ารองของพวกคุณย่าจะพาไปขับรถเล่น ไปสวนสาธารณะพูดถึงลูกชายน่าปวดหัวคนนี้กับคุณย่า ๆ ยาย ๆ กันเถอะครับ” โจวกุยหลายพูด

ประโยคนี้เขาพูดจริง เรื่องนี้คุณย่าควรต้องไปสวนสาธารณะคุยอวดเพื่อน ๆ สักหน่อยไม่ใช่เหรอ

ท่านพ่อท่านแม่โจวขึ้นมานั่งบนรถด้วยกัน ออกไปวนเที่ยวรอบหนึ่งก็กลับมาแล้ว ส่วนสองพี่น้องก็ได้เวลากลับบ้านพอดี

แม่เฒ่าหูข้างบ้านออกมามองเห็นรถก็อึ้งไปสักพัก “รถคันนี้เหมือนจะไม่ใช่รถของลูกเขยรองของเธอเลยนะ?”

“คันนั้นลูกชายฉันซื้อเอง ให้ตายสิเขาน่ะชอบซื้อของเอาหน้าเอาตาแบบนี้อยู่เรื่อย เพื่อรถคันนี้เขาต้องไปยืมเงินคนอื่น เดี๋ยวรอเขามาฉันจะด่าเสียให้เข็ด!” ท่านแม่โจวพูด

แม่เฒ่าหูรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที มองรถคันนั้นแล้วพูด “ลูกชายของเธออนาคตไกลมากเลยนะ มีรถตั้งสองคันแน่ะ”

“อนาคตไกลอะไรกันล่ะ ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว ไม่เก็บเงินเอาไว้บ้างเลย เธอคิดดูสิมีรถบรรทุกอยู่แล้วคันหนึ่ง จะซื้อรถมาอีกคันแบบนี้ทำไม? ยังบอกว่าจะพาพวกฉันไปแช่บ่อน้ำพุร้อนด้วย เดี๋ยวเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ยังบอกจะพาฉันไปเที่ยวที่อื่นด้วย” ท่านแม่โจวพูด

ท่านพ่อโจวฟังคำโอ้อวดของภรรยาตัวเองไม่ไหวแล้วจึงพูด “รีบเข้าบ้านเถอะหนาวจะตายแล้ว”

ท่านแม่โจวยังรู้สึกติดสนุกอยู่นิด ๆ แต่ก็พูดกับหลานสองคนว่า “พวกหลานกลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้บอกให้พ่อพวกเธอมาด้วย คอยดูสิว่าย่าจะด่าเขาไหม!”

“ครับ” โจวเฉวี่ยนขับรถพาเจ้าสามกลับบ้านไปแล้ว

แม่เฒ่าจูข้างบ้านก็มาแล้วเช่นกัน มองรถยนต์ที่ขับไปไกลที่กลับขับจากบ้านของท่านพ่อท่านแม่โจว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ? บ้านใครซื้อรถคันนั้นเหรอ?” แม่เฒ่าจูถาม

“ลูกชายคนที่สี่ของพวกเขาน่ะ เป็นคนอนาคตไกลจริง ๆ น่ะแหละ ก่อนหน้านี้เพิ่งจะซื้อรถบรรทุกไป มารอบนี้ก็ซื้อรถยนต์อีกคันแล้ว” แม่เฒ่าหูพูดให้นางฟังอย่างใจกว้าง

แต่แม่เฒ่าจูได้ยินแล้วอยากจะกระอักเลือดออกมา

จูเจินเจินหลานสาวสุดที่รักของนางแต่งงานแล้ว แต่กลับแต่งออกไปได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะปีนี้หล่อนก็ตกงานแล้ว

หล่อนตกงานไม่พอแถมยังตั้งท้องอีก แล้วหลานสาวของนางจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร?

ชีวิตของหลานสาวนางผ่านไปอย่างอัตคัด แต่ตระกูลโจวกลับรวยวันรวยคืน ถ้าเมื่อก่อนหลานสาวหล่อนได้คู่กับโจวข่าย ชีวิตตอนนี้จะดีขนาดไหนกันนะ?

มีทั้งรถบรรทุกทั้งรถยนต์เลย

มาพูดตอนนี้ก็ไม่มีวาสนานั้นแล้ว

แม้แม่เฒ่าจูจะเห็นตระกูลโจวนับวันยิ่งเจริญขึ้น ๆ แต่ก็ไม่เคยออกมาพูดเรื่องที่บ้านของนางอับจนแล้วเลย

วันเวลาผ่านไปจนมาถึงวันที่โรงงานจะต้องปิดตัวลงแล้ว

หลินชิงเหอมามอบเงินเดือนให้ทุกคนคนละ 70 หยวน แต่นี่เป็นเงินขั้นพื้นฐาน บวกกับที่ให้เพิ่มอีกครึ่งเดือนจึงเป็น 105 หยวน

พอจ่ายออกไปแบบนี้จึงกลายเป็นเงินก้อนใหญ่จริง ๆ

แต่หลินชิงเหอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร โรงงานนี้เปิดมาจนป่านนี้ ก็ถือว่าได้กำไรคืนแล้ว

แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกหดหู่เล็กน้อยกับเงินเดือนที่ได้มาครั้งนี้ แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ เนื่องจากหลินชิงเหอพูดอย่างหนักแน่นแล้ว

งานนี้ได้สวัสดิการดีจริง ๆ ตอนนี้พอไม่ได้ทำงานแล้ว พวกเขายังได้เพิ่มอีกครึ่งเดือน แล้วพวกเขาจะมีอะไรให้ว่าได้อีก?

แถมพวกเขาก็ยังได้ซื้อจักรเย็บผ้าพวกนี้ในราคาถูกอีกด้วย แม้จะเป็นการจับฉลากก็ตาม พอจับได้พวกเขาก็ซื้อเอาทันที เงิน 50 หยวนต่อเครื่องแม้ว่าจะใช้มา 2-3 ปีแล้ว แต่ก็ยังใช้ดีอยู่ ในยุคนี้สิ่งของยังมีคุณภาพดีอยู่มาก มือสองในราคานี้ถือว่าไม่แพง

……………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

555 จึ้งเลยไหมคะคุณย่า…ยังไงเงินที่ซื้อรถก็ไม่ใช่เงินของคุณย่า

ด่าเสียให้เข็ด ท่าจะไม่ได้ด่าละมั้งคะ แต่เป็นอวดให้เพื่อนบ้านกระอักแทน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 606 ด่าเสียให้เข็ด

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 606 ด่าเสียให้เข็ด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 606 ด่าเสียให้เข็ด

โจวข่ายยังไม่ทันได้พูดอะไรเพิ่ม พ่อของเขาก็วางสายไปแล้ว

โจวชิงไป๋กำลังยุ่งอยู่ จึงไม่มีเวลาว่างคุยกับลูกชายมากกว่านี้ได้ มีคนไม่น้อยเข้ามาสั่งเกี๊ยวแล้ว เป็นแบบห่อกลับบ้านทั้งหมดที่พอถึงเวลาแล้วพวกเขาก็จะมารับของ

โจวข่ายลูบปรายจมูก เขายังมีเรื่องจะพูดกับแม่ของเขาอีกนะ กับแม่ของเขา เขาสามารถพูดได้เป็นชั่วโมง นี่พูดไปไม่กี่ประโยคก็วางสายเสียแล้ว

เขายังอยากถามเรื่องน้องสาวของเขาอีกสักหน่อยด้วย

โจวชิงไป๋ยุ่งมากจึงไม่ว่างคุยกับเขาเรื่องนี้ ถ้ากลับมาดูก็จะรู้เองแหละ

โจวชิงไป๋งานยุ่งไปจนถึงเที่ยง เขาห่อข้าวกลับให้ภรรยาก่อนหนึ่งชุดในขณะที่ลูก ๆ มากินอาหารกันที่นี่

“เราควรเอารถของครอบครัวออกมาได้แล้วนะคะ” หลินชิงเหอพูด

“ตอนบ่ายเจ้าสามมีเรียนหนึ่งคาบ ให้เขากลับมาดูแล้วกันครับ” โจวชิงไป๋พูด

เขากับภรรยาต้องออกไปนอกชานเมืองด้วยกันจึงจะดีที่สุด ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาจึงจะสามารถจัดการได้ทันเวลา

หลินชิงเหอพยักหน้า

พอถึงบ่ายสาม โจวกุยหลายก็กลับมาดูน้องสาวของเขาแล้ว ส่วนพ่อกับแม่ของเขาไปไหนกันนั้นเขาไม่ได้ถาม เพราะเขาเองก็อยากเลี้ยงน้องสาวเหมือนกัน

แต่เขาไม่ได้เลี้ยงอะไรหล่อนเลย ปล่อยให้เด็กน้อยนอนอยู่อย่างนั้นและตัวเขาก็ทำเพียงเฝ้าหล่อนไว้

หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋นั่งรถสาธารณะออกมาถึงชานเมืองแล้ว เมื่อหาสถานที่ห่างไกลความเจริญไม่มีใครมองเห็นได้แล้วจึงนำรถออกมา จากนั้นสองสามีภรรยาก็ขับรถกลับ

ทั้งหมดใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น พวกเขาก็นำรถยนต์กลับมาได้โดยสวัสดิภาพ

หลังจากโจวกุยหลายรู้ เขาก็นิ่งอึ้งไป “ไม่ใช่ว่าขายไปแล้วเหรอครับ?”

เขายังนึกว่าถ้าพวกเขาไม่เอากลับมาก็น่าจะขายไปแล้วเสียอีก

“ไม่ขายจ้ะ พ่อของลูกมีคนที่รู้จักขับรถบรรทุกรถมาส่งให้น่ะ เห็นว่าต้องขนรถไม่กี่คันก็เลยบรรทุกมาพร้อมกันน่ะจ้ะ” หลินชิงเหอพูด

โจวกุยหลายไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ที่เขาสนใจคือบ้านของเขาจะมีรถยนต์แล้ว!

เขาวิ่งลงมาจากตึกมาดูรถด้วยอาการตื่นเต้นจนแทบจะไม่ไหว ตอนนี้เขาขับรถเป็นแล้ว เพียงยังไม่ได้สอบใบขับขี่เท่านั้น

เมื่อเจ้ารองโจวเฉวี่ยนกลับมาถึง เขาก็มองเห็นรถแล้วเช่นเดียวกัน หลังจากนิ่งอึ้งไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “ขับรถกลับกันมาตอนไหนครับเนี่ย?”

“สหายร่วมรบของพ่อช่วยขับมาให้น่ะ พี่รองไปกันเถอะ พาผมขับวนรอบหนึ่งหน่อย ไปอวดคุณปู่คุณย่ากัน” โจวกุยหลายพูดอย่างดีใจ

“ฉันขึ้นไปเอากุญแจกับพ่อก่อน” โจวเฉวี่ยนพูด เขาเองก็อยากจะขับรถเล่นเหมือนกัน

โจวชิงไป๋เองก็ไม่ได้ห้ามเช่นกัน จึงมอบกุญแจให้เขาไป

สองพี่น้องขับรถวนเล่นรอบหนึ่งแล้วจึงขับมาบ้านคุณปู่คุณย่าพวกเขา

ท่านพ่อท่านแม่โจวก็เพิ่งเคยเห็นรถยนต์เช่นกัน พวกเขานิ่งอึ้งไปสักพักแล้วก็พูด “ไม่ใช่รถพี่เขยรองของพวกหลานเหรอ รถคันนี้มาจากไหนกัน?”

“พ่อของผมซื้อครับ ซื้อมาจากเซี่ยงไฮ้น่ะครับ ผมก็นึกว่าพวกเขาขายไปแล้วด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าจะให้คนขับรถกลับมาให้แบบนี้” โจวกุยหลายยิ้มกว้างแล้วพูด “คุณปู่ พรุ่งนี้ผมพาปู่บุญธรรมไปแช่บ่อน้ำพุร้อน ไปด้วยกันกับพวกเรานะครับ”

ท่านพ่อโจวใบหน้าเรียบนิ่ง พูดขึ้นว่า “รถคันนี้คันละเท่าไหร่?”

“สองสามหมื่นมั้งครับ!” โจวกุยหลายพูด รถคันนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ดีมาก ต้องสองหรือสามหมื่นอยู่แล้ว

ท่านแม่โจวอดรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้และพูดขึ้น “นี่ก็แพงเกินไปแล้ว ต้องใช้เงินมากขนาดนี้ อีกอย่างซื้อมาแล้วมันมีประโยชน์อะไร พวกเรายังมีรถบรรทุกอยู่นะ”

“จะเอารถยนต์ไปเทียบกับรถบรรทุกได้ยังไงครับ รถบรรทุกไว้บรรทุกของแต่ไม่สะดวกให้คนนั่ง รถยนต์ดีกว่าครับทั้งคุณภาพและก็ความสะดวกสบาย” โจวกุยหลายพูด

“เงินตั้งหลายหมื่น” ท่านแม่โจวพูด

“เงินน่ะเก็บได้ก็หาใหม่ได้ครับ แต่เพราะซื้อรถคันนี้ พ่อของผมต้องใช้เงินก้นถุงของที่บ้านจนเกือบหมดเลย” โจวกุยหลายพูด

“ย่าก็บอกแล้วว่ามันเปลือง เงินมากขนาดนี้เอาไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมต้องซื้อรถแพงขนาดนี้ด้วย” ท่านแม่โจวพูด

“คุณย่าไม่ต้องสนใจอะไรมากหรอกครับ ยังไงก็ไม่ใช่เงินคุณย่า” โจวกุยหลายพูดรัวหัวเราะ

ท่านแม่โจวสะอึก

“เอาล่ะครับ ๆ ลูกชายกับสะใภ้ของคุณปู่คุณย่าซื้อรถคันนี้มาแล้ว พวกคุณย่าก็ดีใจกับพวกเขาเถอะนะครับ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ ทีนี้เจ้ารองของพวกคุณย่าจะพาไปขับรถเล่น ไปสวนสาธารณะพูดถึงลูกชายน่าปวดหัวคนนี้กับคุณย่า ๆ ยาย ๆ กันเถอะครับ” โจวกุยหลายพูด

ประโยคนี้เขาพูดจริง เรื่องนี้คุณย่าควรต้องไปสวนสาธารณะคุยอวดเพื่อน ๆ สักหน่อยไม่ใช่เหรอ

ท่านพ่อท่านแม่โจวขึ้นมานั่งบนรถด้วยกัน ออกไปวนเที่ยวรอบหนึ่งก็กลับมาแล้ว ส่วนสองพี่น้องก็ได้เวลากลับบ้านพอดี

แม่เฒ่าหูข้างบ้านออกมามองเห็นรถก็อึ้งไปสักพัก “รถคันนี้เหมือนจะไม่ใช่รถของลูกเขยรองของเธอเลยนะ?”

“คันนั้นลูกชายฉันซื้อเอง ให้ตายสิเขาน่ะชอบซื้อของเอาหน้าเอาตาแบบนี้อยู่เรื่อย เพื่อรถคันนี้เขาต้องไปยืมเงินคนอื่น เดี๋ยวรอเขามาฉันจะด่าเสียให้เข็ด!” ท่านแม่โจวพูด

แม่เฒ่าหูรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที มองรถคันนั้นแล้วพูด “ลูกชายของเธออนาคตไกลมากเลยนะ มีรถตั้งสองคันแน่ะ”

“อนาคตไกลอะไรกันล่ะ ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว ไม่เก็บเงินเอาไว้บ้างเลย เธอคิดดูสิมีรถบรรทุกอยู่แล้วคันหนึ่ง จะซื้อรถมาอีกคันแบบนี้ทำไม? ยังบอกว่าจะพาพวกฉันไปแช่บ่อน้ำพุร้อนด้วย เดี๋ยวเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ยังบอกจะพาฉันไปเที่ยวที่อื่นด้วย” ท่านแม่โจวพูด

ท่านพ่อโจวฟังคำโอ้อวดของภรรยาตัวเองไม่ไหวแล้วจึงพูด “รีบเข้าบ้านเถอะหนาวจะตายแล้ว”

ท่านแม่โจวยังรู้สึกติดสนุกอยู่นิด ๆ แต่ก็พูดกับหลานสองคนว่า “พวกหลานกลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้บอกให้พ่อพวกเธอมาด้วย คอยดูสิว่าย่าจะด่าเขาไหม!”

“ครับ” โจวเฉวี่ยนขับรถพาเจ้าสามกลับบ้านไปแล้ว

แม่เฒ่าจูข้างบ้านก็มาแล้วเช่นกัน มองรถยนต์ที่ขับไปไกลที่กลับขับจากบ้านของท่านพ่อท่านแม่โจว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ? บ้านใครซื้อรถคันนั้นเหรอ?” แม่เฒ่าจูถาม

“ลูกชายคนที่สี่ของพวกเขาน่ะ เป็นคนอนาคตไกลจริง ๆ น่ะแหละ ก่อนหน้านี้เพิ่งจะซื้อรถบรรทุกไป มารอบนี้ก็ซื้อรถยนต์อีกคันแล้ว” แม่เฒ่าหูพูดให้นางฟังอย่างใจกว้าง

แต่แม่เฒ่าจูได้ยินแล้วอยากจะกระอักเลือดออกมา

จูเจินเจินหลานสาวสุดที่รักของนางแต่งงานแล้ว แต่กลับแต่งออกไปได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะปีนี้หล่อนก็ตกงานแล้ว

หล่อนตกงานไม่พอแถมยังตั้งท้องอีก แล้วหลานสาวของนางจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร?

ชีวิตของหลานสาวนางผ่านไปอย่างอัตคัด แต่ตระกูลโจวกลับรวยวันรวยคืน ถ้าเมื่อก่อนหลานสาวหล่อนได้คู่กับโจวข่าย ชีวิตตอนนี้จะดีขนาดไหนกันนะ?

มีทั้งรถบรรทุกทั้งรถยนต์เลย

มาพูดตอนนี้ก็ไม่มีวาสนานั้นแล้ว

แม้แม่เฒ่าจูจะเห็นตระกูลโจวนับวันยิ่งเจริญขึ้น ๆ แต่ก็ไม่เคยออกมาพูดเรื่องที่บ้านของนางอับจนแล้วเลย

วันเวลาผ่านไปจนมาถึงวันที่โรงงานจะต้องปิดตัวลงแล้ว

หลินชิงเหอมามอบเงินเดือนให้ทุกคนคนละ 70 หยวน แต่นี่เป็นเงินขั้นพื้นฐาน บวกกับที่ให้เพิ่มอีกครึ่งเดือนจึงเป็น 105 หยวน

พอจ่ายออกไปแบบนี้จึงกลายเป็นเงินก้อนใหญ่จริง ๆ

แต่หลินชิงเหอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร โรงงานนี้เปิดมาจนป่านนี้ ก็ถือว่าได้กำไรคืนแล้ว

แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกหดหู่เล็กน้อยกับเงินเดือนที่ได้มาครั้งนี้ แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ เนื่องจากหลินชิงเหอพูดอย่างหนักแน่นแล้ว

งานนี้ได้สวัสดิการดีจริง ๆ ตอนนี้พอไม่ได้ทำงานแล้ว พวกเขายังได้เพิ่มอีกครึ่งเดือน แล้วพวกเขาจะมีอะไรให้ว่าได้อีก?

แถมพวกเขาก็ยังได้ซื้อจักรเย็บผ้าพวกนี้ในราคาถูกอีกด้วย แม้จะเป็นการจับฉลากก็ตาม พอจับได้พวกเขาก็ซื้อเอาทันที เงิน 50 หยวนต่อเครื่องแม้ว่าจะใช้มา 2-3 ปีแล้ว แต่ก็ยังใช้ดีอยู่ ในยุคนี้สิ่งของยังมีคุณภาพดีอยู่มาก มือสองในราคานี้ถือว่าไม่แพง

……………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

555 จึ้งเลยไหมคะคุณย่า…ยังไงเงินที่ซื้อรถก็ไม่ใช่เงินของคุณย่า

ด่าเสียให้เข็ด ท่าจะไม่ได้ด่าละมั้งคะ แต่เป็นอวดให้เพื่อนบ้านกระอักแทน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+