ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 631 บ้านราคาแพง

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 631 บ้านราคาแพง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 631 บ้านราคาแพง

ตอนนี้อากาศที่ไห่หนานอยู่ที่ประมาณ 23 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่ถือว่าอบอุ่นกำลังสบาย เปรียบเสมือนได้อาบลมในฤดูใบไม้ผลิ[1]

แม้ว่าไห่หนานในตอนนี้จะเทียบเท่ากับยุคหลังจากนี้ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองชั้นนำที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศจึงคึกคักเป็นอย่างมาก

ตอนหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋พามี่มี่ลงเรือ ก็มองเห็นภาพบรรยากาศคึกคักได้จากที่บริเวณท่าเรือแล้ว

ในปีนี้มีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองไม่ถือว่าเยอะนัก แต่ก็ถือว่าครึกครื้นแล้ว ทว่าหลินชิงเหอมองความเปลี่ยนแปลงในปีนี้แล้วก็รู้ว่าปีหน้าเป็นต้นไปถึงจะมีคนนับแสนคนมาอาศัยอยู่ที่นี่

พวกเขาสามคนหาที่พักกันก่อน จากนั้นก็อาบน้ำชำระกลิ่นไอเค็มจากทะเลที่ติดตัวออกไป แล้วจึงออกมาหาของกิน

รอบด้านนั้นเป็นทะเลทั้งหมด อาหารทะเลก็ต้องอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมดา อย่างเช่นหอยสังข์ตัวใหญ่ที่มีเนื้อทั้งอวบทั้งสด แถมราคาก็ไม่แพง ซึ่งหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ชอบมาก ส่วนสาวน้อยมี่มี่กินโจ๊กกุ้งไปหนึ่งถ้วย ก็กินอย่างอื่นไม่ลงแล้ว

การนั่งเรือมาที่นี่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่น้อย ดังนั้นหลังจากมี่มี่กินอิ่มแล้ว เธอก็พิงตัวลงในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ จากนั้นไม่นานก็หลับไป

โจวชิงไป๋เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด เขาปรับเปลี่ยนท่าทางให้ลูกสาวได้นอนสบาย ๆ ก่อนจะให้เธอหลับต่อไป

หลินชิงเหอกินไปพอประมาณแล้วก็พูดขึ้น “มาค่ะฉันอุ้มเอง คุณกินต่อเถอะ”

โจวชิงไป๋จึงส่งลูกสาวให้กับภรรยา หลังจากนั้นก็จัดการกวาดทะเลอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่นานอาหารที่เต็มโต๊ะอยู่ก็ถูกกวาดลงท้องของโจวชิงไป๋ถึงเจ็ดส่วน

หลินชิงเหอรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาชอบกินอาหารทะเล และอาหารทะเลของที่นี่ก็สดดีจริง ๆ จึงปล่อยให้เขาได้ทานตามใจ

“คุณกินอย่างนี้พอพวกเรากลับไป เดี๋ยวน้ำหนักคุณได้ขึ้นไปถึงร้อยกิโลขึ้นไปหรอกค่ะ” ระหว่างทางกลับมาโรงแรม หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

โจวชิงไป๋พูด “พรุ่งนี้เช้าผมจะออกไปวิ่ง”

เด็กน้อยเหนื่อยแล้ว ผู้ใหญ่ก็เหนื่อยแล้วเช่นกัน หลังอาบน้ำกินข้าวพวกเขาก็ค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย ตอนนี้จึงขอกลับไปพักผ่อนก่อน

รอให้ตื่นก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่างไรก็มีเวลาอีกมาก ไม่ต้องรีบร้อน

ทั้งครอบครัวรู้สึกหิวอีกครั้งในตอน 5 โมงเย็น ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงมี่มี่ก็หิวอีกครั้ง จึงลุกขึ้นมากินเกี๊ยวกุ้งเล็กน้อย หลังจากนั้นพวกเขาก็หลับต่อ และตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป

โจวชิงไป๋ออกไปวิ่ง ตอนที่เขากลับมา หลินชิงเหอกับสาวน้อยมี่มี่ก็เพิ่งตื่นนอน พวกเธอกำลังหวีผมใส่เสื้อผ้ากันอยู่เลย

“ผมไปดูรอบ ๆ มา และก็ถามคนสองสามคนแถวนั้น ร้านค้าที่นี่ราคาไม่ต่ำเลย” โจวชิงไป๋พูด

“เท่าไหร่คะ?” หลินชิงเหอพูด

“1,300 กว่าหยวน ที่ทำเลดีก็ประมาณ 1,400-1,500 หยวน” โจวชิงไป๋พูด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคานี้มันแพงมากจริง ๆ ขณะนี้ฐานเงินเดือนอยู่ที่เท่าไหร่กัน? ในเมืองปักกิ่งตอนนี้ที่นับว่ามีฐานเงินเดือนมากที่สุดแล้วก็ได้เพียง 100 กว่าหยวนต่อเดือนเท่านั้น

ราคา 1,000 หยวนต่อ 1 ตารางเมตร ด้วยเงินเดือนเท่านี้ ต้องประหยัดเงินอย่างไรถึงจะสามารถซื้อ 1 ตารางเมตรได้?

“อีกเดี๋ยวค่อยไปดูค่ะ” หลินชิงเหอพูด

ตอนนี้เธอยังไม่มีแผนว่าจะทำอะไร เพียงแค่มาพักผ่อนกับครอบครัวเท่านั้น ไม่สู้ออกไปเดินดูรอบ ๆ ก่อนดูว่าในความทรงจำของเธอจะยังเหมือนเดิมไหม

แม้ว่าพวกเธอตอนนี้จะมีเงินมหาศาล และทุกเดือนก็มีรายได้เข้ามาไม่น้อย แต่จะใช้เงินไปแบบนี้ไม่ได้ เนื่องจากที่นี่ไกลจากปักกิ่งมาก ถ้าจะทำจริงมันก็ดูวุ่นวายไม่น้อย

ในเมื่อมาแล้วก็ไม่ต้องมาอีกอะไรทำนองนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นอันลงมือทำอะไร เรื่องอะไรจะให้มันเป็นสิ่งกวนใจเสียเปล่า ๆ

อีกอย่างถ้าเอาเงินมาไว้ที่นี่ ไม่สู้กู้เงินธนาคารเอาไปซื้อที่ดินที่ชิงไป๋พาเธอไปดูดีกว่าเหรอ

แต่ไปดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

โจวชิงไป๋ออกไปวิ่งมาจนเหงื่อเต็มตัว เขาจึงเข้าไปอาบน้ำอีกครั้ง และทั้งครอบครัวก็ออกมากินโจ๊กทะเล

เมื่อกินเสร็จแล้วจึงเริ่มไปดูอาคารพาณิชย์ของเมืองไห่หนาน ที่นี่พัฒนาเร็วมากจริง ๆ อาคารพาณิชย์ของที่นี่ทุกตึกมีแต่ตึกสวย ๆ ทั้งนั้น

สำหรับสายตาของนักวิเคราะห์ความงามแล้วนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

“ถ้าทั้งสองท่านต้องการอะไรล่ะก็ สามารถเรียกหาผมได้เลยนะครับ ผมจะอธิบายให้ทั้งสองท่านเอง” เด็กหนุ่มคนหนึ่งต้อนรับพวกเขาแล้วพูดอย่างมีมารยาท

“ปีนี้ไห่หนานพัฒนาไปเร็วมาก ตึกพวกนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ ตอนฉันมาครั้งก่อนยังไม่เห็นเลย” หลินชิงเหอเอ่ยปากพูด

“งั้นพวกคุณก็น่าจะมาค่อนข้างเร็วไปหน่อยน่ะครับ ตึกเหล่านี้สร้างมา 1 หรือ 2 ปีแล้ว เป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เหมาะแก่การอยู่อาศัยมาก โดยเฉพาะอากาศของที่นี่อยู่สบายทุกสี่ฤดู ไม่มีที่ไหนเหมาะจะอยู่เท่านี้แล้วครับ” เด็กหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม

“พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะซื้อไหม เห็นคุณกระตือรือร้นแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะเสียแรงพูดเปล่าเหรอคะ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นคุณน้าและคุณอาดูภูมิฐานน่านับถือ จะผูกมิตรกันแบบเพื่อนก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม

“คุณชื่ออะไรเหรอ” โจวชิงไป๋ถาม

“ผมชื่อหลินหยวนครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าพูด

“บังเอิญจัง ฉันก็แซ่หลินเหมือนกัน เธอเรียกฉันว่าพี่หลินก็พอนะ” หลินชิงเหอพูด และแนะนำโจวชิงไป๋กับลูกสาวให้เขา

เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายรู้จักกันแล้ว หลินหยวนจึงพูดว่า “พี่โจวกับพี่หลินมาเที่ยวที่นี่เหรอครับ?”

“ก็ถือว่ามาเที่ยวแหละจ้ะ แต่พวกเราน่ะตกใจที่เห็นไห่หนานเจริญมากในปีนี้” หลินชิงเหอพูด

หลินหยวนก็ไม่มีธุระอะไรเช่นกัน จึงสามารถพูดได้นานกว่าเดิม อีกทั้งเขาก็มองออกจริง ๆ ว่า ทั้งสองคนนั้นไม่มีทางเป็นคนไม่มีเงินได้

ดูจากท่วงท่าเขาก็รู้แล้ว อย่างที่เขาพูดว่าเหมือนคนภูมิฐานน่านับถือแบบนั้น

สุดท้ายเขาก็พูดในประเด็นที่พวกเขากล่าวขึ้นมาว่าปีนี้ไห่หนานเจริญขึ้นมาก “พี่โจวกับพี่หลินจะไม่ซื้อเหรอครับ? ผมคิดว่าหากซื้อบ้านแล้วต้องไม่รู้สึกเสียใจภายหลังแน่ เพราะขนาดตอนนี้ยังเจริญถึงเพียงนี้ ถ้าผมมีเงินล่ะก็ ผมคงจะซื้อเอาไว้สักหลัง”

“หลังหนึ่งก็หลายหมื่นหยวน ราคาไม่ถูกเลยจริง ๆ” หลินชิงเหอพูด

แม้ว่ารายได้ของครอบครัวเธอเดือนหนึ่งจะเป็นหลายหมื่นหยวนเช่นกัน แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะถูก

“ใช่ ผมว่ามันแพงเกินไปหน่อยเหมือนกัน แต่ต่อจากนี้จะยิ่งแพงขึ้นอีกนะครับ” หลินหยวนพูด

“เธอเป็นคนในพื้นที่ คงจะรู้เรื่องไห่หนานเป็นอย่างดีสินะ พวกเราคิดว่าจะอยู่อีกสองสามวัน เธออยากจะเป็นคนนำเที่ยวให้พวกเราหน่อยไหมล่ะ?” หลินชิงเหอถาม

“คุณน้า ผมมีงานต้องทำน่ะครับ” หลินหยวนพูด

“เงินเดือนเท่าไหร่เหรอ?” โจวชิงไป๋มองเขาพูด

“เงินเดือนผม 120 หยวน” หลินหยวนไม่คิดว่าเขาจะตั้งคำถามนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่เขาก็ไม่ได้ไม่พอใจและพูดตอบอีกฝ่ายไป

เงินเดือนเท่านี้ไม่ถือว่าน้อย แต่สำหรับคนที่แต่งงานแล้วและมีภรรยาและลูกอย่างเขาที่มีฐานะเป็นเสาหลักของบ้านนั้น เงินเท่านี้ไม่เยอะเลยจริง ๆ อย่างน้อยก็ไม่มีทางซื้อบ้านไหว

“นี่ร้อยหนึ่ง เธอไปลางานวันจันทร์นี้นะ แล้วพาพวกเราไปเที่ยวดูรอบ ๆ” หลินชิงเหอส่งธนบัตร 100 หยวนให้เขา และพูดขึ้น

หลินหยวนคิดไม่ถึงว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เขามองพวกเขา สุดท้ายก็กัดฟันแล้วผลักเงินกลับไป พูดขึ้นว่า “คุณน้ากับคุณอามาเที่ยวที่นี่ ผมเป็นไกด์ให้พวกคุณได้อยู่แล้ว เงินนี้ไม่ต้องให้หรอกครับ ผมสามารถขอลางานได้พอดี เอาเงินเดือนเดือนหน้าของผมมาคิด จะลาเจ็ดวันก็ไม่มีปัญหา”

…………………………………………………………………………………………………………………………

[1] เหมือนได้อาบลมในฤดูใบไม้ผลิ เป็นการเปรียบว่ารู้สึกสบายเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

สารจากผู้แปล

ครอบครัวนี้จะได้บ้านที่ไห่หนานสักหลังไหมนะ แล้วจะได้บ้านแบบไหนกัน บรรยากาศคงดีมากแน่ๆ ถ้าได้บ้านแบบพูลวิลล่าริมทะเล

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 631 บ้านราคาแพง

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 631 บ้านราคาแพง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 631 บ้านราคาแพง

ตอนนี้อากาศที่ไห่หนานอยู่ที่ประมาณ 23 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่ถือว่าอบอุ่นกำลังสบาย เปรียบเสมือนได้อาบลมในฤดูใบไม้ผลิ[1]

แม้ว่าไห่หนานในตอนนี้จะเทียบเท่ากับยุคหลังจากนี้ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองชั้นนำที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศจึงคึกคักเป็นอย่างมาก

ตอนหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋พามี่มี่ลงเรือ ก็มองเห็นภาพบรรยากาศคึกคักได้จากที่บริเวณท่าเรือแล้ว

ในปีนี้มีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองไม่ถือว่าเยอะนัก แต่ก็ถือว่าครึกครื้นแล้ว ทว่าหลินชิงเหอมองความเปลี่ยนแปลงในปีนี้แล้วก็รู้ว่าปีหน้าเป็นต้นไปถึงจะมีคนนับแสนคนมาอาศัยอยู่ที่นี่

พวกเขาสามคนหาที่พักกันก่อน จากนั้นก็อาบน้ำชำระกลิ่นไอเค็มจากทะเลที่ติดตัวออกไป แล้วจึงออกมาหาของกิน

รอบด้านนั้นเป็นทะเลทั้งหมด อาหารทะเลก็ต้องอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมดา อย่างเช่นหอยสังข์ตัวใหญ่ที่มีเนื้อทั้งอวบทั้งสด แถมราคาก็ไม่แพง ซึ่งหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ชอบมาก ส่วนสาวน้อยมี่มี่กินโจ๊กกุ้งไปหนึ่งถ้วย ก็กินอย่างอื่นไม่ลงแล้ว

การนั่งเรือมาที่นี่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่น้อย ดังนั้นหลังจากมี่มี่กินอิ่มแล้ว เธอก็พิงตัวลงในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ จากนั้นไม่นานก็หลับไป

โจวชิงไป๋เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด เขาปรับเปลี่ยนท่าทางให้ลูกสาวได้นอนสบาย ๆ ก่อนจะให้เธอหลับต่อไป

หลินชิงเหอกินไปพอประมาณแล้วก็พูดขึ้น “มาค่ะฉันอุ้มเอง คุณกินต่อเถอะ”

โจวชิงไป๋จึงส่งลูกสาวให้กับภรรยา หลังจากนั้นก็จัดการกวาดทะเลอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่นานอาหารที่เต็มโต๊ะอยู่ก็ถูกกวาดลงท้องของโจวชิงไป๋ถึงเจ็ดส่วน

หลินชิงเหอรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาชอบกินอาหารทะเล และอาหารทะเลของที่นี่ก็สดดีจริง ๆ จึงปล่อยให้เขาได้ทานตามใจ

“คุณกินอย่างนี้พอพวกเรากลับไป เดี๋ยวน้ำหนักคุณได้ขึ้นไปถึงร้อยกิโลขึ้นไปหรอกค่ะ” ระหว่างทางกลับมาโรงแรม หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

โจวชิงไป๋พูด “พรุ่งนี้เช้าผมจะออกไปวิ่ง”

เด็กน้อยเหนื่อยแล้ว ผู้ใหญ่ก็เหนื่อยแล้วเช่นกัน หลังอาบน้ำกินข้าวพวกเขาก็ค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย ตอนนี้จึงขอกลับไปพักผ่อนก่อน

รอให้ตื่นก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่างไรก็มีเวลาอีกมาก ไม่ต้องรีบร้อน

ทั้งครอบครัวรู้สึกหิวอีกครั้งในตอน 5 โมงเย็น ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงมี่มี่ก็หิวอีกครั้ง จึงลุกขึ้นมากินเกี๊ยวกุ้งเล็กน้อย หลังจากนั้นพวกเขาก็หลับต่อ และตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป

โจวชิงไป๋ออกไปวิ่ง ตอนที่เขากลับมา หลินชิงเหอกับสาวน้อยมี่มี่ก็เพิ่งตื่นนอน พวกเธอกำลังหวีผมใส่เสื้อผ้ากันอยู่เลย

“ผมไปดูรอบ ๆ มา และก็ถามคนสองสามคนแถวนั้น ร้านค้าที่นี่ราคาไม่ต่ำเลย” โจวชิงไป๋พูด

“เท่าไหร่คะ?” หลินชิงเหอพูด

“1,300 กว่าหยวน ที่ทำเลดีก็ประมาณ 1,400-1,500 หยวน” โจวชิงไป๋พูด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคานี้มันแพงมากจริง ๆ ขณะนี้ฐานเงินเดือนอยู่ที่เท่าไหร่กัน? ในเมืองปักกิ่งตอนนี้ที่นับว่ามีฐานเงินเดือนมากที่สุดแล้วก็ได้เพียง 100 กว่าหยวนต่อเดือนเท่านั้น

ราคา 1,000 หยวนต่อ 1 ตารางเมตร ด้วยเงินเดือนเท่านี้ ต้องประหยัดเงินอย่างไรถึงจะสามารถซื้อ 1 ตารางเมตรได้?

“อีกเดี๋ยวค่อยไปดูค่ะ” หลินชิงเหอพูด

ตอนนี้เธอยังไม่มีแผนว่าจะทำอะไร เพียงแค่มาพักผ่อนกับครอบครัวเท่านั้น ไม่สู้ออกไปเดินดูรอบ ๆ ก่อนดูว่าในความทรงจำของเธอจะยังเหมือนเดิมไหม

แม้ว่าพวกเธอตอนนี้จะมีเงินมหาศาล และทุกเดือนก็มีรายได้เข้ามาไม่น้อย แต่จะใช้เงินไปแบบนี้ไม่ได้ เนื่องจากที่นี่ไกลจากปักกิ่งมาก ถ้าจะทำจริงมันก็ดูวุ่นวายไม่น้อย

ในเมื่อมาแล้วก็ไม่ต้องมาอีกอะไรทำนองนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นอันลงมือทำอะไร เรื่องอะไรจะให้มันเป็นสิ่งกวนใจเสียเปล่า ๆ

อีกอย่างถ้าเอาเงินมาไว้ที่นี่ ไม่สู้กู้เงินธนาคารเอาไปซื้อที่ดินที่ชิงไป๋พาเธอไปดูดีกว่าเหรอ

แต่ไปดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

โจวชิงไป๋ออกไปวิ่งมาจนเหงื่อเต็มตัว เขาจึงเข้าไปอาบน้ำอีกครั้ง และทั้งครอบครัวก็ออกมากินโจ๊กทะเล

เมื่อกินเสร็จแล้วจึงเริ่มไปดูอาคารพาณิชย์ของเมืองไห่หนาน ที่นี่พัฒนาเร็วมากจริง ๆ อาคารพาณิชย์ของที่นี่ทุกตึกมีแต่ตึกสวย ๆ ทั้งนั้น

สำหรับสายตาของนักวิเคราะห์ความงามแล้วนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

“ถ้าทั้งสองท่านต้องการอะไรล่ะก็ สามารถเรียกหาผมได้เลยนะครับ ผมจะอธิบายให้ทั้งสองท่านเอง” เด็กหนุ่มคนหนึ่งต้อนรับพวกเขาแล้วพูดอย่างมีมารยาท

“ปีนี้ไห่หนานพัฒนาไปเร็วมาก ตึกพวกนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ ตอนฉันมาครั้งก่อนยังไม่เห็นเลย” หลินชิงเหอเอ่ยปากพูด

“งั้นพวกคุณก็น่าจะมาค่อนข้างเร็วไปหน่อยน่ะครับ ตึกเหล่านี้สร้างมา 1 หรือ 2 ปีแล้ว เป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เหมาะแก่การอยู่อาศัยมาก โดยเฉพาะอากาศของที่นี่อยู่สบายทุกสี่ฤดู ไม่มีที่ไหนเหมาะจะอยู่เท่านี้แล้วครับ” เด็กหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม

“พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะซื้อไหม เห็นคุณกระตือรือร้นแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะเสียแรงพูดเปล่าเหรอคะ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นคุณน้าและคุณอาดูภูมิฐานน่านับถือ จะผูกมิตรกันแบบเพื่อนก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม

“คุณชื่ออะไรเหรอ” โจวชิงไป๋ถาม

“ผมชื่อหลินหยวนครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าพูด

“บังเอิญจัง ฉันก็แซ่หลินเหมือนกัน เธอเรียกฉันว่าพี่หลินก็พอนะ” หลินชิงเหอพูด และแนะนำโจวชิงไป๋กับลูกสาวให้เขา

เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายรู้จักกันแล้ว หลินหยวนจึงพูดว่า “พี่โจวกับพี่หลินมาเที่ยวที่นี่เหรอครับ?”

“ก็ถือว่ามาเที่ยวแหละจ้ะ แต่พวกเราน่ะตกใจที่เห็นไห่หนานเจริญมากในปีนี้” หลินชิงเหอพูด

หลินหยวนก็ไม่มีธุระอะไรเช่นกัน จึงสามารถพูดได้นานกว่าเดิม อีกทั้งเขาก็มองออกจริง ๆ ว่า ทั้งสองคนนั้นไม่มีทางเป็นคนไม่มีเงินได้

ดูจากท่วงท่าเขาก็รู้แล้ว อย่างที่เขาพูดว่าเหมือนคนภูมิฐานน่านับถือแบบนั้น

สุดท้ายเขาก็พูดในประเด็นที่พวกเขากล่าวขึ้นมาว่าปีนี้ไห่หนานเจริญขึ้นมาก “พี่โจวกับพี่หลินจะไม่ซื้อเหรอครับ? ผมคิดว่าหากซื้อบ้านแล้วต้องไม่รู้สึกเสียใจภายหลังแน่ เพราะขนาดตอนนี้ยังเจริญถึงเพียงนี้ ถ้าผมมีเงินล่ะก็ ผมคงจะซื้อเอาไว้สักหลัง”

“หลังหนึ่งก็หลายหมื่นหยวน ราคาไม่ถูกเลยจริง ๆ” หลินชิงเหอพูด

แม้ว่ารายได้ของครอบครัวเธอเดือนหนึ่งจะเป็นหลายหมื่นหยวนเช่นกัน แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะถูก

“ใช่ ผมว่ามันแพงเกินไปหน่อยเหมือนกัน แต่ต่อจากนี้จะยิ่งแพงขึ้นอีกนะครับ” หลินหยวนพูด

“เธอเป็นคนในพื้นที่ คงจะรู้เรื่องไห่หนานเป็นอย่างดีสินะ พวกเราคิดว่าจะอยู่อีกสองสามวัน เธออยากจะเป็นคนนำเที่ยวให้พวกเราหน่อยไหมล่ะ?” หลินชิงเหอถาม

“คุณน้า ผมมีงานต้องทำน่ะครับ” หลินหยวนพูด

“เงินเดือนเท่าไหร่เหรอ?” โจวชิงไป๋มองเขาพูด

“เงินเดือนผม 120 หยวน” หลินหยวนไม่คิดว่าเขาจะตั้งคำถามนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่เขาก็ไม่ได้ไม่พอใจและพูดตอบอีกฝ่ายไป

เงินเดือนเท่านี้ไม่ถือว่าน้อย แต่สำหรับคนที่แต่งงานแล้วและมีภรรยาและลูกอย่างเขาที่มีฐานะเป็นเสาหลักของบ้านนั้น เงินเท่านี้ไม่เยอะเลยจริง ๆ อย่างน้อยก็ไม่มีทางซื้อบ้านไหว

“นี่ร้อยหนึ่ง เธอไปลางานวันจันทร์นี้นะ แล้วพาพวกเราไปเที่ยวดูรอบ ๆ” หลินชิงเหอส่งธนบัตร 100 หยวนให้เขา และพูดขึ้น

หลินหยวนคิดไม่ถึงว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เขามองพวกเขา สุดท้ายก็กัดฟันแล้วผลักเงินกลับไป พูดขึ้นว่า “คุณน้ากับคุณอามาเที่ยวที่นี่ ผมเป็นไกด์ให้พวกคุณได้อยู่แล้ว เงินนี้ไม่ต้องให้หรอกครับ ผมสามารถขอลางานได้พอดี เอาเงินเดือนเดือนหน้าของผมมาคิด จะลาเจ็ดวันก็ไม่มีปัญหา”

…………………………………………………………………………………………………………………………

[1] เหมือนได้อาบลมในฤดูใบไม้ผลิ เป็นการเปรียบว่ารู้สึกสบายเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

สารจากผู้แปล

ครอบครัวนี้จะได้บ้านที่ไห่หนานสักหลังไหมนะ แล้วจะได้บ้านแบบไหนกัน บรรยากาศคงดีมากแน่ๆ ถ้าได้บ้านแบบพูลวิลล่าริมทะเล

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+