ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 687 เทพแห่งความรัก

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 687 เทพแห่งความรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่่ 687 เทพแห่งความรัก

เมื่อเห็นพวกเขาสองคนเป็นแบบนี้ หลินชิงเหอก็รู้สึกดีเหมือนได้กินยาบำรุงขนานใหญ่

สองคนนี้ไม่กล้ามองหน้ากันและกันแล้ว บรรยากาศแบบนั้นแค่ดูก็รู้เรื่องโดยไม่ต้องเอ่ย แต่สองคนนี้ยังมาด้วยกันได้ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว

น่าจะยังไม่คบกัน ยังอยู่แค่ขั้นมีเยื่อใย

แต่ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ครั้นทั้งคู่ค้างที่บ้านหนึ่งคืน หลินชิงเหอก็ตั้งใจยกนมมาให้จงฉิงหนึ่งแก้ว

“สวี้เจี๋ยนี่น้าเห็นมาตั้งแต่เด็ก น้าเองก็ไม่มีลูกสาว ถ้าน้ามีลูกสาวนะ ต้องอยากได้มาเป็นลูกเขยตัวเองแน่ ๆ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“เขา….ไม่ได้ดีขนาดที่น้าพูดสักหน่อยค่ะ” จงฉิงรับนมมา และพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

“สวี้เจี๋ยไม่ดีหรอ? มีคุณธรรม ไม่ขี้โม้หลงระเริงไปกับกิเลส รูปร่างหน้าตาแบบนั้น ลูกสาวบ้านไหนได้แต่งแล้วจะไม่มีความสุขบ้าง? ส่วนเรื่องพ่อแม่เขายิ่งไม่ต้องห่วงเลย คนมีเหตุผลทั้งนั้น น้าเคยเจอมาแล้ว” หลินชิงเหอบอก

ที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่เธอบอกเลย พ่อแม่ของหานสวี้เจี๋ยจัดการยากมาก แต่พอพวกเขาทั้งสองได้เจอจงฉิง เหล็กผายังอ่อนนุ่มลงได้

เรียกไดว่าเป็นตัวแทนของพ่อแม่สามีดีเด่นเลยล่ะ

ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่านางเอกได้ยังไงล่ะ บารมีนางเอกสว่างจ้าจนตาแทบบอดขนาดนี้

จงฉิงได้ฟังก็เขิน ยิ่งช่วงนี้หล่อนกับหานซวี่เจี๋ยกำลังมีเยื่อใยต่อกัน เจ้าท่อนไม้ทื่อ ๆ อย่างหานสวี้เจี๋ยก็รู้จักพาหล่อนไปดูหนังแล้ว แถมยังให้ผ้าเช็ดหน้ากับหล่อนอีก ความหมายของเขาชัดเจนมาก

เพียงแต่หล่อนไม่แสดงต่อหน้าหลินชิงเหอ “คุณน้าคะ นี่ก็ดึกแล้ว”

“ใช่ ดึกแล้ว ต้องกลับไปพักผ่อนแล้ว น้าอยากให้พวกเธอลงเอยกันด้วยดี ถ้าอีกหน่อยแต่งงานกัน น้าจะได้เหลือห้องไว้ให้พวกเธอสองคนด้วย พวกเธออยากมาอยู่เมื่อไหร่ก็มาได้ตลอด คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง” หลินชิงเหอกล่าว

หลังได้สวมบทเทพแห่งความรักแล้ว หลินชิงเหอก็อารมณ์ดีสุด ๆ

โจวชิงไป๋ยังดูออกว่าเธออารมณ์ดี และยังเกลี้ยกล่อมเธออยู่เลย “จงฉิงกับสวี้เจี๋ยเหมาะสมกันมาก คุณอย่าคิดเป็นอื่นเลย”

นี่เป็นเพราะเขานึกว่าเธออยากได้จงฉิงมาเป็นลูกสะใภ้ตัวเอง

หลินชิงเหอมองบนใส่เขายกใหญ่ “คิดอะไรของคุณน่ะคะ? สวี้เจี๋ยก็เป็นเด็กที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน อายุปูนนี้แล้วยังไม่มีแฟนก็ต้องเร่งเขาหน่อยเป็นธรรมดา เจ้าสามเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง”

โจวชิงไป๋หัวเราะ “ผมเห็นคุณใส่ใจเธอมาก”

ถึงกับชงนมไปให้หล่อนทีเดียว

“รีบนอนเถอะค่ะ” หลินชิงเหอโบกมือ

พูดจากใจจริงก็คือ จงฉิงเป็นเด็กสาวที่ดีเยี่ยมจริง ๆ แต่ต่อให้หล่อนจะดีขนาดไหน ก็ต้องดูวาสนากันไม่ใช่เหรอ?

ไม่มีวาสนาเคียงคู่กับเจ้าสามของเธอ หากจะฝืนให้คู่กันต้องโดนพลังต้านคืนแน่

หล่อนต้องคู่กับหานสวี้เจี๋ยสิ ถึงจะเป็นวิถีที่ถูกต้อง

ขอแค่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน หากพวกเขาอยากมาเที่ยวเล่นที่บ้าน เธอยินดีต้อนรับทุกเมื่อ

หลังหลับสบายมาทั้งคืน พอหลินชิงเหอตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น โจวชิงไป๋ หานสวี้เจี๋ยและเจ้าสามก็วิ่งกันกลับมา

แต่ละคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาจึงไปอาบน้ำก่อนและมากินข้าวกัน

เมื่อกินเสร็จ หานสวี้เจี๋ยก็กลับไปกับจงฉิง ไม่ต้องให้เจ้าสามไปส่ง พวกเขานั่งรถเมล์ตรงดิ่งไปที่สถานี

“ม้าครับ คราวนี้สบายใจได้รึยัง?” เจ้าสามเอ่ย

เขาก็ดูออกแล้วว่าระหว่างจงฉิงกับหานสวี้เจี๋ยมีเยื่อใยต่อกัน ใกล้จะได้ลงเอยกันแล้วล่ะ

หลินชิงเหอยิ้ม “ม้าไม่เคยกังวลเลย ม้าเชื่อลูกนะ ตอนนี้ลูกเพิ่ง 20 เอง ไม่ต้องรีบค่อยเป็นค่อยไป”

เจ้าสามไม่พูดอะไรอีก แม้จะเสียใจนิดหน่อยที่รู้ว่าจงฉิงและหานสวี้เจี๋ยมีใจให้กัน แต่ก็ปล่อยวางได้ ทีแรกเขาเองก็ไม่ได้ชอบมากอยู่แล้ว

“จะว่าไป อีกไม่กี่วันอาซิ่วจะมานี่ ถึงตอนนั้นลูกพาหล่อนไปทำความคุ้นเคยกับการจดบัญชีของบ้านเราหน่อย” หลินชิงเหอบอก

“ได้ครับ” เจ้าสามพยักหน้า

หลินซิ่วมาถึงตอนปลายเดือนมิถุนายน หล่อนโตเป็นสาวแล้ว จึงนั่งรถมาที่เรือนสี่ประสานนี่เองได้

พวกหลินชิงเหอไม่อยู่ ทว่าหลินชิงเหอได้สั่งอาอี๋จ้าวไว้ นางจึงเตรียมห้องไว้ให้หลินซิ่ว

หลินซิ่วอาบน้ำสระผมเองที่บ้าน และรอป้าของหล่อนอยู่ที่บ้าน

ช่วงนี้หลินชิงเหอค่อนข้างยุ่ง เพราะเธอรับคนที่เรียนจบด้านนี้มาโดยเฉพาะได้แล้ว และกำลังยุ่งเรื่องห้องทำงานนักแปล

ตอนนี้อยู่ในขั้นเริ่มต้น งานจึงค่อนข้างหนัก

กระทั่งเวลาพลบค่ำถึงกลับมาพร้อมกับโจวชิงไป๋และสาวน้อยมี่มี่เพื่อเตรียมกินข้าวเย็น

พอเห็นหลินซิ่วมาถึงแล้ว เธอย่อมดีใจเป็นธรรมดา “ฉันว่าแล้วว่าวันนี้เธอน่าจะมาถึง โทรไปบอกแม่เธอรึยังจ๊ะ?”

“หนูโทรหาป้าสะใภ้สามแล้วค่ะ” หลินซิ่วบอกยิ้ม ๆ

หล่อนเรียกสะใภ้สามโจวว่าป้าสะใภ้สามเหมือนพวกเจ้าสาม

“ดีแล้ว คืนนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยให้เจ้าสามพาเธอไปทำความคุ้นเคยกับงาน” หลินชิงเหอกล่าว

“หนูกลัวแค่ว่าหนูจะทำได้ไม่ดี” หลินซิ่วยิ้มและบอก

“ถึงเรื่องที่ต้องดูจะไม่น้อย แต่ทำไปเดี๋ยวก็คล่องเอง ไม่เข้าใจตรงไหนถามเจ้าสามไม่ก็เอ้อร์นี หรือฉันก็ได้” หลินชิงเหอเอ่ย

ขณะที่คุยกันอยู่ กังจือก็กลับมาจากข้างนอก หลินชิงเหอจึงพูดขึ้น “อากาศร้อนขนาดนี้ รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะ”

“ได้เลยครับ” กังจือยิ้มกว้าง

เขาไปอาบน้ำก่อน หลินชิงเหอพูดกับอาซิ่ว “เงินเดือนที่จะให้เธอนั้นไม่สูงนะ แค่ 160 หยวน แต่ให้เธอกินฟรีอยู่ฟรี”

“กินฟรีอยู่ฟรียังได้ตั้งร้อยหกสิบ นับว่าสูงมากแล้วค่ะ” หลินซิ่วเอ่ยยิ้ม ๆ

“พ่อเธอยังโทรหาฉันอยู่เลย บอกว่าอยากหาร้านให้เธอออกไปเปิดเอง” หลินชิงเหอบอก

เธอรู้ความตั้งใจของน้องชายเธอ ด้วยความที่หน้าร้านทำเงินได้ ถึงจะขายไม่ได้ดีมาก แต่ก็ดีกว่าไปทำงานเยอะ

แต่แม่ของหลินซิ่วไม่ยอม ลูกสาวหล่อนเป็นเด็กจบวิทยาลัยแต่ให้ไปเปิดร้านเนี่ยนะ ล้อเล่นรึเปล่า?

อย่างไรก็ต้องออกไปทำงานสิ

ถึงแม้เปิดร้านจะทำเงินได้เยอะ แต่ในใจน้องสะใภ้สามหลินมองว่าการทำงานที่ได้รับจัดสรรนั้นดีกว่า โดยเฉพาะเมืองใหญ่ข้างนอกนั่น หล่อนอยากส่งลูกสาวออกไปอยู่เมืองใหญ่เหลือเกิน

อย่างไรเสียลูกสาวคนโตก็ได้ดิบได้ดีที่สุด ลูกสาวคนเล็กสองคนผลการเรียนธรรมดา เรียนจบมัธยมปลายก็ไม่เรียนต่ออีก แบบนั้นสิต้องไปเปิดร้าน

หลินซิ่วยิ้ม “หนูคุยกับพ่อแล้วค่ะ หนูก็อยากออกมาเปิดร้าน”

หล่อนชอบปักกิ่งจริง ๆ อยากมาทำงานและใช้ชีวิตที่นี่ อีกอย่างบ้านป้าของหล่อนก็อยู่ที่นี่ ถ้าที่นี่ไม่มีใคร ตัวเองอยู่คนเดียวไม่รู้จักใครก็ช่างมันเถอะ

แต่ตอนนี้หล่อนอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ

“หนุ่มสาวออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็ดี” หลินชิงเหอกล่าว “อีกหน่อยป้าจะหาแฟนที่นี่ให้ แล้วเธอก็แต่งงานมาอยู่ที่นี่เลย”

หลินซิ่วเอ่ยยิ้ม ๆ “ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ หนูยังไม่อยากมีแฟน”

“อื้ม ไม่รีบ” หลินชิงเหอนึกในใจว่าพอดีเลยกังจือก็ไม่รีบ งั้นก็รอกันไปเถอะ อย่างไรก็ยังหนุ่มยังสาวกันอยู่ อีกหน่อยค่อยว่ากันว่ามีวาสนาต่อกันไหม

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม 687 เทพแห่งความรัก

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม Chapter 687 เทพแห่งความรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่่ 687 เทพแห่งความรัก

เมื่อเห็นพวกเขาสองคนเป็นแบบนี้ หลินชิงเหอก็รู้สึกดีเหมือนได้กินยาบำรุงขนานใหญ่

สองคนนี้ไม่กล้ามองหน้ากันและกันแล้ว บรรยากาศแบบนั้นแค่ดูก็รู้เรื่องโดยไม่ต้องเอ่ย แต่สองคนนี้ยังมาด้วยกันได้ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว

น่าจะยังไม่คบกัน ยังอยู่แค่ขั้นมีเยื่อใย

แต่ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ครั้นทั้งคู่ค้างที่บ้านหนึ่งคืน หลินชิงเหอก็ตั้งใจยกนมมาให้จงฉิงหนึ่งแก้ว

“สวี้เจี๋ยนี่น้าเห็นมาตั้งแต่เด็ก น้าเองก็ไม่มีลูกสาว ถ้าน้ามีลูกสาวนะ ต้องอยากได้มาเป็นลูกเขยตัวเองแน่ ๆ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ

“เขา….ไม่ได้ดีขนาดที่น้าพูดสักหน่อยค่ะ” จงฉิงรับนมมา และพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

“สวี้เจี๋ยไม่ดีหรอ? มีคุณธรรม ไม่ขี้โม้หลงระเริงไปกับกิเลส รูปร่างหน้าตาแบบนั้น ลูกสาวบ้านไหนได้แต่งแล้วจะไม่มีความสุขบ้าง? ส่วนเรื่องพ่อแม่เขายิ่งไม่ต้องห่วงเลย คนมีเหตุผลทั้งนั้น น้าเคยเจอมาแล้ว” หลินชิงเหอบอก

ที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่เธอบอกเลย พ่อแม่ของหานสวี้เจี๋ยจัดการยากมาก แต่พอพวกเขาทั้งสองได้เจอจงฉิง เหล็กผายังอ่อนนุ่มลงได้

เรียกไดว่าเป็นตัวแทนของพ่อแม่สามีดีเด่นเลยล่ะ

ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่านางเอกได้ยังไงล่ะ บารมีนางเอกสว่างจ้าจนตาแทบบอดขนาดนี้

จงฉิงได้ฟังก็เขิน ยิ่งช่วงนี้หล่อนกับหานซวี่เจี๋ยกำลังมีเยื่อใยต่อกัน เจ้าท่อนไม้ทื่อ ๆ อย่างหานสวี้เจี๋ยก็รู้จักพาหล่อนไปดูหนังแล้ว แถมยังให้ผ้าเช็ดหน้ากับหล่อนอีก ความหมายของเขาชัดเจนมาก

เพียงแต่หล่อนไม่แสดงต่อหน้าหลินชิงเหอ “คุณน้าคะ นี่ก็ดึกแล้ว”

“ใช่ ดึกแล้ว ต้องกลับไปพักผ่อนแล้ว น้าอยากให้พวกเธอลงเอยกันด้วยดี ถ้าอีกหน่อยแต่งงานกัน น้าจะได้เหลือห้องไว้ให้พวกเธอสองคนด้วย พวกเธออยากมาอยู่เมื่อไหร่ก็มาได้ตลอด คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง” หลินชิงเหอกล่าว

หลังได้สวมบทเทพแห่งความรักแล้ว หลินชิงเหอก็อารมณ์ดีสุด ๆ

โจวชิงไป๋ยังดูออกว่าเธออารมณ์ดี และยังเกลี้ยกล่อมเธออยู่เลย “จงฉิงกับสวี้เจี๋ยเหมาะสมกันมาก คุณอย่าคิดเป็นอื่นเลย”

นี่เป็นเพราะเขานึกว่าเธออยากได้จงฉิงมาเป็นลูกสะใภ้ตัวเอง

หลินชิงเหอมองบนใส่เขายกใหญ่ “คิดอะไรของคุณน่ะคะ? สวี้เจี๋ยก็เป็นเด็กที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน อายุปูนนี้แล้วยังไม่มีแฟนก็ต้องเร่งเขาหน่อยเป็นธรรมดา เจ้าสามเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง”

โจวชิงไป๋หัวเราะ “ผมเห็นคุณใส่ใจเธอมาก”

ถึงกับชงนมไปให้หล่อนทีเดียว

“รีบนอนเถอะค่ะ” หลินชิงเหอโบกมือ

พูดจากใจจริงก็คือ จงฉิงเป็นเด็กสาวที่ดีเยี่ยมจริง ๆ แต่ต่อให้หล่อนจะดีขนาดไหน ก็ต้องดูวาสนากันไม่ใช่เหรอ?

ไม่มีวาสนาเคียงคู่กับเจ้าสามของเธอ หากจะฝืนให้คู่กันต้องโดนพลังต้านคืนแน่

หล่อนต้องคู่กับหานสวี้เจี๋ยสิ ถึงจะเป็นวิถีที่ถูกต้อง

ขอแค่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน หากพวกเขาอยากมาเที่ยวเล่นที่บ้าน เธอยินดีต้อนรับทุกเมื่อ

หลังหลับสบายมาทั้งคืน พอหลินชิงเหอตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น โจวชิงไป๋ หานสวี้เจี๋ยและเจ้าสามก็วิ่งกันกลับมา

แต่ละคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาจึงไปอาบน้ำก่อนและมากินข้าวกัน

เมื่อกินเสร็จ หานสวี้เจี๋ยก็กลับไปกับจงฉิง ไม่ต้องให้เจ้าสามไปส่ง พวกเขานั่งรถเมล์ตรงดิ่งไปที่สถานี

“ม้าครับ คราวนี้สบายใจได้รึยัง?” เจ้าสามเอ่ย

เขาก็ดูออกแล้วว่าระหว่างจงฉิงกับหานสวี้เจี๋ยมีเยื่อใยต่อกัน ใกล้จะได้ลงเอยกันแล้วล่ะ

หลินชิงเหอยิ้ม “ม้าไม่เคยกังวลเลย ม้าเชื่อลูกนะ ตอนนี้ลูกเพิ่ง 20 เอง ไม่ต้องรีบค่อยเป็นค่อยไป”

เจ้าสามไม่พูดอะไรอีก แม้จะเสียใจนิดหน่อยที่รู้ว่าจงฉิงและหานสวี้เจี๋ยมีใจให้กัน แต่ก็ปล่อยวางได้ ทีแรกเขาเองก็ไม่ได้ชอบมากอยู่แล้ว

“จะว่าไป อีกไม่กี่วันอาซิ่วจะมานี่ ถึงตอนนั้นลูกพาหล่อนไปทำความคุ้นเคยกับการจดบัญชีของบ้านเราหน่อย” หลินชิงเหอบอก

“ได้ครับ” เจ้าสามพยักหน้า

หลินซิ่วมาถึงตอนปลายเดือนมิถุนายน หล่อนโตเป็นสาวแล้ว จึงนั่งรถมาที่เรือนสี่ประสานนี่เองได้

พวกหลินชิงเหอไม่อยู่ ทว่าหลินชิงเหอได้สั่งอาอี๋จ้าวไว้ นางจึงเตรียมห้องไว้ให้หลินซิ่ว

หลินซิ่วอาบน้ำสระผมเองที่บ้าน และรอป้าของหล่อนอยู่ที่บ้าน

ช่วงนี้หลินชิงเหอค่อนข้างยุ่ง เพราะเธอรับคนที่เรียนจบด้านนี้มาโดยเฉพาะได้แล้ว และกำลังยุ่งเรื่องห้องทำงานนักแปล

ตอนนี้อยู่ในขั้นเริ่มต้น งานจึงค่อนข้างหนัก

กระทั่งเวลาพลบค่ำถึงกลับมาพร้อมกับโจวชิงไป๋และสาวน้อยมี่มี่เพื่อเตรียมกินข้าวเย็น

พอเห็นหลินซิ่วมาถึงแล้ว เธอย่อมดีใจเป็นธรรมดา “ฉันว่าแล้วว่าวันนี้เธอน่าจะมาถึง โทรไปบอกแม่เธอรึยังจ๊ะ?”

“หนูโทรหาป้าสะใภ้สามแล้วค่ะ” หลินซิ่วบอกยิ้ม ๆ

หล่อนเรียกสะใภ้สามโจวว่าป้าสะใภ้สามเหมือนพวกเจ้าสาม

“ดีแล้ว คืนนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยให้เจ้าสามพาเธอไปทำความคุ้นเคยกับงาน” หลินชิงเหอกล่าว

“หนูกลัวแค่ว่าหนูจะทำได้ไม่ดี” หลินซิ่วยิ้มและบอก

“ถึงเรื่องที่ต้องดูจะไม่น้อย แต่ทำไปเดี๋ยวก็คล่องเอง ไม่เข้าใจตรงไหนถามเจ้าสามไม่ก็เอ้อร์นี หรือฉันก็ได้” หลินชิงเหอเอ่ย

ขณะที่คุยกันอยู่ กังจือก็กลับมาจากข้างนอก หลินชิงเหอจึงพูดขึ้น “อากาศร้อนขนาดนี้ รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะ”

“ได้เลยครับ” กังจือยิ้มกว้าง

เขาไปอาบน้ำก่อน หลินชิงเหอพูดกับอาซิ่ว “เงินเดือนที่จะให้เธอนั้นไม่สูงนะ แค่ 160 หยวน แต่ให้เธอกินฟรีอยู่ฟรี”

“กินฟรีอยู่ฟรียังได้ตั้งร้อยหกสิบ นับว่าสูงมากแล้วค่ะ” หลินซิ่วเอ่ยยิ้ม ๆ

“พ่อเธอยังโทรหาฉันอยู่เลย บอกว่าอยากหาร้านให้เธอออกไปเปิดเอง” หลินชิงเหอบอก

เธอรู้ความตั้งใจของน้องชายเธอ ด้วยความที่หน้าร้านทำเงินได้ ถึงจะขายไม่ได้ดีมาก แต่ก็ดีกว่าไปทำงานเยอะ

แต่แม่ของหลินซิ่วไม่ยอม ลูกสาวหล่อนเป็นเด็กจบวิทยาลัยแต่ให้ไปเปิดร้านเนี่ยนะ ล้อเล่นรึเปล่า?

อย่างไรก็ต้องออกไปทำงานสิ

ถึงแม้เปิดร้านจะทำเงินได้เยอะ แต่ในใจน้องสะใภ้สามหลินมองว่าการทำงานที่ได้รับจัดสรรนั้นดีกว่า โดยเฉพาะเมืองใหญ่ข้างนอกนั่น หล่อนอยากส่งลูกสาวออกไปอยู่เมืองใหญ่เหลือเกิน

อย่างไรเสียลูกสาวคนโตก็ได้ดิบได้ดีที่สุด ลูกสาวคนเล็กสองคนผลการเรียนธรรมดา เรียนจบมัธยมปลายก็ไม่เรียนต่ออีก แบบนั้นสิต้องไปเปิดร้าน

หลินซิ่วยิ้ม “หนูคุยกับพ่อแล้วค่ะ หนูก็อยากออกมาเปิดร้าน”

หล่อนชอบปักกิ่งจริง ๆ อยากมาทำงานและใช้ชีวิตที่นี่ อีกอย่างบ้านป้าของหล่อนก็อยู่ที่นี่ ถ้าที่นี่ไม่มีใคร ตัวเองอยู่คนเดียวไม่รู้จักใครก็ช่างมันเถอะ

แต่ตอนนี้หล่อนอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ

“หนุ่มสาวออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็ดี” หลินชิงเหอกล่าว “อีกหน่อยป้าจะหาแฟนที่นี่ให้ แล้วเธอก็แต่งงานมาอยู่ที่นี่เลย”

หลินซิ่วเอ่ยยิ้ม ๆ “ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ หนูยังไม่อยากมีแฟน”

“อื้ม ไม่รีบ” หลินชิงเหอนึกในใจว่าพอดีเลยกังจือก็ไม่รีบ งั้นก็รอกันไปเถอะ อย่างไรก็ยังหนุ่มยังสาวกันอยู่ อีกหน่อยค่อยว่ากันว่ามีวาสนาต่อกันไหม

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+