ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่

หลังจากที่หลินชิงเหอกลับไป ท่านพ่อท่านแม่โจวและผู้เฒ่าหวังก็พูดกันว่า “ถือว่าเป็นความลำบากของสะใภ้สี่แล้วเหมือนกันนะ งานทั้งนอกและในก็กลายเป็นหน้าที่ของหล่อนหมด”

“ชิงไป๋นี่ใช้ไม่ได้จริง ๆ ” ท่านพ่อโจวพูด

“คนมีความสามารถก็ต้องเหนื่อยมากหน่อยอย่างไรล่ะ” ผู้เฒ่าหวังพูดยิ้ม ๆ

“คนมีความสามารถก็เหนื่อยหน่อยนั่นน่ะไม่ผิดหรอก แต่ภรรยาของเจ้าสี่ออกไปทำงานนอกบ้านลำบากลำบนแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ มีเรื่องอะไรก็เรียกชิงไป๋ไปก็ได้นี่” ท่านแม่โจวพูด

แม้จะไม่ได้แสดงออกอะไรนัก แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านต่างก็รู้กันหมดว่าลำบากหลินชิงเหอสะใภ้คนนี้แค่ไหน

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านแม่โจวนั้นนับถือสะใภ้คนนี้มากจริง ๆ กระทั่งตอนไปสวนสาธารณะก็ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องสะใภ้กับบรรดาแม่เฒ่าคนอื่น และยังไม่มีบ้านไหนที่สู้กับสะใภ้คนนี้ของครอบครัวนางได้เลยสักคน

มีสะใภ้บางส่วนที่กตัญญู แต่ต่อให้กตัญญูมากอีกสักนิดก็ยังเทียบไม่ติด

ดูชีวิตของนางตอนนี้สิ ที่บ้านยังมีแม่บ้านแล้วด้วย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ไหนเลยนางจะกล้าคิด?

หลินชิงเหอไม่รู้ความคิดของคนแก่ที่บ้าน เดิมทีพวกเขาพูดอะไรเธอก็แค่รับฟังเฉย ๆ ด้วยอายุเยอะแล้วและไม่ได้มีนิสัยยอมหักไม่ยอมงอเหมือนเมื่อสมัยก่อน แค่ตามน้ำไปและพูดปลอบนิดหน่อยเท่านั้น

ตอนหลินชิงเหอกลับบ้าน ก็ได้รับโทรศัพท์ของเจ้าใหญ่ ตอนเธอมาเสียงโทรศัพท์ก็ดังพอดี จึงไม่ต้องให้อาอี๋แม่บ้านเป็นคนรับ เธอก็ไปรับด้วยตัวเองเลย

“สวัสดีค่ะ” หลินชิงเหอพูดคำนี้เป็นคำแรก

“ม้าครับ” ด้านโจวข่ายที่อยู่ปลายสายยิ้มออกมาทันที เพราะเขาจำเสียงแม่ของเขาได้ทันทีที่ได้ยิน

“เด็กดื้อ ยังรู้จักโทรกลับมาด้วยเหรอ เหม่ยเจี่ยยังโทรกลับมาเยอะว่าลูกเสียอีก!” หลินชิงเหอพอได้ยินว่าเป็นเจ้าลูกชายคนโตก็ต่อว่าเขาในทันที

เวิงเหม่ยเจี่ยว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอโทรกลับมาแล้วครั้งหนึ่งในสัปดาห์หนึ่ง ตอนที่เธอว่าง ๆ ก็ยังโทรศัพท์กลับมาด้วยครั้งสองครั้ง หล่อนค่อนข้างคุยถูกคอกับหลินชิงเหอว่าที่แม่สามีของหล่อนทีเดียว

หลินชิงเหอก็ทำหน้าที่แม่สามีได้เป็นอย่างดี สองคู่รักคู่นี้ไม่สามารถหาเวลากลับมาได้ หลินชิงเหอก็จะส่งของบางส่วนไปให้พวกเขา

อย่างเช่นเมื่อตอนปีใหม่ที่พวกเขาไม่ได้กลับมาบ้าน แต่เจ้าสามจะไปที่กองทัพในวันที่ยี่สิบ เจียงเกิงได้ยินก็อยากไปด้วยเช่นกัน หลินชิงเหอจึงให้พวกเขาไปด้วยกัน และฝากเนื้ออบแห้ง ส้มโอหมักน้ำผึ้ง และมะนาวหมักน้ำผึ้งพวกนี้ไปด้วย นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าใหม่อีกหลายตัวที่ซื้อไปให้พวกเขา

โจวข่ายที่อยู่ปลายสายได้ยินเสียงตำหนิของมารดาก็หัวเราะและพูดว่า “ก็เหมือนกันนั่นแหละครับ จะลูกชายหรือภรรยาของลูกชายโทรกลับไปก็เหมือนกันหมดแหละ”

“เหม่ยเจี่ยก็ส่วนเหม่ยเจี่ย ลูกก็ส่วนลูก อย่าเอาความขี้เกียจมาเป็นข้ออ้าง” หลินชิงเหอพูด หลังจากนั้นถึงค่อยถาม “ช่วงนี้ไปไหน? แม่ได้ยินเหม่ยเจี่ยบอกว่าลูกได้รับภารกิจอีกแล้ว”

“งานราชงานลับน่ะครับ พวกเราอย่าพูดเรื่องนี้เลย ผมจะบอกข่าวดีกับม้าว่าปีนี้ผมจะได้เลื่อนขั้นแล้วนะ” โจวข่ายพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง

หลินชิงเหอก็ยิ้มออกมาเช่นกัน “เลื่อนขั้นเป็นเรื่องดี แต่ว่าออกไปข้างนอกอย่างไรก็ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าร่างกายของตัวเองนะลูก ดูแลตัวดี ๆ อย่าทำให้เหม่ยเจี่ยเป็นห่วงรู้ไหม?”

“ผมรู้ครับม้า” โจวข่ายรับปาก

“แล้วเมื่อไหร่จะกลับบ้านล่ะ? เมื่อกี้ม้าเพิ่งจะกลับมาจากบ้านปู่กับย่า พวกเขารวมทั้งผู้เฒ่าหวังพูดเรื่องงานแต่งงานของลูกกับเหม่ยเจี่ยด้วย”

งานแต่งงานของหลานชายคนโตจะต้องมีอุปสรรคเข้ามาอยู่ทุกครั้ง เหล่าพี่ ๆ ผู้ชายของตระกูลเวิงก็แต่งงานกันปีละคน จนต้องมีจัดในปีนี้ แต่หลินชิงเหอไม่คิดว่านั่นจะเป็นปัญหาอะไร เนื่องจากปีนี้พวกเขาก็อายุ 24 พอดี อย่างไรก็ยังเด็กอยู่นัก

อีกทั้งหนุ่มสาววัยรุ่นคบหากันนานก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี อยู่กันก่อนแต่งแบบนี้พอแต่งงานไปก็ยากที่จะมีเรื่องบาดหมางด้วย

แน่นอนว่าเธอรู้จักนิสัยของลูกชายดีว่าเป็นอย่างไร เขาก็เหมือนกับพ่อของเขา พอตัดสินใจเลือกคนนี้แล้วเขาก็จะเลือกคนคนนั้นไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ว่าตัดสินใจแล้วเขาจะโลเลอีกแบบนั้น

อีกทั้งเวิงเหม่ยเจี่ยว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ก็ไม่ใช่คนหยิ่งผยอง หล่อนเป็นคนมีความคิดความอ่านเหมือนผู้ใหญ่และเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นสำหรับเรื่องชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขาแล้ว หลินชิงเหอไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิด

โจวข่ายหัวเราะพูดว่า “ปลายปีนี้พวกผมจะกลับไปครับ ถึงตอนนั้นผมจะโทรไปบอกก่อนนะครับ แม่แค่เตรียมห้องให้พวกผมที่บ้านก็พอ”

“ลูกยังไม่เคยกลับมาดูเลย ก็รู้แล้วเหรอว่าบ้านใหญ่พออยู่ไหมน่ะ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“เจ้าสามบอกหมดแล้วครับว่าบ้านเรากว้างขวางมาก และก็หรูหราใช่ย่อยเสียด้วย ถ้าไม่ใช้บ้านเราเป็นที่จัดงานแต่งของผม ผมก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะมีที่ไหนดีกว่านี้อีก” โจวข่ายพูด

หลินชิงเหอก็ไม่คิดจะไปจัดข้างนอกเช่นกัน เธอจะใช้ที่นี่เป็นงานแต่งงานของเจ้าใหญ่ รวมทั้งอีกสองคนที่เหลือด้วย ที่เธอจะใช้บ้านเป็นสถานที่ทำพิธีแต่งงาน

“มีเวลาว่างก็อยู่เป็นเพื่อนกับเหม่ยเจี่ยให้มากหน่อย ออกไปครั้งหนึ่งก็นานเสียขนาดนั้น ลองคิดว่าเปลี่ยนเป็นเหม่ยเจี่ยแล้วลูกจะรู้สึกยังไง?” หลินชิงเหอพูดกับเขา

“ผมรู้แล้วครับ พรุ่งนี้หล่อนก็จะหยุดพักแล้ว ผมวางแผนจะพาหล่อนไปเดินเล่นในเมือง” โจวข่ายพูด

“งั้นก็ดี” หลินชิงเหอจึงค่อยรู้สึกพอใจ

“คุณปู่คุณย่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้างครับ?” โจวข่ายพูดถาม

“ปู่กับย่าของลูกยังดี แต่ปู่บุญธรรมของลูกร่างกายเขาทรมานมานาน ท้ายที่สุดมันก็เสียหายไปถึงรากฐานร่างกายเขาแล้ว ตอนนี้อากาศแต่ละฤดูก็ดีขึ้นมาหน่อย พอถึงหน้าหนาวตัวก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายอะไรมากเท่าไหร่แล้วล่ะ” หลินชิงเหอพูด

พวกเธอให้ความสำคัญกับการบำรุงร่างกายของผู้เฒ่าหวังอย่างมากแล้ว แต่อายุเขาไม่ใช่น้อย ๆ ผลลัพธ์เลยไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก

“ทางด้านของผมมีถังเช่าอยู่จำนวนหนึ่ง พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมืองแล้วส่งกลับไปให้นะครับ” โจวข่ายพูด

“ลูกกับเหม่ยเจี่ยกินกันเถอะ ก่อนหน้านี้เจ้าสามออกไปก็ห่อกลับมาด้วยห่อหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ลูกไม่ต้องส่งกลับมาหรอกจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด

โจวข่ายจึงไม่พูดอะไรอีก เขาก็ถามถึงพ่อเขากับแม่ด้วยอีกคน รวมทั้งน้องสาวเขา ก่อนที่เขาจะวางสายไป

“คุณชายใหญ่โทรศัพท์กลับมาเหรอคะ?” อาอี๋แม่บ้านถามยิ้ม ๆ

“จ๊ะ เขาไม่ได้โทรมาสักพักแล้ว วันนี้กลับโทรมาเสียได้” หลินชิงเหอพูด

“คุณชายรองกับคุณชายสามฉันเคยเห็นหน้าพวกเขาหมดแล้ว จะมีก็แต่คุณชายใหญ่ที่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลยค่ะ” อาอี๋แม่บ้านยิ้มพูด

“เขาจะกลับมาแต่งงานปีนี้แหละจ้ะ ถึงตอนนั้นคุณป้าก็จะได้เห็นเอง เขาน่ะเหมือนกับเจ้าสาม ดูผิวเผินแล้วไม่ต่างอะไรมากหรอก” หลินชิงเหอที่พอพูดถึงลูกชายคนโต เธอก็มีเรื่องให้พูดมากมาย

“งั้นคุณชายต้องดูเป็นคนมีความสามารถมากแน่ค่ะ” อาอี๋แม่บ้านพูดชมเขาอีก

คุณชายรองและคุณชายสามของเจ้าของบ้านนี้ต่างก็เป็นคนมีความสามารถกันทั้งนั้น คุณชายใหญ่ท่านนี้อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะแปลกแยกไปจากคนอื่นได้แน่ ได้ยินว่าเป็นพลตรีที่เก่งมากทีเดียว

“เที่ยงนี้ต้มซุปสักหน่อยนะจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด

“ฉันซื้อข้าวโพดกับแครอทกลับมา จะให้ต้มซุปกระดูกหมูข้าวโพดกับแครอทดีไหมคะ?” อาอี๋แม่บ้านถาม

“ดีจ้ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

อาอี๋แม่บ้านจึงไปทำกับข้าวในครัว สวัสดิการของที่นี่นั้นดีมาก อีกทั้งเจ้าบ้านก็ยังเป็นคนมีอารยธรรมและมีเมตตา นางได้ทำงานอยู่ที่นี่จึงรู้สึกมีความสุขมาก ดังนั้นนางจึงทำงานทุกอย่างด้วยความใส่ใจและขยันขันแข็งยิ่ง

หลินชิงเหอที่ยากจะมีเวลาได้พักนั้นเปิดทีวีขึ้นมาดู ตอนบ่ายเธอยังต้องไปที่โรงเรียน เพื่อไปเอาหนังสือกลับมาแปล เธอหยุดงานไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว สมองก็รู้สึกขี้เกียจทำงานสุด ๆ

คนก็เป็นเหมือนกัน พอได้พักร่างกายก็รู้สึกเกียจคร้าน

โจวชิงไป๋กับลูกสาวและเจ้าสามกลับมาตอน 11 โมงพอดี

พอเห็นว่าภรรยาอยู่บ้าน ใบหน้าของโจวชิงไป๋ก็อ่อนโยนลง ความอ่อนโยนนี้ของเขามีเพียงภรรยาและลูกสาวของเขาเท่านั้นที่จะได้รับ

เวลาผ่านไปไม่นานกังจือก็มาถึงอีกคนเช่นกัน รถสามล้อหยุดลงหน้าบ้าน และมันก็คือรถที่เขาใช้ตั้งแผงลอยขายของนั่นเอง

……………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เจ้าใหญ่นี่เหมือนพ่อไม่มีผิดเลยค่ะ ไม่ค่อยพูดเยอะ แต่ถ้าได้พูดก็พูดยาว

รอวันที่กลับมาจัดงานแต่งที่เรือนสี่ประสานนะคะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 647 โทรศัพท์จากเจ้าใหญ่

หลังจากที่หลินชิงเหอกลับไป ท่านพ่อท่านแม่โจวและผู้เฒ่าหวังก็พูดกันว่า “ถือว่าเป็นความลำบากของสะใภ้สี่แล้วเหมือนกันนะ งานทั้งนอกและในก็กลายเป็นหน้าที่ของหล่อนหมด”

“ชิงไป๋นี่ใช้ไม่ได้จริง ๆ ” ท่านพ่อโจวพูด

“คนมีความสามารถก็ต้องเหนื่อยมากหน่อยอย่างไรล่ะ” ผู้เฒ่าหวังพูดยิ้ม ๆ

“คนมีความสามารถก็เหนื่อยหน่อยนั่นน่ะไม่ผิดหรอก แต่ภรรยาของเจ้าสี่ออกไปทำงานนอกบ้านลำบากลำบนแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ มีเรื่องอะไรก็เรียกชิงไป๋ไปก็ได้นี่” ท่านแม่โจวพูด

แม้จะไม่ได้แสดงออกอะไรนัก แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านต่างก็รู้กันหมดว่าลำบากหลินชิงเหอสะใภ้คนนี้แค่ไหน

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านแม่โจวนั้นนับถือสะใภ้คนนี้มากจริง ๆ กระทั่งตอนไปสวนสาธารณะก็ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องสะใภ้กับบรรดาแม่เฒ่าคนอื่น และยังไม่มีบ้านไหนที่สู้กับสะใภ้คนนี้ของครอบครัวนางได้เลยสักคน

มีสะใภ้บางส่วนที่กตัญญู แต่ต่อให้กตัญญูมากอีกสักนิดก็ยังเทียบไม่ติด

ดูชีวิตของนางตอนนี้สิ ที่บ้านยังมีแม่บ้านแล้วด้วย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ไหนเลยนางจะกล้าคิด?

หลินชิงเหอไม่รู้ความคิดของคนแก่ที่บ้าน เดิมทีพวกเขาพูดอะไรเธอก็แค่รับฟังเฉย ๆ ด้วยอายุเยอะแล้วและไม่ได้มีนิสัยยอมหักไม่ยอมงอเหมือนเมื่อสมัยก่อน แค่ตามน้ำไปและพูดปลอบนิดหน่อยเท่านั้น

ตอนหลินชิงเหอกลับบ้าน ก็ได้รับโทรศัพท์ของเจ้าใหญ่ ตอนเธอมาเสียงโทรศัพท์ก็ดังพอดี จึงไม่ต้องให้อาอี๋แม่บ้านเป็นคนรับ เธอก็ไปรับด้วยตัวเองเลย

“สวัสดีค่ะ” หลินชิงเหอพูดคำนี้เป็นคำแรก

“ม้าครับ” ด้านโจวข่ายที่อยู่ปลายสายยิ้มออกมาทันที เพราะเขาจำเสียงแม่ของเขาได้ทันทีที่ได้ยิน

“เด็กดื้อ ยังรู้จักโทรกลับมาด้วยเหรอ เหม่ยเจี่ยยังโทรกลับมาเยอะว่าลูกเสียอีก!” หลินชิงเหอพอได้ยินว่าเป็นเจ้าลูกชายคนโตก็ต่อว่าเขาในทันที

เวิงเหม่ยเจี่ยว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอโทรกลับมาแล้วครั้งหนึ่งในสัปดาห์หนึ่ง ตอนที่เธอว่าง ๆ ก็ยังโทรศัพท์กลับมาด้วยครั้งสองครั้ง หล่อนค่อนข้างคุยถูกคอกับหลินชิงเหอว่าที่แม่สามีของหล่อนทีเดียว

หลินชิงเหอก็ทำหน้าที่แม่สามีได้เป็นอย่างดี สองคู่รักคู่นี้ไม่สามารถหาเวลากลับมาได้ หลินชิงเหอก็จะส่งของบางส่วนไปให้พวกเขา

อย่างเช่นเมื่อตอนปีใหม่ที่พวกเขาไม่ได้กลับมาบ้าน แต่เจ้าสามจะไปที่กองทัพในวันที่ยี่สิบ เจียงเกิงได้ยินก็อยากไปด้วยเช่นกัน หลินชิงเหอจึงให้พวกเขาไปด้วยกัน และฝากเนื้ออบแห้ง ส้มโอหมักน้ำผึ้ง และมะนาวหมักน้ำผึ้งพวกนี้ไปด้วย นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าใหม่อีกหลายตัวที่ซื้อไปให้พวกเขา

โจวข่ายที่อยู่ปลายสายได้ยินเสียงตำหนิของมารดาก็หัวเราะและพูดว่า “ก็เหมือนกันนั่นแหละครับ จะลูกชายหรือภรรยาของลูกชายโทรกลับไปก็เหมือนกันหมดแหละ”

“เหม่ยเจี่ยก็ส่วนเหม่ยเจี่ย ลูกก็ส่วนลูก อย่าเอาความขี้เกียจมาเป็นข้ออ้าง” หลินชิงเหอพูด หลังจากนั้นถึงค่อยถาม “ช่วงนี้ไปไหน? แม่ได้ยินเหม่ยเจี่ยบอกว่าลูกได้รับภารกิจอีกแล้ว”

“งานราชงานลับน่ะครับ พวกเราอย่าพูดเรื่องนี้เลย ผมจะบอกข่าวดีกับม้าว่าปีนี้ผมจะได้เลื่อนขั้นแล้วนะ” โจวข่ายพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง

หลินชิงเหอก็ยิ้มออกมาเช่นกัน “เลื่อนขั้นเป็นเรื่องดี แต่ว่าออกไปข้างนอกอย่างไรก็ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าร่างกายของตัวเองนะลูก ดูแลตัวดี ๆ อย่าทำให้เหม่ยเจี่ยเป็นห่วงรู้ไหม?”

“ผมรู้ครับม้า” โจวข่ายรับปาก

“แล้วเมื่อไหร่จะกลับบ้านล่ะ? เมื่อกี้ม้าเพิ่งจะกลับมาจากบ้านปู่กับย่า พวกเขารวมทั้งผู้เฒ่าหวังพูดเรื่องงานแต่งงานของลูกกับเหม่ยเจี่ยด้วย”

งานแต่งงานของหลานชายคนโตจะต้องมีอุปสรรคเข้ามาอยู่ทุกครั้ง เหล่าพี่ ๆ ผู้ชายของตระกูลเวิงก็แต่งงานกันปีละคน จนต้องมีจัดในปีนี้ แต่หลินชิงเหอไม่คิดว่านั่นจะเป็นปัญหาอะไร เนื่องจากปีนี้พวกเขาก็อายุ 24 พอดี อย่างไรก็ยังเด็กอยู่นัก

อีกทั้งหนุ่มสาววัยรุ่นคบหากันนานก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี อยู่กันก่อนแต่งแบบนี้พอแต่งงานไปก็ยากที่จะมีเรื่องบาดหมางด้วย

แน่นอนว่าเธอรู้จักนิสัยของลูกชายดีว่าเป็นอย่างไร เขาก็เหมือนกับพ่อของเขา พอตัดสินใจเลือกคนนี้แล้วเขาก็จะเลือกคนคนนั้นไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ว่าตัดสินใจแล้วเขาจะโลเลอีกแบบนั้น

อีกทั้งเวิงเหม่ยเจี่ยว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ก็ไม่ใช่คนหยิ่งผยอง หล่อนเป็นคนมีความคิดความอ่านเหมือนผู้ใหญ่และเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นสำหรับเรื่องชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขาแล้ว หลินชิงเหอไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิด

โจวข่ายหัวเราะพูดว่า “ปลายปีนี้พวกผมจะกลับไปครับ ถึงตอนนั้นผมจะโทรไปบอกก่อนนะครับ แม่แค่เตรียมห้องให้พวกผมที่บ้านก็พอ”

“ลูกยังไม่เคยกลับมาดูเลย ก็รู้แล้วเหรอว่าบ้านใหญ่พออยู่ไหมน่ะ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“เจ้าสามบอกหมดแล้วครับว่าบ้านเรากว้างขวางมาก และก็หรูหราใช่ย่อยเสียด้วย ถ้าไม่ใช้บ้านเราเป็นที่จัดงานแต่งของผม ผมก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะมีที่ไหนดีกว่านี้อีก” โจวข่ายพูด

หลินชิงเหอก็ไม่คิดจะไปจัดข้างนอกเช่นกัน เธอจะใช้ที่นี่เป็นงานแต่งงานของเจ้าใหญ่ รวมทั้งอีกสองคนที่เหลือด้วย ที่เธอจะใช้บ้านเป็นสถานที่ทำพิธีแต่งงาน

“มีเวลาว่างก็อยู่เป็นเพื่อนกับเหม่ยเจี่ยให้มากหน่อย ออกไปครั้งหนึ่งก็นานเสียขนาดนั้น ลองคิดว่าเปลี่ยนเป็นเหม่ยเจี่ยแล้วลูกจะรู้สึกยังไง?” หลินชิงเหอพูดกับเขา

“ผมรู้แล้วครับ พรุ่งนี้หล่อนก็จะหยุดพักแล้ว ผมวางแผนจะพาหล่อนไปเดินเล่นในเมือง” โจวข่ายพูด

“งั้นก็ดี” หลินชิงเหอจึงค่อยรู้สึกพอใจ

“คุณปู่คุณย่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้างครับ?” โจวข่ายพูดถาม

“ปู่กับย่าของลูกยังดี แต่ปู่บุญธรรมของลูกร่างกายเขาทรมานมานาน ท้ายที่สุดมันก็เสียหายไปถึงรากฐานร่างกายเขาแล้ว ตอนนี้อากาศแต่ละฤดูก็ดีขึ้นมาหน่อย พอถึงหน้าหนาวตัวก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายอะไรมากเท่าไหร่แล้วล่ะ” หลินชิงเหอพูด

พวกเธอให้ความสำคัญกับการบำรุงร่างกายของผู้เฒ่าหวังอย่างมากแล้ว แต่อายุเขาไม่ใช่น้อย ๆ ผลลัพธ์เลยไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก

“ทางด้านของผมมีถังเช่าอยู่จำนวนหนึ่ง พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมืองแล้วส่งกลับไปให้นะครับ” โจวข่ายพูด

“ลูกกับเหม่ยเจี่ยกินกันเถอะ ก่อนหน้านี้เจ้าสามออกไปก็ห่อกลับมาด้วยห่อหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ลูกไม่ต้องส่งกลับมาหรอกจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด

โจวข่ายจึงไม่พูดอะไรอีก เขาก็ถามถึงพ่อเขากับแม่ด้วยอีกคน รวมทั้งน้องสาวเขา ก่อนที่เขาจะวางสายไป

“คุณชายใหญ่โทรศัพท์กลับมาเหรอคะ?” อาอี๋แม่บ้านถามยิ้ม ๆ

“จ๊ะ เขาไม่ได้โทรมาสักพักแล้ว วันนี้กลับโทรมาเสียได้” หลินชิงเหอพูด

“คุณชายรองกับคุณชายสามฉันเคยเห็นหน้าพวกเขาหมดแล้ว จะมีก็แต่คุณชายใหญ่ที่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลยค่ะ” อาอี๋แม่บ้านยิ้มพูด

“เขาจะกลับมาแต่งงานปีนี้แหละจ้ะ ถึงตอนนั้นคุณป้าก็จะได้เห็นเอง เขาน่ะเหมือนกับเจ้าสาม ดูผิวเผินแล้วไม่ต่างอะไรมากหรอก” หลินชิงเหอที่พอพูดถึงลูกชายคนโต เธอก็มีเรื่องให้พูดมากมาย

“งั้นคุณชายต้องดูเป็นคนมีความสามารถมากแน่ค่ะ” อาอี๋แม่บ้านพูดชมเขาอีก

คุณชายรองและคุณชายสามของเจ้าของบ้านนี้ต่างก็เป็นคนมีความสามารถกันทั้งนั้น คุณชายใหญ่ท่านนี้อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะแปลกแยกไปจากคนอื่นได้แน่ ได้ยินว่าเป็นพลตรีที่เก่งมากทีเดียว

“เที่ยงนี้ต้มซุปสักหน่อยนะจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด

“ฉันซื้อข้าวโพดกับแครอทกลับมา จะให้ต้มซุปกระดูกหมูข้าวโพดกับแครอทดีไหมคะ?” อาอี๋แม่บ้านถาม

“ดีจ้ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

อาอี๋แม่บ้านจึงไปทำกับข้าวในครัว สวัสดิการของที่นี่นั้นดีมาก อีกทั้งเจ้าบ้านก็ยังเป็นคนมีอารยธรรมและมีเมตตา นางได้ทำงานอยู่ที่นี่จึงรู้สึกมีความสุขมาก ดังนั้นนางจึงทำงานทุกอย่างด้วยความใส่ใจและขยันขันแข็งยิ่ง

หลินชิงเหอที่ยากจะมีเวลาได้พักนั้นเปิดทีวีขึ้นมาดู ตอนบ่ายเธอยังต้องไปที่โรงเรียน เพื่อไปเอาหนังสือกลับมาแปล เธอหยุดงานไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว สมองก็รู้สึกขี้เกียจทำงานสุด ๆ

คนก็เป็นเหมือนกัน พอได้พักร่างกายก็รู้สึกเกียจคร้าน

โจวชิงไป๋กับลูกสาวและเจ้าสามกลับมาตอน 11 โมงพอดี

พอเห็นว่าภรรยาอยู่บ้าน ใบหน้าของโจวชิงไป๋ก็อ่อนโยนลง ความอ่อนโยนนี้ของเขามีเพียงภรรยาและลูกสาวของเขาเท่านั้นที่จะได้รับ

เวลาผ่านไปไม่นานกังจือก็มาถึงอีกคนเช่นกัน รถสามล้อหยุดลงหน้าบ้าน และมันก็คือรถที่เขาใช้ตั้งแผงลอยขายของนั่นเอง

……………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เจ้าใหญ่นี่เหมือนพ่อไม่มีผิดเลยค่ะ ไม่ค่อยพูดเยอะ แต่ถ้าได้พูดก็พูดยาว

รอวันที่กลับมาจัดงานแต่งที่เรือนสี่ประสานนะคะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+